ตอนที่ 2691 ทลายขีดจำกัด
แรงโน้มถ่วงที่นี่เกือบจะเหมือนกับที่ฉันรู้สึกได้ เมื่อมังกรดำเด็กเหล่านั้นปรากฎตัว และถ้าฉันยังคงขุดลึกลงไป มังกรเหล่านี้ก็จะสังเกตเห็นการปรากฎตัวของฉันทันทีแน่นอน หลังจากทำการฆ่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกไปอีกหนึ่งตัว ซือเฟิงก็เลือกจะโผล่กลับออกมาจากถ้ำที่เขาขุดไว้ก่อนเพื่อสังเกตเหวลึก
หลังจากเก้าวันของความพยายามอย่างหนัก ในที่สุดเขาก็มาถึงระดับความสูงที่เขาได้เจอกับมังกรดำเด็กทั้งหมดเป็นครั้งแรก
แม้ว่ามังกรดำเด็กจะเป็นเพียงลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสาม แต่มันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ผู้เล่นขั้นสามคนใดก็ไม่มีความหวังที่จะต่อกรด้วยได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงมันมีมังกรดำเด็กสามตัวเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มพร้อมกันที่นี่
ในตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดสำหรับในการจะเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ให้สำเร็จ นั่นก็คือการฆ่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกให้มากขึ้น และสะสมพลังงานของมรดกที่มีไปอย่างต่อเนื่องจนถึงอัตราความสำเร็จแปดสิบห้าเปอเซ็นต์ จากนั้นเขาก็จะสามารถเปิดใช้งานมรดกขั้นสี่ของเขาได้
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาขุดและเดินลึกลงไปในหน้าผาเรื่อยๆ ความถี่ในการปรากฎตัวของผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกมันก็ลดลง ในความเป็นจริงตอนนี้ผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกที่เขาพึ่งฆ่าไปก็ต้องใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมงในการเกิดใหม่แล้ว
ซึ่งในอัตรานี้มันจะทำให้เขาเข้าสู่ช่วงการรับรู้ของมังกรดำเด็กทั้งสามตัวแน่นอน ในเวลาที่ผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกเกิดใหม่ขึ้นมา และในกรณีนี้เขาก็จะต้องต่อสู้กับผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอก และรับมือกับมังกรดำเด็กทั้งสามตัวไปพอกัน
แน่นอนเลยว่าระบบหลักของ God domain จะไม่ปล่อยให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินไปกับเควสเลื่อนขั้นที่ทำได้ง่ายๆ และในท้ายที่สุดฉันก็ยังคงต้องได้รับหนึ่งในเศษชิ้นส่วนมรดกเหล่านั้นอยู่ดี ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ขณะที่เขามองไปยังพลังของมรดกที่เขาเก็บรวบรวมมาได้ในตอนนี้
ด้วยมาตราฐานในปัจจุบันของเขา ตราบใดที่เขาเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ การจะฆ่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกให้ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่รับมือกับการโจมตีของมังกรดำเด็กสามตัวไปด้วยก็น่าจะทำได้ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังต้องการฆ่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกถึงสามตัวก่อนที่พลังมรดกของเขาจะไปถึงที่ขั้นต่ำแปดสิบห้าเปอเซ็นต์
แม้ว่าเขาจะมีสกิลเบอเซิกร์อยู่หลายสกิล แต่โอกาสที่เขาจะสามารถทนรอเวลาเกิดใหม่ และฆ่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกให้ได้ครบสามตัวก่อนที่ระยะเวลาของสกิลเบอเซิกร์ทั้งหมดของเขาจะหมดลงนั้นมันก็มีน้อยมาก เพราะท้ายที่สุดแล้วตอนนี้มันมีระยะเวลาการเกิดใหม่ที่ห่างกันนานเกินไประหว่างผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกที่ถูกฆ่าไป และการจะให้เขาต้องทนรอขุดทางไปด้วย พร้อมกับรับมือกับการโจมตีของมังกรดำเด็กสามตัวพร้อมกันไปด้วย ในขณะที่รอผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกเกิดใหม่อีกสองตัวนั้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
