ตอนที่ 2788 เปลวไฟแห่งความว่างเปล่า
เมื่อยู่หลัวได้ยินซือเฟิงพูดคุยเรื่องนี้กับไลอ้อนฮาร์ท เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงด้วยความประหลาดใจ
เธอไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะเต็มใจที่จะขายเรือเหาะมังกรสีเลือดจริงๆ
เรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์เฉพาะของสภาสิบแปดปีกในโลก God domain ยุคปัจจุบัน และมันก็มีมหาอำนาจหลายกลุ่มที่ต้องการจะซื้อมัน แต่สภาสิบแปดปีกก็ปฎิเสธการขายมันมาโดยตลอด เพราะท้ายที่สุดการเก็บเรือเหาะแบบนี้ไว้กับตัวเองเพียงผู้เดียว มันจะสร้างข้อได้เปรียบได้มากกว่าการขายมันไป
อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับเต็มใจจะขายมันให้กับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จริงๆ หากมหาอำนาจต่างๆในโลก God domain ยุคปัจจุบันรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะต้องทั้งอิจฉาและโกรธมากๆแน่นอน
แต่สิ่งที่ยู่หลัวไม่รู้จริงๆก็คือที่ซือเฟิงเลือกจะขายเรือเหาะมังกรสีเลือดลำหนึ่งให้กับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ นั่นเป็นเพราะโลก God domain ยุคโบราณนั้นจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโลก God domain ยุคปัจจุบัน
มันเป็นเรื่องยากมากที่ผู้เล่นจากโลก God domain ยุคปัจจุบันจะสามารถเดินทางมาที่โลก God domain ยุคโบราณได้ และแม้ว่าพวกเขาจะโชคดีเดินทางเข้ามาได้จริงๆ แต่มันก็จะมีจำนวนไม่มากนัก และพวกเขาก็จะอยู่ในโลก God domain ยุคโบราณได้ไม่นานนัก และในทำนองเดียวกัน ผู้เล่นในโลก God domain ยุคโบราณนั้นก็ยากที่จะเดินทางไปยังยุคปัจจุบันมากๆ เพราะท้ายที่สุดโลกทั้งสองนั้นแทบจะเป็นเหมือนเส้นขนานที่ต่างกัน
ดังนั้นแม้ว่าซือเฟิงจะขายเรือเหาะมังกรสีเลือดลำหนึ่งให้กับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ แต่มันก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อความได้เปรียบของสภาสิบแปดปีกในโลกยุคปัจจุบันของ God domain แน่นอน ซึ่งนี่มันทำให้เขาตัดสินใจที่จะทำธุรกรรมครั้งนี้ได้อย่างมั่นใจ
แถมพูดกันตามตรง การขายเรือเหาะมังกรสีเลือดลำหนึ่งให้กับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์นั้น มันก็จะทำให้เขาได้รับทรัพยากรที่ล้ำค่าในโลก God domain ยุคโบราณมาเพิ่มขึ้นด้วย
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่ได้มีเวลาจะมาจัดการสร้างกองกำลังของตัวเองในยุคนี้เพื่อค้นหาทรัพยากรให้กับเขา ดังนั้นการยืมมือกองกำลังท้องถิ่นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
และที่สำคัญที่สุดการที่ซือเฟิงไม่อยากทำสร้างกองกำลังของตัวเองขึ้นมาในโลกนี้ก็เป็นเพราะ เขาต้องการจะให้คนรู้เรื่องราวระหว่างสองโลก สองยุคนี้น้อยที่สุด ไม่งั้นมันก็มีสิทจะเกิดสงครามครั้งใหญ่ได้แน่นอน
“ผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท ถ้าคุณต้องการจะซื้อเรือเหาะลำหนึ่ง มันจะมีราคาเป็นแร่ไททันเงินหนึ่งหมื่นชิ้น หินเวทย์เอลฟ์หนึ่งพันชิ้น และคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่หนึ่งพันชิ้น” ซือเฟิงมองไปที่ไลอ้อนฮาร์ทที่กำลังรอฟังราคาของเขาอย่างใจจดใจจ่อ และพูดไปตรงๆ
เขาสามารถยอมรับคริสตัลเวทย์มนต์ในการแลกเปลี่ยนกับน้ำวิญญาณ และคริสตัลแห่งวิญญาณได้ อย่างไรก็ตามสำหรับเรือเหาะนั้นมันล้ำค่ามากกว่า และมันก็เป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ที่จะให้ประโยชน์ได้มากมายหลายด้านแก่ผู้ที่มีมัน ดังนั้นเขาจึงได้เลือกจะเรียกร้องไอเทมตามที่เขาบอกไป ซึ่งมันจะสามารถให้ประโยชน์กับเขาได้มากกว่าคริสตัลเวทย์มนต์มาก
“แพงขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ?” ไลอ้อนฮาร์ทขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะรู้ว่าราคาของเรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นไม่ได้ถูกแน่นอน แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่ามันจะแพงขนาดนี้
ไม่ว่าจะเป็นแร่ไททันเงิน หรือหินเวทย์เอลฟ์ พวกมันล้วนเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่ามากๆ เพราะพวกมันจำเป็นสำหรับการใช้สร้างอาคารสิ่งก่อสร้าง และไอเทมอื่นๆอีกมากมาย นี่ไม่ต้องพูดถึงคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่เลย เพราะจนถึงตอนนี้แม้แต่กิลขนาดใหญ่ต่างๆก็ยังต้องดิ้นรนอย่างหนักกว่าจะได้รับพวกมันมา
ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์นั้นได้จ่ายไปอย่างมหาศาลกว่าจะสามารถยึดครองพื้นที่ทำเหมืองเล็กๆที่ทำให้พวกเขาได้รับคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่มาได้ และในปัจจุบันพวกเขาก็จำเป็นต้องส่งผู้เล่นขั้นสามหลายพันคนไปคอยป้องกันมันไว้ตลอดเวลา
คริสตัลเจ็ดลูมินาลี่หนึ่งพันชิ้นนั้นมันคิดเป็นเกือบทั้งหมดที่ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์มีสะสมไว้จนถึงตอนนี้เลย
ซือเฟิงไม่ได้รีบร้อนใดๆ เขาพูดต่ออย่างช้าๆว่า “แน่นอนว่านี่เป็นแค่ตัวเลือกแรก ฉันจะมีอีกตัวเลือกหนึ่งให้คุณด้วยผู้บัญชาการไลอ้อนฮาร์ท อีกตัวเลือกหนึ่งก็คือรายได้ห้าเปอเซ็นต์จากทั้งหมดของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์จะต้องเป็นของฉัน”
“ห้าเปอเซ็นต์ ?” ไลอ้อนฮาร์ทเงียบลงไป และครุ่นคิดเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ตัวเลือกที่สองเรื่องรายได้ห้าเปอเซ็นต์นั้นจัดว่าไม่สูงและไม่ต่ำเกินไปสำหรับทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ในตอนนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อทีมนักผจญภัยสกายแฟร์เติบโตต่อไปในอนาคตห้าเปอเซ็นต์ มันก็จะนับเป็นจำนวนมากและอาจเกินราคาตามตัวเลือกแรกของซือเฟิงด้วยซ้ำ
“ผู้บัญชาการ ฉันขอแนะนำให้เราซื้อให้จบในครั้งเดียวดีกว่า” วินเชเซอร์อดไม่ได้ที่จะกระซิบแนะนำกับไลอ้อนฮาร์ท “แม้ว่าเราจะจนไปสักพักเลย หลังจากซื้อมันมา แต่ในอนาคตเมื่อเทียบกับการพัฒนาของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ของเราที่มีมันแล้ว มันก็จะคุ้มค่ากว่ามูลค่าของวัสดุพวกนี้แน่นอน”
ตอนนี้ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ของพวกเขานั้นมีผู้เล่นขั้นสี่อยู่ห้าคน และในอนาคตก็จะมีเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ควรจะต้องยอมแบ่งรายได้ห้าเปอเซ็นต์ของตัวเองให้ใคร
พวกระดับสูงคนอื่นๆเองก็มองไปยังไลอ้อนฮาร์ทด้วยสายตาเป็นเชิงเห็นด้วยกับคำพูดและความคิดของวินเชเซอร์เช่นกัน
หลังจากครุ่นคิดอยู่อีกครู่หนึ่งไลอ้อนฮาร์ทก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เขาจะมองไปยังซือเฟิงและกล่าวว่า “คุณซือเฟิง ฉันต้องการจะทำการซื้อขายกับคุณ หลังจากปฎิบัติการครั้งนี้จบลง เราสามารถจะไปแลกเปลี่ยนกันที่เมืองอุกกาบาตได้ อย่างไรก็ตามปริมาณที่คุณร้องขอมามันมากเกินไป แม้ว่าฉันจะมีคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่เพียงพอตามจำนวน แต่ฉันมีแร่ไททันเงินและหินเวทย์เอลฟ์ไม่เพียงพอ ดังนั้นฉันจะขอลดปริมาณแร่ไททันเงิน และหินเวทย์เอลฟ์จากข้อเสนอของคุณเหลือห้าสิบเปอเซ็นต์จากเดิม และใช้อาวุธกับอุปกรณ์ระดับอีปิคหนึ่งร้อยชิ้นเข้ามาหักลบกลบกันได้ไหม ?”
