ตอนที่ 2744 ครึ่งก้าวก่อนเข้าสู่ระดับปรมาจารย์
“พี่สาว ?” เครุยยิ้มให้กับคำถามของหงซินหยวน ก่อนที่เธอจะตอบอย่างขี้เล่น และสนุกสนานว่า “ฉันคิดว่าวันนี้เธอคงจะเข้ามาไม่ได้ เธอน่าจะต้องรอจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้”
“เธอเข้ามาไม่ได้ ?” หงซินหยวนสับสนมากขึ้น เมื่อได้ฟังคำพูดของเครุย “ทำไมเธอเข้ามาไม่ได้ ? เธอมีอำนาจเกรด 2 ใครกันที่กล้าหยุดเธอ ?”
โดยปกติใครก็ตามที่มีบัตรประจำตัวอย่างเป็นทางการใน Upper Zone จะสามารถเข้าและออก Upper Zone ได้อย่างอิสระ แม้ว่าด้วยสถานการณ์บางอย่างมันอาจจะส่งผลให้ผู้มีบัตรประจำตัวอย่างเป็นทางการถูกห้ามไม่ให้เข้ามา แต่นั่นมันก็เป็นแค่กับผู้มีอำนาจเกรด 3 เท่านั้น สำหรับผู้มีอำนาจเกรด 2 แม้แต่บรรดาหัวหน้างานของ Upper Zone ชั้นพื้นฐานก็ยังไม่มีอำนาจมากพอจะหยุดไม่ให้ผู้มีอำนาจเกรด 2 เข้ามายัง Upper Zone ได้
“ไม่ ไม่ มันไม่มีใครหยุดเธอได้ ….” เครุยส่ายหัว ก่อนที่เธอจะหัวเราะคิกคัก และพูดว่า “เพียงแต่ว่าวันนี้เส้นทางจิตได้ถูกเปิดใช้งานน่ะ …”
“เส้นทางจิต ?” หงซินหยวนเริ่มเข้าใจทุกๆอย่างทันทีเมื่อได้ยินเครุยอธิบายและพูดถึงเส้นทางจิต อย่างไรก็ตามเขาก็สังเกตเห็นเรื่องผิดแปลกเรื่องหนึ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หันไปหาซือเฟิง และถามว่า “แล้วคุณเข้ามาได้ยังไงกัน ?”
“เขาก็ต้องเคลียร์เส้นทางจิตมาได้น่ะสิ ใช่ไหมล่ะ ?” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆหงซินหยวนพูดอย่างสบายๆ ขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิง
“เขาเคลียร์เส้นทางจิตได้ ? เป็นไปได้ยังไง ?!” หงซินหยวนจ้องมองไปที่ซือเฟิงด้วยความตกตะลึง และไม่อยากจะเชื่อ
ไม่ว่าหงซินหยวนจะมองยังไง ซือเฟิงก็มีอายุเกินยี่สิบปีแล้วอย่างแน่นอน หากซือเฟิงต้องการจะเคลียร์เส้นทางจิตให้ได้ เขาก็จะต้องมีความแข็งแกร่งทางจิตใจในระดับเดียวกับหงซินหยวน ซึ่งนั่นก็คือเกรดพิเศษ
อย่างไรก็ตามในประวัติศาสตร์ของ Upper Zone เมืองหยวนเทียน มันไม่เคยมีรุ่นเยาว์ในอายุประมาณซือเฟิงที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน
“ถูกต้องเลยลุงหง ซือเฟิงได้เคลียร์เส้นทางจิตได้จริงๆ ลุงน่าจะได้ไปเห็นด้วยตาลุงเอง ทุกคนในห้องโถงทางเข้าล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ” เครุยพูดพลางพยักหน้าด้วยสีหน้าตื่นเต้น
เมื่อเครุยพูดจบ ผู้หญิงที่นั่งก็ลุกขึ้นยืน และเดินเข้ามาหาซือเฟิง
“สวัสดี ฉันชื่อเซี่ยชิงหยาง เป็นผู้จัดการทั่วไปของชั้นพื้นฐาน” ผู้หญิงคนนี้กล่าวแนะนำตัวเองกับซือเฟิง “ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคนที่หงซินหยวนกล่าวถึงจะมีความแข็งแกร่งทางจิตใจอยู่ในเกรดพิเศษจริงๆ”
