Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2710

ตอนที่ 2710 การทดสอบรอบคัดเลือกจบลง

ทันทีที่ซือเฟิงพูดจบ ทุกคนในปัจจุบันก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่รอบตัวพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และหากให้บอกแบบแม่นยำคือพื้นที่โดยรอบนั้นได้กลายเป็นศัตรูของพวกเขา

แรงกดดันอย่างหนักหน่วงที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบทำให้ร่างกายของพวกเขารู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ในพื้นที่ที่มีแรงโน้มถ่วงสูง และแค่จะขยับ หรือเคลื่อนไหวร่างกายของตัวเองมันก็ยังจัดว่ามีปัญหามากแล้ว

ในทางกลับกันในฐานะผู้ปกครองพื้นที่นี้ ซือเฟิงนั้นสามารถจะใช้พละกำลังของเขาได้อย่างไร้ขีดจำกัดในทุกการเคลื่อนไหวของตัวเอง

“ไม่ดีแล้ว !!! โดเมน !!! นี่มันคือโดเมนมานา !!!”

ผู้เชี่ยวชาญของทีมช่วยเหลือทั้งสี่ทีมตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อพวกเขารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองอยู่ในมือคนอื่น และการแสดงออกของทรีออทั่ม แมดซอร์ด กับแม่มดเอลฟ์ก็ดูหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน

ผู้เล่นทุกคนที่คลุกคลีอยู่ใน God domain มาระยะหนึ่งนั้นจะรู้ดีว่าโดเมนมานาคืออะไร

นอกจากนี้เรื่องนี้มันยังใช้ระบุด้วยว่า NPC นั้นๆเป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างแท้จริงไหม

NPC ทุกคนที่สามารถใช้โดเมนมานาได้ คือการตัวตนที่ผู้เล่นทุกคนต้องระวัง เพราะท้ายที่สุด NPC เหล่านี้สามารถจะเปลี่ยนผู้เล่นขั้นสามแบบพวกเขาให้กลายเป็นฝุ่นได้ทันทีโดยอาศัยเพียงแค่โดเมนมานาของพวกเขา ซึ่งพวกเขานั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องขยับร่างกายเลยด้วยซ้ำ

“ทำไมเขาถึงมีโดเมนมานากัน ? นั่นควรเป็นสิ่งที่มีเพียง NPC ขั้นสี่ส่วนน้อยเท่านั้นที่มีไม่ใช่หรอ ?” แม่มดเอลฟ์ตื่นตระหนก ตอนนี้เมื่อเธอมองไปที่ซือเฟิง ดวงตาของเธอไม่ได้เต็มไปด้วยความโกรธอีกต่อไป ตอนนี้มันหลงเหลือแต่เพียงความกลัวเท่านั้น

นี่คือโดเมนมานาที่พวกเขากำลังพูดถึง !!!

ด้วยโดเมนมานาแบบนี้ มันก็เท่ากับว่าซือเฟิงได้กลายเป็นผู้ปกครองพื้นที่โดยรอบไปแล้ว !!!

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?” ทรีออทั่มตกตะลึงกับสถานการณ์นี้ ในขณะที่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสับสน “เขาไม่ใช่ผู้เล่น แต่เป็นปีศาจแปลงร่างมาจริงๆงั้นหรอ ?”

มันอาจจะดีถ้าซือเฟิงมีเพียงแค่ความแข็งแกร่งที่น่ากลัว เพราะที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาก็สามารถจะใช้กลยุทธ์เน้นจำนวนเข้ากดดันเพื่อเอาชนะค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจและค่าสตามิน่าของเขาได้

อย่างไรก็ตามกับโดเมนมานานั้นมันเป็นคนละเรื่องกัน โดเมนมานานั้นมันมีไว้เพื่อตอบโต้กลยุทธ์เน้นจำนวนเข้ากดดันโดยเฉพาะ และหากบุคคลใดก้าวเข้าสู่โดเมนมานาของศัตรูโดยไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอ พวกเขาก็จะไม่ต่างจากมดต่อหน้าเจ้าของโดเมนเลย พวกเขาอาจไม่สามารถแสดงพลังการต่อสู้ใดๆออกมาได้ด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้นโดเมนมานาที่ซือเฟิงเปิดเผยและใช้ออกมานั้น มันยังครอบคลุมรัศมีที่กว้างถึงหนึ่งพันหลา ซึ่งจัดว่าน่ากลัวมากๆ และด้วยระยะดังกล่าว พวกเขาก็จะไม่สามารถหนีได้เลย แม้ว่าจะต้องการก็ตาม