สิ่งนี้ทำให้เขาเหลือเพียงทางเลือกเดียวหากเขาต้องการจะทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้สำเร็จ นั่นก็คือ การรับเอาหนึ่งในเศษชิ้นส่วนมรดกที่เขาเห็นในตอนตกลงสู่เหวลึกในครั้งแรกที่เข้ามาที่นี่มาให้ได้
โดยเศษชิ้นส่วนมรดกนั้นก็จะมอบเปอเซ็นต์พลังของมรดกให้เขามากกว่าการฆ่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกแน่นอน และเท่าที่ซือเฟิงรู้เศษชิ้นส่วนมรดกหนึ่งชิ้นนั้นมีโอกาสจะมอบพลังของมรดกให้เป็นเปอเซ็นต์ตั้งแต่สิบถึงสี่สิบเปอเซ็นต์เลย ซึ่งด้วยเปอเซ็นต์ของพลังมรดกที่เขามีในตอนนี้นั้น เขาก็จะต้องการเศษชิ้นส่วนมรดกแค่ชิ้นเดียวเท่านั้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำในการเปิดใช้งานมรดกขั้นสี่ของตัวเอง
สำหรับการจะพูดว่าอัตราความสำเร็จในการเก็บรวบรวมพลังของมรดกที่เป็นเปอเซ็นต์นี้จะเกี่ยวข้องกับอัตราความสำเร็จในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่จริงๆ มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นทั้งหมด
เพราะท้ายที่สุดพลังของมรดกนั้นมันเพียงเป็นสิ่งที่อนุญาติให้ผู้เล่นเปิดใช้งานมรดกขั้นสี่เท่านั้น และยิ่งผู้เล่นรวบรวมพลังของมรดกมาได้มากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งเปิดใช้งานส่วนต่างๆของมรดกขั้นสี่ได้มากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังที่เปิดใช้งานมรดกขั้นสี่ขึ้นมาได้แล้วนั้น ผู้เล่นจำเป็นจะเรียนรู้และไขความลับภายในของมรดกขั้นสี่ให้สำเร็จ ซึ่งการจะทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้ได้สำเร็จ หรือทำได้สำเร็จมากน้อยแค่ไหนนั้นมันก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เล่นเองทั้งหมด ซึ่งจำนวนพลังของมรดกที่พวกเขาสะสมมาก่อนหน้านี้ก็จะไม่มีต่อส่วนนี้ของเควสเลย และหากผู้เล่นล้มเหลวในการเรียนรู้และไขความลับตามที่มรดกกำหนด สุดท้ายแล้วมันก็จะยังจบลงที่ผู้เล่นล้มเหลวในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้สำเร็จอยู่ดี
ในชีวิตที่ผ่านมาของเขาสาเหตุหลักที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามล้มเหลวในการจะทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้สำเร็จนั้นก็คือระยะที่สองของเควสเลื่อนขั้นนี่แหละ มันไม่ใช่ระยะแรกที่เป็นการต้องเก็บรวบรวมพลังของมรดกให้เพียงพอเลย
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมยิ่งมรดกของตัวเองแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ เควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ที่ผู้เล่นต้องทำมันก็จะยิ่งยากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งมรดกมีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ข้อมูลที่อยู่ภายในก็จะยิ่งมีความซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างมรดกที่เป็นของเผ่ายักษ์ และเอลฟ์ ซึ่งมันมีข้อมูลที่ซับซ้อนมากๆอยู่ภายใน ดังนั้นผู้เล่นที่เป็นยักษ์และเอลฟ์จึงจะต้องเผชิญความยากลำบากมากกว่าผู้เล่นทั่วไปมาก เมื่อทำการทำเควสเลื่อนขั้น และแม้ว่าผู้เล่นจะมีอาวุธกับอุปกรณ์ชั้นยอดครบมือ แต่ไอเทมเหล่านี้ก็จะช่วยแค่ให้ผู้เล่นได้รับพลังมรดกมากขึ้น และเปิดความรู้เพิ่มเติมให้พวกเขาได้เรียนรู้เท่านั้น ผู้เล่นจะยังคงต้องพึ่งพาความสามารถของตนเองอยู่ดีในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้สำเร็จ
