ตอนที่ 2728 ความเป็นไปได้ของจักรพรรดิดาบ
“จักรพรรดิดาบ ?”
Prosciutto ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของโอดิน และตอนนี้ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัยในขณะที่เขามองไปยังซือเฟิง
แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางคนใน God domain จะมาถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแล้ว แต่การมาถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ กับการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้เสร็จ มันเป็นสองเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การมาถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบนั้นหมายความว่าผู้เล่นมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดขั้นพื้นฐานที่สุดสำหรับการจะทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ และตามเข้าใจของกิลต่างๆ ผู้เล่นจะต้องค้นหาดินแดนมรดกขั้นสี่ของตัวเองหลังจากมาถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแล้ว ซึ่งมันนับเป็นงานที่ท้าทายอย่างแท้จริง และแม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องใช้เวลาอย่างมากในการจะค้นหาดินแดนมรดกเพียงแห่งเดียว นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ผู้เล่นจะต้องท้าทายดินแดนมรดกเพื่อรับเอามรดกเลย
ในขณะเดียวกัน ซือเฟิงก็เป็นเพียงหัวหน้ากิลกึ่งมหาอำนาจเท่านั้น แล้วเขาจะค้นหาดินแดนมรดกได้เร็วกว่าซุเปอร์กิลต่างๆได้อย่างไร ?
“จักรพรรดิดาบขั้นสี่ ?”
“ไม่มีทาง มันพึ่งมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งมาถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเมื่อไม่นานมานี้ แต่เขากับได้เลื่อนขั้นเป็นจักรพรรดิดาบขั้นสี่แล้ว ?”
“นี่มันเป็นเรื่องโกหก !! มันต้องเป็นเรื่องโกหกแน่นอน !!! นั่นคือขั้นสี่เลยนะที่เรากำลังพูดถึง !!! แม้แต่กษัตริย์ของอาณาจักรต่างๆก็ยังต้องปฎิบัติต่อตัวตนขั้นสี่ด้วยความเคารพเลย แล้วมันจะมีผู้เล่นที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่เร็วขนาดนี้ได้ยังไง ?!!”
เหล่าผู้เล่นที่เฝ้าชมอยู่ต่างก็ปฎิเสธที่จะเชื่อคำพูดของโอดินโดยสัญชาตญาณ และคลื่นแห่งความวุ่นวายก็แพร่กระจายออกไปในหมู่พวกเขาทันที โดยตอนนี้ทุกคนต่างก็สงสัยว่าสรุปแล้วซือเฟิงได้กลายเป็นจักรพรรดิดาขั้นสี่จริงๆแล้วรึปล่าว ….
แม้ว่าซือเฟิงจะแสดงพลังในการต่อสู้ที่น่ากลัวออกมา แต่พวกเขาก็ยังคิดว่ามันเป็นไปได้ที่ผู้เล่นขั้นสามจะทำแบบนี้ได้เช่นกัน เพราะท้ายที่สุดมันมีสมบัติมากมายใน God domain ที่สามารถทำให้ผู้เล่นแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งกลุ่มเจ็ดคนของลีน่าก็นับเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามการเข้าถึงขั้นสี่ได้นั้นมันเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป
การดำรงอยู่ของตัวตนขั้นสี่นั้นมันถือว่าเป็นตัวตนที่ทรงพลังที่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริงใน God domain
ยกตัวอย่างเช่น NPC ขั้นสี่ในปัจจุบัน มันไม่มีมหาอำนาจใดๆที่กล้าจะยั่วยุ NPC ขั้นสี่เลย แม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
นั่นเป็นเพราะขั้นสี่นั้นถือเป็นความน่ากลัวที่ฝังลึกลงไปในกระดูกของผู้เล่นทุกคนใน God domain และ NPC ขั้นสี่ก็เป็นตัวตนที่ผู้เล่นไม่ควรทำให้ขุ่นเคืองเลยไม่ว่าสถานการณ์ใดๆก็ตาม
ในความเป็นจริงจากการประเมินของมหาอำนาจต่างๆ พวกเขาคิดว่าผู้เชี่ยวชาญของตัวเองจะต้องรอจนกว่าจะไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบด้วยซ้ำจึงจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่
ในสนามรบมู่ฉินจ้องมองไปที่ซือเฟิงด้วยความตกตะลึงและคาดหวัง
หากนี่เป็นความจริง … เมื่อมู่ฉินพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ซือเฟิงจะเป็นจักรพรรดิดาบขั้นสี่ เปลวไฟที่ดูเร่าร้อนก็แผดเผาขึ้นในใจของเธอ
หากคำพูดของโอดินเป็นเรื่องจริง ตำแหน่งของฟรอสต์ฮีฟเว่นบนเกาะหมายเลขสามมันก็จะได้รับการการันตีแล้วแน่นอน นอกจากนี้นี่มันยังหมายความว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นจะมีโอกาสได้รับตำแหน่งสำรองตำแหน่งที่หกซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้าย และกลายเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ที่แท้จริงของ God domain
อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกัน มู่ฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย
ในขณะที่ผู้เล่นอย่างตัวเธอยังคงดิ้นรนอย่างยากลำบากในการพยายามจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาให้ได้ทั้งหมด และคิดหาวิธีเกี่ยวกับการทำให้ตัวเองได้รับมรดกหลังจากมาถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ แต่ซือเฟิงกับทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่เสร็จเรียบร้อย และได้มาถึงขั้นสี่แล้ว
ไม่ว่าเธอจะคิดอย่างไรสถานการณ์นี้มันก็ไม่น่าเชื่อเลย ….
