ตอนที่ 2786 ภูมิหลัง และภูมิหลัง
เมืองอุกกาบาต โรงแรมสกายแฟร์ :
เมื่อซือเฟิง และคนของเขาอีกสามคนมาถึง พวกระดับสูงของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์คนหนึ่งก็ได้นำพวกเขามาที่ห้องประชุมแห่งหนึ่งในโรงแรมที่มีขนาดเท่ากับสนามบาสเกตบอล ซึ่งตอนนี้ดูจะแออัดไปสักหน่อย
เมื่อซือเฟิงเดินเข้ามา เขาก็สังเกตเห็นว่ามันมีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งร้อยคนมารอเขาอยู่ที่ห้องประชุมนี้ก่อนแล้ว โดยทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนมีเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบสามหรือมากกว่าทั้งหมด และราวยี่สิบคนจากในนี้ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้น หากทีมๆนี้อยู่ในโลกยุคปัจจุบันของ God domain มันจะจัดเป็นทีมที่มหาอำนาจต่างๆทั้งหมดล้วนต้องให้ความสนใจแน่นอน
เนื่องจากทีมแบบนี้นั้นจะมีแค่เฉพาะมหาอำนาจที่แท้จริงเท่านั้นที่สามารถจัดขึ้นมาได้ กิลชั้นสูงนั้นไม่มีทางจะจัดทีมแบบนี้ขึ้นมาได้แน่นอน
และในหมู่พวกนี้ทั้งหมดนั้น มีห้าคนที่มีออร่าแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งมันชัดเจนเลยว่าทั้งห้าคนนี้เป็นผู้เล่นขั้นสี่แล้ว ซึ่งมันมีจำนวนมากกว่าที่ผู้คนภายในเมืองพูดคุยกันอยู่หนึ่งคน
คริมสันบีโลว์ แอสซาซินหญิงที่ครั้งก่อนยังไปไม่ถึงขั้นสี่ที่ซือเฟิงเจอ ตอนนี้ก็ได้มาถึงขั้นสี่แล้ว นอกเหนือจากคริมสันบีโลว์ รองผู้บัญชาการอีกสองคนของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ก็ได้มาถึงขั้นสี่แล้วเช่น
โดยคนหนึ่งนั้นคือเบอเซิกเกอร์เลเวลหนึ่งร้อยสามสิบห้า ขณะที่อีกคนหนึ่งนั้นมีชื่อว่าหยวนเหว่ย ซึ่งเธอเป็นรองผู้บัญชาการหญิงเพียงคนเดียวของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ และเธอเป็นออราเคิล
“คุณแบล๊คเฟรม เป็นยังไงบ้าง ?” ไลอ้อนฮาร์ทมองไปที่ซือเฟิงที่เดินเข้ามา พลางผายมือไปยังสมาชิกทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ที่เขารวบรวมมาด้วยรอยยิ้ม และกล่าวว่า “คุณพึงพอใจกับทีมๆนี้ไหม ?”
“ฉันพึงพอใจมากเลยทีเดียว ….” ซือเฟิงพยักหน้า ขณะที่มองไปยังสมาชิกทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ทั้งหมดที่ถูกรวบรวมมาด้วยรอยยิ้ม “ว่าแต่นี่คงไม่ใช่เรื่องที่คุณบอกว่าจะทำให้ฉันประหลาดใจอย่างมากใช่ไหม ? ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท”
ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นขั้นสี่ห้าคน ทีมมากกว่าหนึ่งร้อยคนทีมนี้นั้นจัดว่ามีพลังในการต่อสู้ที่น่าทึ่งมากๆ เพราะท้ายที่สุดแล้วอุปกรณ์ที่อ่อนแอที่สุดของทุกคนในนี้ก็ยังอยู่ในระดับอีปิค ขณะที่บางคนสวมใส่เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานครบเซ็ทด้วยซ้ำ และมันก็สามารถพูดได้เลยว่าเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานที่ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์มีนั้นมันมากกว่าที่มหาอำนาจต่างๆในโลกยุคปัจจุบันของ God domain มีซะอีก
แต่อย่างไรก็ตามการมีทีมมากกว่าหนึ่งร้อยคนที่ทรงพลังแบบนี้ มันไม่น่าจะใช่เรื่องที่ไลอ้อนฮาร์ทคิดว่าจะทำให้เขาประหลาดใจแน่นอน เพราะท้ายที่สุดแล้วส่วนหนึ่งที่ไลอ้อนฮาร์ทสามารถสร้างทีมแบบนี้ขึ้นมาได้มันก็เป็นเพราะคริสตัลแห่งวิญญาณ และน้ำวิญญาณของเขา
“ไม่ใช่แน่นอน” ไลอ้อนฮาร์ทยิ้ม และส่ายหัว จากนั้นเขาก็หยิบคริสตัลโบราณออกมาจากกระเป๋าของเขา “คุณคิดยังไงกับเจ้านี่ ?”