การกระทำและเคลื่อนไหวอย่างกระทันหันของเซี่ยชิงหยางมันทำให้หงซินหยวนรู้สึกตกใจ แม้จะอายุเพียงยี่สิบหกปี แต่เซี่ยชิงหยางก็เป็นผู้จัดการทั่วไปของชั้นพื้นฐานของ Upper Zone แห่งนี้ เธอนั้นมีอำนาจมากติดสามอันดับแรกในชั้นพื้นฐานเลย ตัวตนและสถานะของเธอนั้นมันเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจและน่าหวาดกลัวมาก
แต่กระนั้นตอนนี้เซี่ยชิงหยางกับริเริ่มจะแนะนำตัวเองกับซือเฟิง ซึ่งเรื่องนี้นั้นมันน่าตกใจกว่าเรื่องที่ซือเฟิงสามารถเคลียร์เส้นทางจิตได้นับสิบเท่า
หลังจากช่วงเวลาแห่งความตกใจครู่หนึ่ง หงซินหยวนก็รีบก้าวไปข้างหน้า
“ซือเฟิง ผู้จัดการทั่วไปเซี่ยเป็นที่ยุ่งมากๆ โดยปกติแม้แต่หัวหน้างานในชั้นพื้นฐานก็ยังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆ หากต้องการจะเข้าพบเธอ แต่วันนี้เธอกับเต็มใจจะสละเวลาของตัวเองมาลงทะเบียนยืนยันตัวตน และอำนาจของคุณเป็นการส่วนตัว” หงซินหยวนอธิบาย
เซี่ยชิงหยางนั้นไม่ใช่บุคคลที่ใครก็จะสามารถพบเจอได้ง่ายๆ
ตอนนี้เมื่อเซี่ยชิงหยางได้ริเริ่มที่จะเข้าหาและตีสนิทกับซือเฟิงก่อน หงซินหยวนจึงต้องการจะให้เขาคว้าโอกาสนี้ไว้ ด้วยวิธีนี้ซือเฟิงจะเผชิญปัญหาน้อยลงแน่นอน เมื่ออาศัยอยู่ใน Upper Zone
“สวัสดีผู้จัดการทั่วไปเซี่ย …” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า “วันนี้ฉันคงต้องขอรบกวนคุณหน่อยแล้ว …”
ซือเฟิงเข้าใจได้โดยธรรมชาติว่าหงซินหยวนหมายถึงอะไรในคำอธิบายของเขา ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกขอบคุณหงซินหยวน
“ไม่ใช่ปัญหาเลย แต่เดิมเรื่องนี้มันก็อยู่ในขอบเขตการจัดการของฉันในฐานะผู้จัดการทั่วไปอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าปกติฉันมักจะยุ่งกับเรื่องอื่น เพราะมันมีผู้ลงทะเบียนน้อยมาก ดังนั้นโดยปกติฉันจะนัดให้ผู้มาลงทะเบียนหลายคนมารวมตัวกันในวันเดียวเพื่อลงทะเบียนอย่างเป็นทางการก็เท่านั้น” เซี่ยชิงหยางกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ ขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงอย่างพินิจพิเคราะห์ “ในทางกลับกัน การปรากฎตัวของคุณนั้นมันน่าประหลาดใจอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่คุณจะเคลียร์เส้นทางจิตได้ด้วยอายุที่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปี แต่คุณยังใช้เวลาแค่ราวสิบสามนาทีในการทำเช่นนั้น นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่ฉันได้เห็นความสามารถที่น่ากลัวแบบนี้ใน Upper Zone”
