อ่านด้วยสำคัญ เดี๋ยวจะงง **** ขอปรับแก้นิดหน่อยนะ * ซือเฟิงขายน้ำวิญญาณ (Soul water) ไม่ใช่น้ำแหน่งชีวิต (Water of life) แอดเบลออ่านแล้วแปลผิดขออภัย
ตอนที่ 2777 สร้างความตกตะลึงให้กับสกายแฟร์
ความว่างเปล่าอันมืดมิดได้เข้าล้อมรอบสนามรบ ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นขั้นสามเลย แม้แต่ผู้เล่นขั้นสี่ก็ยังไม่น่าจะสามารถอยู่รอดในพื้นที่แบบนี้ได้
ในขณะเดียวกันเหล่าผู้บริหารของโรงแรมสกายแฟร์ที่นั่งอยู่บนที่นั่งของผู้ชมก็ล้วนตกตะลึงเมื่อได้เห็นฉากนี้
“การโจมตีสะบัดดาบเพียงแค่ครั้งเดียวมีพลังมากขนาดนี้ได้ยังไง ?!”
“แม้แต่ NPC ขั้นสี่ก็ยังไม่สามารถจะแสดงพลังแบบนี้ออกมาได้เลย นี่เขาเป็นแค่ผู้เล่นขั้นสี่จริงๆงั้นหรอ ?!”
“เขามีพลังที่น่ากลัวมากๆ แต่เรากับหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาไม่ได้เลย นี่เขาเป็นใครกัน ?!”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง พวกผู้บริหารของโรงแรมสกายแฟร์ก็เริ่มพูดคุยกันอย่างดุเดือด ในขณะที่พวกเขาจ้องมองไปยังพื้นที่ตรงหน้า ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้ประเมินซือเฟิงต่ำอีกต่อไปแล้ว โดยตอนนี้ดวงตาของพวกเขาก็มีเพียงแต่ความตกตะลึงและความกลัวเท่านั้น ขณะที่มองไปยังซือเฟิง
ด้วยพลังในการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวแบบนี้ ซือเฟิงจึงไม่ใช่ผู้ที่จะใช้กลยุทธ์เน้นจำนวนมากเข้าว่า เข้ากดดันได้เลย และมันก็มีเพียง NPC ขั้นสี่ที่ทรงพลังเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้
เขาแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?!
ดวงตาของยู่หลัวเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ ในขณะที่เธอมองไปยังพื้นที่ที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆและดูพินาศตรงหน้า แม้แต่การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของแองเจลิก้า เทเรซ่าก็ยังไม่สามารถจะเทียบกับการโจมตีของซือเฟิงได้เลย นี่คือสิ่งที่เธอสามารถบอกได้
แองเจลิก้า เทเรซ่านั้นเป็นตัวตนที่แทบจะยืนอยู่ในจุดสูงสุดของสี่ และเป็นหนึ่งในห้าตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในเมืองอุกกาบาต นอจากนี้ในฐานะ NPC ไอเทมและค่าสถานะพื้นฐานที่เธอมีนั้นมันเหนือกว่าผู้เล่นมากๆ
กระนั้นซือเฟิงกับสามารถใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งและรุนแรงกว่าของแองเจลินก้า เทเรซ่าได้
“ผู้บัญชาการ !!”