“คุณเป็นจักรพรรดิดาบจริงๆงั้นหรอ ?” Prosciutto อดไม่ได้ที่จะหันไปถามซือเฟิง
แม้ว่าโอดินจะพูดไปแล้ว แต่ Prosciutto ก็ยังคงอยากจะขอคำยืนยันเรื่องนี้จากซือเฟิง
เมื่อได้ยินคำถามของ Prosciutto ทุกคนก็มุ่งความสนใจไปที่ซือเฟิง และรอฟังคำยืนยันจากปากของเขา
“ใช่แล้ว ฉันเป็นจักรพรรดิดาบขั้นสี่จริงๆ ….” ซือเฟิงพยักหน้า ในเวลาเดียวกันเขาก็เหลือบไปมองโอดินด้วยความประหลาดใจ
หากผู้เล่นยังไม่ได้ไปลงทะเบียนด้วยตัวเองที่สมาคมนักผจญภัย และแลกรับตราสัญลักษณ์ขั้นสี่ คนอื่นก็แทบจะสังเกตเห็นขั้นที่แท้จริงของพวกเขาไม่ได้เลย นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เล่นที่ปกปิดออร่า และตัวตนของพวกเขาเอาไว้โดยใช้เครื่องมือพิเศษ
ในความคิดของซือเฟิง เขาได้ปกปิดเรื่องนี้ของเขาไว้เป็นอย่างดีมาตลอดเวลา และในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ที่ผ่านๆมา เขาก็เลือกจะจำกัดการใช้พลังของเขาให้อยู่ในระดับต่ำ แถมเขายังมีผ้าคลุมไหล่ไนท์วอร์คเกอร์ที่ช่วยปกปิดออร่าแห่งชีวิตของเขาด้วย สำหรับโดเมนมานาของเขานั้น มันก็ไม่สามารถที่จะใช้พิสูจน์ขั้นที่แท้จริงของเขาได้ เพราะการจะได้มาซึ่งโดเมนมานาและการเสริมความแข็งแกร่งให้มัน มันขึ้นอยู่กับการควบคุมมานาของผู้เล่นเป็นหลัก ยิ่งผู้เล่นควบคุมมานาของตัวเองได้ดีเท่าไหร่ โดเมนมานาของพวกเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับขั้นเลย
ในขณะเดียวกันหลังจากได้รับคำยืนยันจากซือเฟิง ความเงียบก็แผ่กระจายไปทั่ว ในระยะนี้ของเกมแม้แต่ผู้เล่นขั้นสามก็ยังหายาก แต่ตอนนี้มันกับมีผู้เล่นขั้นสี่ปรากฎขึ้นแล้วจริงๆ นี่มันเหมือนกับว่าซือเฟิงกำลังเล่นตลกกับความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของพวกเขาเลย ….
“ไม่ ! เป็นไปไม่ได้ !! ฉันไม่ยอมรับเรื่องนี้ !!!” ดวงตาของแซนสตอร์มกลายเป็นสีแดงก่ำ ขณะที่เขาจ้องมองไปยังซือเฟิง “คุณจะไปถึงขั้นสี่แล้วได้อย่างไร ?! คุณต้องโกหกแน่นอน !!! คุณกำลังพยายามจะหลอกเราเพื่อให้เรามอบพื้นที่ทรัพยากรแห่งนี้ให้คุณโดยไม่มีการต่อสู้ !!!”
“ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณทำเสร็จ !!! ฉันจะเปิดเผยคุณ !!!” ในตอนนี้แซนด์สตอร์มได้บ้าคลั่งไปแล้ว
แซนด์สตอร์มคิดว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นมากๆ นับตั้งแต่ที่เขาพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายด้วยน้ำมือของซือเฟิง และเขาก็คาดว่าช่องว่างระหว่างพวกเขาได้ลดลงอย่างมากแล้ว แต่ตอนนี้เขากับถูกบอกว่าไม่เพียงแต่ช่องว่างระหว่างพวกเขาจะไม่ลดลงเลย แต่มันยังเพิ่มขึ้นมากด้วย
ในความเห็นของแซนด์สตอร์ม ซือเฟิงนั้นเป็นเพียงหัวหน้ากิลของกิลเล็กๆ แล้วซือเฟิงจะมาเหนือกว่าเขาซึ่งเป็นชนชั้นสูงในหมู่ชนชั้นสูงของหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ยังไงกัน ?