“อะไรนะ ?! สิบสามนาที ?!” หงซินหยวนตกใจอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้หงซินหยวนคิดว่าความสำเร็จของซือเฟิงนั้นเป็นเพียงการที่สามารถผ่านและเคลียร์เส้นทางจิตได้เท่านั้น เขาไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าซือเฟิงจะใช้เวลาเพียงแค่ช่วงสั้นๆในการเคลียร์มัน เมื่อคนๆหนึ่งมีความแข็งแกร่งทางจิตใจเกรดพิเศษ และทำการเดินผ่านเส้นทางจิต เวลาเฉลี่ยที่จะต้องใช้ก็จะอยู่ที่ประมาณสี่สิบนาที ซึ่งนานกว่าเวลาเฉลี่ยสำหรับผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีราวสิบนาที
กระนั้นซือเฟิงกับใช้เวลาเพียงสิบสามนาทีในการเดินผ่านและเคลียร์เส้นทางจิต ครู่หนึ่งหงซินหยวนอดสงสัยไม่ได้ว่าเซี่ยชิงหยางกำลังเล่นตลกอะไรกับเขารึปล่าว
“ใช่แล้ว คนๆนี้ได้ทำลายสถิติเส้นทางจิตของ Upper Zone เมืองหยวนเทียนสำหรับผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบห้าปี” เซี่ยชิงหยางพยักหน้า จากนั้นเธอก็มองไปที่ซือเฟิง และยิ้ม “ถ้าฉันไม่รีบมาลงทะเบียนผู้มีพรสวรรค์แบบนี้ด้วยตัวฉันเอง ฉันคิดว่าพวกที่อยู่เหนือฉันจะได้เอาฉันตายแน่”
เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยชิงหยาง หงซินหยวนก็เริ่มตระหนักถึงเรื่องราวทั้งหมดทันที ด้วยการมีความแข็งแกร่งทางจิตใจที่น่ากลัวขนาดนี้ มันก็แปลว่ามาตราฐานของซือเฟิงนั้นอยู่ใกล้เคียงกับระดับปรมาจารย์ด้านจิตใจแล้วนั่นเอง
ปรมาจารย์ด้านจิตใจ !!
มันไม่มีปรมาจารย์ด้านจิตใจแม้แต่คนเดียวที่อาศัยอยู่ในชั้นฐาน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน ขณะที่ชั้นกลางก็มีคนระดับนี้อาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นคนระดับนี้ทุกคนยังมีอัตลักษณ์และสถานะที่แม้แต่บริษัทโบลเดอร์ก็ยังต้องหวาดกลัว
แม้ว่าความสามารถของซือเฟิงจะยังไปไม่ถึงระดับปรมาจารย์ด้านจิตใจ แต่ความสามารถของเขามันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทั่วทั้งเขต Upper Zone แห่งนี้ต่อสู้เพื่อแย่งชิงตัวเขา
“คุณก็พูดเกินไป ผู้จัดการเซี่ย ฉันก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ ฉันเชื่อว่ามันคงอีกไม่นานหรอกก่อนที่จะมีผู้ทำลายสถิติของฉันได้”
ความจริงซือเฟิงก็แอบรู้สึกผิดอยู่บ้างที่เขาได้รับความสนใจจากเซี่ยชิงหยาง
นี่เป็นเพราะเขาได้อาศัยเคล็ดลับในการผ่านเส้นทางจิต ความแข็งแกร่งทางจิตใจที่แท้จริงของเขาน่าจะอยู่ในเกรดสูงเท่านั้น ไม่ใช่เกรดพิเศษ
