Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2715

ตอนที่ 2715 ไอเทมนิรันดร์

ขณะที่ซือเฟิงเริ่มใช้สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำ มานาภายในบาร์ที่อยู่รอบตัวเขาก็เริ่มกลายเป็นของเหลว ซึ่งนี่มันนับเป็นมาตราฐานของขั้นสี่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ครู่ต่อมา วงเวทย์ซับซ้อนที่ซ้อนทับกันสองชั้นก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของเขา และหากผู้เล่นคนอื่นต้องมาเจอกับการจ้องมองแบบนี้ของซือเฟิง พวกเขาก็จะตัวสั่นโดยสัญชาตญาณแน่นอน

ในขณะนี้ดวงตาของซือเฟิง มันเหมือนจะสามารถเจาะทะลุความจริงทั้งหมดในโลกได้ และมันดูเหมือนจะไม่มีความลับใดๆที่สามารถปิดบังได้เลยต่อหน้าดวงตาคู่นี้

แน่นอนเลยว่าเอฟเฟคของสกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำนั้นได้รับการปรับปรุงอย่างมาก หลังจากที่มาตราฐานมานาของเขามาถึงขั้นสี่แล้ว ซึ่งนี่มันทำให้ซือเฟิงรู้สึกดีใจอย่างมาก ขณะที่จ้องมองไปยังคริสตัลสีดำในมือของเขา

ก่อนหน้านี้แม้ว่าเขาจะใช้สกิลตรวจสอบของตัวเอง แต่เขาก็ไม่สามารถจะทำการประเมินคริสตัลสีดำได้เลย อย่างไรก็ตามด้วยการใช้สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากกับตราทองคำนั้น แถบดาวโหลดก็ปรากฎขึ้นทันที ซึ่งมันราวกับว่าไฟร์วอลล์ชั้นนอกสุดของคริสตัลสีดำได้แตกแล้ว และสกิลก็ได้ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้พยายามขุดเข้าไปในแกนกลางของคริสตัลสีดำ

สิบวินาที …. ยี่สิบวินาที …. สี่สิบวินาที ….

ขณะที่พลังของคริสตัลสีดำกับพลังของสกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำกำลังปะทะกัน ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

แม้ว่าสกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำจะมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะต่อสู้กับพลังของคริสตัลสีดำได้ แต่มันก็ยังไม่น่าจะเพียงพอ เพราะสกิลมีระยะเวลาแค่หนึ่งนาที และแม้ว่ามันจะสามารถขุดลึกลงไปในการป้องกันของคริสตัลสีดำได้ แต่มันก็ยังไม่น่าจะสามารถทลายได้ทั้งหมด ซึ่งหากเป็นแบบนี้ ซือเฟิงก็จะต้องรออีกสิบนาทีเลยก่อนที่จะสามารถใช้สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำได้อีกครั้ง

เพียงแต่สุดท้ายแล้ผลลัพธ์ก็มีสิทจะออกมาเหมือนกันหมด ….

เมื่อได้เห็นการต่อสู้กันของพลังของคริสตัลสีดำและพลังของสกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำมาถึงทางตัน ซือเฟิงก็เริ่มจะครุ่นคิดถึงวิธีที่จะทลายพลังป้องกันของคริสตัลสีดำให้ได้

ความแตกต่างระหว่างขั้นสามและขั้นสี่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นอยู่ที่มานา เนื่องจากสกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำมีความแข็งแกร่งมากพอจะต่อกรกับพลังของคริสตัลสีดำได้ หลังจากที่ได้รับการอัดมานาขั้นสี่เข้าไป …. ดังนั้นความแตกต่างระหว่างทั้งสองก็น่าจะเป็นมานา

ณ ตอนนี้ สกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำยังคงมีมานาอยู่มากมาย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือปริมาณมานานั้นมันไม่สำคัญต่อการจะทลายพลังป้องกันของคริสตัลสีดำ ซึ่งหากปริมาณไม่ใช่ปัญหา ความเป็นไปได้อื่นๆก็คือความแข็งแกร่งของมานา อย่างไรก็ตามหลังจากได้ข้อสรุปนี้ ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา เรื่องนี้มันทำให้เขาตกอยู่ในความสิ้นหวังมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุด การเพิ่มความแข็งแกร่งของมานานั้นพูดง่ายกว่าทำ

ในตลาดไอเทมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับมานาก็จะช่วยเพียงเพิ่มปริมาณมานาของผู้ใช้มันเท่านั้น และโดยทั่วไปแล้ว หากผู้เล่นต้องการจะเพิ่มความแข็งแกร่งของมานา พวกเขาก็จะต้องปรับปรุงการควบคุมมานา หรือไม่ก็เพิ่มขั้นของตัวเอง

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ถ้าซือเฟิงต้องการจะเพิ่มความแข็งแกร่งของมานาในตอนนี้ของเขา ทางเลือกเดียวของเขาก็คือปรับปรุงการควบคุมมานาให้เข้าสู่ขอบเขตที่สูงขึ้น