“ผู้บัญชาการไม่ได้ตายจากการโจมตีนี้ใช่ไหม ? ….” หลังจากนั้นไม่นานวินเชเซอร์ และคนอื่นๆก็หายจากอาการตกตะลึง และพวกเขาก็ได้พยายามค้นหาร่างของไลอ้อนฮาร์ทอย่างเร่งรีบในความว่างเปล่าอันมืดมิด จากการโจมตีของผู้เล่นที่พวกเขาเคยเห็นมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ การโจมตีของซือเฟิงนั้นจัดว่าทรงพลังที่สุด และแม้แต่ NPC ขั้นสี่ส่วนใหญ่ก็ยังจะทำแบบเขาไม่ได้แน่นอน ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าไลอ้อนฮาร์ทมีพลังป้องกันที่จัดว่าท้าทายสวรรค์ แต่พวกเขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าไลอ้อนฮาร์ทจะสามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของซือเฟิงได้รึปล่าว
หลังจากทุกคนค้นหามาระยะหนึ่ง พื้นที่ที่แตกออกเป็นเสี่ยงก็ค่อยๆฟื้นฟูตัวเองขึ้นมา และมันก็ปรากฎร่างสองร่างนั้นยืนอยู่บริเวณพื้นที่ที่ฟื้นฟูตัวเองขึ้นมา โดยร่างหนึ่งในสองร่างนี้นั้นดูน่าสังเวชมากๆ
“ยอดเยี่ยม !! ผู้บัญชาการยังมีชีวิตอยู่ !!!”
“ฉันกะแล้วว่าผู้บัญชาการจะต้องสามารถต้านทานมันได้ !! เพราะคือกำแพงเหล็กแห่งเมืองอุกกาบาต !!! มันไม่มีทางที่เขาจะถูกผู้เล่นคนหนึ่งฆ่าในการโจมตีเดียวหรอก !!!”
เมื่อสมาชิกของสกายแฟร์เห็นร่างของไลอ้อนฮาร์ท พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามสำหรับไลอ้อนฮาร์ท เขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือดีใจแต่อย่างใด แต่ตอนนี้หัวใจของเขากับเต้นแรงด้วยความกลัวและโล่งอกมากกว่า
นี่มันเกือบไปแล้วจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะแหวนกำแพงลม ฉันคงถูกฆ่าในการโจมตีเดียวแน่ๆ ไลอ้อนฮาร์ทยิ้มอย่างขมขื่น ขณะที่มองไปยัง HP ที่ยังเหลืออยู่ของตัวเอง
ปัจจุบันเขามี HP เหลือน้อยกว่าหกล้าน ซึ่งแม้ว่ามันจะดูเหมือนมาก แต่เขาก็สามารถรักษา HP ไว้ได้เท่านี้ เพราะสกิลพาสซีฟของแหวนกำแพงลม
สกิลพาสซีฟของแหวนกำแพงลม Wind’s Protection นั้นมันช่วยลดความเสียหายทั้งหมดที่เขาได้รับลงสามสิบห้าเปอเซ็นต์ และแม้ว่าเขาจะได้รับการโจมตีขั้นห้า แต่ความเสียหายทั้งหมดก็ยังจะลดลงสามสิบห้าเปอเซ็นต์เต็มจำนวน ซึ่ง Wind’s Protection นั้นเป็นสกิลพาสซีฟเพียงสกิลเดียวของแหวนกำแพงลม
แหวนกำแพงลมนั้นค่อนข้างจะแตกต่างจากอุปกรณ์อื่นๆที่มีสกิลพาสซีฟลดค่าความเสียหาย แม้ว่ามันจะมีสกิลบางส่วนทั้งพาสซีฟและไม่พาสซีฟที่ช่วยลดความเสียหายได้มากกว่า Wind’s Protection แต่ขีดจำกัดที่จะทนได้ของมันก็อยู่แค่การโจมตีขั้นสี่เท่านั้น โดยผลของมันก็จะลดลงอย่างมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีขั้นห้า
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่สำหรับ Wind’s Protection ซึ่งมันได้ระบุไว้ชัดเจนเลยว่า มันสามารถจะช่วยลดค่าความเสียหายที่ได้รับจากการโจมตีได้สามสิบห้าเปอเซ็นต์ แม้ว่าการโจมตีนั้นจะอยู่ในขั้นห้าก็ตาม
อีกด้านหนึ่ง หลังจากซือเฟิงได้ใช้โฮลี่ดีวอร์ไปใบหน้าของเขาก็ซีดลงอย่างมาก
มันยากเกินไปที่จะใช้การเคลื่อนไหวแบบนี้งั้นหรอ ?
