ตอนที่ 2706 การทดสอบรอบคัดเลือก
ภายในบาร์ชั้นสูงใกล้กับวิหารเทพสงคราม :
หญิงสาวในชุดเสื้อคลุมสีเทาอ่อนปรากฎตัวขึ้นอย่างเงียบๆข้างชายหนุ่มรูปหล่อที่กำลังดื่มไวน์แดงอยู่ในบาร์ และมันก็ราวกับว่าตัวตนของหญิงสองคนนี้นั้นไม่มีอยู่จริง เพราะไม่มีใครสังเกตเห็นการมาถึงของเธอเลย
“ปรมาจารย์หนุ่ม ดูเหมือนว่ามันจะยากแล้วที่จะได้รับตำแหน่งสำรองเหล่านี้ เซเว่น
วอร์นเดอร์ไม่ได้ตัดสินใจที่จะถอดสภาสิบแปดปีกออก เขาเพียงแต่ปล่อยให้สภาสิบแปดปีกดูแลตัวเองเท่านั้น” หญิงสาวกระชิบกับชายหนุ่ม “โดยตอนนี้สมาชิกของสภาสิบแปดปีกก็ได้ลงทะเบียนแล้ว และตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือรออีกสามชั่วโมงเพื่อให้การทดสอบรอบคัดเลือกเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ”
“สภาสิบแปดปีกนั้นโชคดีจริงๆที่ไม่ถูกถอดออก แม้ว่าจะทำผิดพลาดแบบนี้ก็ตาม …” ชายหนุ่มที่หล่อเหลาที่มีชื่อว่า ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่น ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะกล่าวอย่างเย็นชาว่า “อย่างไรก็ตามสภาสิบแปดปีกก็ไม่ควรคิดว่าพวกเขาจะมีคนรอดออกมาจากการทดสอบรอบคัดเลือก แม้แต่คนเดียว !!!”
“ซอลเลอร์ ให้ฉันโจมตีพวกเขาโดยตรงเลยเป็นไง ?” หญิงสาวผมกระเซิงที่นั่งข้างซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นกล่าวแนะนำด้วยดวงตาที่เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น โดยผู้หญิงคนนี้นั้นก็มีสัญลักษณ์ของดอกไม้แห่งเจ็ดบาปติดอยู่ที่แขนของเธอ
ซึ่งทันทีที่ผู้หญิงคนนี้พูดขึ้น ทุกคนในบาร์ก็ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่พวกเขานึกถึงหลายฉากที่เกิดขึ้นในอดีตอย่างหวาดกลัว
“เฮซ ครั้งนี้คุณต้องปฎิบัติตามกฎทุกอย่าง ไม่งั้นฉันจะไม่พาคุณออกมาอีกต่อไป ….” ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นกล่าว ขณะที่แวบหนึ่งดวงตาของเขาปรากฎความกลัวขึ้นมาเล็กๆ เมื่อเขามองไปยังหญิงสาวผมกระเซิงคนนี้
แม้หลังจากกลายเป็นหนึ่งในพวกระดับสูงของดอกไม้แห่งเจ็ดบาปแล้ว ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นก็ยังไม่กล้าที่จะปฎิบัติกับหญิงสาวคนนี้ด้วยท่าทีไม่จริงจัง
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความตายเป็นวิธีบรรเทาทุกข์ที่ดีที่สุดเมื่อมีคนมาต่อสู้กับหญิงสาวคนนี้ และแม้แต่ผู้นำลึกลับของดอกไม้แห่งเจ็ดบาปก็ยังปวดหัว เมื่อต้องรับมือกับเธอ และหากพวกเขาไม่จัดการเธออย่างเหมาะสม เธอก็สามารถจะก่อให้เกิดหายนะได้อย่างง่ายดาย
“ไม่ต้องกังวล ฉันจะเชื่อฟังคุณแน่นอนในระหว่างปฎิบัติการครั้งนี้ และฉันก็จะไม่ทำอะไรกับคนเหล่านั้นโดยไม่รับอนุญาติจากคุณก่อน ….” หญิงสาวที่มีชื่อว่าอิมพีเรียลเฮซ พยักหน้าพลางหัวเราะคิกคัก
“ก็ดี ….” ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็พูดช้าๆ “คราวนี้เราไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องสภาสิบแปดปีก เพราะเมื่อสภาสิบแปดปีกได้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของตัวเองออกมาแบบนี้แล้ว มหาอำนาจต่างๆจะกำหนดเป้าหมายไปที่สภาสิบแปดปีกเป็นอันดับแรกแน่นอน เราจะไม่ต้องทำอะไรกับสภาสิบแปดปีกเลย ในทางตรงกันข้าม ในขณะที่คนอื่นๆมุ่งเน้นไปที่สภาสิบแปดปีก เราก็จะเน้นไปที่การค้นหาป้ายคำสั่งวิหารเทพสงคราม ….”
