ตอนที่ 2785 ช่องว่างที่ค่อยๆแสดงออกมา
เมืองอุกกาบาต ถนนสายหลัก :
เมื่อซือเฟิงเดินเข้ามาในเมือง เขาก็พบว่าผู้เล่นภายในเมืองนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก
มันมีผู้เล่นขั้นสามบนถนนสายหลักเพิ่มขึ้นมาราวสิบถึงยี่สิบเปอเซ็นต์จากเดิม ซึ่งนี่มันนับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มาก เพราะนี่มันเป็นแค่บนนถนนเส้นเดียวเท่านั้น หากให้ซือเฟิงประมาณจริงๆทั่วทั่งเมืองอุกกาบาตตอนนี้น่าจะมีผู้เล่นขั้นสามเพิ่มขึ้นราวสิบเปอเซ็นต์แล้ว
ซึ่งจำนวนตัวเลขราวสิบเปอเซ็นต์นี้ เมื่อเทียบกับประชากรผู้เล่นของเมืองอุกกาบาตแล้วมันก็เท่ากับหลายแสนคนเลย โดยมันเป็นจำนวนผู้เล่นขั้นสามที่มากกว่าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งห้ากิลรวมกันด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกันบรรยากาศในเมืองก็แปรเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยตอนนี้บรรยากาศมันเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความตื่นเต้น
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ซือเฟิงเดินต่อมาได้อีกไม่กี่นาที เขาก็ได้ยินเสียงโวยวาย และบ่นด้วยความโกรธเคืองของผู้เล่นขั้นสามจากบาร์กลางแจ้งริมถนน
“แม่งเอ้ย !!! ฉันไปสมัครเข้าร่วมทีมนักผจญภัยสกายแฟร์แต่ถูกปฎิเสธมา !!! ฉันเป็นแรนเจอร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยสามสิบเอ็ดนะ ทีมนักผจญภัยและกิลส่วนใหญ่ในเมืองล้วนแทบจะอ้าแขนต้อนรับฉัน แต่ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์กับปฎิเสธฉัน !!!” ชายหนุ่มที่มีผมสีดำและดูแข็งแรงกล่าวอย่างโกรธเคือง
ขณะเดียวกันชายวัยกลางคนเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบสองที่นั่งอยู่ข้างเขาก็ยิ้ม และพูดว่า “จะบ่นทำไมกัน ? คนเก่งกว่าคุณอีกหลายพันคนยังถูกทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ปฎิเสธจะรับเลย ตอนนี้เท่าที่ฉันรู้มามันมีน้อยกว่าสิบเปอเซ็นต์จากผู้สมัครที่จะผ่านเข้าร่วมทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ได้ และมันก็มีแนวโน้มที่เปอเซ็นต์นี้จะน้อยลงเรื่อยๆอันเนื่องมาจากเงื่อนไขที่จะเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ”
“ถูกต้อง ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์นั้นไม่เหมือนกับที่เคยเป็นมาในอดีตแล้ว ปัจจุบันทีมนักผจญภัยสกายแฟร์มีผู้เล่นขั้นสี่ทั้งหมดสี่คน และจากข้อมูลภายในที่ฉันได้รู้มา ที่สองคนนี้สามารถเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ได้ มันก็ต้องขอบคุณคริสตัลแห่งวิญญาณ และน้ำวิญญาณเลย และฉันก็ยังได้ยินมาว่าทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ก็ได้กักตุนคริสตัลแห่งวิญญาณและน้ำวิญญาณไว้อีกจำนวนมาก …. ซึ่งนี่มันจะทำให้ผู้คนสนใจจะเข้าร่วมกับพวกเขาอีกมากขึ้นแน่นอนในอนาคต” แอสซาซินขั้นสามเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบเอ็ดกล่าวเสริม
“หากฉันรู้เรื่องนี้ ฉันคงจะเข้าร่วมกับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ตั้งแต่เนิ่นๆ ….” ชายวัยกลางคนเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบสองกล่าวพลางถอนหายใจ
ในตอนนี้ผู้ที่จะสามารถเข้าร่วมกับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ได้จะต้องอยู่ในขอบเขตครึ่งก้าวก่อนเข้าสู่ขอบเขตการปรับแต่งเป็นอย่างน้อยซะก่อน ผู้เล่นขั้นสามทั่วไปไม่สามารถเข้าได้อีกแล้ว
“ดูเหมือนว่าช่วงนี้ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จะพัฒนาขึ้นไปอย่างมากจริงๆ …” ซือเฟิงไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนักกับเรื่องที่เขาได้ยิน