ดังนั้นแค่เก็บรวบรวมพลังของมรดกให้ได้แปดสิบห้าเปอเซ็นต์ มันก็เพียงพอแล้ว การจะต้องเก็บรวบรวมให้ได้ถึงหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์นั้นมันไม่ได้จำเป็นเลย
อย่างไรก็ตามการพยายามเข้าถึงและรับเอาเศษชิ้นส่วนมรดกที่อยู่ด้านล่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะท้ายที่สุดการจะทำแบบนี้ให้ได้ เขาจำเป็นต้องต่อสู้กับมังกรดำเด็กสามตัวด้วย และเขาก็ทำอะไรได้อย่างจำกัดมากๆในช่วงระยะเวลาของสกิลเบอเซิกร์ แถมส่วนการรับเอาเศษชิ้นส่วนมรดกมาให้ก็ยังเป็นเรื่องที่ท้าทายสุดๆ เพราะถ้าผู้เล่นไม่รู้ว่ามันต้องทำอย่างไรถึงจะรับเอาเศษชิ้นส่วนมรดกมาได้ พวกเขาก็มักจะตายลงในระหว่างกระบวนการนี้
ผู้เล่นจะไม่ได้รับพลังของมรดกที่มีอยู่ในเศษชิ้นส่วนมรดกมาโดยอัตโนมัติ แต่หลังจากที่เขาถึงเศษชิ้นส่วนมรดกได้แล้วนั้น ผู้เล่นก็จะต้องใช้เวลาประมาณสิบถึงยี่สิบวินาทีในการดูดซับเศษชิ้นส่วนมรดก และแม้ว่าผู้เล่นจะไม่ได้จำเป็นต้องยืนอยู่ตรงหน้าเลยเพื่อรับดูดซับพลังของมรดกจากเศษชิ้นส่วนมรดก แต่ถ้าพวกเขาอยู่ห่างจากเศษชิ้นส่วนมรดกมากเกินไปกระบวนการทั้งหมดมันก็จะหยุดชะงักลงทันที และเศษชิ้นส่วนมันก็จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เนื่องจากเหตุผลเหล่านี้ โดยทั่วไปแล้วผู้เล่นจึงจำเป็นจะต้องดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมังกรดำเด็กทั้งสามตัวตามรังควานซือเฟิง มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าเขาจะไม่สามารถดูดซับเศษชิ้นส่วนมรดกในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยได้ เพราะเขาจะต้องทำมันในขณะที่เขาต่อสู้ อย่างไรก็ตามด้วยระยะเวลาของสกิลเบอเซิกร์ที่เขามีอยู่ เขาคงทำแบบนี้ได้ไม่นานนัก
ไม่ !! นั่นมันไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ !! หากฉันสามารถยืนหยัดอยู่ในสถานะปกติได้สักระยะหนึ่ง มันก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ฉันจะได้รับเศษชิ้นส่วนมรดก !!!
หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งแล้ว ซือเฟิงก็ได้ตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงเพื่อพยายามรับเอาเศษชิ้นส่วนมรดก เพราะท้ายที่สุดเขาไม่ได้เหมือนกับตัวเองตอนที่เข้าสู่ดินแดนมรดกครั้งแรกอีกต่อไป ตอนนี้เขาสามารถที่จะควบคุมและใช้งานโฮลี่ดีวอร์แบบง่ายๆได้แล้ว ซึ่งมันก็อาจจะทำให้เขาสามารถจัดการกับมังกรดำเด็กได้
หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ ซือเฟิงก็ได้หยิบแหวนแห่งกอสเปลออกมาจากกระเป๋าของเขาและเปิดใช้งานสกิลโลกจิ๋ว กับ Ring of Brilliance ทันที ตอนนี้เขามาได้ไกลขนาดนี้แล้วในเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ของเขา และเขาก็จะต้องต่อสู้กับมังกรดำเด็กขั้นสาม ทั้งสามตัวให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเขาจงไม่จำเป็นที่จะต้องประหยัดไพ่ในมือของเขาอีกต่อไป
เมื่อสกิล Ring of Brilliance ถูกเปิดใช้งาน ความหนาแน่นของมานาโดยรอบก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้น สำหรับตัวซือเฟิงเองค่าสถานะพื้นฐานของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกห้าเปอเซ็นต์ และแม้ว่าเอฟเฟคของ Ring of Brilliance จะอ่อนแอลงไปอย่างมาก แต่ทุกๆการปรับปรุงที่ได้รับที่นี่มันก็ยังคงจัดว่าสำคัญมาก
