ตอนที่ 2745 โลกที่แตกต่าง
“รางวัลนั้นดีขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?”
ซือเฟิงนั้นตกตะลึงไปชั่วขณะกับรางวัลที่เซี่ยชิงหยางได้กล่าวออกมา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพียงแค่การเคลียร์ และทำลายสถิติของเส้นทางจิตได้ด้วยอายุต่ำกว่ายี่สิบห้าปี มันจะทำให้เขาได้รางวัลมากกว่าคนอื่นๆถึงห้าสิบเท่า
“จริงๆแล้วรางวัลทั้งหมดนี้ยังไม่ได้จัดว่ายอดเยี่ยมมากนัก อย่างไรก็ตามมันก็จัดเป็นรางวัลที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถจะมอบให้คุณได้ภายใต้อำนาจของฉัน แต่หากคุณยอมเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกภายในของบริษัทกรีนก๊อด คุณก็จะได้รับรางวัลที่ดีกว่านี้มาก แล้วก็ระดับอำนาจของคุณจะถูกยกระดับขึ้นไปเป็นขั้นสูงโดยตรงเลย” เซี่ยชิงหยางกล่าว จากนั้นเธอก็ยิ้มและถามว่า “คุณสนใจจะเข้าร่วมกับบริษัทของเราไหม ?”
“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอ ผู้จัดการเซี่ย แต่ฉันชอบการที่ได้ดำเนินการอย่างอิสระโดยไม่ถูกควบคุมใดๆมากกว่า” ซือเฟิงกล่าวปฎิเสธโดยไม่ลังเล การเข้าร่วมกับบริษัทกรีนก๊อดอาจเป็นความฝันของใครหลายๆคน แต่เขาก็รู้ดีว่าเมื่อเข้าร่วมไปแล้วนั้น บริษัทกรีนก๊อดจะมีข้อจำกัดมากมายแน่นอน และนี่มันก็น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่มู่ฉินกับเครุยไม่ได้เลือกจะเข้าร่วมกับบริษัทกรีนก๊อด และเลือกจะอยู่กับบริษัทโบลเดอร์
“ช่างน่าเสียดายจริงๆ” เซี่ยชิงหยางถอนหายใจออกมา เมื่อเธอได้ยินคำตอบของซือเฟิง
หากผู้มีความสามารถเช่นซือเฟิงเข้าร่วมกับบริษัทกรีนก๊อด เขาจะสามารถไต่ขึ้นไปถึงตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าเธอแน่นอนใน Upper Zone เพราะท้ายที่สุดแล้วผู้มีความแข็งแกร่งทางจิตใจแบบเขานั้นมีค่าอย่างไม่น่าเชื่อใน Upper Zone
บริษัทกรีนก๊อดนั้นจ่ายทั้งเงินและทรัพยากรทุกอย่างที่พวกเขามีไปอย่างมหาศาลเพื่อที่จะฝึกฝนปรมาจารย์ด้านจิตใจขึ้นมา อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้บริษัทก็ยังไม่ได้มีปรมาจารย์ด้านจิตใจมากมายนัก
“ซือเฟิงนี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับคุณ หากคุณได้รับโพชั่นแฟนธ่อมห้าสิบขวด ซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับโพชั่นแห่งชีวิต คุณอาจจะสามารถยกระดับความแข็งแกร่งทางจิตใจของคุณขึ้นไปอีกระดับได้เลยนะ !!!” เครุยกล่าวกับซือเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้ยินข้อเสนอของเซี่ยชิงหยาง
แม้ว่าโพชั่นแห่งชีวิตจะเป็นสิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ และราคาการแลกเปลี่ยนต่อขวดมันก็คิดเป็นคะแนนการค้าห้าพันแต้ม แต่มันก็มีการจำกัดจำนวนที่จะสามารถแลกเปลี่ยนได้ โดยผู้ที่ไม่มีระดับอำนาจใดๆเลยจะสามารถแลกเปลี่ยนได้แค่หนึ่งขวดต่อปีเท่านั้น ในขณะที่ผู้มีอำนาจเกรดสามจะสามารถแลกเปลี่ยนได้สองขวดต่อปี ส่วนผู้มีอำนาจเกรดสองจะสามารถแลกเปลี่ยนได้ห้าขวดต่อปี ส่วนผู้มีอำนาจเกรดหนึ่งก็จะสามารุแลกเปลี่ยนได้สิบขวดต่อปี ซึ่งหากคนๆหนึ่งต้องการมากขึ้น พวกเขาก็จะต้องไปขอซื้อต่อมาจากคนอื่นๆในราคาที่แพงกว่านี้
ในขณะเดียวกันโพชั่นแฟนธ่อมก็เป็นยาวิเศษที่บริษัทกรีนก๊อดได้พัฒนาขึ้นมา ซึ่งมันสามารถช่วยลับคมและปรับปรุงความแข็งแกร่งทางจิตใจได้ โดยใครก็ตามที่มีความทะเยอทะยานใน Upper Zone แห่งนี้ก็ล้วนต้องการจะได้รับมันมาทั้งนั้น
โพชั่นแฟนธ่อมห้าสิบขวด !!!
