ตอนที่ 2711 สภาสิบแปดปีกที่โชคดี
ห้องโถงกลางของวิหารเทพสงคราม :
เพื่อตอบสนองต่อเสียงระฆังที่แสดงถึงการสิ้นสุดของการทดสอบรอบคัดเลือก เหล่ามหาอำนาจต่างๆได้มารวมตัวกันที่ห้องโถงกลางของวิหารเทพสงครามอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่กี่นาที มันก็มีผู้เล่นอยู่เต็มหนึ่งในสามของห้องโถงกลางซึ่งมีขนาดเท่ากับครึ่งสนามฟุตบอล
“การทดสอบรอบคัดเลือกเริ่มต้นขึ้นเมื่อไม่ถึงสิบนาทีที่แล้ว แต่มันกับมีเสียงระฆังที่แสดงถึงการสิ้นสุดของการทดสอบรอบคัดเลือกดังขึ้นแล้ว นี่กฎในการทดสอบรอบคัดเลือกมีการเปลี่ยนแปลงรึปล่าว ?”
“มันไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นนะ พวกเราก็ตรวจสอบทุกอย่างมาอย่างดีแล้วนะก่อนการแข่งขัน”
“แต่มันจบลงในเวลาไม่ถึงสิบนาที ฉันสงสัยจังว่าจะมีใครทำอะไรได้ในเวลาอันสั้นแบบนี้ ?”
….
เหล่าพวกระดับสูงของมหาอำนาจต่างๆล้วนพูดคุยกันอย่างอยากรู้อยากเห็นว่าทำไมการทดสอบรอบคัดเลือกถึงจบลงอย่างกระทันหัน พวกเขาทุกคนล้วนอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากๆ
ท่ามกลางการพูดคุยกันที่ดุเดือด วงเวทย์เทเลพอร์ตขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นที่ใจกลางห้องโถงกลาง ครู่ต่อมามันก็มีแผ่นจารึกหินโผล่ออกมาจากวงเวทย์ ซึ่งการปรากฎขึ้นของแผ่นจารึกหินนั้นได้ดึงดูดความสนใจของมหาอำนาจต่างๆในทันที นี่มันเป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับมหาอำนาจเก้ากลุ่มที่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากคนภายนอกมา
นี่เป็นเพราะชื่อของมหาอำนาจทั้งเก้ากำลังค่อยๆปรากฎขึ้นบนแผ่นจารึกหิน ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่แสดงถึงการเตรียมจะประกาศจำนวนผู้เล่นที่ผ่านการทดสอบรอบคัดเลือกสำหรับแต่ละกิลอย่างชัดเจน
“อะไรกัน ?! นี่ผลลัพธ์จะออกมาเร็วขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?!”
“ฉันสงสัยจังว่าทีมของใครจะเหลือผู้ช่วยเหลือมากที่สุด ? หากใครสามารถรับเอาช่องช่วยเหลือจากคนภายนอกมาได้มากกว่ายี่สิบช่อง มันก็จะช่วยพวกเขาในการแข่งขันอย่างเป็นทางการได้มากแน่นอน”
“ตามข้อมูลที่เราได้รับมา มิราเคิลน่าจะมีภาษีในเรื่องนี้ดีที่สุด เพราะท้ายที่สุดพวกเขารับสมัครแม่มดเอลฟ์เข้ามาได้ ซึ่งเธอเก่งที่สุดเมื่อพูดถึงการลอบโจมตีและซุ่มโจมตีระยะไกล เธอสามารถจะทำการลอบโจมตีและซุ่มโจมตีผู้ที่มีป้ายคำสั่งวิหารเทพสงครามได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้เมื่อวัดกันแบบปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ในหมู่ผู้แข็งแกร่งทั้งหกแห่งจักรวรรดิมังกรไฟ การโจมตีของเธอนั้นก็ยากที่จะป้องกันที่สุด”
พวกระดับสูงของมหาอำนาจต่างๆล้วนคาดเดากันอย่างตื่นเต้น ขณะที่พวกเขาเฝ้ารอคอยข้อมูลที่ปรากฎขึ้นบนแผ่นหินจารึกอย่างช้าๆ
ในทางกลับกันสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นเริ่มเต็มไปด้วยความกังวลมากขึ้น เพราะตามข้อมูลที่พวกเขาได้ทำการรวบรวมมาอย่างลับๆนั้น ความแข็งแกร่งของทีมช่วยเหลือของฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นอยู่แค่ในระดับปานกลางเท่านั้น ซึ่งหากพวกเขาขาดความช่วยเหลือจากทีมช่วยเหลือที่มีจำนวนมากเพียงพอ การจะได้หนึ่งในหกตำแหน่งสำรองมันก็จะเป็นไปได้ยากมากๆ
การแข่งขันอย่างเป็นทางการที่จะเริ่มขึ้นเพื่อชิงหกตำแหน่งสำรองนั้น ยิ่งผู้เชี่ยวชาญที่พวกเขามี มีจำนวนมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งมีความได้เปรียบมากเท่านั้น
หลังจากที่กิลได้ครองพื้นที่ทรัพยากรแล้วในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ กิลก็จะได้รับตราทรัพยากรมา และเมื่อผู้เล่นติดตราทรัพยากร ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ออกจากระยะของพื้นที่ทรัพยากรกิลที่พวกเขาอยู่ พวกเขาก็จะได้รับคะแนนกิลอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้เล่นที่ติดตราทรัพยากรจึงจะต้องแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่งั้นผู้เชี่ยวชาญของกิลอื่นๆจะซุ่มโจมตีและทำการฆ่าผู้ติดตราทรัพยากรได้
ง่ายมากๆ
“สิบ !! แค่สิบคนก็ยังดี !!!” มู่ฉินสวดอ้อนวอนอย่างเงียบๆ ขณะที่เธอมองไปที่แผ่นหินจารึก เธอไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนักว่าจะมีผู้ช่วยเหลือของกิลเธอหลายคนผ่านการทดสอบรอบคัดเลือกได้ เธอหวังเพียงแค่ว่าจำนวนผู้ช่วยเหลือที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นจะได้รับมานั้นจะไม่ด้อยกว่ามหาอำนาจอื่นๆมากเกินไป
“สิบ ? เธอช่างรู้วิธีฝันจริงๆ ….” เธ้าซั่นไมล์ รองหัวหน้ากิลของมิราเคิลหัวเราะเยาะออกมา เมื่อได้ยินเสียงพึมพำของมู่ฉินจากบริเวณใกล้เคียง “แต่น่าเสียดายที่การที่เธอเชิญสภาสิบแปดปีกมา มันจะทำให้ความฝันในเรื่องนี้ของเธอไม่มีวันเป็นจริงแน่นอน”
“ไมล์ ครั้งนี้คุณไปไกลเกินไปหน่อยแล้ว ฉันบอกให้คุณแค่สั่งให้แม่มดเอลฟ์ร่วมมือกับอีกสามทีมจากสามกิลปราบปรามสภาสิบแปดปีก แต่คุณกับบอกให้พวกเขาจัดการกับผู้ช่วยเหลือคนอื่นๆของฟรอสต์ฮีฟเว่นด้วย หลังจากจัดการกับสภาสิบแปดปีกแล้ว !!!” ชเรดโซล รองหัวหน้ากิลลำดับที่หนึ่งของมิราเคิลกล่าวด้วยความไม่พอใจ พลางส่ายหัว “ถ้าคนของฟรอสต์ฮีฟเว่นรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะสร้างปัญหาให้กับเรามากมายในอนาคตแน่นอน”
“เราจำเป็นจะต้องลดจำนวนผู้ช่วยเหลือของกิลอื่นๆอยู่ดี ฉะนั้นมันไม่ได้สำคัญเลย แม้ว่าเราจะต้องมีปัญหากับฟรอสต์ฮีฟเว่นเพิ่มขึ้นในเรื่องนี้ มันเป็นความผิดของ
ฟรอสต์ฮีฟเว่นตั้งแต่เริ่มที่ขอความช่วยเหลือจากสภาสิบแปดปีก” เธ้าซั่นไมล์โต้ตอบอย่างดูถูก
เขามีความรู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับสภาสิบแปดปีก
ทั้งหมดเป็นเพราะสภาสิบแปดปีกที่ทำให้สถานะในกิลของเขาลดลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว เขาจึงจะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสที่จะได้แก้แค้นหลุดมือไป ในความเป็นจริงเพื่อที่จะแก้แค้นสภาสิบแปดปีก เขานี่แหล่ะคือผู้ที่เกลี้ยกล่อมให้กิลของตัวเองร่วมมือกับมือแห่งนักบุญและอีกสามกิลเพื่อดำเนินการจัดการกับสภาสิบแปดปีกร่วมกัน
ในตอนนี้โคลท์ชาโด้วก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังมู่ฉินที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้องโถงกลางด้วยความเห็นใจ
“ถ้าไม่ใช่เพราะสภาสิบแปดปีก ฟรอสต์ฮีฟเว่นก็คงจะไม่ตกอยู่ในสถานะที่น่าอึดอัดแบบนี้” โคลท์ชาโด้วพึมพำพลางถอนหายใจออกมา
ภายใต้สถานการณ์ปกติ การตัดสินใจของมู่ฉินที่รับสมัครซือเฟิงเข้ามาเพื่อช่วยเหลือนั้นมันก็จัดว่าเป็นเรื่องดี แต่น่าเสียดายที่นอกเหนือจากความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของเขาแล้ว ซือเฟิงนั้นไม่ได้รู้ถึงวิธีในการที่จะวางตัวเลย เขาสร้างศัตรูมากเกินไป ไม่งั้นมิราเคิลจะไม่ตัดสินใจที่จะดำเนินการกับสภาสิบแปดปีกอย่างเด็ดขาดแบบนี้ และเพิกเฉยต่ออิทธิพลของฟรอสต์ฮีฟเว่น
ในขณะที่สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆกำลังพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น มันก็มีแสงที่สว่างวาบหลาบดวงปรากฎขึ้นที่บริเวณวงเวทย์เทเลพอร์ตใจกลางห้องโถงกลาง และในพริบตามันก็มีร่างสิบเจ็ดร่างปรากฎขึ้นต่อหน้าต่อตาของทุกคน
และเมื่อแสงนี้หาย ตัวตนของร่างทั้งสิบเจ็ดร่างก็ปรากฎขึ้นให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งพวกเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสมาชิกสภาสิบแปดปีกที่มหาอำนาจต่างๆล้วนคิดว่าจะล้มเหลวแน่นอนในการทดสอบรอบคัดเลือก
“เป็นไปได้ยังไงกัน ?”
“นี่พวกเขาโชคดีมากงั้นหรอ ? พวกเขาไม่ได้พบกับทีมช่วยเหลือของมหาอำนาจอื่นๆในนั้นเลยรึไง ?”
ชั่วครู่หนึ่งทั้งห้องโถงกลางก็ตกอยู่ในความโกลาหล มันไม่มีพวกระดับสูงคนใดของมหาอำนาจต่างๆที่เชื่อในสายตาของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตระกูลมังกรฟ้า จักรวรรดิมังกรไพรน์ วังปีศาจ และมิราเคิล ทุกคนล้วนอ้าปากค้างให้กับสถานการณ์นี้
“ทำไมสมาชิกสภาสิบแปดปีกถึงยังมีชีวิตอยู่ ?” เธ้าซั่นไมล์รู้สึกสับสนมากๆ เมื่อเห็นกลุ่มของซือเฟิงเดินออกมาจากวงเวทย์เทเลพอร์ต
ในขณะนี้มันไม่ใช่แค่เธ้าซั่นไมล์คนเดียว แม้แต่ชเรดโซล และโคลท์ชาโด้วที่อยู่ห่างออกไปก็ยังงงงวยกับสถานการณ์นี้ เพราะท้ายที่สุดมันไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพวกเขาแล้วถึงสถานการณ์ข้างในนั้น
นั่นคือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงหรือเก่งกาจกว่านั้นสี่ร้อยคนเลยนะที่พวกเขากำลังพูดถึง !!!
แถมในจำนวนนั้นสี่คนก็เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสี่ในหกผู้แข็งแกร่งทั้งหกแห่งจักรวรรดิมังกรไฟ แถมนี่ยังไม่นับรวมเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อ่อนแอลดหลั่นกันลงมาซึ่งมีจำนวนมากมายมหาศาล และด้วยพลังที่แข็งแกร่งแบบนี้นั้น พวกเขาจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แม้แต่ในจักรวรรดิมังกรไฟ โดยการจัดการกับสภาสิบแปดปีกควรเป็นแค่เรื่องเล็กๆ กระนั้นสภาสิบแปดปีกกับออกจากการทดสอบรอบคัดเลือกมาได้โดยไม่มีผู้เสียชีวิตเลย จะให้พวกเขาพาตัวเองไปเชื่อสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร ?
“ทั้งสี่คนนั่นไม่ได้จัดการกับพวกเขางั้นหรอ ?”
ไม่ว่าโคลท์ชาโด้วจะคิดอย่างไร เธอก็นึกออกถึงเหตุผลนี้แค่เหตุผลเดียวที่สภาสิบแปดปีกสามารถกลับออกมาจากการทดสอบรอบคัดเลือกได้โดยไม่มีผู้เสียชีวิตเลย
สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นก็ประหลาดใจกับสถานการณ์นี้เช่นกัน
“พวกเขานั้นจัดว่าโชคดีจริงๆ พวกเขาสามารถจะกลับออกมาได้โดยไม่มีผู้เสียชีวิตเลย” เมื่อบริลเลี่ยนบลูเห็นกลุ่มของซือเฟิง เขาก็เหลือบไปมองที่หงซินหยวนจากนั้นก็กล่าวต่อว่า “อย่างไรก็ตามการกลับมาแบบมีชีวิตนั้นมันก็เปล่าประโยชน์ หากพวกเขาไม่มีป้ายคำสั่งวิหารเทพสงคราม !!!”
ในความเห็นของบริลเลี่ยนบลู กลุ่มของซือเฟิงต้องจงใจที่จะหลีกเลี่ยงทีมช่วยเหลือของมหาอำนาจอื่นๆ และไม่ได้ทำการต่อสู้ใดๆเลยแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถจะกลับมาได้อย่างปลอดภัยแบบนี้ เพราะท้ายที่สุดด้วยการเปิดเผยข้อมูลของสภาสิบแปดปีก ยังไงมหาอำนาจต่างๆก็จะกำหนดเป้าหมายมาที่พวกเขาแน่นอน
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุด มหาอำนาจต่างๆที่เข้าร่วมในปัจจุบันก็ถือว่าการกลับมาของสภาสิบแปดปีกนั้นเป็นเพียงเรื่องที่น่าประหลาดใจเล็กน้อยเท่านั้น และพวกเขาก็ไม่ได้สนใจมากนัก เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาสนใจจริงๆคือกิลของตัวเองได้รับช่องจากผู้ช่วยเหลือกี่ช่องกัน
ทุกคนนั้นหันกลับไปสนใจที่วงเวทย์เทเลพอร์ตต่อทันทีเพื่อรอดูว่าจะมีใครอื่นอีกที่กลับมา เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้สอบถามเรื่องราวทั้งหมด และเช็คผลเรื่องของป้ายคำสั่งวิหารเทพสงครามด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากกลุ่มของซือเฟิงออกมาจากวงเวทย์เทเลพอร์ต วงเวทย์นี้ซึ่งควรจะมีคนอื่นเทเลพอร์ตกลับมาเพิ่มเติมด้วยก็ค่อยๆจางหายไป ซึ่งนี่มันสร้างความตกตะลึงให้กับมหาอำนาจต่างๆอย่างมาก
“มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”
“เหตุใดวงเวทย์จึงหยุดการเทเลพอร์ตผู้เล่นกลับมาเพิ่มเติม ?”
“มันพังรึปล่าว ?”
คำถามหลายคำถามค่อยๆเกิดขึ้นในใจของทุกคน ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และสถานการณ์ภายในห้องโถงกลางก็กลายเป็นโกลาหลเพราะเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานห้องโถงกลางก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด
บรรทัดข้อความที่ปรากฎขึ้นที่ด้านบนสุดของแผ่นหินจารึกนั้นมันทำให้ทุกคนพูดไม่ออกและตกตะลึงมากๆ
จำนวนผู้เข้าร่วมการทดสอบรอบคัดเลือก : 900 คน ผ่านการทดสอบ : 17 คน