เนื่องจากมันมีผู้เล่นขั้นสามเพิ่มขึ้นมากในเมืองอุกกาบาต ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เกณฑ์การรับสมัครของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จะสูงขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ไม่มีกำลังมากพอจะดูแลผู้เล่นทั้งหมดที่ต้องการจะเข้ากับพวกเขาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นจะต้องคัดผู้เล่นตามเงื่อนไขที่พวกเขาตั้งเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้พวกเขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทีมนักผจญภัยของตัวเอง
หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้ฟังการพูดคุยกันมากมายของผู้คนเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ และเมืองอุกกาบาต และจากที่ซือเฟิงนำข้อมูลที่ได้มาเรียบเรียงทั้งหมด เขาก็คิดว่าทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จะเริ่มขยายสาขาออกไปยังเมือง NPC อื่นๆแน่นอน เมื่อพวกเขามีผู้เล่นขั้นสามมากเพียงพอ
ยิ่งไปกว่านั้นวัดจากความสามารถ ความแข็งแกร่ง และกำลังคนของพวกเขา มันก็คงจะมีกองกำลังน้อยมากที่จะสามารถต้านทานพวกเขาได้
ซึ่งนี่มันก็นับเป็นข่าวดีสำหรับซือเฟิง เพราะยิ่งทีมนักผจญภัยสกายแฟร์แข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งได้รับทรัพยากรมากขึ้นเท่านั้น
หลังจากเดินมาพักหนึ่ง ในที่สุดซือเฟิงก็มาถึงโรงแรมซิลเวอร์ที่เขาเช่าห้องพักไว้
โรงแรมซิลเวอร์ ห้องพักส่วนตัว :
เมื่อซือเฟิงเปิดประตูเข้ามา เขาก็พบว่าไลฟ์เลสธอร์นและคนอื่นๆได้มารอเขาอยู่นานแล้ว โดยจากทั้งห้าคนนั้นสามคนมีออร่าที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด และก็ยังมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ขณะที่อีกสองคนนั้นแทบไม่กล้าจะสู้หน้าซือ
เฟิงด้วยซ้ำ
โดยทั้งสามนั้นก็ได้แก่ไลฟ์ไลสธอร์น โซริทารี่ไนน์ และยู่หลัวที่ซือเฟิงสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาสามารถทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ได้สำเร็จ เพราะท้ายที่สุดออร่าของพวกเขาตอนนี้มันเปลี่ยนไปอย่างมากจริงๆ
“ผู้บัญชาการ เราทำให้คุณต้องผิดหวัง …”
หยานย่ามองไปที่ซือเฟิง ขณะที่เธอเดินเข้ามารายงานด้วยความรู้สึกที่หดหู่ใจ ส่วนคลีนซิ่งวิสเซิลเองก็ไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกหดหู่ใจมากๆที่ไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ผิดหวังใดๆ และพวกคุณก็อย่าท้อถอยแล้วกัน การเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่งั้นผู้เล่นคงไม่มีผู้เล่นที่ยังติดอยู่ที่ขั้นสามจำนวนมากหรอก และแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ยังีมโอกาสจะทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ล้มเหลวได้เลย ฉะนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงพวกคุณ” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เรียนรู้จากความล้มเหลวในครั้งนี้ แล้วเมื่อเวลามาถึงในครั้งหน้า พยายามทำให้มันดีขึ้นในจุดที่ผิดพลาด ฉันเชื่อว่ายังไงพวกคุณก็จะสามารถเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ได้สำเร็จแน่นอน”
เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนักที่หยานย่ากับคลีนซิ่งวิสเซิลจะล้มเหลวในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ และพูดกันตามตรงถ้าไลฟ์เลสธอร์นหรือโซริทารี่ไนน์ล้มเหลวด้วย เขาก็จะไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนักเช่นกัน
เนื่องจากมันยากมากๆในการจะทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่เพื่อก้าวไปสู่ขั้นสี่ให้สำเร็จ ซือเฟิงเข้าใจข้อนี้ดี โดยเฉพาะเรื่องเงื่อนไขในการให้ฝึกใช้สกิลและเวทย์มรดกขั้นสี่ให้ได้อัตราความสำเร็จแปดสิบเปอเซ็นต์หรือมากกว่าภายในเวลาที่กำหนดนั้นมันจัดว่ายากมากๆ เนื่องจากสกิลและเวทย์ขั้นสี่มีความซับซ้อนกว่าสกิลและเวทย์ขั้นสามมากๆ
ที่เขาสามารถจะทำสำเร็จได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ ครั้งแรกนั่นก็เป็นเพราะเขามีประสบการณ์มามากมายจากชีวิตที่ผ่านมาของเขา และตอนที่ทำเควสเขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมน ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างกับหยานย่า และคลีนซิ่งวิสเซิลมากๆ
ใน God domain ยุคปัจจุบัน แม้แต่สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆส่วนใหญ่มากกว่าเก้าสิบเปอเซ็นต์ก็จะล้มเหลวในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ ขณะที่บางคนต้องทำเควสเลื่อนขั้นนี้สองถึงสามครั้ง ส่วนบางคนห้าถึงหกครั้ง หรือบางคนอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเลยตลอดชีวิต
หากการเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นสี่ทำได้ง่ายๆ ตัวตนขั้นสี่ก็คงไม่เป็นที่เคารพอย่างมากใน God domain หรอก
ตอนนี้สำหรับบางคน นี่แหละคือช่วงเวลาที่ช่องว่างจะค่อยๆแสดงออกมา
ขณะเดียวกันยู่หลัวที่ยืนอยู่ด้านข้างก็พยักหน้าให้ด้วยความเห็นใจ
สำหรับตัวเธอเอง เธอก็เกือบจะล้มเหลวในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่เช่นกัน แต่ก็โชคดีที่เธอประสบความสำเร็จมาได้
“ผู้บัญชาการ ฉันกับคลีนซิ่งวิสเซิลสามารถจะอยู่ที่นี่ต่อตลอดไปได้ไหม ?” หยานย่าถามขณะที่มองไปยังซือเฟิงด้วยแววตาเชิงดื้อรั้น
ที่นี่นั้น พวกเธอสามารถจะไปท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ได้ง่ายมากๆ โดยพวกเธอเพียงแค่ต้องมีคริสตัลเวทย์มนต์ในจำนวนที่เพียงพอเท่านั้น ซึ่งตรงกันข้ามกับ God domain ยุคปัจจุบันที่พวกเธอต้องไปตามหาดินแดนมรดกด้วย ความยุ่งยากในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ของทั้งสองยุคมันแตกต่างกันมากๆ ….
“นี่ …” ซือเฟิงรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินคำถามของหยานย่า “ฉันไม่สามารถจะตอบเรื่องนี้ได้ แต่ฉันสามารถบอกได้เรื่องหนึ่งคือมันโอเคที่จะรออีกยี่สิบวันเพื่อท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ที่นี่อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามเธอจะอยู่ได้นานขนาดนั้นไหม ฉันไม่รู้ …”
ตามคำกล่าวของชายชรา ระยะเวลาที่พวกเขาสามารถจะอยู่ในโลกยุคโบราณของ God domain ได้นั้นมันไม่แน่นอน โดยเท่าที่ชายชราเตือนมา คือถ้าพวกเขาไปทำอะไรที่เป็นการดึงดูดความสนใจโลกนี้มากเกินไป โลกนี้ก็จะปฎิเสธตัวตนของพวกเขา และพวกเขาก็จะถูกขับไล่ออกไปอย่างรวดเร็ว
การไปดึงดูดความสนใจโลกนี้มากเกินไปก็อย่างเช่นสิ่งที่ซือเฟิงกำลังพยายามจะทำอย่างการฆ่ามังกรเด็กขั้นสี่เพื่อช่วยให้แองเจลิก้า เทเรซ่ากลายเป็นลอร์ดผู้ปกครองเมืองอุกกาบาตตามเควสที่เขาได้รับมานี่แหละ ….
และซือเฟิงก็มั่นใจเลยว่าเมื่อเขาทำเควสนี้เสร็จ เขาจะถูกขับไล่ออกจากโลก God domain ยุคโบราณแน่นอน แต่ซือเฟิงก็มั่นใจว่าหากเขาไม่ได้ทำอะไรที่เกินไปแบบการฆ่า NPC ที่สำคัญๆตามประวัติศาสตร์ของ God domain เขาก็น่าจะยังสามารถกลับเข้ามาที่นี่ได้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เขายังไม่รู้วิธีที่จะกลับเข้ามาก็เท่านั้น ….