เธอไม่เคยได้เห็นโพชั่นแฟนธ่อมมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิตของเธอ !!!
ด้วยโพชั่นแฟนธ่อมจำนวนมากขนาดนี้ มันจะสามารถทำให้เธอประสบความสำเร็จได้ภายในหนึ่งปี และยกระดับอำนาจของตัวเองขึ้นไปอีกระดับได้แน่นอน
“ผู้จัดการเซี่ย บริษัทกรีนก๊อดมียาที่สามารถรักษาความเสียหายทางจิตได้หรือไม่ ?” ซือเฟิงถาม ขณะที่เขามองไปยังเซี่ยชิงหยาง
ตอนนี้น้ำแห่งชีวิตนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามหาทางอื่นเพื่อจะรักษาความเสียหายทางจิตของอควาโรส และเสวี่ยเหวินโหรว แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ชั่วคราวก็ตาม
“เรามี แต่ยาเหล่านี้มันมีค่ามากกว่าโพชั่นแห่งชีวิตมาก” เซี่ยชิงหยางกล่าวขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงอย่างประหลาดใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมซือเฟิงถึงต้องการอะไรแบบนี้ อย่างไรก็ตามเธอก็ยังคงอธิบายว่า “จากอาการบาดเจ็บทั้งหมด อาการบาดเจ็บที่เกี่ยวกับความเสียหายทางจิตนั้นเป็นสิ่งที่ยากจะรักษาที่สุด หากคุณต้องการจะซื้อยาดังกล่าว คุณจะสามารถทำได้หลังจากที่คุณเข้าสู่ชั้นกลางแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตามคุณยังไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่ชั้นกลางได้”
“ฉันจะสามารถซื้อได้ในชั้นกลางเท่านั้นงั้นหรอ ?” ซือเฟิงขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็พูดว่า “ผู้จัดการเซี่ย ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันขอเลือกบ้านทั่วไป”
เมื่อหงซินหยวนได้ยินการตัดสินใจของซือเฟิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ และรีบกล่าวห้ามปรามว่า “นี่คุณบ้าไปแล้วงั้นหรอ ? การได้รับโพชั่นแฟนธ่อมนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ แม้ว่าคุณจะมีอำนาจเกรดหนึ่งก็ตาม คุณจะต้องใช้เวลาห้าปีเลยนะเพื่อที่จะแลกมันให้ได้จำนวนเท่านี้น่ะ !!! แถมบริษัทกรีนก๊อดก็มีการประเมินที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงสำหรับผู้ที่สามารถยกระดับอำนาจของตัวเองขึ้นไปเป็นขั้นสูงได้ก่อนอายุยี่สิบห้า และหลังอายุยี่สิบห้า !!!”