“นี่ …” ซือเฟิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะพยักหน้า “ก็ได้แต่ฉันยอมรับแค่อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบเท่านั้นนะ”
อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่เลเวลนี้จะสามารถช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีกไปได้อีกมาก และพูดกันตามตรงเขาก็ค่อนข้างพอใจที่ไลอ้อนฮาร์ทเลือกตัวเลือกแรกเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าตัวเลือกที่สองจะฟังดูดีสำหรับเขา และช่วยให้ไลอ้อนฮาร์ทประหยัดเงินไปได้มาก แต่เขาก็ไม่สามารถจะอยู่ที่ God domain ยุคโบราณได้ตลอด ดังนั้นการลงทุนระยะยาวแบบนี้มันจึงไม่เหมาะกับสภาสิบแปดปีก และการเลือกจะรับอาวุธกับอุปกรณ์ระดับอีปิคเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ หน่งร้อยชิ้นมาแทนส่วนที่เหลือ มันก็ไม่ได้จัดว่าเป็นสิ่งที่ขาดทุนเลยสำหรับเขา
แถมด้วยอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคพวกนี้ มันก็จะช่วยทำให้พวกผู้บริหารระดับสูงของสภาสิบแปดปีกไปถึงขั้นสี่ได้ง่ายขึ้นด้วย
“ไม่มีปัญหา …” ไลอ้อนฮาร์ทพยักหน้ายอมรับ และยิ้มด้วยความรู้สึกที่ทั้งขมขื่น และมีความสุขในเวลาเดียวกัน
ตอนนี้เพื่อที่จะซื้อเรือเหาะมังกรสีเลือดหนึ่งลำ ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ของเขาได้เลือกจะทุ่มแทบทุกอย่าง ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งหลังการซื้อขายนี้ มันจะทำให้ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ของพวกเขาจนลงไป และขาดแคลนทรัพยากรในระดับหนึ่งแน่นอน และนี่ยังไม่นับรวมเรื่องอาวุธกับอุปกรณ์ที่พวกเขาจะต้องขาดแคลนอย่างหนักด้วย
แต่ถึงกระนั้นแม้จะเป็นแบบนี้ สมาชิกทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ส่วนใหญ่ก็ยังเห็นด้วยกับไลอ้อนฮาร์ทในการทำธุรกรรมครั้งนี้ และพวกเขาก็เริ่มจินตนาการถึงช่วงเวลาที่ทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ของพวกเขามีเรือเหาะแบบนี้เป็นของตัวเองแล้ว
และในที่สุดหลังจากพวกเขาเดินทางด้วยเรือเหาะมาเป็นเวลามากกว่าสิบชั่วโมง พวกเขาก็ได้มาถึงพื้นที่มืดซึ่งเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความว่างเปล่า แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังมีต้นไม้บางส่วนขึ้นอยู่บนพื้นดิน
ทันทีที่เข้ามาถึงที่นี่ ทุกคนก็รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขากำลังถูกแผดเผา และรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอ่อนแอลงอย่างช้าๆ
หลังจากที่คริมสันบีโลว์ดื่มโพชั่นเพิ่มค่าความต้านทานไฟเข้าไป เธอก็รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย อย่างไรก็ตามเธอก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาว่า “สภาพแวดล้อมที่นี่มันรุน
แรงมากๆ และโพชั่นเพิ่มค่าความต้านทานไฟก็แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเราเพิ่มเติมเลย ฉันเกรงว่าถ้าหากเราอยู่ที่นี่นานกว่าสิบชั่วโมง เราจะตายจากการที่ค่าสตามิน่า และค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจหมดลงแน่นอน”
วินเชเซอร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคริมสันบีโลว์ ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเราคงจะต้องเร่งมือสักหน่อยในการฆ่ามังกรเด็กขั้นสี่ ไม่งั้นมันจะเป็นพวกเราแน่นอนที่ตายที่นี่ ….”