ซือเฟิงได้มองไปยังคริสตัลโบราณที่ไลอ้อนฮาร์ทหยิบออกมาจากกระเป๋า และใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันที
“คริสตัลปิดผนึกเวทย์ปีศาจขั้นห้า !!!” ซือเฟิงมองไปยังคริสตัลโบราณสีเทาเข้มในมือของไลอ้อนฮาร์ท โดยที่เขาแทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่านี่มันเป็นความจริง
ม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์ขั้นห้านั้นหายากมากๆใน God domain ซึ่งสาเหตุที่มันเป็นแบบนั้นก็เพราะ พลังของเวทย์มนต์ขั้นห้านั้นมันน่าทึ่งมากๆ และข้อกำหนดในการจะใช้ม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์กักเก็บพลังของมันก็สูงเกินไป และต่อให้ทำได้จริงๆ ม้วนคัมภีร์เวทย์มนต์นั้นๆก็จะมีพลังของเวทย์ขั้นห้าอยู่แค่ครึ่งหนึ่งจากเดิม
ขณะที่คริสตัลปิดผนึกนั้นสามารถจะปิดผนึกเวทย์มนต์ขั้นสี่หรือเหนือกว่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และแม้ว่าคริสตัลปิดผนึกจะสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว แต่มันก็ไม่ได้มีข้อกำหนดใดๆสำหรับผู้เล่น และผู้เล่นที่ใช้มันก็ยังจะสามารถใช้พลังเวทย์ที่ถูกปิดผนึกอยู่ภายในได้เต็มหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ด้วย
แล้วก็คริสตัลปิดผนึกนั้นสามารถจะดูความแข็งแกร่งได้จากสี ยิ่งสีแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ เวทย์ที่ถูกปิดผนึกอยู่ภายในก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น และในเมื่อคริสตัลปิดผนึกตรงหน้าของซือเฟิงนั้นมีสีเทาเข้ม มันจึงจะมีพลังอยู่ในขั้นห้าเป็นอย่างน้อย
“ใช่แล้ว มันคือคริสตัลปิดผนึกเวทย์ปีศาจขั้นห้า !!!” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าวด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ “ฉันได้รับมันมาเพราะโชคดีน่ะ ฉันได้พบขุนนางใหญ่จากเมืองหลักเมืองอื่น และช่วยเขาทำงานบางอย่างของเขาจนเสร็จ ดังนั้นเขาจึงซื้อเจ้านี่มามอบให้กับฉัน”
“ฉันเชื่อว่าด้วยคริสตัลปิดผนึกเวทย์ปีศาจขั้นห้านี้ มันจะทำให้ปฎิบัติการครั้งนี้ของเราง่ายขึ้นแน่นอน !!!”
