ตอนที่ 2721 ความโกลาหล
“หัวหน้ากิล คุณเห็นรึปล่าว ?!” เพอเพิ้ลอายจ้องมองด้วยความตกใจ ขณะที่เธอชี้ไปยังปล่อยภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่ฉายอยู่บนจอภาพโฮโลแกรม “เสวี่ยเหวินโหรว เธอ …. เธอทำมันได้ยังไง ?”
“เสวี่ยเหวินโหรวได้ทำลายพื้นที่โดยรอบเพื่อทำลายล้างทีมหนึ่งพันคนของ
มิราเคิล” กาแล๊กซี่พาสกล่าวตอบอย่างใจเย็น
“ไม่สิ !! อันนั้นฉันรู้ !! แต่ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น !!!” เพอเพิ้ลอายกล่าวพลางส่ายหัว จากนั้นเธอก็หันไปหากาแล๊กซี่พาส และพูดต่อว่า “ฉันกำลังพูดถึงการที่เธอหลอมรวมลำแสงสิบสองเส้นที่เธอโจมตีออกมา ให้กลายเป็นการโจมตีเดียวที่ทรงพลังได้ต่างหาก !!”
การจะหลอมรวมการโจมตีหลายครั้งของตัวเองเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดการโจมตีที่ทรงพลังกว่าเดิมเพียงหนึ่งเดียวนั้นมันเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ และยิ่งการโจมตีที่ใช้ออกมาเพื่อจะหลอมรวมกันมีจำนวนมากเท่าไหร่ ความยากมันก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดที่มาถึงขอบเขตโดเมนแล้วส่วนใหญ่ก็ยังรวมการโจมตีหกครั้งเข้าด้วยกันได้เท่านั้น ….
แต่ตอนนี้เสวี่ยเหวินโหรวกับรวมพลังของการโจมตีสิบสองครั้งเข้าด้วยกันได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังทำได้สำเร็จในขณะที่ถือดาบใหญ่อยู่ นี่มันไม่ใช่เรื่องของความแข็งแกร่งอีกต่อไปแล้ว ความสำเร็จแบบนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยสำหรับมนุษย์ !!!
เสวี่ยเหวินโหรวนั้นนับเป็นอัจฉริยะในยุคของพวกเขา และพวกเขาก็ได้เข้าสู่ God domain มาในเวลาเดียวกัน แม้ว่าเสวี่ยเหวินโหรวจะก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่การจะไปถึงระดับนี้ได้ในตอนนี้มันก็ยังไม่น่าเป็นไปได้สำหรับเธอ แต่ในตอนนี้เมื่อเธอมาถึงแล้วจริงๆก็คงต้องบอกว่า เธอไม่อาจถูกเรียกว่าเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป เธอเป็นสัตว์ประหลาดในคราบมนุษย์ชัดๆ !!!
“เพอเพิ้ล ใจเย็นๆ ….” กาแล๊กซี่พาสกล่าวปราม “คุณก็น่าจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกดีนี่นา สภาสิบแปดปีกสามารถบรรลุในสิ่งที่กิลอื่นหลายกิลทำไม่ได้มาโดยตลอด เสวี่ยเหวินโหรวอาจได้เรียนรู้สกิลที่ทรงพลังที่ทำให้เธอสามารถแสดงสิ่งนั้นออกมาได้ !!!”
พูดกันตามตรง กาแล๊กซี่พาสนั้นค่อนข้างรู้สึกเห็นใจ และสงสารในความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ถูกและไม่เข้าใจของเพอเพิ้ลอาย เพราะท้ายที่สุดพลังแบบนี้มันเกินขอบเขตของมนุษย์ไปแล้ว และมันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะบอกว่าเสวี่ยเหวินโหรวกลายเป็นตัวตนที่พวกเขาอาจจะไม่มีวันเอื้อมถึงแล้วในชั่วชีวิตนี้ของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน ภายในห้องรับรองภายในสำนักงานใหญ่หลักของมิราเคิลในโลกแห่งความจริง ฝาห้องเกมเคบินสองห้องก็ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ
“ขนาดทำแบบนี้เราก็ยังตาย เราไม่มีโอกาสจะได้หนีด้วยซ้ำ ด้วยเรื่องนี้เราจะต้องรออีกนานเลยกว่าจะเริ่มการท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ของเราได้” ผู้อาวุโสร๊อคกล่าวบ่น ขณะที่เขาลุกจากห้องเกมเคบินของเขาด้วยรอยยิ้มขมขื่น
“พวกเรานับว่าโชคดีด้วยซ้ำ ถ้านี่คือการทดสอบรอบคัดเลือก เราจะได้สูญเสียห้าเลเวลนะ ….” ผู้อาวุโสเฟเธอร์กล่าวพลางขมวดคิ้ว ขณะที่เขาก็ลุกจากห้องเกมเคบินของเขาเช่นกัน โดยตอนนี้ดวงตาของเขาก็ปรากฎร่องรอยแห่งความหวาดกลัวขึ้นมา ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อว่า “พูดกันตามจริง สัตว์ประหลาดที่แท้จริงแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราจะสามารถต่อต้านได้เลย เธอได้เลือกจะทำลายพื้นที่ทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้เราหนี และแม้แต่สกิลอมตะที่มีช่วงระยะเวลาสั้นๆก็ยังไร้ประโยชน์ไปเลย เมื่อเจอกับการโจมตีแบบนี้”
“เธ้าซั่นไมล์ทำให้เราทำผิดพลาดครั้งใหญ่ ข้อมูลของเขามันไม่ถูกต้องและมั่วมากๆ !!!” ผู้อาวุโสร๊อคสบถด้วยความไม่พอใจ “ว่ากันตามตรงสาวน้อยคนนี้ต่างหากคือสัตว์ประหลาดที่แท้จริง ไม่ใช่แบล๊คเฟรม !!!”