เมื่อซือเฟิงรู้สึกว่าค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจมากกว่าครึ่งของเขาหาย เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
เขาได้ปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาระดับอีปิคของเขาได้หนึ่งร้อยสิบเปอเซ็นต์แล้ว แต่เขาก็ยังคงมีปัญหาในการจะรวบรวมและกลั่นมานาที่จำเป็นต่อการใช้โฮลี่วอร์แบบสมบูรณ์ ชั่วขณะหนึ่งมันทำให้ซือเฟิงอดที่จะจินตนาการไม่ได้เลยว่า เขาจะแสดงพลังออกมาได้มากแค่ไหน หากเขาสามารถใช้ดาบที่สาม การทำลายล้างศักสิทธิ์ได้
ขั้นห้า ?
ขั้นหก ?
เอาเถอะ ไม่ว่าจะเป็นยังไงตอนนี้ผลลัพธ์มันก็ออกมาดีแล้วล่ะนะ …. ฉันามารถที่จะใช้โฮลี่ดีวอร์แบบสมบูรณ์จริงๆได้แล้ว ตอนนี้ฉันน่าจะสามารถรับมือได้แม้กระทั่งครึ่งก้าวราชันปีศาจ ขณะที่ซือเฟิงเก็บ Abyssal Blade เข้าฝัก เขาก็รู้สึกพึงพอใจกับการโจมตีเมื่อครู่ของเขามากๆ
แม้ว่าการใช้โฮลี่ดีวอร์แบบสมบูรณ์จริงๆมันจะยังคงเป็นภาระต่อค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาอย่างมาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเมื่อครู่มันก็จัดว่าดีกว่าเดิมมาก เพราะท้ายที่สุดแล้ว เมื่อครู่เขาสามารถแสดงพลังในการโจมตีของขั้นห้าออกมาได้เลย หากเขาสามารถแก้ปัญหาและลดค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของตัวเองลงได้ในตอนที่ใช้มัน โฮลี่ดีวอร์ก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งการโจมตีที่น่ากลัวของเขาได้เลย
ในขณะที่ซือเฟิงกำลังอิ่มเอมใจไปกับผลลัพธ์ที่เขาได้มา ไลอ้อนฮาร์ทก็ได้เดินเข้ามาหาเขา
“แบล๊คเฟรม การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ของคุณมันช่างน่ากลัวจริงๆ ถ้าเมื่อเร็วๆนี้ฉันไม่ได้รับการปรับปรุงบางอย่างมาก ฉันคงจะตายในการโจมตีเดียวของคุณจริงๆ” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าวด้วยรอยยิ้มจริงใจ
ในตอนนี้ไลอ้อนฮาร์ทไม่ได้มองข้าม ดูถูก หรือครหาใดๆซือเฟิงอีกแล้ว ตอนนี้มันเหลือแต่เพียงความเคารพเท่านั้นที่อยู่ในดวงตาของเขา ขณะที่เขาจ้องมองไปยังซือเฟิง โดยผู้ที่สามารถใช้การเคลื่อนไหวโจมตีแบบนี้ได้ มันได้แสดงเห็นอย่างชัดเจนว่าเขาได้ขึ้นไปยืนอยู่แทบจะในจุดสูดของผู้เล่นในระยะนี้ของเกมแล้ว ซึ่งใน God domain แค่จุดนี้มันก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้ซือเฟิงคู่ควรแก่การได้รับความเคารพ เพราะท้ายที่สุดความแข็งแกร่งนั้นมันคือทุกสิ่งของโลกนี้ นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่แน่นอนเลยคือกว่าซือเฟิงจะมาถึงตรงนี้ได้เขาก็คงจะต้องผ่านประสบการณ์และความยากลำบากมานับไม่ถ้วน
“คุณก็ถ่อมตัวเกินไป ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท ความจริงที่ว่าคุณสามารถรอดจากการโจมตีเมื่อครู่ของฉันได้มันเป็นเพราะความสามารถของตัวคุณเองนั่นแหละ ไม่ใช่โชค ….” เมื่อมองไปที่ไลอ้อนฮาร์ท ซือเฟิงก็กล่าวเสริมต่อว่า “ตอนนี้การทดสอบของเราเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ฉันจะจัดหาคริสตัลแห่งวิญญาณ และน้ำวิญญาณ ให้เฉพาะทีมนักผจญภัยสายแฟร์ในด้านของเมืองอุกกาบาต”