“แน่นอนเลย เวทย์ที่ถูกปิดผนึกไว้ภายในนี้นั้นมันแข็งแกร่งมากๆ และมันเพียงพอจะทำให้มังกรเด็กขั้นสี่ได้รับบาดเจ็บหนักจากการโจมตีของมันแน่นอน !!!” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า
มังกรเด็กขั้นสี่ที่ไม่ถูกปราบปรามใดๆนั้นจะมีพลังเทียบเคียงกับมอนสเตอร์ขั้นห้า แต่มันก็แค่สามารถจะสู้กับพวกขั้นห้าได้เท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับเวทย์ขั้นห้า มังกรเด็กขั้นสี่จะไม่สามารถต้านทานมันได้แน่นอน ดังนั้นมันจึงนับเป็นเครื่องมือช่วยเหลือในปฎิบัติการครั้งนี้ที่ดีมากๆ
“ในปฎิบัติการครั้งนี้ ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ของเราตั้งใจจะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่เท่าที่เราจะทำได้คุณแบล๊คเฟรม ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์มาทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบสี่คน ซึ่งห้าคนได้มาถึงขั้นสี่แล้ว โดยทีมๆนี้คุณสามารถจะปรับเปลี่ยนและจัดสรรได้ทั้งหมด ทุกคนล้วนอยู่ใต้คำสั่งของคุณ คุณแบล๊คเฟรม” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าว ก่อนที่เขาจะกล่าวต่ออย่างภาคภูมิใจว่า “แล้วก็ถ้ามีใครที่เป็นคนของคุณที่คุณต้องการจะเอาเข้ามาแทนที่ในทีม คุณก็สามารถจะทำได้ตลอดเวลาเลย”
“ครั้งนี้ฉันต้องขอขอบคุณคุณมากจริงๆ ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท” ซือเฟิงกล่าวขอบคุณ
ในครั้งนี้นั้น แม้ว่าเขาจะคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ที่เขาจะฆ่ามังกรเด็กขั้นสี่ได้ แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจมากนัก เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาไม่เคยฆ่ามังกรเด็กขั้นสี่มาก่อน และเขาก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถใช้ปราบปรามมังกรเด็กขั้นสี่ด้วย
ดังนั้นการที่ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์เลือกจะให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่แบบนี้ มันคือสิ่งที่เขาต้องการที่สุด เพราะนี่มันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
“คุณแบล๊คเฟรมก็กล่าวเกินไป พวกเราก็แค่ต่างฝ่ายต่างช่วยกันนั่นแหละ หากคุณประสบความสำเร็จในปฎิบัติการครั้งนี้ มันก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ของเรา ดังนั้นจะไม่ให้เราทุ่มเทอย่างเต็มที่ได้ยังไง ?” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าว “ถ้าคุณแบล๊คเฟรมไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้เราก็พร้อมจะออกเดินทางกันได้ทุกเมื่อ”
การกระทำของในครั้งนี้มันนับเป็นการเสี่ยงครั้งใหญ่เลย พูดกันตามตรงที่เขาทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะเรื่องการฆ่ามังกรขั้นสี่ แต่เป็นเพราะเขาต้องการจะกระชับความสัมพันธ์และผูกติดซือเฟิงไว้กับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์
เนื่องจากคริสตัลแห่งวิญญาณและน้ำวิญญาณนั้นมันมีประโยชน์มากๆสำหรับทีมนักผจญภัยของเขาในเรื่องการช่วยให้คนของเขาทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ได้สำเร็จ และแม้แต่คริมสันบีโลว์ที่ล้มเหลวมาก่อนหน้านี้ก็ยังทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ได้สำเร็จ หลังจากใช้คริสตัลแห่งวิญญาณ
สำหรับคนอื่นๆที่ทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่สำเร็จในช่วงที่ผ่านมา พวกเขาทุกคนล้วนบอกตรงกันว่า หากปราศจากคริสตัลแห่งวิญญาณ และน้ำวิญญาณ พวกเขาอาจจะล้มเหลวจริงๆ