“อย่างไรก็ตามมันก็เป็นโชคดีของเราที่เจอเธออย่างรวดเร็ว นี่มันยังทำให้เราพอมีเวลาที่จะกอบกู้สถานการณ์นี้” ผู้อาวุโสเฟเธอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“คุณหมายถึงอะไร ผู้อาวุโสเฟเธอร์ ?” ผู้อาวุโสร๊อคถาม
“ฉันได้ส่งต่อข้อมูลนี้ให้กับหัวหน้ากิลก่อนที่เราจะถูกฆ่า ตอนนี้ฉันแน่ใจว่าคนอื่นๆก็น่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว …” ผู้อาวุโสเฟเธอร์กล่าว “ตอนนี้เมื่อฟรอสต์ฮีฟเว่นถูกเปิดเผยว่ามีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นสูงนอกเหนือจากแบล๊คเฟรมแล้ว ฉันแน่ใจว่าคุณจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ?”
“คุณกำลังบอกว่าหัวหน้ากิลจะส่งข้อมูลนี้ไปให้กับมหาอำนาจอื่นๆด้วยใช่ไหม ?” ผู้อาวุโสร๊อคอดไม่ได้ที่จะถามอย่างตื่นเต้น
นั่นคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นสูงที่พวกเขากำลังพูดถึง !!!
บนเกาะหมายเลขสาม มันไม่มีทางที่แบล๊คเฟรมจะก่อให้เกิดระลอกคลื่นได้ด้วยตัวเขาเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตามมันจะเป็นเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป หากมีการเพิ่มผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นสูงเข้ามาในเรื่องนี้อีกคน สภาสิบแปดปีกจะสามารถเข้ายึดพื้นที่ทรัพยากรที่พวกเขาต้องการได้อย่างน้อยสองแห่งแน่นอนบนเกาะ และพวกเขาก็จะได้กลายเป็นกิลห้าอันดับแรกของเกาะที่สามารถเดินทางไปมาระหว่างเกาะได้
ซึ่งในกรณีนี้ โอกาสที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นจะได้รับหนึ่งในหกตำแหน่งสำรองมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อมิราเคิลแพร่กระจายข้อมูลนี้ออกไป มหาอำนาจต่างๆก็จะเริ่มรวมตัวกันเพื่อป้องกันไม่ให้ฟรอสต์ฮีฟเว่นสามารถขับไล่พวกเขาได้
และมันก็เป็นเช่นเดียวกับที่ผู้อาวุโสเฟเธอร์คาดไว้ หัวหน้ากิลของมิราเคิลไม่ได้เลือกจะปกปิดข้อมูลของเสวี่ยเหวินโหรว ในทางตรงกันข้ามเขาได้เลือกจะแพร่กระจายมันไปทั่วทันที โดยนี่มันก็ทำให้ทุกกิลที่เข้าร่วมตระหนักถึงตัวตนของเสวี่ยเหวินโหรว
“ขอบเขตโดเมนขั้นสูง ? สภาสิบแปดปีกมีผู้เชี่ยวชาญแบบนี้จริงๆงั้นหรอ ?”
“นี่มิราเคิลโกหกเรารึปล่าว ? นั่นคือขอบเขตโดเมนขั้นสูงเลยนะที่เรากำลังพูดถึง เด็กสาวตัวเล็กๆอย่างเสวี่ยเหวินโหรวจะเข้าถึงขอบเขตนั้นได้ยังไงกัน ?”
“มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะ ตามที่สมาชิกกิลของเราบนเกาะหมายเลขสามรายงานมา เสวี่ยเหวินโหรวได้ปะทะกับหนึ่งในทีมหนึ่งพันคนของมิราเคิล ยิ่งไปกว่านั้นการต่อสู้ของพวกเขายังสร้างความปั่นป่วนอย่างมาก มันสามารถได้ยินอย่างชัดเจน แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายไมล์ และหลังจากที่สมาชิกของเราสังเกตการณ์ผ่านสกิลเวทย์ตรวจสอบแล้ว พวกเขาก็พบว่าทีมหนึ่งพันคนของมิราเคิลถูกกวาดล้างไปแล้วอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเสวี่ยเหวินโหรวยังกวาดล้างทีมหนึ่งพันคนของมิราเคิลได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวด้วย”
ในช่วงเวลาหนึ่ง กิลต่างๆที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ต่างพูดคุยกันอย่างดุเดือด และแม้ว่าพวกเขาจะยังมีข้อสงสัยในเรื่องที่เสวี่ยเหวินโหรวไปถึงขอบเขตโดเมนขั้นสูงแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงเลือกจะระมัดระวังและกลัวเธอไว้ก่อน
ขอบเขตโดเมนขั้นสูงจัดเป็นความลับระหว่างมหาอำนาจต่างๆ และผู้เล่นทั่วไปก็ไม่ได้ตระหนักถึงการมีอยู่ของมันเลย
ปัจจุบันผู้ที่มาถึงขอบเขตโดเมนขั้นสูงนั้นล้วนเป็นสัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่แท้จริงของห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด และคนเหล่านี้ก็แทบจะไม่เคยปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณชนเลย ในความเป็นจริงสาธารณชนลืมเลือนเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามมหาอำนาจต่างๆก็รู้ดีว่าเหตุผลหลักที่ทำให้ซุเปอร์กิลห้ากิลได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งที่สุดนั่นก็เป็นเพราะสิ่งเหล่านี้
ตราบใดที่กลุ่มสัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่แท้จริงเหล่านี้เคลื่อนไหว แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดก็จะไม่สามารถหยุดพวกเขาได้แน่นอน เพราะท้ายที่สุดแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังติดอยู่ที่ขอบเขตโดเมนระดับสูงเท่านั้น และส่วนสำคัญที่ทำให้พวกระดับสัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่แท้จริงได้รับฉายานี้ มันก็เป็นเพราะพวกเขามีค่าสถานะพื้นฐานเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนคนอื่นๆด้วย
สิ่งที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นสูงน่ากลัวมากๆนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงลิ่วของพวกเขา เพราะนอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว มันก็แทบไม่มีการทดสอบใดๆใน God domain ที่จะเป็นปัญหากับพวกเขา พวกเขาสามารถจะเอาชนะอุปสรรคได้มากมาย และได้รับโอกาสเท่าที่พวกเขาต้องการใน God domain
ซึ่งพูดกันตามตรงด้วยตัวตนของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นสูงเพียงคนเดียว มันก็แทบจะสามารถเปลี่ยนกระแสของสงครามได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงสองคนเลย
ตอนนี้เสวี่ยเหวินโหรวนั้นถูกสงสัยว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นสูงเช่นกัน ดังนั้นมหาอำนาจต่างๆจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องระมัดระวังเธอเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันเมื่อสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นได้ยินข่าวนี้ ทุกคนก็เต็มไปด้วยความตกใจมากๆ
“เป็นไปได้ยังไง ?! หนึ่งในรองหัวหน้ากิลของสภาสิบแปดปีกอยู่ในขอบเขตโดเมนขั้นสูงจริงๆงั้นหรอ ?!” บริลเลี่ยนบลูรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังฝัน เมื่อเขาได้อ่านรายงานจากลูกน้องของเขา เขาไม่สามารถจะทำให้ตัวเองเชื่อเรื่องนี้ได้เลย
นี่คือขอบเขตโดเมนขั้นสูงที่พวกเขากำลังพูดถึง !!!
อย่างไรก็ตามในเวลานี้มหาอำนาจต่างๆที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ก็ล้วนพูดถึงเรื่องนี้กัน ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นภายใต้การบัญชาการของเสวี่ยเหวินโหรวก็ยังส่งข่าวยืนยันมาแล้วด้วยว่าเธอกวาดล้างทีมหนึ่งพันคนของมิราเคิลด้วยตัวคนเดียวจริงๆ
มิราเคิลยอมเปิดเผยกระทั่งว่า เสวี่ยเหวินโหรวนั้นได้ฆ่าผู้อาวุโสเฟเธอร์ และผู้อาวุโสร๊อค ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของพวกเขาในการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
หลังจากพิจารณาเรื่องนี้ทั้งหมด มันก็เกือบจะแน่นอนเลยว่าเรื่องของเสวี่ยเหวิน
โหรวนั้นเป็นความจริง
“สวรรค์ยังไม่ได้ทอดทิ้งฟรอสต์ฮีฟเว่น !!!” เซเว่นวอร์นเดอร์กล่าวอย่างมีความสุข เมื่อเขาได้ยินข่าวนี้ จากนั้นเขาก็มองไปยังหงซินหยวนที่รายงานเรื่องนี้ให้เขาฟัง และพูดว่า “ผู้อาวุโสหง คราวนี้คุณเจอสมบัติชิ้นใหญ่สำหรับกิลของเราจริงๆ !!!”