ก่อนอายุยี่สิบห้าปี มนุษย์ยังคงอยู่ในช่วงการเติบโต การเข้าถึงระดับอำนาจขั้นสูงได้ก่อนอายุยี่สิบห้านั่นก็หมายความว่าพวกเขาจะมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงมาก และบริษัทกรีนก๊อดก็จะจัดลำดับความสำคัญในการดูแลคนแบบนี้เป็นลำดับต้นๆเลย แม้ว่าคนๆนั้นจะไม่ได้เป็นสมาชิกภายในของบริษัทก็ตาม อย่างไรก็ตามเมื่อซือเฟิงเข้าถึงระดับอำนาจขั้นสูงตอนอายุมากกว่ายี่สิบห้าไปแล้ว การประเมินของบริษัทกรีนก๊อดก็จะลดลง
ก่อนที่หงซินหยวนจะพยายามห้ามปราบซือเฟิงต่อ เซี่ยชิงหยางก็ยื่นมือออกไปเป็นท่าทางให้ชายชราผู้นี้หยุด จากนั้นเธอก็มองไปยังซือเฟิงด้วยสายตาแปลกๆ
“ดูเหมือนว่าคุณจะยืนกรานในเรื่องการรักษาความเสียหายทางจิตจริงๆ คุณถึงกับยอมทิ้งความเป็นไปได้ที่จะปรับปรุงตัวเองในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และตัดสินใจจะเลือกบ้านที่แทบจะไม่สามารถช่วยรักษาและฮีลความเสียหายทางจิตของคนๆหนึ่งได้” เซี่ยชิงหยางกล่าวเชิงไม่เห็นด้วยเล็กๆกับการเลือกของซือเฟิง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นท่าทีที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของซือเฟิง เธอก็ยิ้มออกมาและพูดว่า “เอาเถอะ เนื่องจากนี่เป็นการตัดสินใจของคุณ ดังนั้นฉันก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ขอให้ฉันได้เตือนคุณเรื่องหนึ่งเถอะ”
“Upper Zone นั้นไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่คุณคิด และการใช้ชีวิตที่นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากคุณต้องการจะช่วยเหลือใครสักคน วิธีที่ดีที่สุดคือการยกระดับอำนาจของคุณเอง ขณะที่สิ่งอื่นนั้นล้วนจัดว่าเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์”
“ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณสำหรับคำเตือนผู้จัดการเซี่ย” ซือเฟิงกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ “นอกจากนี้ฉันยังต้องการจะเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสม ฉันสามารถจะลงทะเบียนได้เลยไหม ?”
ด้วยสถานะของเซี่ยชิงหยางนั้น ซือเฟิงเข้าใจดีว่าโดยปกติคนอย่างเธอจะไม่ยอมออกนอกลู่นอกทางมาเสนอตัวเลือกหรือเตือนเขาแบบนี้แน่นอน แต่ที่เธอเลือกจะทำในครั้งนี้ มันก็เพียงเพราะว่าเธอชื่นชมในศักยภาพที่เขาแสดงออกมา
อย่างไรก็ตามซือเฟิงเข้าใจตัวเขาเองอย่างชัดเจนว่าในความเป็นจริง เขายังคงอยู่ห่างไกลจากมาตราฐานปรมาจารย์ด้านจิตใจ และแม้ว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากโพชั่นแฟนธ่อม แต่อย่างดีที่สุดเขาก็จะสามารถยกระดับความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาให้ขึ้นไปอยู่เกรดพิเศษแบบแท้จริงได้เท่านั้น และจากที่เขาเคยได้ยินมาจากเครุย หากไม่ได้เป็นสมาชิกภายในของบริษัทกรีนก๊อด ความแข็งแกร่งทางจิตใจเกรดพิเศษนั้นมันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาทำอะไรได้มากที่นี่ ดังนั้นแทนที่เขาจะมามัวไปทำแบบนั้นสู้เขาเลือกรักษาเสถียรภาพของอควาโรสกับเสวี่ยเหวินโหรวตอนนี้ด้วยสภาพแวดล้อมของ Upper Zone ดีกว่า เพราะท้ายที่สุดแล้วหากเขาไม่มีบ้านใน Upper Zone เขาจะต้องดิ้นรนอย่างหนักในเรื่องนี้ หรืออาจถึงขั้นต้องทำงานให้คนอื่นเพื่อให้เขา และหญิงสาวทั้งสองได้รับที่พักที่จะสามารถอยู่ใน Upper Zone ได้ตลอด
อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงการได้รับที่อยู่อาศัยใน Upper Zone นั้นมันก็พูดง่ายกว่าทำ แม้แต่บ้านทั่วไปที่นี่มันก็ยังมีราคาเป็นคะแนนการค้าหนึ่งล้านแต้ม
คะแนนการค้าหนึ่งล้านแต้ม !!! ซึ่งนี่มันเทียบเท่ากับหนึ่งหมื่นล้านเครดิตในโลกภายนอกเลย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาก็ไม่มีเงินขนาดนั้น และเขาก็ยังจะต้องใช้เวลานานมากกว่าจะแลกเปลี่ยนหรือทำงานจนได้คะแนนการค้ามากพอซื้อบ้านสักหลัง และที่สำคัญที่สุดบ้านทั่วไปก็ยังมีจำนวนจำกัดด้วย และบ้านทั่วไปนี้ก็จำกัดจำนวนผู้เข้าพักไว้ที่ห้าคน ขณะที่วิลล่านั้นจะจำกัดจำนวนผู้เข้าพักไว้ที่ยี่สิบคน
สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆนับประสาอะไรกับยี่สิบคน ยี่สิบช่องนี้มันก็ยังไม่เพียงพอเลย แม้แต่หนึ่งร้อยคน หนึ่งร้อยช่องก็ยังไม่น่าจะเพียงพอ เพราะท้ายที่สุดแล้วใครกันที่จะไม่มีเพื่อสนิทใกล้ชิด ? ใครกันที่จะไม่มีญาติพี่น้อง ลูกชาย หรือ ลูกสาว ? และใครกันที่ไม่หวังจะได้อาศัยอยู่ใน Upper Zone ตลอดไป ?
อย่างไรก็ตามหากเขาต้องอยู่คนเดียว เขาก็อาจจะพอกัดฟันทนลองหาคอนเนคชั่นติดต่อ และอยู่กับคนอื่นดู แต่สำหรับการที่เขาต้องการจะช่วยเหลือคนอื่นด้วยแบบนี้ เขาจำเป็นจะต้องมีบ้านอยู่ที่นี่ มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ….
“เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมงั้นหรอ ? ดูเหมือนว่าคุณจะพิเศษกว่าที่ฉันคิดไว้มากเลยนะ งั้นในกรณีนี้ฉันก็ไม่มีเรื่องจะพูดอีกแล้ว ….” เซี่ยชิงหยางพยักหน้า จากนั้นเธอก็โอนข้อความจากนาฬิกาควอนตัมของเธอไปให้ซือเฟิง และพูดว่า “นับจากนี้บ้านยูนิตนี้ในเขตทางตอนใต้ที่หกจะเป็นของคุณ”
ซือเฟิงรู้สึกดีใจมากๆ เมื่อเขาได้เห็นข้อมูลที่แสดงบนนาฬิกาบนควอนตัมของเขา แม้ว่ามันจะถูกเรียกว่าบ้านทั่วไป แต่พื้นที่ของมันก็ยังคงมีมากกว่าสองร้อยตารางเมตร ซึ่งมันเพียงพอจะให้ห้าคนอยู่ได้อย่างสบายๆ
“ฉันได้ลงทะเบียนให้คุณเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมแล้ว อย่างไรก็ตามฉันคิดว่าโอกาสที่คุณจะตามผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่นๆทันนั้นมันต่ำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณตั้งเป้าไปที่สามอันดับแรก เพราะสามอันดับแรกทุกคนล้วนมีคะแนนมากกว่าหนึ่งแสนแต้มแล้วตอนนี้ และฉันก็ได้ยินมาว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากซุเปอร์กิลของ God domain ดังนั้นตอนนี้มันจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะตามพวกเขาได้ทัน” เซี่ยชิงหยางกล่าวขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิง “อย่างไรก็ตามคุณก็สามารถที่จะลองแข่งขันเพื่อชิงยี่สิบอันดับแรกได้ บริษัทได้วางแผนที่จะเสนอให้ผู้ที่ติดยี่สิบอันดับแรกสามารถซื้อสินค้าสามชิ้นจากชั้นกลางได้ ซึ่งนี่ควรเป็นเป้าหมายที่คุณน่าจะไปถึงได้”
ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับคำพูดของเซี่ยชิงหยาง เขารีบกล่าวขอบคุณเธอทันที “ขอบคุณมากๆ ผู้จัดการเซี่ย”