ดังนั้นนี่มันจึงทำให้เขาเริ่มให้ความสำคัญกับคริสตัลแห่งวิญญาณ และน้ำวิญญาณมากขึ้น เขาจะต้องผูกขาดไอเทมทั้งสองอย่างนี้ไว้ให้ได้อย่างแน่นหนา และซือเฟิงก็เป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้
สำหรับเรื่องมังกรเด็กขั้นสี่ ไม่ว่ามันจะล้มเหลวหรือสำเร็จ ยังไงเขาก็จะไม่ขาดทุนจากเรื่องนี้แน่นอน
“ฉันไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ว่าฉันต้องการจะปรับทีมใหม่นิดหน่อยโดยการเพิ่มคนสามคนเข้าไป” ซือเฟิงกล่าว
“สามคน ?” ไลอ้อนฮาร์ทอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนสามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของซือเฟิง
ในเวลานี้พวกเขาทั้งสามคนสวมเสื้อคลุมสีดำสนิท และข้อมูลของพวกเขาก็ถูกปกปิดไว้ทั้งหมด แต่เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ของพวกเขาแล้ว หนึ่งในสามนั้นคือยู่หลัวแน่นอน สำหรับอีกสองคน พวกเขาน่าจะเป็นคนของซือเฟิงที่ติดตามซือเฟิงมา
มันจัดว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะน่าประหลาดใจที่ซือเฟิงพาทั้งสามคนมาเข้าร่วมปฎิบัติการครั้งนี้
มังกรเด็กขั้นสี่นั้นจัดว่าเป็นตัวตัวที่แทบจะเป็นอมตะเลยในหมู่สิ่งมีชีวิตขั้นสี่ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าซือเฟิงจำนคนมาเพิ่มอีกหลายพันคนเพื่อโจมตีมัน แต่ตอนนี้เขากับนำมาเพิ่มแค่สามคน
“ฉันมาที่เมืองอุกกาบาตนี้เป็นครั้งแรก ดังนั้นฉันจึงนำคนติดตามมาด้วยแค่นี้แหละ …” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะ เขาพอจะเดาความคิดตอนนี้ของไลอ้อนฮาร์ทออก
“มันไม่ใช่ปัญหาเลย ในการจะเพิ่มคนสามคนเข้ามา คุณสามารถทำได้ตามที่ต้องการเลย คุณแบล๊คเฟรม” ไลอ้อนฮาร์ทรีบส่ายหัว และกล่าวด้วยรอยยิ้มทันที เมื่อเขานึกได้ว่าเขาแสดงท่าทีให้ซือเฟิงเดาความคิดเขาได้ออกมาเกินไป …. และหลังจากนั้นเขาก็ได้มอบอำนาจหัวหน้าทีมให้กับซือเฟิง
เมื่อได้รับอำนาจหัวหน้าทีมมา ซือเฟิงก็เริ่มจัดการแบ่งทีมออกเป็นทีมเล็กๆทันที โดยผู้เล่นขั้นสี่ห้าคนของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จะอยู่ภายใต้การบัญชาการของเขาโดยตรง สำหรับผู้เล่นขั้นสามคนอื่นๆที่เหลือจะถูกแบ่งออกเป็นหกทีมเล็กๆโดยหนึ่งทีมจะเป็นทีมฮีลเลอร์ทั้งหมด ขณะที่อีกห้าทีมจะไม่มีฮีลเลอร์เลย
การจัดทีมเล็กๆแบบนี้ทำให้สมาชิกในทีมนักผจญภัยสกายแฟร์งุนงงไปชั่วขณะ ไม่มีฮีลเลอร์อยู่ในห้าทีม นี่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาได้รับบาดเจ็บ ?
แม้ว่าฮีลเลอร์ที่อัดแน่นอยู่ในทีมเล็กๆทีมเดียวจะสามารถเข้าช่วยเหลือพวกเขาได้เช่นกันเมื่อสถานการณ์คับขัน แต่มันก็จะเป็นไปได้ช้ามากๆเนื่องด้วยการแบ่งทีมแบบนี้ นี่มันจึงทำให้พวกเขาสงสัย และงุนงงกับการแบ่งทีมเล็กๆของซือเฟิง
อย่างไรก็ตามผู้เล่นเหล่านี้นั้นก็ไม่ได้รู้เลยว่าซือเฟิงไม่เคยคิดเกี่ยวกับปัญหาการบาดเจ็บ สูญเสียของพวกเขา
เมื่อมังกรเด็กขั้นสี่เริ่มโจมตีนั้น มันจะสามารถกำจัดพวกผู้เล่นขั้นสามออกไปได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นมันจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้มีฮีลเลอร์อยู่ในทีมส่วนใหญ่
“สำหรับทีมฮีลเลอร์ ทุกคนให้เตรียมโพชั่นฟื้นฟูมานาระดับปรมาจารย์ และโพชั่นเหล็กกล้าระดับปรมาจารย์ไว้คนละยี่สิบขวด ถ้ามีมันไม่พอ ให้ไปซื้อมาซะ เดี๋ยวฉันจะจ่ายเอง” ซือเฟิงมองไปที่สมาชิกของทีมฮีลเลอร์ทั้งหมดและกล่าวออกคำสั่ง
หลังจากซือเฟิงพูดจบ ทุกคนก็อ้าปากค้าง
นี่มัน …. สุดๆไปเลย !!!