จากการประมาณของเขา ความแข็งแกร่งทางจิตเกรดพิเศษ น่าจะอยู่ใกล้เคียงกับมาตราฐานความแข็งแกร่งทางจิตใจขั้นห้าใน God domain อย่างไรก็ตามมาตราฐานค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจใน God domain ในปัจจุบันของเขานั้นอยู่ที่ขั้นกลาง ของขั้นสี่เท่านั้น มันยังคงอยู่ห่างไกลจากขั้นห้า
“เราก็ได้ทำความรู้จักกันพอสมควรแล้ว มาพูดเรื่องธุระของเรากันเลยดีกว่า ….” เซี่ยชิงหยางกล่าวเปลี่ยนหัวข้อ หลังจากเห็นซือเฟิงเริ่มจะรู้สึกพูดไม่ออก และเธอก็กล่าวต่อว่า “การลงทะเบียนอย่างเป็นทางการสำหรับการระบุตัวตนนั้นมันสามารถจะทำได้ง่ายๆ เพราะฉันแค่ต้องสแกนคุณด้วยอุปกรณ์เท่านั้น และคุณก็จะกลายเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของ Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน ส่วนที่ลำบากจริงๆคือการตัดสินใจว่าควรจะให้รางวัลอะไรแก่คุณ”
“รางวัลสำหรับการเคลียร์เส้นทางจิตได้ ไม่มีงั้นหรอ ?” ซือเฟิงถามอย่างสงสัย
ก่อนหน้านี้เขาได้ยินมาจากเครุยว่า ใครก็ตามที่เคลียร์เส้นทางจิตได้จะได้รับคะแนนการค้าหนึ่งหมื่นแต้ม และโพชั่นแห่งชีวิตหนึ่งขวดจากบริษัทกรีนก๊อด
นอกเหนือจากโพชั่นแห่งชีวิต แค่คะแนนการค้าที่ได้รับมันก็จัดว่ามีความสำคัญมากแล้ว เพราะที่ Upper Zone คะแนนการค้านั้นมีความสำคัญมากพอๆกับเครดิตในโลกภายนอก เนื่องจากการทำธุรกรรมทั้งหมดใน Upper Zone จะถูกดำเนินการโดยใช้คะแนนการค้าของบริษัทกรีนก๊อด และระดับอำนาจแต่ละระดับมันก็จะทำให้แต่ละคนสามารถแลกเปลี่ยนคะแนนการค้าได้แตกต่างกันด้วย
สำหรับผู้ที่ไม่มีระดับอำนาจเลย พวกเขาจะสามารถแลกเปลี่ยนคะแนนการค้าได้เพียงหนึ่งร้อยแต้มต่อวันเท่านั้น ขณะที่ผู้มีอำนาจเกรดสามจะสามารถแลกเปลี่ยนได้สองร้อยแต้มต่อวัน ส่วนผู้มีอำนาจเกรดสองจะสามารถแลกเปลี่ยนได้ห้าร้อยแต้มต่อวัน ขณะที่ผู้มีอำนาจเกรดหนึ่งจะสามารถแลกเปลี่ยนได้หนึ่งพันแต้มต่อวัน
โดยคะแนนการค้าหนึ่งแต้ม มันจะเทียบเท่ากับหนึ่งหมื่นเครดิต แต่อย่างไรก็ตามหนึ่งหมื่นเครดิตก็ใช่ว่าจะสามารถนำมาแลกเปลี่ยนคะแนนการค้าหนึ่งแต้มได้เสมอไป
มันมีบางคนที่สามารถสร้างโชคลาภอย่างมหาศาลให้กับตัวเองได้ด้วยการนำคะแนนการค้าไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง อย่างไรก็ตามคนที่ทำแบบนี้จะถูกมองว่าบ้ามากๆ และบริษัทต่างๆที่ดำเนินงานอยู่ใน Upper Zone ก็จะมีความสุขมากๆที่ได้เห็นคนบ้าแบบนี้ อาหารมาตราฐานที่บริษัทกรีนก๊อดจัดเตรียมไว้ใน Upper Zone นั้นมันมีราคาเป็นคะแนนการค้าสามสิบแต้ม โดยคนที่ไม่มีระดับอำนาจเลยจะมีคะแนนการค้าพอแค่ใช้กินอาหารมาตราฐานสามมื้อต่อวันเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นมื้อละสามแสนเครดิตเลย !!!