หลังจากเปิดใช้งานสกิลของแหวนแห่งกอสเปลทั้งสองแล้ว ซือเฟิงก็กระโดดลงไปที่เหวลึก และปล่อยให้แรงโน้มถ่วงลากเขาลงไปที่เบื้องล่างทันที
ไม่กี่วินาทีหลังจากที่ซือเฟิงเริ่มตกลงสู่เหวลึกอย่างอิสระ เสียงคำรามของมังกรก็ดังขึ้นมาจากระยะไกล ตามที่เขาคาดการณ์ไว้มังกรดำเด็กสามตัวก็บินออกมาจากเหวลึก และพุ่งตรงมาที่เขาอีกครั้ง
ไม่นานหลังจากนั้นมังกรดำเด็กตัวหนึ่งก็ได้มาถึงที่ตรงหน้าของซือเฟิง ก่อนที่มันจะใช้กรงเล็บขนาดใหญ่ของมันโจมตีเข้าใส่เขา ดูเหมือนว่าสกิลโกลจิ๋วจะไม่ได้ทำให้มันได้รับผลกระทบใดๆเลย เพราะกรงเล็บที่มังกรดำเด็กตัวนี้ใช้โจมตีมายังซือเฟิง มันก็ยังคงมีพลังเพียงพอที่จะทำให้เกิดรอยแยกเชิงพื้นที่ได้
การปะทะกันในการโจมตีนี้แหละจะเป็นครั้งตัดสินว่าฉันจะทำสำเร็จไหม !!!
ทันใดนั้น ซือเฟิงก็ได้เหวี่ยง Abyssal Blade เข้าปะทะกับกรงเล็บขนาดใหญ่ทันที
ในช่วงเวลาต่อมา Abyssal Blade ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีแดงฉานก็ตัดผ่านกรงเล็บขนาดใหญ่
ตู้ม !!
เมื่อการโจมตีทั้งสองปะทะกัน เสียงดังของโลหะก็ดังก้องไปทั่วเหวลึก และประกายไฟก็ส่องสว่างไปทั่วพื้นที่รอบๆซือเฟิง และมังกรดำเด็ก โดยผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจก็คือหลังการปะทะกันครั้งนี้นั้นมังกรดำเด็กตัวนี้ก็ปลิวไปกระแทกเข้ากับกำแพงหน้าผาที่อยู่ใกล้ๆ ในทางกลับกันซือเฟิงกับหลุดออกมาจากการปะทะโดยไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ยิ่งไปกว่านั้นผลกระทบของการปะทะกันมันยังเร่งให้เขาดิ่งลงไปในเหวลึกเร็วยิ่งขึ้น
ดี !! ยังมีโอกาส !! ซือเฟิงนั้นมีความสุขมากๆ เมื่อเห็นว่า Abyssal Blade สามารถเบี่ยงเบนการโจมตีของมังกรดำเด็ก ทั้งยังทำให้มันปลิวกระเด็นไปได้
ก่อนหน้านี้ความกังวลที่สุดของเขาก็คือ เขาจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีของมังกรดำเด็กได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาไม่ได้เปิดใช้งานสกิล Heavenly Dragon’s Power เหมือนกับครั้งแรกที่เข้ามา นอกจากนี้มังกรดำเด็กพวกนี้ยังมีข้อได้เปรียบตรงที่พวกมันไม่ถูกปราบปรามด้วยแรงโน้มถ่วงของเหวลึกด้วย เนื่องจากที่นี่คือบ้านของพวกมัน และแม้จะมีผลจากสกิลโลกจิ๋ว แต่เขาก็น่าจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการเบี่ยงเบนการโจมตีของมังกรดำเด็ก และทำให้มันปลิวกระเด็นไป
โชคดีที่โฮลี่ดีวอร์แบบง่ายๆนั้นทรงพลังมากเพียงพอในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ของตัวเองก็ตาม เป็นผลให้เขาสามารถจะรับมือกับมังกรดำเด็กได้ และนี่มันก็จะทำให้สิ่งที่เขาต้องทำต่อไปนั้นง่ายขึ้นมาก
หลังจากนั้นซือเฟิงก็ยังคงดิ่งลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่เขาทำการเบี่ยงเบน และตอบโต้การโจมตีของมังกรดำเด็กทั้งสามอย่างเมามัน
และเมื่อซือเฟิงกำลังจะไปถึงที่ตั้งของเศษชิ้นส่วนมรดก เขาก็ได้เปิดใช้งานสกิลเกลโดเมน และรีบเปลี่ยนทิศบินตรงไปยังที่ตั้งของเศษชิ้นส่วนมรดกทันที
ซึ่งหลังจากมองเห็นที่ตั้งของเศษชิ้นส่วนมรดกอย่างแน่นอนแล้ว ซือเฟิงก็ได้เปิดใช้งานสกิลพลังแห่งความมืดทันที โดยมันได้ทำให้ค่าสถานะพื้นฐานของเขาทั้งหมดเพิ่มขึ้นหนึ่งร้อยยี่สิบเปอเซ็นต์ จากนั้นเขาก็ได้ใช้โฮลี่ดีวอร์ใส่หน้าตรงหน้าของเขาทันที !!!
เปลวไฟจากโฮลี่ดีวอร์ได้กลืนกินกำแพงหน้าผาเข้าไปทันที และมันก็ส่งผลทำให้เกิดหลุมที่มีรัศมีสามสิบหลา และในเวลาเดียวกัน เศษชิ้นส่วนรูปปั้นที่กระจัดกระจายที่มีขนาดเท่ากับร่างมนุษย์ผู้ใหญ่ก็ค่อยๆร่อนลงมาภายในหลุมขณะที่มันเปล่งแสงจางๆ พร้อมกับแผ่ออร่า Divine Might ออกมา
….
ระบบ : คุณได้ค้นพบเศษชิ้นส่วนมรดก คุณต้องการจะดูดซับพลังของมรดกจากเศษชิ้นส่วนมรดกนี้ไหม ?
….
“ดูดซับ !!!” ซือเฟิงเลือกอย่างไม่ลังเล
ทันทีที่เขาเลือกแล้ว เศษชิ้นส่วนรูปปั้นที่กระจัดกระจายก็กลายเป็นแสงออโรร่าพุ่งทะลุร่างของเขาทันที
อึก !! นี่ภายในนี้มันมีพลังของมรดกอยู้มากแค่ไหนกัน ?! ซือเฟิงตกตะลึง เมื่อเห็นแถบดาวโหลดปรากฎขึ้นตรงหน้าของเขา
โดยซือเฟิงสามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยจากการที่แถบดาวโหลดปรากฎขึ้นมาว่าเขาจะต้องใช้เวลาดูดซับพลังของมรดกจากเศษชิ้นส่วนมรดกนี้เป็นเวลาสามสิบสามนาที ซึ่งเวลาในการดูดซับนี้มันเกินความคาดหมายของเขาไปมาก นอกจากนี้ระยะเวลามันก็ยังเกินระยะเวลาทั้งหมดของสกิลเบอเซิกร์เขาด้วย
อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาไม่ได้มีเวลามากพอจะไปหาเศษชิ้นส่วนมรดกชิ้นอื่นแล้ว และหากเขาเลือกจะยอมแพ้ในเศษชิ้นส่วนมรดกชิ้นนี้ ความพยายามทั้งหมดที่เขาทำมา ซึ่งนี่รวมไปถึงการไล่ฆ่าผู้พิทักษ์เส้นทางชั้นนอกด้วยก็จะสูญเปล่า
ในเวลานี้เองมังกรดำเด็กทั้งสามตัวก็สังเกตเห็นแล้วว่าซือเฟิงกำลังทำอะไรอยู่ โดยพวกมันทั้งสามตัวก็ได้ทำการใช้ลมหายใจมังกรใส่ซือเฟิงทันที
“แม่งเอ้ย !!!”
