ตอนที่ 2764 ดินแดนของเหล่าเทพที่ร่วงหล่น
นอกเทือกเขาที่ถูกทำลาย บึงกลืนกิน :
มันมีแสงหลายสิบแสงพุ่งลงมาบนผืนป่าที่เต็มไปด้วยบึง และหนองน้ำ ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าอันยีลดิ้งฮาร์ทและคนอื่นๆนั้นถูกส่งออกมาจากเทือกเขาที่ถูกทำลายแล้ว
“เราฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้วงั้นหรอ ?” อันยีลดิ้งฮาร์ทมองไปที่สภาพแวดล้อมของเขาด้วยความสับสน “ทำไมเราถึงฟื้นคืนชีพขึ้นมาที่นี่ ? แล้วหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมล่ะ ?”
บึงกลืนกินนั้นเป็นแผนที่เป็นกลางที่อยู่ติดกับเทือกเขาที่ถูกทำลาย อย่างไรก็ตามแผนที่นี้มันก็มีเลเวลสูงมาก โดยมันมีมอนสเตอร์ที่มีเลเวลตั้งแต่หนึ่งร้อยสามสิบหรือมากกว่าขึ้นไป มันไม่ได้เหมาะสำหรับพวกเขาที่จะใช้เดินทางกลับเลย และตอนขามา พวกเขาก็เดินเข้าสู่เทือกเขาที่ถูกทำลายผ่านแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเองด้วย
“ฉันไม่คิดว่านี่เป็นการฟื้นคืนชีพจากการตายนะ ….” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวพลางส่ายหัว “มีความเป็นไปได้มากว่าเราน่าจะถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ด้วยการเทเลพอร์ต และผู้ที่ทำก็น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่เราเจอเมื่อกี้นี้ ….”
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกเขาจะถูกเทเลพอร์ตออกมาจากถ้ำ เพราะท้ายที่สุดแล้วมันไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่มีเลเวลลดลงไปเลย
“พี่สาวอิลูซะรี่ นอกเหนือจากแบล๊คเฟรมแล้ว ฝั่งของทีมอาชูร่าก็ดูเหมือนจะหายไปสี่คนด้วย” บลูเกาน์กล่าวอย่างรู้สึกแปลกๆ หลังจากตรวจสอบทั้งทีมแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของบลูเกาน์ คนอื่นๆก็สังเกตเห็นได้ทันทีว่าไลฟ์เลสธอร์น และสมาชิกทีมอาชูร่าอีกสามคนหายไป ซึ่งเมื่อได้รู้เรื่องนี้ มันก็ทำให้เหล่าสมาชิกทีมอาชูร่าอดไม่ได้ที่จะกังวล
“พวกเขาถูกทิ้งไว้ด้านหลังงั้นหรอ ?” อันยีลดิ้งฮาร์ทพึมพำอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อได้ยินคำพูดของอันยีลดิ้งฮาร์ท ทุกคนก็รู้สึกหนาวสั่นและขนลุกขึ้นมาทันที
ก่อนที่พวกเขาจะไม่รู้สึกตัวและมาโผล่ตรงนี้นั้น พวกเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันทางจิตที่พุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างชัดเจน โดยมันมาจากส่วนลึกของถ้ำ และหากไม่ใช่เพราะพวกเขาหมดสติไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็คงจะถูกบังคับให้คุกเข่าตามมาแน่นอน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้นกำเนิดของแรงกดดันทางจิตแบบนี้จะต้องเป็นตัวตนที่น่ากลัวมากๆแน่นอน และอาจจะเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอ ตั้งแต่พวกเขาเล่น God domain มาเลยก็ได้
พวกเขานั้นแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่า หากถูกตัวตนระดับนี้กำหนดเป้าหมาย แล้วมันจะเป็นยังไง ….
“ถ้ามันเป็นเรื่องจริง งั้นตอนนี้ก็แย่แล้ว ….” อิลูซะรี่เวิร์ดขมวดคิ้ว เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้
เมื่อเทียบกับตัวตนที่น่ากลัวแบบนี้แล้ว ผู้เล่นขั้นสี่อย่างซือเฟิงก็ไม่ได้ต่างไปจากมดปลวกเลย ในความเป็นจริงตัวตนระดับนี้น่าจะสามารถทำลายวิญญาณของผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายได้เลยด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างมากมายที่เธอไม่รู้จัก และถูกจัดให้อยู่ในระดับที่น่ากลัวมากๆ ….
“มาจัดระเบียบทีมใหม่ แล้วกลับไปดูกันดีกว่า แค่ยืนเฉยๆและไม่ทำอะไรมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย” อันยีลดิ้งฮาร์ทกล่าวแนะนำ
“ไม่ เราไม่สามารถจะกลับเข้าไปในนั้นได้” อิลูซะรี่เวิร์ดโต้ตอบพลางส่ายหัว “เนื่องจากตัวตนระดับนั้นเลือกจะเก็บพวกเขาไว้ที่นั่น ดังนั้นเรื่องนี้มันจึงน่าจะมีเหตุผล ไม่งั้นทำไมพวกเราถึงได้ออกจากที่นั่นมาอย่างปลอดภัย ขณะที่พวกเขาไม่ละ ? ยิ่งไปกว่านั้นเราไม่มีเวลาจะเข้าไปในเทือกเขาที่ถูกทำลายอีกแล้ว …”
“ทำไมล่ะ ?” อันยีลดิ้งฮาร์ทถามอิลูซะรี่เวิร์ดอย่างประหลาดใจ
แม้ว่าข้อสันนิษฐานของอิลูซะรี่เวิร์ดจะถูกต้อง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะทิ้งซือเฟิงและคนอื่นๆโดยไม่ทำอะไรเลยได้ และที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาไม่รู้เลยว่าทั้งสามกิลทำตามแผนของซือเฟิงได้สำเร็จหรือไม่ เพราะหากไม่สำเร็จ มันจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาในภายหลังแน่นอน
“ฉันพึ่งได้รับข่าวมาว่า ไม่เพียงแต่จำนวน NPC จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ตอนนี้สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆก็กำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากมากๆในการเก็บเลเวล ซึ่งมันทำให้ไม่นานหลังจากที่เราเริ่มส่งสมาชิกของเราเข้าไปในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ พวกมหาอำนาจต่างๆก็เริ่มรู้ถึงเรื่องนี้ และเริ่มคาดเดากันว่าที่นี่น่าจะเป็นจุดเก็บเลเวลที่ยอดเยี่ยม เป็นผลให้พวกเขาเริ่มส่งสมาชิกเข้ามาที่เมืองสกายสปริง และเริ่มมีการปะทะกับคนของเราหลายครั้งแล้ว” อิลูซะรี่เวิร์ดอธิบาย “เราต้องรีบกลับไปจัดการสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะปิดล้อมเมืองสกายสปริงด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแค่หยิบมือเดียว”
“พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวแล้วงั้นหรอ ?” อันยีลดิ้งฮาร์ทรู้สึกประหลาดใจกับข้อมูลนี้
ในตอนแรกเขาคิดว่ามหาอำนาจต่างๆจะไม่ให้ความสำคัญกับหอคอยแห่งพันธสัญญาลับมากนัก เพราะท้ายที่สุดแล้วมหาอำนาจต่างๆน่าจะรู้แค่ผิวเผินเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายถึงพวกเขารู้เพียงว่ามันเป็นพื้นที่เก็บเลเวลชั้นยอด ดังนั้นเขาจึงไม่คาดคิดเลยว่าสถานการณ์จะมาถึงจุดนี้ได้
อย่างไรก็ตามด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างมากของประชากร NPC มันทำให้ความลำบากในการไปเก็บเลเวลตามแผนที่ปกติเพิ่มขึ้นอย่างมาก นี่มันจึงทำให้พื้นที่เก็บเลเวลชั้นยอดมีค่ามากกว่าเดิมนั่นเอง ….
ตอนนี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองในการจะให้สมาชิกเก็บเลเวลได้อย่างรวดเร็ว มหาอำนาจหลายกลุ่มเริ่มมุ่งเป้ามาที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับแล้ว
หากมหาอำนาจเหล่านี้เข้าไปในหอคอย และค้นพบมรดก เรื่องราวมันจะยิ่งซับซ้อนและยากลำบากมากขึ้นแน่นอน
“นี่เป็นเหตุผลที่เราต้องรีบกลับไปจัดการกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เรื่องแบล๊คเฟรมตอนนี้ฉันไม่รู้ แต่ถ้าเขาจัดการงานของตัวเองเสร็จแล้วผลปรากฎว่า หอคอยกับเมืองถูกยึดไปแล้ว อันนี้ฉันคิดว่ามันน่าจะแย่ยิ่งกว่าแน่นอน ….” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าว จากนั้นเธอก็หยิบม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมืองออกมา และเทเลพอร์จกลับไปยังสถานที่พักกิลของจักรพรรดิคริมสันในเมืองปีกสีเงินทันที
หลังจากอิลูซะรี่เวิร์ดทำแบบนี้แล้ว สมาชิกของจักรพรรดิคริมสันคนอื่นๆก็ค่อยๆทยอยทำตามเธอทั้งหมด ….
“เราจะทำยังไงกันดี ?” มู่หลิงชาถามอันยีลดิ้งฮาร์ท เมื่อเห็นว่าสมาชิกของจักรพรรดิ
คริมสันจากไปทั้งหมดแล้ว “เราจะกลับด้วยไหม ?”
“ตอนนี้มันก็เป็นสิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้นั่นแหละ หวังว่าด้านของหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมจะปลอดภัยกัน ไม่เช่นนั้นเราจะมีเส้นทางที่ยากลำบากมาก รออยู่ด้านหน้าแน่นอน” อันยีลดิ้งฮาร์ทกล่าวถอนหายใจ ขณะที่เขาหยิบม้วนคัมภีร์วาร์ปกลับเมืองออกมา
หลังจากนั้นสมาชิกของอันยีลดิ้งโซลคนอื่นๆก็เริ่มทำตามเขา และก็จากไปทั้งหมดทันที สำหรับสมาชิกของทีมอาชูร่า พวกเขาวางแผนที่จะอยู่ที่นี่ และเก็บเลเวลไปเรื่อยๆ รอรองผู้บัญชาการของพวกเขาติดต่อมา
ในช่วงเวลาที่อิลูซะรี่เวิร์ด และอันยีลดิ้งฮาร์ทได้รีบกลับไปควบคุมสถานการณ์โดยรวมของหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ ซือเฟิงและคนอื่นๆก็ได้มาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ำที่พวกเขาอยู่
“นี่ … นี่ … นี่คือความลับของถ้ำนี้งั้นหรอ ?”
ไลฟ์เลสธอร์นเต็มไปด้วยความตกตะลึง และประหลาดใจมากๆ ขณะที่เขาจ้องมองไปยังโพรงน้ำแข็งตรงหน้าเขา
โพรงน้ำแข็งมีความกว้างกว่าสิบกิโลเมตร และภายในเป็นโลกสีขาวราวกับหิมะ โดยมีรูปแกะสลักน้ำแข็งเป็นรูปครึ่งเอลฟ์ ครึ่งออร์ค และพวกคนแคระ รวมถึงอีกหลายเผ่าพันธุ์ โดยรูปแกะสลักน้ำแข็งพวกนี้มันแผ่ออร่าที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเจ้าชายปีศาจ
ฟอร์เบโร่ออกมาซะอีก
ในขณะเดียวกันรูปปั้นเหล่านี้ก็มีจำนวนเป็นหมื่น ….
ยิ่งไปกว่านั้นรูปแกะสลักน้ำแข็งที่อยู่ลึกเข้าไปใจกลางโพรงน้ำแข็งยังแผ่ออร่าที่แข็งแกร่งออกมามากกว่าบริเวณที่อยู่ต้นๆทางด้วย ซึ่งนี่มันทำให้ไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆรู้สึกหวาดกลัวมากๆจนแทบไม่กล้าขยับเข้าใกล้พวกมันเลย
ในขณะนี้นับประสาอะไรกับไลฟ์เลสธอร์น และคนอื่นๆ แม้แต่ซือเฟิงก็ยังประหลาดใจกับกลัวฉากนี้
อย่างไรก็ตามซือเฟิงรู้อย่างชัดเจนดีกว่าไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆว่ารูปแกะสลักน้ำแข็งนี่มันคืออะไร
รูปแกะสลักน้ำแข็งน้ำแข็งพวกนี้มันคืออดีตพวกเทพขั้นหกที่แท้จริงทั้งหมด !!! และเขาก็เคยอ่านเรื่องราวของมันบางส่วนมาจากห้องสมุดแล้ว
จากฉากในถ้ำทั้งหมด เขาสามารถบอกได้เลยว่าพวกขั้นหกเหล่านี้ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงบางอย่าง และสุดท้ายมันก็จบลงที่พวกเขาทั้งหมดถูกแช่แข็งไปชั่วนิรันดร์
มันเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่กัน ?
ซือเฟิงนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก ขณะที่เขามองไปยังฉากที่น่าสยดสยองตรงหน้า เหล่าพวกขั้นหกนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของ God domain และกองกำลังขั้นหกจำนวนมากกว่าหนึ่งโหลตรงนี้นั้นก็สามารถจะกวาดผ่านไปทั่วทั้งทวีป และ Dark Abyss ได้อย่างง่ายดาย พวกที่อยู่ในขั้นนี้ล้วนเป็นเหล่าผู้อยู่เหนือทุกสิ่งอย่างแท้จริง และแม้กระทั่งจะรวมผู้เชี่ยวชาญขั้นหกที่เป็นผู้เล่นในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงมาต่อสู้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะต่อสู้กับกองกำลังนี้ได้แน่นอน
ทว่าตอนนี้พวกเทพขั้นหกตรงหน้าของเขากับถูกแช่แข็งไว้ชั่วนิรันดร์จริงๆ และดูจากรูปแล้ว มันน่าจะเกิดจากการเคลื่อนไหวเพียงแค่ครั้งเดียวด้วย