หลังจากนั้นเซี่ยชิงหยางก็พูดคุยกับหงซินหยวนอีกนิดหน่อยก่อนที่เธอจะเดินออกไปด้วยความเร่งรีบ เห็นได้ชัดว่าเธอยุ่งมาก ในขณะเดียวกันเครุยก็รู้สึกโกรธและผิดหวังกับการตัดสินใจของซือเฟิง เธอไม่เคยคิดเลยว่าซือเฟิงจะเลือกยอมแพ้ในโอกาสอันยอดเยี่ยมในการปรับปรุงตัวเองแบบนี้ และแม้แต่หงซินหยวนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวให้กับการตัดสินใจของซือเฟิง หลังจากเขาสั่งให้เครุยนำทางและแนะนำเรื่องต่างๆให้ซือเฟิงต่อ เขาก็แจ้งเตือนซือเฟิงถึงบางสิ่งเพิ่มอีกนิดหน่อย
อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับเครุย และหงซินหยวน ซือเฟิงนั้นรู้สึกมีความสุขมากๆกับสถานการณ์ปัจจุบันของเขา
นั่นเป็นเพราะเขาได้รับการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่มากจริงๆ หลังจากที่เขาได้มาเยือน Upper Zone ในครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจถึงความสำคัญของคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ และค้นพบวิธีที่จะรักษาเสวี่ยเหวินโหรวกับอควาโรสแล้ว เขาได้ค้นพบกระทั่งวิธีที่จะนำคนภายนอกเข้ามาใน Upper Zone ด้วยซ้ำ
เมื่ออำนาจของเขาไปถึงระดับขั้นสูง และเขาสามารถเข้าสู่ชั้นกลางได้ เขาก็จะสามารถใช้คะแนนสะสมหนึ่งแสนแต้มเพื่อแลกเปลี่ยนช่องหนึ่งช่องสำหรับเข้าสู่ Upper Zone ได้ และแม้ว่าเขาจะสามารถแลกเปลี่ยนได้เพียงสามช่องต่อปี แต่นี่มันก็ยังนับเป็นข่าวดีสำหรับเขา เพราะท้ายที่สุดเป้าหมายของเขาแต่แรกนั้น เขาไม่ได้ต้องการจะอาศัยอยู่ใน Upper Zone เพียงคนเดียวอยู่แล้ว
เมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน เครุยก็พาซือเฟิงไปที่บ้านของเขาที่เขตทางตอนใต้ที่หก แล้วเธอก็จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ซึ่งดูเหมือนเธอจะไม่พอใจกับการตัดสินใจของซือเฟิง เรื่องนี้มันทำให้ตอนนี้ซือเฟิงยืนอยู่คนเดียวที่หน้าบ้านที่ตอนนี้เป็นของเขาแล้ว
นี่บ้านมันจะไม่น่าทึ่งเกินไปหน่อยงั้นหรอ ?!
ซือเฟิงตกตะลึง เมื่อเขาได้เดินเข้าไปที่ยูนิต 02 บนชั้น 35
ไม่เพียงแต่บ้านยูนิตที่เขาได้รับมามันจะเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นยอดมากมาย แต่มันยังมีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ครบครันอีกด้วย และหลังจากเข้ามาในบ้าน ซือเฟิงก็รู้สึกสบายตัวกว่าก่อนหน้านี้มาก ราวกับว่าร่างกายของเขาได้ถูกแช่ในสารอาหารเหลว และเขาก็สามารถจะปรับปรุงสมรรถภาพทางกายของตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ได้ฝึกฝนใดๆก็ตาม ขณะที่สมองของเขาก็ยังรู้สึกปลอดโปร่งกว่าตอนที่เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมานาใน God domain อย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นห้องนอนทุกห้องในบ้านยังติดตั้งห้องเกมเคบินเฟียเลสที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าห้องเกมเคบินที่สภาสิบแปดปีกเคยซื้อมา
ตามความทรงจำของซือเฟิง ห้องเกมเคบินเฟียเลสนั้น เป็นสิ่งที่จะปรากฎออกสู่โลกภายนอกในอีกสามปีนับจากนี้