“ขอบคุณมาก สำหรับเรื่องของคริสตัลเวทย์มนต์ โปรดมั่นใจได้เลย ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน คุณแบล๊คเฟรม” ไลอ้อนฮาร์ทอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุข เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง
ด้วยการที่ซือเฟิงยินดีที่จะเป็นพันธมิตรกับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ในระยะยาว มันจะทำให้ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์สามารถควบคุมเมืองอุกกาบาตได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน
“ต่อไปเรามาพูดถึงรายละเอียดเฉพาะสำหรับการทำธุรกรรมของเราดีกว่า” ซือเฟิงพูดเข้าตรงประเด็น “อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ตราบใดที่คุณสามารถเอาชีวิตจากการโจมตีหนึ่งครั้งของฉันได้ ฉันก็จะตกลงที่จะเป็นพันธมิตรกับคุณ ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท อย่างไรก็ตามหลังจากที่เราเริ่มความร่วมมือระหว่างกันแล้ว ฉันก็ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”
“แน่นอนว่า ฉันไม่ได้คิดจะขอให้คุณช่วยฟรีๆ เพื่อเป็นค่าตอบแทน ฉันจะขายคริสตัลแห่งวิญญาณให้ในราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งแสนห้าหมื่นชิ้นต่อชิ้นในระยะยาว คุณคิดว่าไง ?”
“คริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งแสนห้าหมื่นชิ้นต่อคริสตัลแห่งวิญญาณหนึ่งชิ้น ?” ไลอ้อนฮาร์ทรู้สึกถูกล่อลวงเล็กน้อย “คุณต้องการความช่วยเหลือแบบไหนกัน ?”
ก่อนหน้านี้ในตอนที่เขาเสนอจะซื้อคริสตัลแห่งวิญญาณหนึ่งชิ้นในราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สองแสนชิ้นนั้นมันเป็นอะไรที่เกินกว่าที่สกายแฟร์จะรับได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตามคริสตัลแห่งวิญญาณนั้นก็มีความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสกายแฟร์เริ่มขยายสาขาเข้าไปยังเมืองอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ต้องกัดฟันยอมรับราคานี้
การที่ราคาของคริสตัลแห่งวิญญาณลดลงเหลือเป็นคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งแสนห้าหมื่นชิ้นต่อชิ้น มันจะช่วยลดภาระของสกายแฟร์ลงไปได้มาก
“ช่วยฉันฆ่าบอสตัวหนึ่ง …” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เหตุผลหลักที่ซือเฟิงต้องการจะทดสอบไลอ้อนฮาร์ทนั้นมันไม่ใช่แค่เพื่อทดสอบพลังและร่างมานาของเขา แต่เขายังต้องการจะดูว่าไลอ้อนฮาร์ทสามารถจะทนทานต่อการโจมตีของมังกรเด็กขั้นสี่ได้หรือไม่ เพราะท้ายที่สุดถ้าเขาไม่มีแท๊งเกอร์ที่มีความสามารถมากพอจะแท๊งมังกรเด็กขั้นสี่ การจะฆ่ามันให้ได้ก็เป็นไปไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้เนื่องจากไลอ้อนฮาร์ทมีคุณสมบัติตรงตามที่เขาต้องการ และเมื่อรวมเข้ากับสกิล Heavenly Dragon’s Breath การฆ่ามังกรเด็กขั้นสี่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
“ฆ่าบอสงั้นหรอ ?” ไลอ้อนฮาร์ทรู้สึกงงงวยเล็กน้อย เขาไม่นึกเลยซือเฟิงจะต้องการความช่วยเหลือในเรื่องที่เรียบง่ายแบบนี้ “บอสตัวนี้แข็งแกร่งมากเลยงั้นหรอ ?”