โพชั่นฟื้นฟูมานาระดับปรมาจารย์นั้นมันมีค่ามากๆโดยหนึ่งขวดนั้นจะสามารถช่วยฟื้นฟูมานาของผู้ใช้ให้กลับมาเต็มได้ทันที และมันก็จะช่วยเพิ่มอัตราการฟื้นฟูขึ้นหนึ่งร้อยห้าสิบเปอเซ็นต์เป็นเวลาสามนาทีด้วย แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับสั่งให้พวกเขาเตรียมไปคนละยี่สิบขวด
สำหรับโพชั่นเหล็กกล้าระดับปรมาจารย์นั้น มันค่อนข้างจะพิเศษยิ่งกว่า เพราะมันจัดเป็นเครื่องมือช่วยชีวิตชั้นดี
หลังจากผู้เล่นดื่มเข้าไป โพชั่นเหล็กกล้าจะช่วยเพิ่มพลังป้องกันของพวกเขาขึ้นสามร้อยเปอเซ็นต์ และจะเพิ่ม HP สูงสุดของพวกเขาขึ้นหนึ่งพันเปอเซ็นต์เป็นเวลาสิบห้าวินาที โดนมีคูลดาวน์ในการใช้หนึ่งนาทีระหว่างแต่ละขวด
หากฮีลเลอร์แต่ละคนมีพวกมันคนละยี่สิบขวด พวกเขาก็จะแทบไม่ต่างจากเป็นอมตะเลย
“โอ้ แล้วก็ฮีลเลอร์ทั้งหมด ให้พกม้วนคัมภีร์คำสาปป้องกันขั้นสามติดตัวไว้คนละห้าม้วน ถ้ามีม้วนคัมภีร์คำสาปป้องกันขั้นสี่ด้วยก็จะดีมาก” ทันใดนั้นซือเฟิงก็จำได้ว่าเขาต้องออกคำสั่งในเรื่องนี้อีกอย่างหนึ่ง เขาจึงพูดมันขึ้นมาทันที
“นี่ ….” ไลอ้อนฮาร์ทพูดไม่ออก เมื่อได้ยินคำสั่งล่าสุดของซือเฟิง และเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยความลำบากใจว่า “คุณแบล๊คเฟรม มันมีม้วนคัมภีร์คำสาปป้องกันอยู่ไม่มากนักในเมืองอุกกาบาต การจะให้ฮีลเลอร์แต่ละคนของเราหามา และหกไว้คนละห้าม้วนนั้นเป็นไปไม่ได้”
“งั้นหรอ ?” ซือเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “งั้นก็ให้หามา และพกไว้คนละม้วนแล้วกัน”
หลังจากนั้นซือเฟิงก็ใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในทีมจนเขาพึงพอใจ
“เอาล่ะ ประมาณนี้ก็น่าจะพอแล้ว พวกเราออกเดินทางกันเถอะ …” ซือเฟิงมองไปที่สมาชิกในทีมทั้งหมดและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ยอดเยี่ยม !! งั้นฉันจะให้วินเชเซอร์ไปเตรียมการเดินทางทันที !!!” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าว จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับวินเชเซอร์ว่า “เชเซอร์ ไปเตรียมทุกอย่างให้พร้อม”
“รับทราบ !” วินเชเซอร์พยักหน้ารับคำสั่ง เขาเข้าใจความหมายเบื้องหลังคำสั่งของไลอ้อนฮาร์ทดี
คราวนี้พวกเขาจะต้องแสดงให้ซือเฟิงเห็นให้ได้ว่าทีมนักผจญภัยสกายแฟร์นั้นแข็งแกร่งแค่ไหน และพวกเขาก็จะต้องกระชับสัมพันธ์กับผูกติดซือเฟิงไว้กับทีมนักผจญภัยให้ได้ ….
“เตรียมการ ? เราไม่ได้จะออกเดินทางไปตรงๆงั้นหรอ ?” ซือเฟิงถามอย่างสงสัย
“คุณแบล๊คเฟรม คุณน่าจะยังไม่รู้ แต่มังกรเด็กขั้นสี่นั้นอยู่ในแผนที่ที่ไกลจากเมืองอุกกาบาตมาก หากใช้อะเม้าท์บนบกเดินทางไป มันก็จะต้องใช้เวลาเดินทางเกือบสามวัน” ไลอ้อนฮาร์ทพูดอย่างจริงจัง “ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการเดินทางของเราในปฎิบัติการครั้งนี้ ฉันจึงได้ติดต่อขุนนางใหญ่ของเมือง และขอเช่าอะเม้าท์บินได้จากเขามา”
“เช่าอะเม้าท์บินได้ ?” ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เขาไม่เคยคิดเลยว่าไลอ้อนฮาร์ทจะยอมทำถึงขนาดนี้
เนินเขาเนเธอร์ไฟร์ที่มังกรเด็กขั้นสี่อยู่นั้นมันอยู่ห่างไกลจากเมืองอุกกาบาตมากจริงๆ และในระหว่างทางพวกเขาก็จะต้องเดินทางผ่านแผนที่เลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบถึงหนึ่งร้อยห้าสิบหลายแผนที่
ในยุคโบราณของ God domain นี้นั้น อะเม้าท์บินได้มันหายากมากๆ และไม่มีผู้เล่นแม้แต่คนเดียวในเมืองอุกกาบาตที่มีมัน ซึ่งหากพวกเขาต้องการจะใช้อะเม้าท์บินได้จริงๆ พวกเขาก็จำเป็นจะต้องไปตีสนิท และกระชับความสัมพันธ์กับบรรดาขุนนางใหญ่ของเมือง ซึ่งเมื่อพวกเขาทำให้พวกขุนนางใหญ่มีค่าความพึงพอใจต่อพวกเขามากเพียงพอแล้ว พวกเขาก็จะสามารถขอเช่าอะเม้าท์บินได้จากพวกขุนนางใหญ่ได้
อย่างไรก็ตามมันก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นในเมืองอุกกาบาตที่สามารถจะทำแบบนี้ได้สำเร็จ แถมราคาการเช่าอะเม้าท์หนึ่งตัวต่อวัน ยังคิดเป็นคริสตัลเวทย์มนต์ห้าพันชิ้นด้วย ซึ่งราคามันจัดว่ามหาโหดมากๆ
และที่สำคัญที่สุดก็คือมันจะมีสัญญาเช่าจำกัดอยู่ที่สิบตัวต่อเดือนด้วย ดังนั้นพวกผู้มีอำนาจในเมืองจึงมักจะเช่าอะเม้าท์บินได้เฉพาะเรื่องด่วนที่สำคัญๆเท่านั้น
โดยในการจะพาผู้เล่นทั้งหมดนี้เดินทางไปด้วยอะเม้าท์บินได้ก็จะต้องเช่าถึงเจ็ดตัว ซึ่งนี่มันหมายถึงเจ็ดจากสิบตัวต่อเดือนที่มีจำกัดเลย
“ใช่แล้ว ด้วยอะเม้าท์บินได้ มันจะทำให้เราสามารถเดินทางไปถึงที่ที่มังกรเด็กขั้นสี่อยู่ภายในหนึ่งวัน” ไลอ้อนฮาร์ทกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ และพึงพอใจเล็กน้อย
เขาได้เสี่ยงที่จะเดิมพันครั้งใหญ่จริงๆในครั้งนี้เพื่อทีมนักผจญภัยสกายแฟร์
“ไม่จำเป็นต้องเช่าอะเม้าท์บินได้จากขุนนางใหญ่ ให้ต้องเสียโอกาสที่มีจำกัดต่อเดือนหรอก เราจะบินไป …” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว และพูดอย่างสบายๆ
“บินไป ?” ไลอ้อนฮาร์ทอดไม่ได้ที่จะงุนงง เมื่อได้ยินคำพูดล่าสุดของซือเฟิง
“ใช่แล้ว” ซือเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย และพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันมีของที่จะใช้ทำแบบนั้นได้อยู่ ดังนั้นคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลำบากในเรื่องนี้”
เมื่อพูดจบ ซือเฟิงก็ได้นำไลอ้อนฮาร์ทและคนอื่นไปที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมสกายแฟร์ ซึ่งนี่มันทำให้สมาชิกในทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ทุกคนนั้นงุนงง และไม่เข้าใจการกระทำของซือเฟิงมากๆ ความหมายของเขาในการจะบินไปยังเนินเขาเนเธอร์ไฟร์คืออะไร ?
อย่างไรก็ตามก่อนที่เหล่าสมาชิกของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จะทันได้พูดคุย หรือบ่นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซือเฟิงก็ได้นำเอายักษ์เหล็กที่มีความหลายร้อยเมตรที่สามารถจะปกคลุมชั้นดาดฟ้าของโรงแรมสกายแฟร์ได้อย่างสมบูรณ์ออกมาจากกระเป๋าของเขา