“อย่างนั้นหรอ …” หยานย่า และคลีนซิ่งวิสเซิลรู้สึกหมดหนทางเมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง
หากพวกเขาต้องกลับไปโลกยุคปัจจุบันของ God domain นั้น มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขามากๆในการจะทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ และก่อนอื่นเลยพวกเขาก็จะต้องค้นหาดินแดนมรดกขั้นสี่ให้เจอก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หลังจากนั้นไลฟ์เลสธอร์น โซริทารี่ไนน์ ยู่หลัว และซือเฟิงก็ค่อยๆช่วยกันสอนเรื่องต่างๆให้กับหยานย่า และคลีนซิ่งวิสเซิล โดยเฉพาะเรื่องการควบคุมมานาในร่างมานาของตัวเอง …. ที่ผู้เล่นขั้นสี่จะทำแตกต่างจากผู้เล่นขั้นสามมากๆ
โดยหลังจากสอนกันอยู่เป็นเวลาราวครึ่งชั่วโมง ไลอ้อนฮาร์ทก็ได้ติดต่อซือเฟิงเข้ามา
ใน God domain ยุคโบราณ หากทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันมากเกินไปจะไม่สามารถวีดีโอคอลติดต่อกันได้ จะทำได้เพียงส่งข้อความเท่านั้น
และในการส่งข้อความนั้นยิ่งทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างไกลกันเท่าไหร่ การส่งก็จะมีระยะเวลานานเท่านั้นด้วย ในแง่ของเรื่องนี้มันค่อนข้างจะดูล้าหลังกว่า God domain ยุคปัจจุบันมากๆ
“แบล๊คเฟรม ในที่สุดคุณก็กลับมา …” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ฝั่งของฉันพร้อมมากแล้ว เราจะเจอกันเมื่อไหร่ ?”
“งั้นก็ตอนนี้เลยแล้วกัน เพราะฝั่งของฉันเองก็เสร็จเรื่องทุกอย่างแล้ว …” ซือเฟิง
กล่าวตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินคำถามของไลอ้อนฮาร์ท
ดูเหมือนว่าคริสตัลแห่งวิญญาณและน้ำวิญญาณจะมีประโยชน์มากๆสำหรับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ ไม่งั้นไลอ้อนฮาร์ทคงไม่รีบติดต่อเขาทันทีที่เขากลับมาเพื่อจะเติมเต็มสัญญาระหว่างกัน
“โอเคงั้นมาเจอกันที่โรงสกายแฟร์แล้วกัน พวกเราพร้อมแล้ว …” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าวด้วยรอยยิ้มมีความสุข “ฉันจะมอบความประหลาดใจอย่างมากให้กับคุณ เมื่อคุณมาถึงคุณแบล๊คเฟรม”
“อย่างนั้นหรอ ? ฉันจะรีบไปทันที …” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ และหลังจากนั้นเมื่อเขาวางสายจากไลอ้อนฮาร์ทไป เขาก็หันไปมองทั้งสามคนที่สามารถเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ได้แล้ว และกล่าวว่า “คุณสามคนรีบเตรียมตัว และออกไปกับฉัน เราจะไปที่โรงแรมสกายแฟร์เพื่อสมทบกับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ และออกเดินทางไปเพื่อเริ่มปฎิบัติการ !!!”
ทั้งสามพยักหน้ารับทันที พวกเขารู้ดีว่าที่ซือเฟิงยังไม่เริ่มปฎิบัติการของเขาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเพราะซือเฟิงต้องการรอให้พวกเขาเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ได้ก่อน และเมื่อพวกเขาทำสำเร็จแล้วแบบนี้ การที่ซือเฟิงจะเริ่มปฎิบัติการในทันทีที่เขากลับมา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใดๆ
สำหรับหยานย่า และคลีนซิ่งวิสเซิล พวกเธอเลือกจะอยู่ในเมืองอุกกาบาตต่อเพื่อดูว่าพวกเธอจะสามารถอยู่รอเวลายี่สิบวันเพื่อเริ่มท้าทายเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ได้อีกครั้งหรือไม่
หลังจากนั้นไม่นานซือเฟิงก็นำทั้งสามคนออกเดินทางไปยังโรงแรมสกายแฟร์