“มันแข็งแกร่งมากๆ” ซือเฟิงกล่าวโดยไม่คิดจะปิดบังความจริง “มันคือมังกรเด็กขั้นสี่ !!”
“มังกรเด็กขั้นสี่ ?” ไลอ้อนฮาร์ทอ้าปากค้าง เมื่อเขาได้ยินคำพูดของซือเฟิง หลังจากนั้นเขาก็เริ่มตระหนักได้ถึงบางสิ่งทันที ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากถามว่า “คุณหมายถึงมังกรตัวเดียวกันกับที่ท่านหญิงแองเจลิก้าพยายามจะไปฆ่าใช่ไหม ?”
“ใช่แล้ว ตัวนั้นแหละ …” ซือเฟิงพยักหน้า “อันที่จริงเรื่องนี้มันจะเป็นประโยชน์ต่อคุณเช่นกัน ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท เพราะท้ายที่สุดหากเราฆ่ามันได้สำเร็จ เมืองอุกกาบาตก็จะถูกอัพเกรด ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้นมันก็จะดึงดูดผู้เล่นและทรัพยากรเข้ามาในเมืองมากขึ้น และในเวลานั้นสกายแฟร์ก็จะสามารถเติบโตไปพร้อมๆกับเมืองได้อย่างแข็งแกร่ง”
ไลอ้อนฮาร์ทพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของซือเฟิง
ในความเป็นจริงเขาเองก็ปราถนาแบบที่ซือเฟิงพูดมาทั้งหมดนั่นแหละ อย่างไรก็ตามด้วยความที่การท้าทายมังกรเด็กขั้นสี่นั้นมันยากมากๆ เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะให้สกายแฟร์ยกเลิกการเดินทางไปพร้อมกับแองเจลิก้า เทเรซ่า
อย่างไรก็ตามตอนนี้สกายแฟร์มีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของตัวเองแล้วสองคน แม้ว่าทีมนักผจญภัยจะยังมีสถานะที่ไม่เสถียรมากนักในเมืองอุกกาบาต แต่พวกเขาตอนนี้ก็จัดว่าเหนือกว่ากลุ่มอื่นๆมากๆ ซึ่งหากพวกเขาต้องสูญเสียอย่างหนักในระหว่างการฆ่ามังกรเด็กขั้นสี่นี้ พวกเขาก็จะสูญเสียข้อได้เปรียบของตัวเองไป
“คุณคิดยังไง ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท ?” ซือเฟิงกล่าวถาม ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มีความหวังมากนักในการจะฆ่ามังกรเด็กขั้นสี่ เพราะท้ายที่สุดแล้วมังกรเด็กขั้นสี่นั้นสามารถจะเทียบเท่ากับสิ่งมีชีวิตขั้นห้าทั่วไปได้เลย และแม้ว่าเขาจะสามารถใช้โฮลี่ดีวอร์แบบสมบูรณ์ได้แล้วในตอนนี้ แต่มันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างใดๆเลย เนื่องจากเขาไม่สามารถใช้เทคนิคนี้ได้เรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามทุกอย่างจะเปลี่ยนไป หากมีไลอ้อนฮาร์ทอยู่
ความจริงที่ว่าไลอ้อนฮาร์ทสามารถรอดชีวิตจกการโจมตีขั้นห้าได้ มันก็หมายความว่าเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีจากมังกรเด็กขั้นสี่ได้แน่นอน
“โอเค” หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ไลอ้อนฮาร์ทก็กัดฟัน และยอมรับคำขอของซือเฟิง อย่างไรก็ตามฉันต้องบอกคุณก่อน เนื่องจากสกายแฟร์พึ่งจะชิงความได้เปรียบส่วนใหญ่เหนือกองกำลังอื่นๆมาได้ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถจะลงทุนเต็มที่เพื่อช่วยเหลือคุณในเรื่องนี้ได้ และเราก็จะสามารถส่งทีมที่ดีที่สุดของเราไปได้แค่หนึ่งร้อยคนเท่านั้นในเรื่องนี้”
เมื่อเห็นท่าทีของไลอ้อนฮาร์ท ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “นั่นมันก็มากเกินพอแล้ว ตราบใดที่สกายแฟร์สามารถส่งผู้เล่นขั้นสี่มากับทีมหนึ่งร้อยคนได้ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ….”