เพียงแค่ได้ยินเรื่องนี้ มันก็ทำให้ซือเฟิงคิดแล้วว่า Upper Zone นั้นแตกต่างจากโลกภายนอกที่เขาเคยอาศัยอยู่จริงๆ แม้ว่าการอาศัยอยู่ที่นี่มันจะทำให้ร่างกายของเขาดีขึ้นเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด และตอนนี้เขาก็ต้องการอาหารที่มีคุณภาพสูงมาเพื่อรองรับร่างกายของเขา แต่เงินสามแสนเครดิตนั้นเขาก็สามารถจะใช้ซื้ออะไรได้หลายอย่าง และจริงๆมันก็แทบจะใช้เป็นค่าอาหารทั้งเดือนในโลกภายนอกได้เลย อย่างไรก็ตามใน Upper Zone เงินเครดิตขนาดนี้ซื้ออาหารได้แค่หนึ่งมื้อเท่านั้น
ในขณะเดียวกันสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกทุกๆด้านของที่นี่มันก็มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน โดยสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกขั้นพื้นฐานจะมีราคาที่ยี่สิบคะแนนการค้าต่อชั่วโมง ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกขั้นสูงจะมีราคาที่ห้าสิบคะแนนการค้าต่อชั่วโมง
มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะบอกว่ามันมีเพียงผู้มีอำนาจเกรด 2 หรือสูงกว่าขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถตอบสนองความต้องการประจำวันของตัวเองใน Upper Zone ได้
แน่นอนว่าตราบใดที่คนๆหนึ่งมีระดับอำนาจเพียงพอ พวกเขาก็จะสามารถรับงานจากบริษัทกรีนก๊อด เพื่อรับเอาคะแนนการค้ามาสะสมและใช้มันดำรงชีวิตประจำวันใน Upper Zone
อย่างไรก็ตามสำหรับซือเฟิงตอนนี้ เขาค่อนข้างจะจัดว่าอนาถามากๆ เพราะเขาไม่มีเงินมากพอแม้แต่จะซื้อบ้านทั่วไปได้
ดังนั้นคะแนนการค้าหนึ่งหมื่นแต้ม มันจึงนับเป็นโชคลาภสำหรับเขา
“มันก็เป็นอย่างที่คุณว่ามานั่นแหละ เพียงแต่ว่ารางวัลนั้นมีไว้สำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีเท่านั้น” เซี่ยชิงหยางกล่าวพลางพยักหน้า “มันไม่มีรางวัลที่แน่นอนสำหรับผู้ที่ผ่านและเคลียร์เส้นทางจิตได้ด้วยอายุที่มากกว่ายี่สิบปี แต่ไม่เกินยี่สิบห้าปี นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าคุณสามารถทำลายสถิติของผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบห้าปีได้ด้วย”
“งั้นฉันขอเป็นน้ำแห่งชีวิตได้ไหม ?” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“น้ำแห่งชีวิต ?” เซี่ยชิงหยางยิ้มทันที เมื่อได้ยินคำขอของซือเฟิง “คุณรู้ไหมว่าน้ำแห่งชีวิตนั้นมีค่าอย่างไม่น่าเชื่อแม้แต่ในบริษัทกรีนก๊อด แม้ว่าคุณจะกลายเป็นปรมาจารย์ด้านจิตใจได้ในอนาคต แต่การจะได้รับน้ำแห่งมันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดี น้ำแห่งชีวิตหนึ่งขวดนั้นมีมูลค่ามาตราฐานเป็น คะแนนสะสมของบริษัทกรีนก๊อดหนึ่งล้านแต้ม หรือไม่ก็คะแนนการค้าสามสิบล้านแต้ม”
“มันแพงขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ?” ซือเฟิงประหลาดใจ เมื่อได้ยินคำอธิบายของเซี่ยชิงหยาง
“แพง ?” เซี่ยชิงหยางส่ายหัว ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “น้ำแห่งชีวิตนั้นเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบริษัทกรีนก๊อด แม้ว่ามันจะไม่สามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ แต่ตราบใดที่คนๆหนึ่งยังมีลมหายใจอยู่ หากได้รับมันไป พวกเขาจะสามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บทุกอย่างได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แน่นอนเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้น้ำแห่งชีวิตยังช่วยยืดอายุขัยของคนๆหนึ่งได้ และช่วยให้ผู้ใช้มันคงความอ่อนเยาว์ไปได้อีกหกสิบปีเลย”
“ซึ่งหกสิบปีนี้มันแทบจะใกล้เคียงกับเวลาชีวิตของคนทั่วไปเลย ในขณะเดียวกันน้ำแห่งชีวิตไม่เพียงแต่จะช่วยยืดอายุขัยออกไป แต่มันยังจะช่วยทำให้คงความอ่อนเยาว์ไว้ได้ด้วย คุณจะยังคิดว่ามันแพงอีกหรอ ?”