ช่วงเวลาต่อมา ออร่าที่แซนด์สตอร์มแผ่ออกมาก็เริ่มรุนแรงมากขึ้น และขนาดของร่างกายของเขาก็เริ่มใหญ่มากขึ้นเช่นกัน ขณะที่เกล็ดก็เริ่มเข้าปกคลุมใบหน้าและร่างกายของเขาทั้งหมด ซึ่งมันทำให้ตอนนี้เขาดูเหมือนกับมังกรเด็กขนาดเล็ก
หลังจากนั้นแซนด์สตอร์มก็ได้กระพือปีกอันทรงพลัง และไปปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของซือเฟิงทันที โดยเขาได้เลือกจะละทิ้งอาวุธ และใช้กรงเล็บโจมตีซือเฟิงแทน
ตอนนี้การโจมตีของแซนด์สตอร์มนั้นดูทรงพลังขึ้นอีกมาก และมันก็แทบจะเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย สายพันธุ์โบราณได้แล้ว ….
“ช่างน่าสงสารจริงๆ ….” ซือเฟิงพึมพำ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจแซนด์สตอร์ม เมื่อเห็นท่าทีที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งในตอนนี้ของชายผู้นี้ เพราะท้ายที่สุดเขาก็เคยตกอยู่ในความสิ้นหวังแบบนี้มาแล้ว นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาได้เห็นเหล่าอัจฉริยะที่เข้าร่วม God domain ช้ากว่าเขาในชีวิตที่ผ่านมาไปได้ไกลกว่าเขา
อย่างไรก็ตามเขาได้ก้าวผ่านความสิ้นหวังนั้นมานานแล้ว และเขาก็ตระหนักว่าตอนนี้สิ่งที่เขาตองทำก็คือใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี โดยมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยที่จะนำตัวเองไปเทียบกับคนอื่นๆ ….
“ไปทำตัวให้ใจเย็นๆก่อนดีกว่านะ !!!” ซือเฟิงกล่าวพลางโบกมือ จากนั้นระลอกมานาก็แพร่กระจายออกมาจากใต้เท้าของเขา และเข้าปกคลุมรัศมีห้าร้อยหลาทันที
สกิลมรดกขั้นสี่ โดเมนดาบ !!
ทันใดนั้นดาบเวทย์มนต์ก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของแซนด์สตอร์ม ซึ่งอยู่ห่างจากซือเฟิงไปเพียงครึ่งหลา ก่อนที่ดาบเวทย์มนต์นี้จะพุ่งเข้าโจมตีแซนด์สตอร์มอย่างบ้าคลั่ง
ซึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีจากดาบเวทย์มนต์นี้ เกล็ดมังกรที่แข็งแกร่งก็ไม่ได้ต่างจากแผ่นกระดาษที่บอบบางเลย “คุณ …”
เมื่อเห็นว่าแขนของเขาถูกตัดไปแล้ว แซนด์สตอร์มก็รีบเปิดใช้งานสกิลป้องกันขั้นสาม เพื่อเพิ่มพลังป้องกันของตัวเอง และเพิ่ม HP สูงสุดของตัวเองเป็นสองเท่า
อย่างไรก็ตามหลังจากแซนด์สตอร์มเปิดใช้งานสกิลป้องกันของเขาได้ไม่นาน ดาบเวทย์มนต์อีกเจ็ดเล่มก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศ จากนั้นมันก็กลายเป็นริ้วแสงและพุ่งเข้าตัดแขนขาของเขาที่เหลือทันที ….
และหลังจากถูกตัดแขนขาไปเรียบร้อยแล้ว ซือเฟิงก็ได้ใช้ดาบเวทย์มนต์ระดมโจมตีเข้าใส่แซนด์สตอร์มอย่างต่อเนื่องจน HP ของเขาหมดลง แถมดาบเวทย์มนต์ของเขายังเผาร่างของแซนด์สตอร์มจนกลายเป็นขี้เถ้าทันที
กระบวนการทั้งหมดนี้อาจดูยาวนาน แต่ความจริงซือเฟิงใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”
ผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่ต่างอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงเมื่อได้เห็นฉากนี้ และตอนนี้จิตใจของพวกเขาก็แข็งค้างไปชั่วขณะ
แซนด์สตอร์มนั้นเป็นผู้เล่นครึ่งมังกรที่มีพลังเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่ สายพันธุ์โบราณ และก่อนหน้านี้เขาก็ยังคงสามารถจะรับมือกับการโจมตีของซือเฟิงได้หลายครั้ง แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับโจมตีและฆ่าเขาลงไปในเวลาอันรวดเร็ว โดยไม่ได้ให้โอกาสเขาได้ตอบโต้เลย