ตอนที่ 2700 การหายตัวไปของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน
สำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีก ห้องรับรองชั้นบนสุด :
“ซือเฟิงการจะพบคุณนี้มันไม่ง่ายเลยอย่างแท้จริง ชายแก่ผู้นี้รอมาเกือบสองวันแล้ว ….” ต้วนฮันซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เขาจิบชาบนโซฟา
แต่แม้จะพูดคำพูดที่ฟังดูสบายๆออกมา ดวงตาของต้วนฮันซานก็ยังปรากฎความประหลาดใจขึ้นมาอยู่ดี เมื่อเขาจ้องมองไปที่ซือเฟิง เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่แตกต่างออกไปของซือเฟิง อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถจะสรุปได้อย่างแน่ชัด
ใน God domain ซือเฟิงนั้นให้ความรู้สึกเหมือนกับมหาสมุทรสงบที่กว้างใหญ่ ซึ่งตอนนี้แม้ว่าเขาจะยังคงให้ความรู้สึกแบบเดิมอยู่ แต่ต้วนฮันซานก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงลมและฝนจากชายหนุ่มคนนี้ และมันก็เหมือนกับว่าความสงบนี้นั้นพร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
ในความเป็นจริงต้วนฮันซานยังรู้สึกได้ถึงอันตรายเล็กน้อยจากซือเฟิงในตอนนี้ อย่างไรก็ตามความรู้สึกนี้มันก็ไม่ต่อเนื่อง ซึ่งมันทำให้ต้วนฮันซานยังไม่แน่ใจ และดูเหมือนว่าตัวซือเฟิงเองก็จะไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วย หลังจากเสร็จสิ้นเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ เขาก็ออกจากห้องเกมเคบินของเขาโดยที่เขารู้สึกว่าความคิดของเขาคมชัดขึ้น นอกจากนี้มันก็ไม่มีอะไรอื่นอีกแล้ว สถานการณ์นี้ทำให้ซือเฟิงงงงวยมากๆ เพราะนี่มันแตกต่างจากการพัฒนาครั้งก่อนๆของเขา ร่างกายของเขาไม่ได้ขาดแคลนพลังงานจากความก้าวหน้าของเขาเลย ในทางตรงกันข้ามสภาพร่างกายในปัจจุบันของเขากับดีอย่างน่าประหลาดใจ เขาไม่ได้เข้าสู่สถานะอ่อนแอแบบทุกครั้งเลย หลังจากการพัฒนาครั้งนี้
“ผู้อาวุโสต้วนก็ช่างว่าไป …. ฉันก็ได้พยายามอย่างมากที่สุดแล้วที่จะออกจาก God domain” ซือเฟิงอธิบาย “ฉันขอทราบถึงเหตุผลที่คุณตัดสินใจมาที่สำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกเป็นการส่วนตัวเลยได้ไหม ? มันมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ ?”
ต้วนฮันซานนั้นเป็นตัวแทนของตระกูลต้วนในหอการค้าอาซู และสถานะของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหัวหน้ากิลของกิลชั้นยอดเลยแม้แต่น้อย และไม่ว่าใครจะมองยังไง มันก็ไม่มีทางที่คนระดับนี้จะนำรุ่นเยาว์จำนวนมากมาฝึกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหอการค้าอาซูที่เป็นมหาอำนาจที่เน้นเชิงพาณิชย์ หอการค้าอาซูนั้นจะต้องยุ่งมากกว่ากิลสายต่อสู้ด้วยซ้ำ เนื่องจากพวกเขาต้องรักษาเครือข่ายข้อมูลที่กว้างขวางและแม่นยำ
“คุณนี่ช่างเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ คุณทำตัวไม่เหมือนกับหัวหน้ากิลของมหาอำนาจอื่นๆเลยนะ ….” ต้วนฮันซานกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “อย่างไรก็ตามฉันก็คล้ายกับคุณในแง่มุมนี้”
“ในกรณีนี้ ฉันจะขอเข้าประเด็นตรงๆเลยแล้วกัน คุณน่าจะเดาออกว่าฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อนำรุ่นเยาว์จำนวนมากมาฝึกกับสภาสิบแปดปีก แต่ฉันมาที่นี่เพราะเรื่องใหญ่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมันอาจเกี่ยวข้องกับสภาสิบแปดปีกด้วย”
“เรื่องใหญ่สำคัญที่อาจเกี่ยวข้องกับสภาสิบแปดปีก ?” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มขึ้น ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อว่า “มันเรื่องอะไรกัน ผู้อาวุโสต้วน ?”