ไม่ !!! นั่นยังไม่ใช่ทางเลือกเดียว !!! ซือเฟิงส่ายหัว การจะเพิ่มความแข็งแกร่งของมานาให้ได้มันยังมีอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งก็คือการใช้สกิลหรือเทคนิคบางอย่างให้มีอัตราความสำเร็จสูงขึ้น

ซึ่งหลังจากซือเฟิงคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ความหวังอันริบหรี่ก็ปรากฎขึ้นมาในดวงตาของเขา

อย่างไรก็ตามมันเหลือเวลาไม่ถึงห้าวินาที ก่อนที่ผลของสกิลตรวจสอบที่ผสานเข้ากับตราทองคำจะหมดลง

ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลอง !!!
ซือเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เขาจะชัก Abyssal Blade ออกมาจากฝักของเขา และเริ่มการใช้เทคนิคมานาอย่างดาบที่หนึ่ง ไลท์ชาโด้วทันที

หลังจากนั้นไม่นานมานาที่เดือดพล่านอยู่รอบๆตัวของซือเฟิงก็เริ่มกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ และกลายเป็นเงาของดาบขนาดใหญ่ทันที อย่างไรก็ตามมันไม่เหมือนกับตอนที่เขาใช้เทคนิคนี้ในขั้นสาม เพราะเงาของดาบขนาดใหญ่นี้ดูจับต้องได้มากขึ้น

ในขณะเดียวกัน หลังจากทำการใช้ไลท์ชาโด้วแล้ว ซือเฟิงก็สามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในวงเวทย์ในดวงตาเขา ตอนนี้พวกมันได้แสดงวงเวทย์ที่ซ้อบทันกันชั้นที่สามขึ้นมาจางๆแล้ว

ดี !!! มันได้ผล !!! ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น เมื่อได้เห็นเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นการก่อตัวของวงเวทย์ชั้นที่สามก็หยุดลงโดยที่ยังไม่สมบูรณ์

มานายังไม่แข็งแกร่งพองั้นหรอ ? ถ้าฉันต้องทำให้มานาแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นไปอีก ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้โฮลี่ดีวอร์แล้วนะ แม้ว่าฉันจะไม่อยากใช้มันก็ตาม ….

การใช้โฮลี่ดีวอร์ที่สมบูรณ์นั้นมันผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขามากเกินไป และมันก็ไม่ควรจะใช้บ่อยๆเลยแม้ว่าเขาจะอยู่ในขั้นสี่แล้วก็ตาม แถมในตอนนี้การแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรองหกตำแหน่งก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องสงวนความแข็งแกร่งส่วนใหญ่ของตัวเองเอาไว้ และแม้ว่าการใช้โฮลี่ดีวอร์ครั้งเดียวจะไม่ได้ทำให้สมองของเขาทำงานหนักเกิน แต่มันก็จะผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาไปอย่างมาก

อย่างไรก็ตามหลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ซือเฟิงก็ได้กัดฟันและเลือกจะใช้มัน

“วัดกันไปเลยแล้วกัน !!!!”

แม้ว่าตอนนี้ฟีนิกซ์เรนจะไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต แต่ตอนนี้มันก็มีคนที่ไม่รู้และความลับอยู่รอบตัวเธอมากเกินไป ขณะที่ด้านของมือแห่งนักบุญเองก็เต็มไปด้วยความลึกลับ และมันก็ไม่สามารถจะรับประกันได้เลยว่า เขาจะไม่พบกับชะตากรรมแบบเดียวกับฟีนิกซ์เรนในอนาคต

ดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องรู้ให้ได้ว่าคริสตัลสีดำนี้คืออะไร เพราะมันอาจจะทำให้เขามีโอกาสใช้ประโยชน์บางอย่างจากข้อมูลนี้ได้

หลังจากนั้นซือเฟิงก็เริ่มปรับเปลี่ยนท่าทางของเขา ก่อนที่ออร่าของเขาจะพุงขึ้นสูงอย่างรุนแรง

โฮลี่ดีวอร์ !!!

ตู้ม !!!

ทันใดนั้นเปลวไฟที่ไร้รูปก็ปกคลุมไปทั่วบาร์ และเปลวไฟนั้นมันก็ดูสมจริงมากจนทำให้วงเวทย์ที่ถูกติดตั้งภายในบาร์ทำงานด้วย โดยวงเวทย์เหล่านี้บางส่วนเริ่มแตกออกอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันไม่สามารถจะต้านทานมานาของซือเฟิงได้ และท้ายที่สุดแล้ว วงเวทย์ชั้นที่สามภายในดวงตาของซือเฟิงก็สมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่าเขาเลือกได้ถูกต้องในการตัดสินใจใช้โฮลี่ดีวอร์

Crack!

ซือเฟิงได้ยินเสียงที่เริ่มแตกออกมาจากคริสตัลสีดำ อย่างไรก็ตามครึ่งวินาทีต่อมา อาการเวียนและปวดหัวก็เริ่มเข้ามาทำร้ายสมองของเขา ก่อนที่มานาที่ถูกสร้างขึ้นโดยโฮลี่ดีวอร์นั้นจะค่อยๆสลายหายไป และอาการของซือเฟิงก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ มันสำเร็จไหม ?