การทดสอบรอบคัดเลือกสำหรับผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือมหาอำนาจต่างๆนั้นค่อนข้างจะเป็นแบบตรงไปตรงมา
ผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือมหาอำนาจต่างๆทั้งหมดจะถูกเทเลพอร์ตไปยังพื้นที่พิเศษเพื่อค้นหาป้ายคำสั่งวิหารเทพสงครามที่กระจัดกระจายอยู่ที่นั่น โดยพวกเขาจะมีเวลาห้าชั่วโมงในการทำเช่นนั้น และเมื่อหมดเวลาผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือมหาอำนาจต่างๆที่ถือป้ายคำสั่งวิหารเทพสงครามอยู่ก็จะผ่านการคัดเลือก
อย่างไรก็ตามจำนวนป้ายคำสั่งวิหารเทพสงครามนั้นมีจำนวนจำกัดแค่หนึ่งร้อยชิ้นเท่านั้น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือมันจะมีผู้เพียงหนึ่งร้อยคนเท่านั้นที่สามารถผ่านการคัดเลือกได้ และเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ช่วยเหลือทั้งหมดที่มหาอำนาจต่างๆคัดเข้ามานั้น จำนวนช่องที่มีอยู่สำหรับการผ่านการคัดเลือกมันก็จัดว่ามีอยู่น้อยมากๆ
ตามข้อมูลที่พวกเขาได้รับมามันมีกิลชั้นยอดหกกิล และซุเปอร์กิลสามกิลที่ได้มาที่จักรวรรดิมังกรไฟเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขัน และนั่นหมายความว่ามันก็จะมีผู้เล่นเก้าร้อยคนที่เข้าร่วมในการทดสอบรอบคัดเลือก โดยจะมีเพียงหนึ่งในเก้าเท่านั้นที่จะผ่านไปได้ ในขณะที่ที่เหลือ มันก็จะกลายเป็นการที่มหาอำนาจต่างๆจ่ายคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ไปฟรีๆ
ในขณะเดียวกันสภาสิบแปดปีกส่งสมาชิกมาแค่สิบเจ็ดคนเท่านั้นเพื่อมาเข้าร่วมการทดสอบรอบคัดเลือก ซึ่งการพยายามที่จะค้นหาป้ายคำสั่งวิหารเทพสงคราม ในขณะที่ต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากไปด้วย มันเป็นเพียงความฝันของคนโง่เท่านั้น
ขณะที่ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นกำลังพิจารณาว่าจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ของสภาสิบแปดปีกได้อย่างไร โคลท์ชาโด่วซึ่งกำลังพักผ่อนอยู่ที่หนึ่งในห้อง VIP ของวิหารเทพสงครามก็เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา เมื่อเธอได้รับข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ของสภาสิบแปดปีก
“รองหัวหน้ากิล คุณได้รับข่าวดีมางั้นหรอ ?” การ์เดี้ยนไนท์หญิงที่ชื่อไวท์เฟเธอร์กล่าวถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ !!” โคลท์ชาโด้วกล่าวตอบ “แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นคิดอะไรอยู่ถึงเชิญสภาสิบแปดปีกมา แต่คราวนี้สภาสิบแปดปีกตายแน่ !!! และพวกเขาไม่ควรฝันว่าจะผ่านการทดสอบรอบคัดเลือกได้ด้วยซ้ำ !!!”