ซือเฟิงพยักหน้าให้กับคำพูดของทั้งสอง ก่อนที่เขาจะออกคำสั่งว่า “พวกขั้นสี่ทั้งหมดให้กระจายตัวกันออกไปค้นหามังกรเด็กขั้นสี่ สำหรับพวกขั้นสามให้รออยู่บนเรือเหาะอยู่ เมื่อใครพบมังกรเด็กขั้นสี่เมื่อไหร่ ให้รีบติดต่อกลับมาทันที !!!”
เมื่อได้ยินคำสั่งของซือเฟิง ผู้เล่นขั้นสี่ห้าคนของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์ก็บินขึ้นไปในอากาศและเตรียมจะเริ่มค้นหามังกรเด็กขั้นสี่ทันที
อย่างไรก็ตามทันใดนั้นไลฟ์เลสธอร์น ยู่หลัว และโซริทารี่ไนน์ทั้งสามคนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีดำที่ติดตามซือเฟิงมาก็ค่อยๆบินขึ้นไปในอากาศเช่นกัน ซึ่งนี่มันทำให้เหล่าสมาชิกของทีมนักผจญภัยสกายแฟร์อดไม่ได้ที่จะมองไปยังพวกเขา
“พวกเขาก็เป็นผู้เล่นขั้นสี่งั้นหรอ ?” คริมสันบีโลว์อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังผู้ติดตามทั้งสามของซือเฟิงด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย
แม้ว่าซือเฟิงจะทำให้พวกเขาประหลาดใจและตกใจมาครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่เมื่อได้เห็นว่าผู้เล่นสามคนที่ติดตามซือเฟิงมาเป็นผู้เล่นขั้นสี่ทั้งหมด เธอก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อย
มันมีผู้เล่นขั้นสี่อยู่ไม่มากนักใน God domain ตอนนี้ และในเมืองทั่วไปนั้นส่วนใหญ่จะมีผู้เล่นขั้นสี่อยู่แค่หนึ่งถึงสองคนเท่านั้น ก่อนหน้านี้พวกเขาสามารถยอมรับได้ง่ายๆในเรื่องที่ซือเฟิงเป็นผู้เล่นขั้นสี่ แต่ตอนนี้พวกเขากับพึ่งได้มารู้ว่าผู้ติดตามอีกสามคนของซือเฟิงก็เป็นผู้เล่นขั้นสี่เช่นกัน ….
นี่ผู้เล่นขั้นสี่มันเริ่มหาได้ง่ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
“ดูเหมือนว่าแบล๊คเฟรมคนนี้จะแข็งแกร่งและลึกลับกว่าที่เราคิดไว้มาก โชคดีที่เราได้เป็นพันธมิตรและร่วมมือกับเขา ถ้าเราเป็นศัตรูกับเขา ฉันนึกไม่ออกเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง …” วินเชเซอร์กล่าวพลางยิ้มอย่างขมขื่น
หากไม่นับยู่หลัว ตอนนี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าสองในสี่ของผู้ที่ติดตามซือเฟิงเข้ามาในเมืองอุกกาบาตนั้นเป็นผู้เล่นขั้นสี่ และมันก็มีสิทที่ออกสองคนที่เหลือที่ไม่ได้ตามมาอาจจะเป็นผู้เล่นขั้นสี่ด้วย
ซึ่งเมื่อรวมแล้วซือเฟิงอาจจะมีผู้เล่นขั้นสี่อยู่ภายใต้คำสั่งของเขาถึงห้าคนเลย โดยทีมแบบนี้ของซือเฟิงนั้นไม่ใช่อะไรที่จะสามารถใช้กำลังเข้ากดดันได้เลย
หลังจากนั้นเก้าคนรวมซือเฟิงแล้วก็ได้ออกไปค้นหามังกรเด็กขั้นสี่อยู่ราวครึ่งชั่วโมง ก่อนที่คริมสันบีโลว์จะเป็นผู้ที่ติดต่อกลับมาผ่านแชททีม
“ฉันเจอมังกรเด็กขั้นสี่แล้ว !!! มันพักผ่อนอยู่ในถ้ำที่หุบเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของเนินเขาเนเธอร์ไฟร์ !!!”