ในขณะนี้นับประสาอะไรกับทรีออทั่ม และผู้เล่นที่เป็นศัตรูคนอื่นๆ แม้แต่หยานเทียนซิง และสมาชิกของสภาสิบแปดปีกทั้งหมดที่ติดตามซือเฟิงมาเข้าร่วมงานนี้ก็ยังเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“นี่ความแข็งแกร่งของหัวหน้ากิลไปถึงขั้นนี้แล้วงั้นหรอ ?” หยานเทียนซิงจ้องมองไปที่ซือเฟิงซึ่งปัจจุบันยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่อย่างองอาจ

ด้วยความแข็งแกร่งแบบนี้ มันไม่สำคัญอีกแล้วแม้ว่าทั้งสี่ทีมจะรวมตัวกันมารุมซือเฟิงพร้อมกันก็ตาม เพราะซือเฟิงสามารถจะฆ่าคนเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ครั้ง

มันมีเพียงผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดแบบทรีออทั่มเท่านั้นที่มีค่าสถานะพื้นฐานสูงมากพอที่จะสามารถต้านทานซือเฟิงได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคิดมาถึงตรงนี้มันก็จัดว่าเป็นเรื่องน่าหัวเราะอยู่ดี เพราะท้ายที่สุดแล้วทรีออทั่มและอีกสองคนไม่สามารถจะเทียบกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นสามทั่วไปได้ด้วยซ้ำ เมื่ออยู่ในโดเมนมานาของซือเฟิง
ในขณะเดียวกันด้วยความแข็งแกร่งของซือเฟิง เขาก็สามารถจะกำจัดผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั่วไปได้อย่างง่ายดาย แม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากโดเมนมานาก็ตาม

ในเวลานี้ทีมช่วยเหลือของมหาอำนาจต่างๆที่อยู่นอกโดเมนมานาของซือเฟิงก็ล้วนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเช่นกัน

“ทั้งสี่ทีมนั่นตายหมดอย่างแน่นอน ด้วยโดเมนมานาที่กว้างใหญ่แบบนี้ พวกเขาจะไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้เลย” ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นกล่าวด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน ขณะที่เขามองไปยังทรีออทั่มและคนอื่นๆ

ทีมสี่ทีมที่ทำงานร่วมกันซึ่งประกอบไปด้วยผู้แข็งแกร่งสี่คนจากทั้งหกของจักรวรรดิมังกรไฟ และผู้เชี่ยวชาญขั้นสามอีกหลายร้อยคนที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ที่หากคนเหล่านี้รวมตัวกันนั้น จะไม่มีใครในจักรวรรดิมังกรไฟกล้าประมาทพวกเขาเลย

อย่างไรก็ตามตอนนี้ทีมดังกล่าวทำได้แค่รอความตายเท่านั้น ….

“บอสซอลเลอร์ ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี ?” แอสซาซินขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยสิบเจ็ดกล่าวถามอย่างหมดหนทาง ตอนนี้ในเมื่อสภาสิบแปดปีกสามารถจะตัดสินชะตากรรมทีมร่วมของมหาอำนาจสี่กลุ่มได้ ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงทีมเล็กๆของพวกเขาเลย

“หนี !!!” ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นตอบโดยสัญชาตญาณ ขณะที่เขามองไปยังพื้นที่สีเทาข้างหน้าเขา

แม้ว่าทีมของพวกเขาจะไม่ได้เป็นศัตรูกับสภาสิบแปดปีก แต่ดอกไม้แห่งเจ็ดบาปก็เคยขัดแย้งกับสภาสิบแปดปีกมาหลายครั้งในอดีต หากซือเฟิงอารมณ์ไม่ดี เขาอาจตัดสินใจที่จะจัดการกับพวกเขาต่อเลย หลังจากจัดการกับทั้งสี่ทีมเสร็จ