“รองหัวหน้ากิล สมาชิกของสภาสิบแปดปีกทั้งสิบเจ็ดคนนั้นมีความแข็งแกร่งค่อนข้างจะมากเป็นพิเศษ และแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถผ่านไปได้ทั้งหมด แต่มันก็น่าจะยังมีโอกาสที่พวกเขาสองถึงสามคนจะประสบความสำเร็จนี่นา” ไวท์เฟเธอร์กล่าวพลางส่ายหัวด้วยความไม่เห็นด้วย
“ก่อนหน้านี้มันอาจจะเป็นไปได้ แต่ฉันคิดว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว” โคลท์ชาโด้วพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น “ตามรายงานที่สายลับของเราได้รายงานมา สกายดราก้อนเฮ้าท์ และ จักรวรรดิไพรน์ ได้ร่วมมือกับวังปีศาจและมิราเคิลเพื่อจัดการกับสภาสิบแปดปีกแล้ว”
“เป็นไปได้ยังไง ?!” ข้อมูลนี้ทำให้ไวท์เฟเธอร์ตกตะลึง
การแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งสำรองทั้งหกนั้นรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ และมหาอำนาจที่เข้าร่วมส่วนใหญ่ก็ล้วนปฎิบัติต่อผู้อื่นในฐานะศัตรูตัวฉกาจ และแค่มีมหาอำนาจสักสองกลุ่มทำงานร่วมกันมันก็ไม่น่าเชื่ออยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันกับมีมหาอำนาจสี่กลุ่มที่ทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดเป้าหมายไปยังสภาสิบแปดปีก
นี่สภาสิบแปดปีกไปทำอะไรให้กิลเหล่านั้นโกรธกัน ?
“มันไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้นี่นา …” โคลท์ชาโด้วกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “คุณลืมไปแล้วรึไงว่าก่อนหน้านี้สภาสิบแปดปีกไปยั่วยุให้ใครโกรธมา ?”
“ฝีมือ มือแห่งนักบุญงั้นหรอ ?” ไวท์เฟเธอร์นึกถึงมือแห่งนักบุญที่ลึกลับขึ้นมาทันที
“ถูกต้อง มือแห่งนักบุญได้ให้สัญญาบางอย่างกับทั้งสี่กิล และทั้งสี่กิลก็ตกลงโดยไม่ลังเลย” โคลท์ชาโด้วพยักหน้า ก่อนที่เธอจะยิ้มและกล่าวต่อว่า “ฉันคิดว่าตอนนี้แม้แต่ตัวสภาสิบแปดปีกเองก็คงไม่คิดว่าการทดสอบรอบคัดเลือกนี้จะกลายเป็นลานประหารสำหรับพวกเขา”
“คราวนี้สภาสิบแปดปีกได้จบสิ้นอย่างแท้จริงแน่นอน” ไวท์เฟเธอร์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เมื่อได้รับรู้ถึงสถานการณ์นี้
เกือบครึ่งหนึ่งของผู้เล่นเก้าร้อยคนที่เข้าสู่สนามรบในการทดสอบรอบคัดเลือกล้วนพุ่งเป้าไปที่สภาสิบแปดปีก ซึ่งนี่มันทำให้สมาชิกของสภาสิบแปดปีกไม่ควรคิดว่าตัวเองจะได้ออกมาจากสนามรบทั้งๆที่ยังมีชีวิตด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุดการทดสอบรอบคัดเลือกนี้มันเป็นพื้นที่สนามรบพิเศษที่ห้ามไม่ให้ผู้เล่นใช้สกิลเบอเซิกร์ และเครื่องมือ แถมมันยังเพิ่มอัตราการผลาญค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของผู้เล่นแต่ละคนขึ้นราวสิบเท่า
กฎดังกล่าวจะจำกัดอำนาจการต่อสู้ของผู้เข้าร่วมอย่างมาก และแม้แต่ผู้เล่นที่แข็งแกร่งก็ยังจะต้องมีปัญหาเมื่อต้องต่อสู้เป็นเวลานาน และเผชิญกับกลยุทธ์เน้นจำนวนเข้ากดดัน
ในขณะเดียวกันผู้เล่นที่ตายลงในสนามรบพิเศษแห่งนี้ไม่เพียงแต่จะสูญเสียเลเวลห้าเลเวล แต่ยังจะถูกห้ามไม่ให้เข้าสู่เกมเป็นเวลาห้าวัน นี่คือราคาความเสี่ยงที่ต้องจ่ายสำหรับการเข้าร่วมการแข่งขันนี้
ขณะเดียวกันสภาสิบแปดปีกก็ได้ระดมผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งหมดของพวกเขามาเข้าร่วมงานนี้แล้ว ซึ่งหากทั้งหมดตายลง กิลก็จะได้รับความสูญเสียอย่างหนักแบบไม่ต้องสงสัย
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงเวลาที่ผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือมหาอำนาจต่างๆเก้าร้อยคนได้เข้ามาในห้องโถงคัดเลือกของวิหารเทพสงคราม
โดยนอกเหนือจากสมาชิกสภาสิบแปดปีกสิบเจ็ดคนแล้ว ผู้เล่นที่เหลือทั้งหมดต่างยังคงปิดบังตัวตนของตัวเองไว้ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ
“พวกเขาคือเป้าหมายใช่ไหม ?”