ใบหน้าของซือเฟิงมืดมนลงทันที เมื่อเขาเห็นมังกรทั้งสามตัวใช้ลมหายใจมังกรใส่เขา และนี่มันก็ทำให้ซือเฟิงรีบเปิดใช้งานโดเมนสมบูรณ์แบบเพื่อป้องกันตัวเองโดยสัญชาตญาณทันที
หลังจากรับมือกับลมหายใจมังกรทั้งสามเอาไว้ได้ ขนาดของหลุมที่ซือเฟิงทำไว้มันก็มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมากจนทำให้เขามีพื้นที่ในการหลบหลีกเพิ่มขึ้น
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ ในขณะที่ซือเฟิงพยายามป้องกันตัวเองจากการโจมตีของมังกรดำเด็กทั้งสามตัว ….
สิบนาที … สิบห้านาที … ยี่สิบนาที …
และในที่สุดเวลาก็ผ่านไปสามสิบนาทีจนกระทั่งสกิลเบอเซิกร์ทุกสกิลของซือเฟิงหมดลง …. แม้ว่าเขาจะพยายามรับมือกับการโจมตีของมังกรดำเด็กทั้งสามในสถานะปกติให้ได้นานที่สุด แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังคงผลาญสกิลเบอเซิกร์ของตัวเองทั้งหมดไปหมดในสามสิบนาทีอยู่ดี
ซึ่งเมื่อปราศจากการสนับสนุนจากสกิลเบอเซิกร์แล้ว ซือเฟิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพาโฮลี่ดีวอร์แบบง่ายๆที่เขาใช้ได้เพื่อป้องกันการโจมตีของมังกรทั้งสาม อย่างไรก็ตามโฮลี่ดีวอร์นี้แม้ว่ามันจะผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของซือเฟิงลดลงไปมากแล้วจากเดิม แต่เมื่อเขาใช้เรื่อยๆมันก็ยังคงเป็นภาระต่อเขามากอยู่ดี และนี่มันก็ส่งผลให้ใบหน้าของเขาซีดลงเรื่อยๆ
“มนุษย์ !!! เวลาของคุณใกล้หมดลงแล้ว !!! ค่าสตามิน่ากับค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของคุณใกล้จะหมดลงแล้ว !!! ขณะที่เรายังคงสามารถสู้ต่อไปได้ !!! อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะรอดชีวิตออกไปได้ หลังจากที่คุณบุกรุกเข้ามาในดินแดนของมังกรดำ !!!” มังกรดำเด็กที่เป็นผู้นำพูดมาเป็นภาษาโบราณ และแม้ว่าซือเฟิงจะไม่รู้จักภาษานี้ แต่จิตใจของเขาก็สามารถบอกได้เลยว่ามังกรดำเด็กกำลังพูดถึงอะไร
ไม่นานหลังจากที่มังกรดำเด็กที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำพูดจบ มังกรดำเด็กอีกสองตัวก็ระดมโจมตีซือเฟิงอย่างรวดเร็วและบ้าคลั่งมากขึ้นทันที ซึ่งนี่มันทำให้ซือเฟิงไม่มีเวลาว่างจะพักหายใจเลย
หนึ่งวินาที … สองวินาที … สามวินาที …
เมื่อเป็นแบบนี้ซือเฟิงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ไพ่ที่เขามีออกมาทีละใบ
โดเมนแห่งความมืด !
Thunder God’s Descent !
Divine Steps !
โล่วอย !
อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขาก็ยิ่งซีดลงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาทยอยใช้ไพ่ออกมาทีละใบ ขณะเดียวกันตอนนี้สมองของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ร่างกายของเขาแทบขยับไม่ได้เลย
นี่มันโหดเกินไปหน่อยสำหรับฉันไหมเนี่ย ?!
ในตอนนี้ซือเฟิงสามารถบอกได้เลยว่าเขากำลังจะถึงขีดจำกัดแล้ว และเมื่อมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เขาก็จะไม่สามารถใช้โฮลี่ดีวอร์แบบง่ายๆป้องกันการโจมตีของมังกรทั้งสามตัวได้อีกต่อไป ซึ่งเมื่อเวลานั้นมาถึงเขาก็จะได้ตายลงทันที
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ซือเฟิงกำลังรู้สึกสิ้นหวัง เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ได้ดังขึ้นมาที่หูของเขา
….
ระบบ : ยินดีด้วย !! อัตราความสำเร็จพลังของมรดกขั้นสี่ของคุณมาถึงที่ 102 เปอเซ็นต์แล้ว คุณต้องการเปิดใช้งานมรดกขั้นสี่หรือไม่ ?