“หัวหน้ากิลก็ประเมินฉันสูงเกินไปแล้ว ….” หงซินหยวนกล่าวพลางส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
ในความเป็นจริงเขาไม่ได้รู้เลยว่าเสวี่ยเหวินโหรวนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นสูง เพราะถ้าเขารู้เรื่องนี้ เขาคงไม่เสนอช่องเข้าสู่ Upper Zone แค่สามช่องให้สภาสิบแปดปีกแน่นอน
ในขณะเดียวกัน เมื่อมู่ฉินที่อยู่บนเกาะหมายเลขสามได้รับข่าวของเสวี่ยเหวินโหรว เธอก็ตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่งเช่นกัน “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม !!! เสวี่ยเหวินโหรวอยู่ในขอบเขตโดเมนขั้นสูงจริงๆงั้นหรอ ?!!” มู่ฉินอดไม่ได้ที่จะถาม
“ก็อาจจะ …” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ
“อาจจะ ? คุณหมายถึงอะไรไอ้ “อาจจะ” เนี่ย ?” มู่ฉินเริ่มหงุดหงิด เมื่อเธอได้ยินคำตอบที่ดูกำกวมของซือเฟิง
มหาอำนาจต่างๆเชื่ออยู่แล้วว่าเสวี่ยเหวินโหรวเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขั้นสูง กระนั้นซือเฟิงก็ยังคงตอบคำถามเธอแบบกำกวม
ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นให้กับปฎิกิริยาของมู่ฉิน
ความจริงเขาไม่รู้จริงๆว่าเสวี่ยเหวินโหรวได้มาถึงขอบเขตไหนแล้ว และพูดกันตามตรง เขาก็ไม่รู้ด้วยว่าคำว่าขอบเขตโดเมนขั้นสูงหมายถึงอะไร เขารู้สึกเพียงแค่ว่าตอนที่เขามองไปยังเสวี่ยเหวินโหรว เขารู้สึกเหมือนว่ากำลังมองก้อนเมฆ เขาไม่ได้มองเห็นเธอเลย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจว่าเสวี่ยเหวินโหรวอยู่ในขอบเขตโดเมนขั้นสูงจริงไหม แต่เขาก็มั่นใจว่าเสวี่ยเหวินโหรวจะอยู่ในอันดับหนึ่งของโลกนี้แน่นอนในด้านประสบการณ์การต่อสู้
“อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้มิราเคิลได้ตอบโต้เราอย่างโหดเหี้ยมจริงๆ” ซือเฟิงขมวดคิ้ว ขณะที่เขาอ่านประกาศสาธารณของมิราเคิล และเมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ใบหน้าของมู่ฉินก็มืดมนลง
“คุณกำลังบอกว่ามิราเคิลพยายามจะยืมดาบคนอื่นเพื่อฆ่าเราใช่ไหม ?”
“ถูกต้อง” ซือเฟิงพยักหน้า “หากมองแค่พื้นผิว มิราเคิลก็ดูเหมือนจะแค่แสดงความไม่พอใจที่เสวี่ยเหวินโหรวได้ทำลายล้างทีมหนึ่งพันคนของพวกเขา แต่ในความเป็นจริงนี่มันเป็นการประกาศให้กิลอื่นๆรู้ว่า ฟรอสต์ฮีฟเว่นมีโอกาสสูงมากที่จะได้รับหนึ่งในหกตำแหน่งสำรอง ซึ่งด้วยวิธีนี้กิลอื่นๆก็จะเริ่มพิจารณาการทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดเป้าหมายมาที่ฟรอสต์ฮีฟเว่น” ซือเฟิงกล่าวตอบ
“ถ้าอย่างนั้นเราจะทำยังไงกันดี ?” มู่ฉินอดไม่ได้ที่จะถามอย่างกังวล หากพวกเขาไม่สามารถจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมได้ ฟรอสต์ฮีฟเว่นอาจจะถูกโจมตีจากทุกด้าน “ฉันควรแจ้งหัวหน้ากิลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม ?”
เมื่อได้ยินคำถามของมู่ฉิน ซือเฟิงก็หัวเราะออกมา “เนื่องจากมิราเคิลต้องการจะทำให้ฟรอสต์ฮีฟเว่นกลายเป็นหนามในสายตาของกิลต่างๆ งั้นเราก็จะมาทำให้กิลต่างๆเข้าใจว่าตำแหน่งที่หกตำแห่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ มันเป็นของเรา !!!”