“ช่างน่าสมเพชจริงๆ พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่าทีมทั้งสี่ของเราได้ร่วมมือกันแล้ว และเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นเราก็จะโจมตีพวกเขาด้วยกัน”
“ฉันสงสัยจังว่าตอนนี้พวกเขาจะเริ่มเสียใจในความโง่ของตัวเองรึยัง ?”
“ช่างโชคร้ายจริงๆ !!! ฉันต้องการจะท้าทายแบล๊คเฟรมเพื่อตรวจสอบผลการฝึกของฉัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว !!!”
เหล่าผู้ช่วยเหลือของสกายดราก้อนเฮ้าท์ จักรวรรดิไพรน์ มิราเคิล และวังปีศาจ ได้พูดคุยกันผ่านแชททีม ซึ่งทุกคำพูดมันก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยันและเห็นใจกลุ่มของซือเฟิง
“ซอลเลอร์ ทุกคนในทีมช่วยเหลือของทั้งสี่กิลนั้นล้วนจ้องมองไปยังสมาชิกสภาสิบแปดปีกแบบแปลกๆจริงๆ” อิมพีเรียลเฮซกล่าว ขณะที่เธอสังเกตสภาพแวดล้อมทั้งหมด
“มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย ใครใช้ให้สภาสิบแปดปีกกล้าหาญขนาดนั้นล่ะ …” ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นตอบอย่างไม่ไยดี “ถ้าฉันไม่ได้กลัวว่าหงซินหยวนจะกำหนดเป้าหมายมาที่ฉัน ฉันจะจัดการกับสมาชิกของสภาสิบแปดปีกทั้งหมดด้วยตัวเองด้วยซ้ำ แม้ว่ามหาอำนาจอื่นๆจะไม่ได้กำหนดเป้าหมายมาที่พวกเขาก็ตาม”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง” อิมพีเรียลเฮซเริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดทันที เมื่อได้ยินคำพูดของซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่น
“อย่างไรก็ตามแรกเริ่มเราจะทำเป็นว่าเราจะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับสภาสิบแปดปีกก่อน และเมื่อเจอกับทีมอื่นๆเข้าในระหว่างการปฎิบัติการ เราก็จะแยกตัวออกมา และปล่อยให้สมาชิกสภาสิบแปดปีกรับมือกับพวกศัตรูไป และจำไว้ให้ดีว่าคุณยังไม่ควรจะดำเนินการใดๆ” ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉันเข้าใจแล้ว” อิมพีเรียลเฮซพยักหน้า
ไม่นานหลังจากที่ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นพูดจบ ทั้งเก้าร้อยคนก็ถูกเทเลพอร์ตไปยังสถานที่ที่เป็นหุบเขาที่โอบล้อมไปด้วยป่ามากมาย
และหลังจากตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบของพวกเขาทั้งหมดแล้ว ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นก็พบว่าทีมต่างๆล้วนอยู่ใกล้กัน และหากพวกเขารีบละทิ้งสภาสิบแปดปีกเร็วเกินไป พวกเขาอาจจะถูกทีมอื่นโจมตีได้ในระหว่างการแยกตัวออกจากสภาสิบแปดปีก
“เราจะเคลื่อนที่ไปด้วยกันพร้อมกับสภาสิบแปดปีกก่อน ….” ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่น
กล่าวผ่านแชททีม
อย่างไรก็ตามแม้ว่าซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นจะออกคำสั่งมาแล้ว แต่มันก็ไม่มีสมาชิกคนใดของดอกไม้แห่งเจ็ดบาปขยับตัว โดยพวกเขาทั้งหมดนั้นล้วนยืนนิ่งอย่างตกตะลึงเท่านั้น
นี่เป็นเพราะเกือบครึ่งหนึ่งของทีมที่เข้าร่วมครั้งนี้ล้วนเริ่มวิ่งมายังตำแหน่งของพวกเขาแล้ว ในขณะที่ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นออกคำสั่ง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?” ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นตกตะลึง ในขณะที่เขามองไปยังผู้เล่นหลายร้อยคนที่พุ่งเข้าใส่ทีมของเขาจากทุกทิศทาง