ห้องเกมเคบินเฟียเลสนั้นไม่เพียงแต่จะอนุญาติให้ผู้เล่นสามารถดื่มด่ำกับ God domain ได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่มันยังปรับปรุงประสาทสัมผัสและการตอบสนองของผู้เล่นให้ว่องไวขึ้นด้วย โดยห้องเกมเคบินเฟียเลสนี้จะทำให้ผู้เล่นสามารถตอบสนองต่อมานาได้ดีขึ้นอย่างน้อยยี่สิบเปอเซ็นต์ และอนุญาติให้ผู้เล่นสามารถแสดงความแข็งแกร่งทางจิตที่แท้จริงได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ใน God domain
ย้อนกลับไปในตอนที่ห้องเกมเคบินเฟียเลสเปิดตัวสู่สาธารณะเป็นครั้งแรก บริษัทต่างๆได้ต่อสู้เพื่อแย่งชิงพวกมันกันอย่างบ้าคลั่ง โดยแต่ละห้องนั้นขายได้ถึงหนึ่งร้อยล้านเครดิตหรือมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นห้องเกมเคบินเฟียเลส มันก็จะขาดตลาดอยู่เสมอๆ แม้จะผ่านไปสิบปีแล้วก็ตาม และมันก็มีแต่กิลชั้นสูงขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถจะจัดหาห้องเกมเคบินเฟียเลสนี้ได้ และพวกเขาก็จัดหาให้ได้แค่สำหรับพวกผู้บริหารระดับสูงของกิลเท่านั้นด้วย
ขณะที่สถานการณ์ของกิลชั้นรองนั้นย่ำแย่กว่ามาก แม้แต่หัวหน้ากิลชั้นรองอย่างซือเฟิงก็ไม่สามารถจะใช้ห้องเกมเคบินเฟียเลสได้
ฉันไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่า ฉันจะมีโอกาสได้สัมผัสกับห้องเกมเคบินเฟียเลสจริงๆในชีวิตนี้ ซือเฟิงนั้นเริ่มเข้าใจแล้วว่านอกเหนือจากประโยชน์ทั้งหมดที่เขารู้มา ทำไมผู้เล่นของ God domain หลายคนถึงพยายามจะเข้าสู่ Upper Zone ให้ได้ เพราะนอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับประโยชน์มากมายแล้ว เมื่ออยู่ที่นี่ทุกคนยังจะได้เพลิดเพลินไปกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่าในโลกภายนอกมากด้วย
เพิ่มการตอบสนองต่อมานาให้ไวขึ้นยี่สิบเปอเซ็นต์ !!!
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั่วไปก็จะได้รับพลังในการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก หากพวกเขาได้รับการปรับปรุงแบบนี้ ดังนั้นนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงพวกผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดและระดับสัตว์ประหลาดเลย และการเพิ่มการตอบสนองต่อมานาให้ไวขึ้นนี้มันก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำเควสเลื่อนขั้นแต่ละขั้นของผู้เล่นด้วย เพราะท้ายที่สุดมานานั้นเป็นรากฐานของทุกสิ่งใน God domain และยิ่งคนๆหนึ่งควบคุมมานาได้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น
ดูเหมือนว่าฉันจะต้องให้เสวี่ยเหวินโหรวและอควาโรสเข้ามาที่นี่โดยเร็วที่สุด ห้องเกมเคบินเฟียเลสนี้เพียงอย่างเดียว มันก็สามารถจะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงขั้นสี่ได้อย่างน้อยสิบเปอเซ็นต์แล้ว ขณะที่ซือเฟิงมองไปที่ห้องเกมเคบินสีดำสนิทสนิท แผนการต่างๆก็เริ่มผุดขึ้นมาในหัวของเขา
หลังจากที่เขาทำความเข้าใจกับส่วนต่างๆของบ้านอย่างคร่าวๆแล้ว ซือเฟิงก็กระโดดเข้าไปในห้องเกมเคบินเฟียเลสโดยไม่ลังเล เขาตั้งใจมากๆที่จะลองสัมผัสกับห้องเกมเคบินที่เขาไม่เคยได้แตะต้องนี้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะกลับไปที่สำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกในตอนนี้
เมื่อซือเฟิงเข้าสู่ห้องเกมเคบินเฟียเลส เขาก็จัดการเชื่อมต่อมันเข้ากับระบบหลักของ God domain ทันที ก่อนที่ซือเฟิงจะพึมพำในใจว่า “ล๊อคอิน !!!”