“ว่าแต่ปฎิบัติการฆ่าบอสนี้จะเริ่มเมื่อไหร่ ?” ไลอ้อนฮาร์ทถาม
การโจมตีมังกรเด็กขั้นสี่นั้นนับเป็นงานใหญ่ ดังนั้นการเตรียมกำลังคนกับสิ่งของที่จำเป็นในเรื่องนี้ มันจึงต้องใช้เวลามาก
“ฉันไม่ได้เร่งรีบใดๆ มันน่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายวันเลยทีเดียวก่อนที่เราจะออกเดินทางไปกัน ….” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว “ฉันจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อถึงเวลา ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท”
การท้าทายและโจมตีมังกรเด็กขั้นสี่ด้วยผู้เล่นขั้นสี่เพียงสามคน มันจะเป็นการฆ่าตัวตาย และพูดกันตามตรงมันก็ไม่สำคัญเลยว่าพวกเขาจะมีผู้เล่นขั้นสามสนับสนุนมากแค่ไหน แต่โชคดีที่โลกยุคโบราณของ God domain นั้นไม่ได้ต้องการให้ผู้เล่นไปค้นหาดินแดนมรดกเพื่อท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ ดังนั้นตราบใดที่เขาให้ไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆไปท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ และรอจนพวกเขาบางคนทำเควสได้เสร็จสิ้น เขาก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จขึ้นมาก
“โอเค งั้นฉันจะได้เตรียมการในด้านของฉันได้อย่างไม่ต้องเร่งรีบ” ไลอ้อนฮาร์ทถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง
หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้เซ็นสัญญาทำธุรกรรมและเป็นพันธมิตรกับไลอ้อนฮาร์ท โดยมีเนื้อหาว่าสกายแฟร์จะจัดซื้อคริสตัลแห่งวิญญาณในราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์หน่งแสนห้าหมื่นชิ้นต่อชิ้น และจัดซื้อน้ำวิญญาณในราคาเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สามหมื่นชิ้นต่อหยด และสำหรับการทำธุรกรรมครั้งแรก สกายแฟร์จะจัดซื้อน้ำวิญญาณห้าสิบหยด พร้อมกับคริสตัลแห่งวิญญาณยี่สิบชิ้นจากซือเฟิง ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วคิดเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สี่ล้านห้าแสนชิ้น และเมื่อพูดถึงในด้านคริสตัลเวทย์มนต์ สกายแฟร์นั้นร่ำรวยกว่ามหาอำนาจส่วนใหญ่ในโลกยุคปัจจุบันของ God domain ซะอีก
เมื่อการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความสุข
เพราะท้ายที่สุดตอนนี้มันเท่ากับว่าเขามีคริสตัลเวทย์มนต์แปดล้านชิ้นที่ไว้สำหรับสร้างป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เหลือที่เขาต้องทำมันก็แค่รวบรวมแร่มานาให้ได้สองล้านชิ้น กับหินมานาสามหมื่นก้อน นอกจากนี้เขาก็ยังมีโอกาสในการจะโจมตีและฆ่ามังกรเด็กขั้นสี่ด้วย
หลังจากนั้นซือเฟิงก็เดินออกจากโรงแรมสกายแฟร์ไปด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้ฉันมีคริสตัลเวทย์มนต์มากพอแล้ว มันถึงเวลาที่จะให้ไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆไปทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่สักที ….