“หนี ?” เมื่อมองไปยังสนามรบพิเศษรอบตัวพวกเขา แอสซาซินขั้นสามก็ถามอย่างกังวลว่า “แต่บอสพวกเราจะหนีไปที่ไหน ? สนามรบพิเศษแห่งนี้มันไม่ได้มีพื้นที่ที่ใหญ่นัก และมันก็จะใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงนะในการวิ่งวนรอบที่นี่”

สนามรบพิเศษที่ใช้ในการทดสอบรอบคัดเลือกนี้อาจถือว่าใหญ่สำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั่วไป อย่างไรก็ตามมันเป็นแค่กรงเล็กๆเท่านั้นสำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมน ซึ่งซือเฟิงจะสามารถเก็บเกี่ยวชีวิตของผู้เล่นทุกคนในกรงนี้ได้อย่างง่ายดายตลอดเวลาเมื่อเขาต้องการ
“ยอมแพ้ !! ทุกคนจะต้องยอมแพ้ทันที !!” ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นกล่าวสั่งพลางกัดฟัน

ผู้เล่นนั้นไม่จำเป็นจะต้องต่อสู้จนตายกันไปข้างในการทดสอบรอบคัดเลือก และหากผู้เข้าร่วมทดสอบไม่ต้องการจะตาย พวกเขาก็สามารถจะยอมแพ้ผ่านระบบหลักได้ อย่างไรก็ตามขั้นตอนการยอมแพ้แบบนี้มันก็มีเวลาหนึ่งนาที ยิ่งไปกว่านั้นตราบใดที่ผู้เล่นยอมแพ้ในระหว่างการทดสอบรอบคัดเลือก พวกเขาไม่เพียงแต่จะสูญเสียเลเวลไปหนึ่งเลเวลโดยอัตโนมัติ แต่พวกเขายังจะถูกห้ามไม่ให้เข้าสู่ God domain หนึ่งวัน ในทันที

ดังนั้นหากไม่จำเป็นจริงๆจะไม่มีใครเลือกที่จะยอมแพ้เลย

อย่างไรก็ตามตอนนี้ซอลเลอร์ฟูลฮีฟเว่นไม่สามารถจะมาสนใจโทษจากการยอมแพ้นี้ได้แล้ว เพราะท้ายที่สุดเมื่อเทียบกับการถูกซือเฟิงฆ่า และจะต้องสูญเสียห้าเลเวล พร้อมกับถูกห้ามไม่ให้เข้าสู่ God domain ห้าวัน การเลือกยอมแพ้จัดเป็นอะไรที่ดีกว่ามาก ในเวลานี้นอกจากทีมดอกไม้แห่งเจ็ดบาปแล้ว ทีมช่วยเหลือของมหาอำ
นาจอื่นๆที่ไม่ได้เข้าโจมตีสภาสิบแปดปีกก็เลือกจะยอมแพ้ในทันที

ช่วงเวลาหนึ่งมันก็มีลำแสงหลายร้อยเส้นปรากฎขึ้นในสนามรบพิเศษ โดยมันก็ได้สร้างภาพอันงดงามขึ้นราวกับว่าสวรรค์กำลังลงมายังโลก แต่น่าเสียดายที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ในสนามพิเศษแห่งนี้ที่มีอารมณ์จะชื่นชมฉากที่สวยงามนี้

เมืองมังกรไฟ :

ในขณะที่การแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรองทั้งหกยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ ที่บริเวณพลาซ่าด้านนอกวิหารเทพสงครามก็เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจากมหาอำนาจต่างๆ โดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เหล่านี้พูดคุยกันเบาๆเกี่ยวกับการทดสอบรอบคัดเลือกที่กำลังดำเนินอยู่

“ฉันได้ยินมาว่ามีมหาอำนาจเก้ากลุ่มที่ส่งทีมผู้เล่นที่มาช่วยเหลือพวกเขาเข้าทำการทดสอบรอบคัดเลือกนี้ ฉันสงสัยจังว่ามหาอำนาจกลุ่มใดจะมีผู้เล่นในทีมที่มาช่วยเหลือ เหลืออยู่มากที่สุด ? มันจะดีมากเลยถ้ากิลของเรามีคนที่ผ่านรอบคัดเลือกมาได้จำนวนมาก เพราะมันจะช่วยลดภาระของเราได้อย่างมากในภายหลัง”