ซือเฟิงนั้นไม่สามารถจะหักล้างคำพูดของเซี่ยชิงหยางได้ อันที่จริงเขาค่อนข้างจะเห็นด้วยกับเธอเลย
สำหรับเหล่าผู้นำของบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ เงินนั้นมันไม่ได้สำคัญสำหรับพวกเขาเลย พวกเขาสามารถจะหาเงินที่ใช้ไปกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นมีเพียงชีวิตเดียว หากพวกเขามีโอกาสที่จะต่อชีวิตตัวเองออกไป พวกเขาก็จะไม่ลังเลแน่นอนที่จะใช้โชคทั้งหมดเพื่อรับมันมา
ยกตัวอย่างเช่นจักรพรรดิในสมัยโบราณหลายคนที่ยอมทำทุกสิ่งเพื่อจะให้ตัวเองมีอายุยืนยาว
ในขณะเดียวกัน เมื่อเห็นว่าซือเฟิงมีท่าทีสนใจน้ำแห่งชีวิตมาก หงซินหยวนก็อดไม่ได้ที่จะให้คำแนะนำกับเขาว่า “ซือเฟิง คุณควรหยุดคิดเรื่องน้ำแห่งชีวิตไปก่อน แม้แต่คนที่อาศัยอยู่ในชั้นกลางบางคนก็ยังไม่สามารถจะจ่ายเพื่อรับเอามันมาได้เลย คุณควรจะจัดลำดับความสำคัญไปที่การปรับปรุงความแข็งแกร่งทางจิตใจของตัวเองก่อน และตราบใดที่คุณสามารถปรับปรุงมันได้อย่างรวดเร็ว การจะได้เข้าไปที่ชั้นกลาง มันก็จะนับว่าไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับคุณ”
“ใช่แล้ว เราเลิกพูดคุยเรื่องน้ำแห่งชีวิตกันดีกว่า …” เซี่ยชิงหยางกล่าวอย่างเห็นด้วยกับหงซินหยวน เธอนั้นก็คิดเช่นกันว่าตอนนี้มันยังเร็วเกินไปสำหรับซือเฟิงที่จะได้รับน้ำแห่งชีวิตมา
หลังจากนั้นเซี่ยชิงหยางก็ได้ทำการสแกนซือเฟิงด้วยนาฬิกาควอนตัมบนข้อมือของเธอ และทันใดนั้นข้อมูลทั้งหมดของซือเฟิงก็ปรากฎขึ้น
“การลงทะเบียนยืนยันตัวตนของคุณเสร็จเรียบร้อย” หลังจากได้มองดูข้อมูลของซือเฟิงแล้ว เซี่ยชิงหยางก็กล่าวด้วยความพึงพอใจ “ต่อไปเราจะมาพิจารณารางวัลของคุณกัน”
“ไม่เพียงแต่คุณจะสามารถผ่านและเคลียร์เส้นทางจิตได้ด้วยอายุต่ำกว่ายี่สิบห้าปี แต่คุณยังทำลายสถิติของมันได้ด้วย ในฐานะผู้จัดการทั่วไปของชั้นพื้นฐาน ฉันสามารถให้คุณได้สองทางเลือก”
“ทางเลือกแรกคือให้รางวัลคุณเป็นคะแนนการค้าห้าแสนแต้ม และโพชั่นแห่งชีวิตห้าสิบขวด หรือไม่ก็ยาใดๆก็ตามที่มีมูลค่าเทียบเท่ากัน ส่วนทางเลือกที่สองคือให้รางวัลคุณด้วยบ้านทั่วไปในชั้นพื้นฐาน คุณสามารถเลือกหนึ่งในสองรางวัลนี้ได้”