ถ้าแม้แต่คนระดับต้วนฮันซานยังต้องมาพบเขาด้วยตัวเองแบบนี้ เรื่องใหญ่สำคัญที่ต้วนฮันซานพูดถึงมันจะต้องเกี่ยวข้องกับมหาอำนาจต่างๆแน่นอน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาได้ยินมาจากเหลียงจิง นอกเหนือจากการอัพเดทระดับบครั้งใหญ่แล้ว มันก็ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อื่นใดที่สำคัญเกิดขึ้นใน God domain เร็วๆนี้
“คุณน่าจะพอรู้ข่าวแล้วใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน ?” ต้วนฮันซานถาม
“ก็พอรู้มาบ้าง สุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยน พร้อมกับปรมาจารย์พาวิลเลี่ยน ทั้งสามคนหายตัวไปพร้อมกับผู้ช่วยคนสนิทของพวกเขา และตอนนี้ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับพวกเขาเลย” ซือเฟิงตอบพลางพยักหน้า
การหายตัวไปของเหล่าคนสำคัญพวกนี้ในดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนนั้นทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่มหาอำนาจต่างๆ และตอนนี้เขาก็ได้ขอให้มู่หลิงชาตรวจสอบสถานการณ์นี้แล้ว แต่เธอก็ยังไม่พบอะไรเลย
“เรื่องที่ฉันจะพูดนี้มันก็เกี่ยวข้องกับดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนด้วยนี่แหละ …” ต้วนฮันซานกล่าวด้วยสีหน้าที่ดูจริงจังมากขึ้น “และสองวันที่แล้วหัวหน้ากิลกับรองหัวหน้ากิลของตระกูลเก้าดาวก็หายไปทั้งหมดด้วยเช่นกัน ….”
“หัวหน้ากิลกับรองหัวหน้ากิลของตระกูลเก้าดาวหายไป ? เป็นไปได้ยังไงกัน ?” ซือเฟิงรู้สึกตกตะลึงกับข่าวนี้ ไม่เพียงแต่ตระกูลเก้าดาวจะเป็นกิลชั้นยอดระดับต้นๆเท่านั้น แต่ภูมิหลังของกิลยังแข็งแกร่งกว่าดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนซะอีก ตามข่าวลือ กิลนั้นได้รับการสนับสนุนจากบริษัทที่ทรงอำนาจมากๆ และปัจจุบันกิลก็ครอบครองพื้นที่ของจักรวรรดิหลายแห่งใกล้กับสตาร์ลิ้ง
ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลเก้าดาวยังมีรองหัวหน้ากิลหกคนซึ่งคอยบริหารสาขาของกิลในจักรวรรดิต่างๆอย่างอิสระ ความจริงที่ว่าพวกเขาทั้งหมดหายตัวไปในชั่วข้ามคืนนั้น มันน่าตกตะลึงซะยิ่งกว่าการหายตัวไปของสุดยอดปรมาจารย์พาวิลเลี่ยน และปรมาจารย์พาวิลเลี่ยนทั้งสองคนซะอีก
สำหรับความเป็นไปได้ที่จะมีคนโจมตีสำนักงานใหญ่หลักของตระกูลเก้าดาวนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะท้ายที่สุดแล้วมหาอำนาจที่ทรงพลังขนาดนี้ก็จะมีระบบรักษาความปลอดภัยในสำนักงานใหญ่หลักที่ครอบคลุมและเข้มงวดมากๆ และแม้สุดยอดปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้หลายคนจะร่วมมือกันลักพาตัวคนเหล่านี้ แต่มันก็ไม่น่าจะทำให้เป็นความลับได้ขนาดนี้
“ข่าวเรื่องนี้ถูกปิดกั้น และมันก็มีมหาอำนาจจำนวนไม่มากนักที่รู้เรื่องนี้” ต้วนฮันซานกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
“แล้วสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับสภาสิบแปดปีกอย่างไร ?” ซือเฟิงเริ่มสงสัยมากขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดของต้วนฮันซาน “ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนเองก็มีส่วนในเรื่องนี้งั้นหรอ ?”
“ไม่ใช่” ต้วนฮันซานกล่าวพลางส่ายหัว “จากการสืบสวนของหอการค้าอาซู เหล่าผู้นำของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน และตระกูลเก้าดาวนั้นได้หายตัวไป หลังจากการเข้าพบกับมือแห่งนักบุญอย่างลับๆ และตามข้อมูลภายในจากตระกูลเก้าดาว หลังจากที่หัวหน้ากิลของพวกเขาหายตัวไปจากเกม มันก็มีกลุ่มคนลึกลับมานำห้องเกมเคบินของเขาออกไป”
“กลุ่มคนลึกลับมานำห้องเกมเคบินออกไป ? ใช่ฝีมือของมือแห่งนักบุญรึปล่าว ?” หลังจากได้ยินคำอธิบายของต้วนฮันซาน ซือเฟิงก็เริ่มสงสัยว่าดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนน่าจะเผชิญกับสถานการณ์ที่คล้ายกัน “นอกจากนี้คุณรู้ไหมว่าห้องเกมเคบินถูกส่งไปที่ไหน ?”
“แม้ว่าเราจะยังไม่รู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้น …. และเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง รวมทั้งกลุ่มคนลึกลับพวกนั้นเป็นใคร แต่เราก็ได้พบว่าห้องเกมเคบินนั้นถูกส่งไปที่ไหน …” ต้วนฮันซานกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ
“ที่ไหน ?” ซือเฟิงถามอย่างสัย
ตามหลักแล้ว ด้วยกองกำลังที่ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนและตระกูลเก้าดาวมี พวกเขาน่าจะค้นหาเหล่าผู้นำของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามตอนนี้กับยังไม่มีข่าวจากดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนเลย มันจึงจัดเป็นสถานการณ์ที่แปลกมากๆ
“Upper …. Zone” ต้วนฮันซานค่อยๆพูดคำเหล่านี้ทีละคำ
“Upper Zone งั้นหรอ ?”
หมอกนั้นเข้าปกคลุมไปทั่วหัวใจของซือเฟิง และมันก็ทำให้หัวใจของซือเฟิงเริ่มจะหนักอึ้งขึ้น เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟีนิกซ์เรน ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในผู้นำของกิลชั้นยอดเท่านั้น เหตุใดคนสถานะแบบเธอถึงถูกลากเข้าไปในเหตุการณ์ใหญ่แบบนี้
ซือเฟิงนั้นรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับ Upper Zone มันเป็นพื้นที่พิเศษที่สามารถจะยืดอายุขัยของผู้อยู่อาศัยได้ อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ว่าคนรวยทุกคนจะสามารถเข้าไปอยู่อาศัยที่นั่นได้ ในสายตาของผู้อยู่อาศัยใน Upper Zone องค์กรธรรมดาก็ไม่ต่างไปจากมดปลวกเลย และแม้แต่ผู้นำของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนหอการค้าอาซูก็ยังจำเป็นจะต้องรักษาโปรไฟล์ที่ต่ำไว้ ในขณะที่อยู่ใน Upper Zone นี่ไม่ต้องพูดถึงคนอย่างฟีนิกซ์เรนเลย ….
มันคงไม่เกินไปที่จะกล่าวว่า ฟีนิกซ์เรนไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ใดๆกับ Upper Zone
“มือแห่งนักบุญนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน ฉันมั่นใจ ดังนั้นฉันจึงมาที่นี่เพื่อบอกคุณว่ามันจะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ยั่วยุมือแห่งนักบุญมาเกินไปในช่วงเวลานี้ ใครจะรู้ ? สภาสิบแปดปีกอาจเป็นกิลต่อไปที่เจอแบบตระกูลเก้าดาวก็ได้ ….” ต้วนฮันซานเตือนอย่างจริงจัง
“ยั่วยุมือแห่งนักบุญ ?” ซือเฟิงเผยรอยยิ้มอันขมขื่น “ฉันไม่เคยคิดที่จะริเริ่มยั่วยุพวกเขาเลย”
ในการที่จะยึดครองจักรวรรดิออร์คให้ได้ มือแห่งนักบุญได้ตั้งเป้าไว้ที่เมืองปีกสีเงินแล้ว มันไม่ใช่ว่าเขาจะต้องการยั่วยุมือแห่งนักบุญ แต่อีกฝ่ายนั้นตั้งใจจะเอาชีวิตเขาอยู่แล้วต่างหาก
“อย่างไรก็ตาม คุณไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้มากเกินไปหรอก ….” ต้วนฮันซานกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ
“ไม่ต้องกังวลมากเกินไป ?” ซือเฟิงงงงวยกับคำพูดของต้วนฮันซาน
แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังที่เรียกได้ว่ามากเพียงพอในระดับหนึ่งแล้ว แต่เขาก็มั่นใจว่าการรักษาความปลอดภัยของสำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกนั้นยังคงเทียบกับสำนักงานใหญ่หลักของตระกูลเก้าดาว และดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนไม่ได้เลย
“หงซินหยวนจากฟรอสต์ฮีฟเว่นได้สัญญาว่าตราบใดที่สภาสิบแปดปีกช่วยฟรอสต์ฮีฟเว่นทำงานที่ตกลงกันไว้สำเร็จ เขาจะมอบช่องสามช่องสำหรับการเข้าสู่ Upper Zone ให้สภาสิบแปดปีก” ต้วนฮันซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่นับเป็นโอกาสที่อาจมีเพียงครั้งเดียวในชีวิตเลย มหาอำนาจต่างๆจะอิจฉาคุณอย่างมากแน่นอนเมื่อรู้เรื่องนี้ คุณก็น่าจะรู้ว่า Upper Zone นั้นมันพิเศษแค่ไหน และบางทีที่นั่นอาจเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกด้วย ….”
แม้ว่าตระกูลเก้าดาวและดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนจะเป็นกิลชั้นยอด แต่บริษัทที่ให้การสนับสนุนพวกเขาก็ไม่ได้มีอำนาจมากพอที่จะรับเอาช่องเข้าสู่ Upper Zone มาให้เหล่าผู้นำกิลทั้งสองได้ ไม่งั้นทั้งสองกิลคงจะไม่ต้องมาเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้
ข่าวเรื่องนี้ทำให้ซือเฟิงพูดไม่ออก
นี่ฟรอสต์ฮีฟเว่นพยายามจะทำอะไรกันแน่ ? ทำไมพวกเขาถึงใจกว้างขนาดนี้ ?
นี่คือช่องสำหรับเข้าสู่ Upper Zone เลยนะที่พวกเขากำลังพูดถึง !!! นอกจากนี้แค่เรื่องความปลอดภัยของ Upper Zone มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวหน้ากิลของมหาอำนาจต่างๆบ้าคลั่ง ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา แม้ว่าหัวหน้ากิลของกิลชั้นสูงจะเสนอเครดิตหลายพันล้านเครดิต แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถรับเอาช่องเข้าสู่ Upper Zone มาได้ และมันก็มีเพียงแต่หัวหน้ากิลของกิลชั้นยอดหรือเหล่าคนสำคัญของกิลชั้นยอดขึ้นไปเท่านั้นที่ได้รับมันไป แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายในราคาที่สูงมาก และได้รับไปน้อยมากๆ
แต่ตอนนี้ฟรอสต์ฮีฟเว่นกับเลือกจะเสนอสามช่องให้กับสภาสิบแปดปีก !!!
ในตอนนี้ซือเฟิงจะไม่แปลกใจเลยถ้าฟรอสต์ฮีฟเว่นขอให้สภาสิบแปดปีกเปิดการโจมตีเต็มรูปแบบต่อห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด
“คุณค่อนข้างจะโชคดีจริงๆ หากเป็นเวลาอื่น ฟรอสต์ฮีฟเว่นจะไม่เสนอราคาขนาดนี้เพื่อขอความช่วยเหลือจากสภาสิบแปดปีกแน่นอน” ต้วนฮันซานกล่าวพลางถอนหายใจ “สำหรับสิ่งที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นต้องการให้สภาสิบแปดปีกทำนั้น ฉันไม่สามารถเปิดเผยให้คุณรู้ได้ในตอนนี้ เดี๋ยวใครบางคนจากฟรอสต์ฮีฟเว่นก็คงจะมาแจ้งให้คุณทราบเองเมื่อถึงเวลา ไม่ว่าจะอย่างไรจงระวังให้มาก เพราะมันจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสภาสิบแปดปีกแน่นอน และหากสภาสิบแปดปีกพลาด กิลอาจถึงขั้นพินาศได้เลย”
“ขอบคุณสำหรับคำเตือน ผู้อาวุโสต้วน ….” ซือเฟิงกล่าวขอบคุณต้วนฮันซานอย่างจริงใจ จากการที่ต้วนฮันซานยอมเปิดเผยข้อมูลแบบนี้ออกมา มันก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจของหอการค้าอาซูในการจะเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกแล้ว ดังนั้นโดยธรรมชาติเขาจึงจะต้องขอบคุณอย่างจริงใจ
“หอการค้าอาซูไม่ได้ทำอะไรมากนักหรอก …. คุณจะดำเนินการอย่างไรในอนาคตมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ ….” ต้วนฮันซานกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อเขาเห็นว่าซือเฟิงเต็มใจจะยอมรับมิตรภาพที่หอการค้าอาซูแสดงออกมา เขาก็หมดหน้าที่แล้ว “เอาล่ะ มันถึงเวลาที่ฉันต้องไปแล้ว …”
หลังจากพูดจบต้วนฮันซานก็ออกจากห้องรับรองไป เขาไม่ยอมให้ซือเฟิงได้ไปส่งเขาด้วยซ้ำ ในขณะที่เขาหายตัวออกไปจากสำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกอย่างเงียบๆ
“หัวหน้ากิล ตอนนี้เราควรจะทำยังไงกันดี ?” เหลียงจิงถามอย่างเป็นห่วง หลังจากที่เห็นต้วนฮันซานจากไป
มือแห่งนักบุญเริ่มจะก่อภัยคุกคามมากเกินไป และหากพวกเขาไม่ดำเนินการอย่างรอบคอบ พวกเขาก็อาจจะจบลงแบบตระกูลเก้าดาว และดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนได้
“เราไม่สามารถจะทำอะไรได้มากนักหรอก เราก็ได้แค่ทำสิ่งต่างๆที่เราทำอยู่เท่านั้น” ซือเฟิงกล่าว “อย่างไรก็ตามเราจะจัดระเบียบแผนของเราใหม่ เมื่อการอัพเดทครั้งใหญ่ของ God domain สิ้นสุดลง ให้เรียกแกนหลักของสภาสิบแปดปีกมารวมตัวกันที่เมืองปีกสีเงิน มันถึงเวลาแล้วที่สภาสิบแปดปีกจะต้องเปลี่ยนแปลงบางอย่าง”
การอัพเดทครั้งใหญ่ของ God domain มันไม่เคยธรรมดา ซึ่งแต่ละครั้งมันก็จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเกมโดยสิ้นเชิง และเนื่องจากการอัพเดทครั้งใหญ่ครั้งแรกมาเร็วกว่าที่เขาคาดไว้เล็กน้อย เขาจึงต้องปรับแผนการขยายตัวของสภาสิบแปดปีกใหม่ ไม่งั้นกิลจะไม่สามารถต่อสู้กับกิลขนาดใหญ่ทั่วไปได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงมือแห่งนักบุญและมหาอำนาจต่างๆเลย
“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยทันที เมื่อกลับไปออนไลน์” เหลียง
จิงกล่าวพลางพยักหน้า
เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อการอัพเดทครั้งใหญ่ของ God domain เสร็จสิ้น ทุกคนก็เริ่มกลับเข้าสู่เกมทันทีในเวลาเจ็ดโมงเช้าของอีกวัน
ขณะเดียวกันซือเฟิงก็เข้าสู่ห้องเกมเคบินของเขา ก่อนที่เขาจะสูดหายใจเข้าลึกๆ และเมื่อเห็นปุ่ม “ล๊อคอิน” ปรากฎขึ้นบนหน้าจอตรงหน้าเขา เขาก็เลือกจะล๊อคอินกลับเข้าสู่เกมทันที !!!