“ฉันคิดว่ามันคงจะมีคนผ่านรอบคัดเลือกนี้ไปได้ไม่มากนักหรอก ฉันเพิ่งได้ยินมาว่า ตระกูลมังกรฟ้า จักรวรรดิไพรน์ วังปีศาจ และมิราเคิล ได้เชิญให้ผู้แข็งแกร่งสี่คนจากหกคนของจักรวรรดิมังกรไฟมาเข้าร่วมกับพวกเขาได้สำเร็จ และด้วยผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่นี้ การที่คนอื่นๆจะค้นหาและเก็บป้ายคำสั่งวิหารเทพสงครามไว้ได้จนถึงเวลาที่ผ่านการคัดเลือกนั้น มันก็เป็นไปได้ยากมากๆเลย”

“ทั้งสี่กิลจะไม่แข็งแกร่งเกินไปหน่อยงั้นหรอ ? พวกเขาสามารถรับสมัครสี่คนนั่นได้จริงๆงั้นหรอ ? นี่พวกเขาต้องจ่ายไปเท่าไหร่กันถึงรับสมัครสี่คนนั่นมาได้ ….”

“แม้ว่าความช่วยเหลือจากผู้ช่วยเหล่านี้จะไม่ได้เป็นประโยชน์มากนักในการแข่งขันแบบเป็นทางการ แต่ผู้ช่วยเหล่านี้ก็ยังสามารถจะช่วยเก็บรวบรวมคะแนนได้มากถึงครึ่งหนึ่งของสมาชิกที่เข้าร่วมในการแข่งขันแบบเป็นทางการ และเมื่อรวมกับโอกาสในการสานสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดแล้ว มันก็คุ้มค่าเลยทีเดียวสำหรับราคาที่มหาอำนาจต่างๆจ่ายไป”

เมื่อเอ่ยถึงผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดสี่คนจากหกคนที่จัดเป็นผู้แข็งแกร่งทั้งหกแห่งจักรวรรดิมังกรไฟ ผู้เล่นหลายคนในพลาซ่าก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองสมาชิกของวังปีศาจ มิราเคิล ตระกูลมังกรฟ้า และจักรวรรดิไพรน์ด้วยความอิจฉา เพราะท้ายที่สุดแล้วในการแข่งขันแบบนี้การได้ผู้เชี่ยวชาญแบบนี้มาช่วยเป็นกำลังให้สักคน มันก็จะช่วยเรื่องต่างๆของพวกเขาให้ทำได้ง่ายมากขึ้นเลยทีเดียว

ในเวลานี้พวกระดับสูงของมหาอำนาจอื่นๆที่พักอยู่ในวิหารเทพสงครามก็เต็มไปด้วยความอิจฉา และความโกรธ

“พวกเขารับสมัครสี่คนนั่นมาได้ยังไงกัน ? เราได้เสนอราคาอันมหาศาลแก่พวกเขาไปอย่างชัดเจนก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็ยังคงปฎิเสธ ฉันไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะยอมช่วยเหลือทั้งสี่กิล ด้วยเรื่องนี้เราน่าจะเสียเปรียบมากๆแน่นอนในเรื่องของกำลังคน เมื่อการแข่งขันอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้น” มู่ฉินเผยสีหน้าบิดเบี้ยวออกมา เมื่อเธอได้อ่านรายงานล่าสุดที่เธอได้รับมา ….

เรื่องการที่สภาสิบแปดปีกเปิดเผยข้อมูลของตัวเองออกมา มันก็ทำให้ฟรอสต์ฮีฟเว่นอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบมากแล้ว แต่ตอนนี้เธอยังได้มารู้ว่าสี่กิลรับสมัครสี่คนจากหกผู้แข็งแกร่งของจักรวรรดิมังกรไฟมาได้อีก นี่มันคือการถูเกลือลงบนแผลที่เปิดสดๆชัดๆ

“ดูเหมือนว่าทั้งสี่กิลจะครอบครองช่องผู้ช่วยเหลือส่วนใหญ่ในการทดสอบรอบคัดเลือกครั้งนี้แน่นอน และนี่มันก็จะทำให้ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เราจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เอื้ออย่างมาก” บริลเลี่ยนบลูกล่าวด้วยสีหน้าอึมครึม

ฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นด้อยกว่ามหาอำนาจอื่นๆอยู่แล้วในแง่ของผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด และผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาด ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งความหวังไว้กับผู้ช่วยเหลือของพวกเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้ดูเหมือนว่าความหวังของพวกเขาจะค่อยๆจางลงไปทั้งหมดแล้ว

ขณะเดียวกันหงซินหยวนก็ยังคงเงียบ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าการทดสอบรอบคัดเลือกมันจะเข้มข้นมากขนาดถึงขั้นที่มีผู้แข็งแกร่งสี่จากหกคนของจักรวรรดิมังกรไฟเข้าร่วม

“ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เรามาดูผลลัพธ์กันก่อนที่จะปรับเปลี่ยนอะไรเถอะ ….” เซเว่น
วอร์นเดอร์กล่าว

นอกเหนือจากฟรอสต์ฮีฟเว่นแล้ว มหาอำนาจอื่นๆเองก็ตื่นตระหนกกับเรื่องนี้เช่นกัน พวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าตระกูลมังกรฟ้า มิราเคิล วังปีศาจ และจักรวรรดิไพรน์จะมีสิทกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการทดสอบรอบคัดเลือก

สำหรับทั้งสี่กิลนี้ ตอนนี้พวกเขาก็เต็มไปด้วยความสุข เพราะพวกเขารู้สึกว่าราคาที่พวกเขาจ่ายไปเพื่อจ้างทั้งสี่คนนี้มันคุ้มค่า

ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือรอให้การทดสอบรอบคัดเลือกจบลง และประกาศผลเท่านั้น

“ทั้งสี่กิลนั้นค่อนข้างจะระมัดระวังในการเคลื่อนไหวของพวกเขามากทีเดียว แม้แต่เราเองก็พึ่งจะได้ข่าวมาว่าพวกเขาเชิญสี่จากหกผู้แข็งแกร่งของจักรวรรดิมังกรไฟมาได้ รองหัวหน้ากิล ฉันกลัวว่าเราอาจจะต้องเปลี่ยนแผนในภายหลัง ….” ไวท์เฟเธอร์พูดพลางขมวดคิ้ว ขณะที่เธออ่านรายงานล่าสุด

แม้ว่าการเพิ่มเข้ามาของสี่คนนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมของไมโทโลจี้ แต่เธอก็ยังไม่ค่อยจะชอบตัวแปรแบบนี้อยู่ดี

“สี่จากหกผู้แข็งแกร่งของจักรวรรดิมังกรไฟงั้นหรอ ?” โคลท์ชาโด้วยิ้มเมื่อได้รับข่าวนี้ “ด้วยสิ่งนี้แม้แต่แบล๊คเฟรมก็ยังจะต้องมีปัญหาในการเอาชีวิตรอด”

ก่อนหน้านี้เมื่อเธอได้ยินถึงแผนการของมหาอำนาจทั้งสี่ที่คิดจะร่วมมือกันจัดการกับสภาสิบแปดปีก เธอก็ยังมีความรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง เพราะเธอเคยเห็นความแข็งแกร่งและเทคนิคของซือเฟิงมาก่อน การฆ่าเขามันจะเป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตามด้วยมีผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดสี่คนนี้มาเข้าร่วม ยังไงซือเฟิงก็จะต้องตายภายในสนามรบพิเศษของการทดสอบรอบคัดเลือกแน่นอน

ในขณะที่เหล่ามหาอำนาจต่างๆกำลังคาดการณ์ถึงผลการทดสอบรอบคัดเลือก เสียงระฆังก็ดังขึ้น และมันก็ดังก้องไปทั่ววิหารเทพสงคราม

ระฆังนี้แสดงถึงการสิ้นสุดของการทดสอบรอบคัดเลือก

“เกิดอะไรขึ้นกัน ? การทดสอบรอบคัดเลือกจบแล้วงั้นหรอ ? ไม่ใช่ว่ามันเพิ่งจะเริ่มหรอ ?”

“วิหารเทพสงครามทำอะไรผิดพลาดไปรึปล่าว ?”

“มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะ ไปดูกันเถอะ ….”

การทดสอบรอบคัดเลือกที่จบลงอย่างกระทันหันนั้นสร้างความสับสนให้กับพวกระดับสูงของมหาอำนาจต่างๆอย่างมาก และพวกเขาก็รีบตรงไปที่ห้องโถงกลางของวิหารเทพสงครามทันทีเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset