ตอนที่ 2772 ทะลุขีดจำกัด
ภายในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบและมีที่นั่ง …. ขณะที่ซือเฟิงกำลังอัดฉีดมานาของเขาเข้าไปในคริสตัลคำแนะนำมรดกในมือเขา อักษรรูนศักสิทธิ์ และวงเวทย์ก็เริ่มปรากฎขึ้นรอบคริสตัลเรื่อยๆ
ไม่นานหลังจากนั้น มานาภายในห้องก็เริ่มพุ่งหาคริสตัลความทรงจำนี้ ….
หลังจากนั้นคริสตัลก็เปล่งแสงสีน้ำเงินเข้มออกมา และเข้าห่อหุ้มซือเฟิงเอาไว้
ช่างเป็นมรดกที่ทรงพลังจริงๆ !!
ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นแสงสีน้ำเงินเข้มห่อหุ้มเขา
เนื่องจากเจ้าของมรดกนี้นั้นไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนที่รู้จักกันในชื่อนักบุญแห่งโลกน้ำแข็ง คุณภาพของมรดกนี้มันเหนือกว่ามรดกทั่วไปมาก
นอกจากนี้มรดกของนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งยังมีคำอธิบายมากมายเกี่ยวกับหลักการทำงานของธาตุน้ำแข็ง และมันก็ยังอธิบายถึงวิธีการพื้นฐานบางอย่างในการสร้างร่างมานาโดยใช้ธาตุน้ำแข็งเป็นพื้นฐาน
คำแนะนำมรดกประเภทนี้มันหาได้ยากอย่างไม่น่าเชื่อใน God domain และในกรณีส่วนใหญ่ คำแนะนำมรดกที่ถูกพบนั้นก็จะเป็นเพียงแค่การสาธิตการปรับใช้องค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ และคำอธิบายบางอย่างเกี่ยวกับหลักการดำเนินงานของพวกมัน
โอกาสที่จะได้พบกับคำแนะนำมรดกที่สาธิตวิธีการสร้างร่างมานานั้นมีน้อยกว่าหนึ่งเปอเซ็นต์ ไม่ต้องพูดถึงคำแนะนำมรดกที่สาธิตวิธีการสร้างร่างมานาของคนระดับนักบุญเลย
ตัวตนระดับนักบุญนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงกับเทพ และแทบจะเป็นเทพในสายตาของมนุษย์เลย นักบุญบางคนนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหล่าทวยเทพกลัวอย่างมากด้วยซ้ำ เพราะนักบุญเป็นตัวแทนของสิ่งที่ดีเลิศที่สุดบางอย่างใน God domain และแม้แต่เหล่าทวยเทพก็ไม่สามารถจะเทียบเคียงกับนักบุญในลักษณะพิเศษของพวกเขาได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ นักบุญนั้นสามารถจะเป็นเทพได้ แต่เทพไม่สามารถจะเป็นนักบุญได้เสมอไป การจะไปถึงขั้นหกให้ได้นั้นมันไม่ได้จำเป็นที่จะต้องบรรลุด้านใดด้านหนึ่งถึงจุดสูงสุด มันจะมีเกณฑ์ที่แน่นอนที่ตั้งไว้สำหรับผู้ที่ต้องการจะบรรลุขั้นหก แต่แน่นอนว่าเกณฑ์นั้นคืออะไร มันมีเพียงแต่ผู้ที่ไปถึงขั้นหกเท่านั้นที่รู้
ในขณะเดียวกันนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งนั้นเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จถึงจุดสูงสุดในการจัดการกับธาตุน้ำแข็งอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้แต่เหล่าทวยเทพก็ไม่สามารถจะเทียบเคียงกับนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งได้ในเรื่องความเข้าใจ และการจัดการกับธาตุน้ำแข็ง
หลังจากนั้นเวลาก็ค่อยๆผ่านไปทีละวินาที เมื่อซือเฟิงอัดฉีดมานาของเขาเข้าไปมากขึ้น เรื่องทั้งหมดที่ถูกบันทึกไว้ในคริสตัลก็เริ่มไหลเข้าสู่สมองของซือเฟิงมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ซือเฟิงที่จดจ่ออยู่กับข้อมูลทั้งหมดตลอดเวลาก็รู้สึกทึ่งกับข้อมูลที่เขาได้เรียนรู้
น่าเสียดายจริงๆ ! คำแนะนำมันแทบไม่ได้พูดถึงองค์ประกอบธาตุอื่นนอกจากธาตุน้ำแข็งเลย หากมันมีคำแนะนำขององค์ประกอบธาตุอื่นเทียบเท่ากับองค์ประกอบธาตุน้ำแข็ง ฉันก็คงจะสามารถไปถึงขั้นสุดยอดปรมาจารย์นักเวทย์ได้ในทันที และฉันก็อาจมีโอกาสที่จะยืนหยัดต่อกรกับมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายแบบตัวต่อตัวได้เลย
ซือเฟิงถอนหายใจออกมา แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียดายดังที่กล่าวไปข้างต้น แต่เขาก็รู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่เขาได้รับมาทั้งหมดมากๆ
เขาต้องยอมรับเลยว่าตัวตนระดับนักบุญนั้นทรงพลังอย่างแท้จริง และนักบุญที่สามารถควบคุมธาตุๆหนึ่งได้จนถึงจุดสูงสุดนั้นก็น่าทึ่งมากๆ ความเข้าใจของพวกเขาเกี่ยวกับธาตุที่พวกเขาถนัดนั้นมันอยู่ระดับที่สูงจนน่ากลัว
อย่างไรก็ตามในคำอธิบายและสาธิตช่วงท้ายๆของนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งนั้นมันซับซ้อนมากๆ และซือเฟิงก็เข้าใจเพียงแค่พื้นผิวของคำพูดของนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งเท่านั้น แต่เขายังไม่ได้เข้าใจว่าจะนำไปใช้ในทางปฎิบัติได้อย่างไร
ดังนั้นซือเฟิงจึงเลือกจะเมินเฉยต่อคำอธิบายและการสาธิตในช่วงท้ายๆไปก่อน
แต่ถึงมันจะเป็นแบบนี้ เขาก็ยังสามารถจะพูดได้ว่าเขาได้รับผลกำไรอย่างมหาศาลจากคริสตัลคำแนะนำมรดกนี้ ตอนนี้เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการ และเรื่องราวของธาตุน้ำแข็งเพิ่มขึ้นมาก และสิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้ก็คือการทดลองความรู้ใหม่ที่เขาได้รู้มา ….
มรดกของนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งนี้มันมีความพิเศษอย่างแท้จริง ฉันจะต้องให้ไวโอเล็ตคลาวด์และคนอื่นๆได้ศึกษามันด้วย มันจะเป็นการสูญเปล่าถ้าไปมอบให้กับบางคนที่ไม่มีความสัมพันธ์กับธาตุน้ำแข็งเลย ตอนนี้ซือเฟิงได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับคริสตัลคำแนะนำมรดกในมือของเขา
เขาจะไม่ให้ความสำคัญกับมันขนาดนี้เลย หากมันเป็นคำแนะนำมรดกทั่วไป แต่นี่มันแตกต่างออกไป เพราะมันเป็นคำแนะนำมรดกของนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งที่อธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับธาตุน้ำแข็งไว้อย่างละเอียด และมันก็ต้องบอกเลยว่ามันโชคดีมากจริงๆที่เขาได้มาใช้มันที่นี่ เนื่องจากมันทำให้เขาเข้าใจข้อมูลที่ถูกบันทึกอยู่ภายในได้ราวยี่สิบเปอเซ็นต์เลย หากเขาไปใช้ในโลกยุคปัจจุบันของ God domain เขาอจจะเข้าใจไม่ถึงห้าเปอเซ็นต์ด้วยซ้ำ อันเนื่องมาจากเขามีความสัมพันธ์กับธาตุไฟมากกว่าน้ำแข็ง
ซึ่งมันทำให้ตอนนี้เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับธาตุน้ำแข็งแทบจะเรียกได้ว่ามากกว่าธาตุไฟของเขาเลย
หลังจากทำการประมวลข้อมูลของคำแนะนำมรดกนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งเรียบร้อยแล้ว ซือเฟิงก็ได้นำน้ำวิญญาณออกมาดื่มไปหนึ่งหยด ซึ่งมันช่วยเพิ่มอัตราการฟื้นฟูค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขา และทำให้สมองของเขาทำงานได้ดีขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ได้เริ่มพยายามที่จะทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ของร่างมานาของเขาด้วยการสร้างวงเวทย์ที่เชื่อมโยงและควบคุมร่างมานาในส่วนต่างๆของเขาขึ้นใหม่เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
ก่อนหน้านี้ฉันได้ยืนยันที่จะใช้วิธีการจัดการมานาเพียงวิธีเดียวในการควบคุมวงเวทย์ในร่างมานาของฉัน ในทางกลับกันนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งได้สร้างร่างมานาของตัวเองขึ้นมาจากธาตุน้ำแข็ง และใช้วิธีการจัดการมานาหลายวิธีเพื่อรวบรวมและจัดการกับธาตุน้ำแข็ง สำหรับตอนนี้ ฉันควรจะลองทำตามตัวอย่างที่เขาทำ และใช้สักสองวิธีเพื่อจัดการควบคุมวงเวทย์ในร่างมานาของฉัน
หลังจากคิดมาถึงจุดนี้ ซือเฟิงก็ได้เริ่มทำการทดลอง ….
ก่อนหน้านี้เขาเคยควบคุมวงเวทย์บนร่างมานาของเขาตามโครงสร้างร่างมานาของเขา เพราะเขาเชื่อว่านี่มันเป็นวิธีเดียวที่จะใช้จัดการกับมานาในร่างมานาของเขาได้ อย่างไรก็ตามความคิดของเขาก็ได้เปลี่ยนไป หลังจากที่ได้เห็นนักบุญแห่งโลกน้ำแข็งใช้วิธีการจัดการหลายวิธีเพื่อควบคุมวงเวทย์บนร่างมานาของเขา
เมื่อซือเฟิงทำการฝึกนั้น ในตอนที่ใช้สองวิธีในการจัดการมานา เขาทำมันได้สบายๆมาก ดังนั้นเขาจึงได้ลองใช้เป็นสามวิธีแทน และผลปรากฎว่ามันก็ทำให้ร่างมานาของเขาทะลุขีดจำกัดไปได้ถึงหนึ่งร้อยสิบสองเปอเซ็นต์ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์และความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามพอเป็นสามวิธีมันก็ผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาไปอย่างรวดเร็วมากๆจนเขาไม่สามารถจะใช้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงเทคนิคมานาเลย
ซึ่งมันทำให้ซือเฟิงได้เลือกที่จะกลับมาใช้การจัดการมานาสองวิธีเหมือนเดิม และระหว่างที่เขาทดลองนั้น อัตราความสำเร็จของร่างมานาของซือเฟิงก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันอัตราการผลาญค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
87%… 102%… 99%…
นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายที่มันเหมาะกับฉันแล้ว ฉันจะพอใจมากตราบใดที่มันสามารถทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยสามเปอเซ็นต์ได้ จากวิธีการจัดการที่หลากหลายที่ซือเฟิงได้ทดลอง วิธีที่ดีที่สุดนั้นให้ผลลัพธ์ได้สูงสุดที่หนึ่งร้อยสามเปอเซ็นต์ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พึงพอใจกับมันเลย เพราะท้ายที่สุดเขาได้สัมผัสมาแล้วว่าการได้มีร่างมานาที่ปลดล๊อคศักยภาพได้หนึ่งร้อยสิบสองเปอเซ็นต์นั้นเป็นยังไง ในขณะเดียวกัน หลังจากรวมวิธีการจัดการมานาเมื่อใช้ไลท์ชาโด้วเข้ามาด้วย ซือเฟิงก็ได้ปรับแต่งวิธีการอย่างต่อเนื่องจนทำให้เขาสามารถสร้างสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นชุดวิธีผสมที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในปัจจุบัน
หากวิธีนี้ยังใช้ไม่ได้ผล เขาก็จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้วิธีที่ทำให้ร่างมานาสามารถปลดล๊อคศักยภาพไปได้ที่หนึ่งร้อยสามเปอเซ็นต์
หลังจากคิดได้ดังนี้ ซือเฟิงก็ได้เลือกจะสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เขาจะเริ่มจัดการวงเวทย์ภายในร่างมานาของเขา
ทันใดนั้นวงเวทย์ก็ค่อยๆทำงานไปทีละวงๆ โดยมันได้ดึงมานารอบห้องมาเพิ่มความหนาแน่นให้กับมานารอบๆตัวเขา
120%… 134%… 157%…
เมื่อความหนาแน่นของมานารอบๆซือเฟิงเพิ่มขึ้น ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาก็ตอบสนองไวขึ้นมาเล็กน้อย ….
ช่วงเวลาต่อมา วงเวทย์จำนวนมากทั่วร่างมานาของซือเฟิงก็เริ่มมารวมตัวกันเป็นวงเวทย์ขนาดใหญ่พิเศษ
ตู้ม !
ทันใดนั้นการกระเพื่อมของมานาก็กระจายออกมาจากร่างของซือเฟิง และพุ่งไปหากำแพงโดยรอบ จากนั้นมานาภายในห้องนั่งเล่นก็หยุดนิ่ง
อย่างไรก็ตามครู่ต่อมาทุกส่วนของมานาภายในห้องก็ได้มารวมตัวกันรอบๆซือเฟิง และกลายเป็นชั้นหมอกจางๆที่ก่อตัวขึ้นรอบตัวเขา
หากคนๆหนึ่งไม่ได้มีประสาทสัมการรับรู้มานาที่ไวเป็นพิเศษ คนๆนั้นก็จะไม่ได้สังเกตเห็นชั้นของมานที่ควบแน่นไหลผ่านร่างกายของซือเฟิงเลย
ระบบ : ยินดีด้วย ! คุณทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ของคุณได้สำเร็จ !! และได้รับอัตราความสำเร็จหนึ่งร้อยสิบเปอเซ็นต์ !!!