ซือเฟิงรีบตรวจสอบคริสตัลสีดำอย่างใจจดใจจ่อทันที

คราวนี้คริสตัลนั้นไม่ได้ขัดขืนใดๆ เมื่อเขาพยายามอ่านข้อมูลของมัน และข้อความของคริสตัลก็ค่อยๆปรากฎขึ้นที่หน้าต่างระบบตรงหน้าของซือเฟิง

เมื่อได้เห็นข้อมูลนี้ ซือเฟิงก็ตกตะลึง

ไอเทมนิรันดร์ นี่คือไอเทมนิรันดร์จริงๆงั้นหรอ ? ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเขามองอะไรผิดไปรึปล่าว เมื่อเห็นข้อมูลของคริสตัลสีดำ

(หินโลก) (ไอเทมนิรันดร์)

เอฟเฟคที่ 1 : ทำให้หลักการทุกอย่างมีเสถียรภาพ

เอฟเฟคที่ 2 : Unknown

เอฟเฟคที่ 3 : เป็นสิ่งที่ทำลายไม่ได้

ใน God domain ตราบใดที่ไอเทมชิ้นหนึ่งเกี่ยวข้องกับพลังงานนิรันดร์ มันก็จะชัดเจนเลยว่าไอเทมชิ้นนั้นเคยเป็นของเทพมาก่อน ซึ่งไอเทมนิรันดร์ก็จัดเป็นตำนานในตำนานอีกทีหนึ่ง ตามข่าวลือ แม้แต่เทพก็ยังมีปัญหาในการที่จะได้รับมันมา ขณะที่เทพบางส่วนก็ต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเพื่อแย่งชิงไอเทมแบบนี้เพียงชิ้นเดียว มันมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดของสงครามโบราณขนาดใหญ่หลายครั้ง และหนึ่งในนั้นมันก็มีเรื่องการที่เทพก่อสงครามกันเพื่อแย่งชิงไอเทมนิรันดร์ด้วย

“ดูเหมือนว่าฉันจะยังทำอะไรกับสถานการณ์นี้ไปมากกว่านี้ไม่ได้ ….” ซือเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ขณะที่เขามองไปยังหินโลก

เขาเคยต่อสู้อยู่ใน God domain มานานนับสิบปีแล้วในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา อย่างไรก็ตามเขาก็รู้ตัวดีว่าเขายังคงเข้าไม่ถึงความลับอีกมากมายของ God domain เพราะท้ายที่สุดๆเกมๆนี้มันไม่ใช่แค่เกมอย่างที่คนทั่วไปคิดว่ามันจะเป็นเลย ไม่เช่นนั้นมันคงจะไม่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ และบริษัทนานาชาติต่างๆเข้ามาลงทุนกันมากขนาดนี้

ไอเทมนิรันดร์นี้ได้บอกเขาอย่างชัดเจนอยู่เรื่องหนึ่งว่าปัญหาที่ฟีนิกซ์เรนเผชิญนั้น มันไม่ใช่ปัญหาธรรมดาแน่นอน และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จักรพรรดิดาบขั้นสี่อย่างเขาจะสามารถเข้าไปถึงได้ง่ายๆ เพราะท้ายที่สุดแม้แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าหลายคนในชีวิตที่ผ่านมาของเขาก็ยังมีต้องดิ้นรนอย่างหนักกว่าจะได้รับไอเทมแบบนี้มาสักชิ้น ดังนั้นเขาก็คงจะต้องรอจนกว่าตัวเองจะไปถึงขั้นห้าหรือขั้นหกก่อน เขาจึงจะสามารถหาข้อมูลเรื่องสถานการณ์ทั้งหมดนี้เพิ่มเติมได้

ไม่งั้น ชะตากรรมของเขาคงจะเป็นเหมือนผู้เชี่ยวชาญที่หายไปทั้งหมด

ในขณะที่ซือเฟิงกำลังรู้สึกขนลุก เมื่อนึกว่าฟีนิกซ์เรนเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาที่ใหญ่ขนาดนี้ ยู่หลานก็ได้ติดต่อเขาเข้ามา

“หัวหน้ากิล ตอนนี้หัวหน้าอยู่ที่ไหน ?” ยู่หลานถามอย่างกังวล “สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆเริ่มมารวมตัวกันแล้วนะ ….”

“โอเค ฉันจะรีบไปทันที” ซือเฟิงยิ้มและพยักหน้า

เขาได้ตัดสินใจที่จะพักเรื่องของฟีนิกซ์เรนไว้ชั่วคราว ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาต้องทำก็คือพัฒนาความแข็งแกร่งของกิลและตัวเองขึ้นไปให้ได้มากที่สุด เพราะมันมีแต่การทำแบบนี้เท่านั้นที่จะช่วยให้เขาสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆที่จะเกิดในอนาคตได้

หลังจากวางสายจากยู่หลาน ซือเฟิงก็ได้เก็บหินโลกเข้ากระเป๋า ก่อนจะวางถุงเหรียญทองไว้บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ได้เดินออกจากบาร์มูนไฟร์ไป ….

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset