ตอนที่ 2811 ความเปลี่ยนแปลงของเมืองสกายสปริง
อาณาจักรทวินทาวเวอร์ เมืองสกายสปริง :
เมื่อแสงสว่างวาบหายไป ร่างสามร่างก็ปรากฎขึ้นในห้องเทเลพอร์ต ซึ่งร่างทั้งสามร่างนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ซือเฟิง ไลฟ์เลสธอร์น และโซริทารี่ไนน์
ซึ่งเมื่อทั้งสามคนปรากฎตัวขึ้นมาในห้องเทเลพอร์ตนั้น มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าห้องเทเลพอร์ตของเมืองสกายสปริงในเวลานี้นั้นดูมีชีวิตชีวากว่าก่อนหน้านี้มากๆ และมันก็ยังเต็มไปด้วยผู้เล่นจำนวนมหาศาล
โดยผู้เล่นเหล่านี้ส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้เล่นขั้นสามที่มีตราสัญลักษณ์ของกิลขนาดใหญ่หลายกิลติดอยู่ที่หน้าอก และพวกเขาแต่ละคนก็แผ่ออร่าที่อยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญทั่วไปเป็นอย่างน้อยออกมา
“ทำไมถึงมีผู้เล่นขั้นสามจากกิลขนาดใหญ่มากมายมาที่นี่ ?” โซริทารี่ไนน์มองไปรอบๆ และกล่าวพลางเดาะลิ้น “เผลอๆจำนวนผู้เล่นขั้นสามของเมืองดราก้อนฮาร์ทยังมีน้อยกว่าที่นี่ซะอีกนะ !!!”
อีกทั้งเท่าที่โซริทารี่ไนน์สังเกตนั้นมันมีผู้เล่นขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคนเลยในห้องเทเลพอร์ตที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวดเร็งดั่งสายน้ำหรือสูงกว่า
ท้ายที่สุดแล้วนี่มันเป็นเพียงห้องเทเลพอร์ตในเมืองเล็กๆเท่านั้น แต่มันกับมีผู้เล่นระดับนี้มาอยู่ที่นี่มากมาย ….
“พวกคุณน่าจะพึ่งเคยมาที่เมืองสกายสปริง ของอาณาจักรทวินทาวเวอร์สินะถึงดูไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แล้วก็วันนี้ก็อาจจะเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของ God domain” ยักษ์ขั้นสามที่พึ่งจะออกมาจากวงเวทย์เทเลพอร์ตกล่าวด้วยรอยยิ้ม
โดยยักษ์ขั้นสามผู้นี้นั้นมีเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบสอง และสวมใส่อุปกรณ์เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ ระดับไฟน์โกลครบเซ็ท แถมเขายังใช้ขวานต่อสู้เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบ ระดับดาร์คโกลด้วย ซึ่งถือเป็นอาวุธชั้นยอดระดับต้นๆในระยะนี้ของเกมเลย
อย่างไรก็ตามมันไม่มีตราสัญลักษณ์ของกิลอยู่บนร่างกายของเขาเลย ดังนั้นมันจึงเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระ ซึ่งสำหรับผู้เชี่ยวชาญอิสระนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีอาวุธและอุปกรณ์แบบนี้ แถมเพื่อนอีกมากกว่าหนึ่งโหลด้านหลังของเขาก็ยังสวมใส่และใช้อาวุธกับอุปกรณ์ที่คล้ายๆกันด้วย แต่ถึงกระนั้นสิ่งหนึ่งที่คนเหล่านี้เหมือนกันก็คือ พวกเขามีสัญลักษณ์สิงโตขาวอยู่บนผ้าคลุม ซึ่งมันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขามาจากทีมนักผจญภัยเดียวกัน
“หื้ม ? ขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ?” โซริทารี่ไนน์อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดของยักษ์ขั้นสาม ก่อนที่เขาจะถามต่อว่า “พี่ชาย มันก็เป็นอย่างที่พี่ชายว่านั่นแหละ พวกเราพึ่งจะเคยมาที่เมืองนี้จริงๆ ว่าแต่วันนี้มันอาจจะเกิดอะไรขึ้นกัน ? พี่ชายถึงบอกว่ามันอาจจะเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของ God domain ….”
“ทีมนักผจญภัยสิงโตขาวของเราก็พึ่งจะได้ยินข่าวมาเช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้ ฉันได้ยินมาว่าพวกระดับสูงมากกว่าหนึ่งโหลของสภาสิบแปดปีก อันยีลดิ้งโซล และ
จักรพรรดิคริมสันนั้นได้ถูกกองกำลังผู้เล่นนับหมื่นปิดล้อมในป่า และท้ายที่สุดพวกเขาได้ถูกจับโดย NPC ขั้นสี่จากมือลับที่สตาร์ลิ้งเชิญมา โดยตอนนี้พวกเขาก็ถูกคุมขังอยู่ในสถานที่พักกิลของสตาร์ลิ้ง” ยักษ์ขั้นสามส่ายหัว พลางถอนหายใจ “ตอนนี้สตาร์ลิ้งได้ประกาศความต้องการที่จะเข้าควบคุมหอคอยแห่งพันธสัญญาลับแทนทั้งพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีก แถมพวกเขายังเริ่มระดมพลพันธมิตรสี่กลุ่มของพวกเขาเพื่อบังคับให้สภาสิบแปดปีกยกเลิกการปิดล้อมเมืองสกายสปริง ไม่งั้นพวกเขาจะใช้พวกระดับสูงมากกว่าหนึ่งโหลของสภาสิบแปดปีก อันยีลดิ้งโซล และจักร
พรรดิคริมสันสังเวยภายใต้ธงของพวกเขา”
“ฉันได้ยินมาว่าในบรรดาพวกที่ถูกจับไปในครั้งนี้นั้น นอกเหนือจากพวกผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่รู้จักกันดีของสภาสิบแปดปีกอย่างชาโด้วซอร์ด และ Alluring Summer มันยังมีมู่หลิงชา และบลูเกาน์ อัจฉริยะรุ่นเยาว์ของอันยีลดิ้งโซลและจักรพรรดิคริมสันด้วย ซึ่งตอนนี้อิลูซะรี่เวิร์ดรองหัวหน้ากิลจักรพรรดิคริมสันกำลังเป็นตัวแทนไปเจรจากับฝั่งสตาร์ลิ้งอยู่ แต่อย่างไรก็ตามก็ดูเหมือนมันจะไม่ให้ผลอะไรมากนัก เพราะสตาร์ลิ้งไม่ยอมประณีประณอมใดๆ พวกเขาต้องการทุกอย่างตามข้อเรียกร้อง และพวกเขาก็กล่าวว่าถ้าทั้งสามกิลไม่ยอมให้ตามนี้ พวกเขาจะให้ NPC ขั้นสี่ใช้วิธีพิเศษฆ่าพวกที่ถูกจับเพื่อให้ได้รับโทษจากการตายหนักขึ้น และเผลอๆวิธีพิเศษที่ใช้ฆ่านี้อาจถึงขั้นทำให้วิญญาณอมตะบางส่วนเสียหายด้วย”
ซือเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเหตุการณ์นี้มันจะเกี่ยวข้องกับ NPC ขั้นสี่จากมือลับด้วย
“สตาร์ลิ้งนี่ช่างกล้าหาญจริงๆ พวกเขากล้าที่จะขู่และทำแบบนี้ในดินแดนของสภาสิบแปดปีกเอง !!!” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ เพราะท้ายที่สุดแล้วสตาร์ลิ้งนั้นไม่ใช่กิลๆเดิมที่พวกเราหลายคนเคยรู้จักอีกต่อไป มันมีข่าวลือว่ากิลนั้นมีผู้เล่นขั้นสี่ถึงสามคนแล้ว และฉันยังได้ยินมาว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากพลังลึกลับบางกลุ่มอีก แถมตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลัง NPC เพิ่มอีก ดังนั้นในแง่ของอิทธิพลของกิลในทวีปด้านตะวันออกนั้น พวกเขาไม่น่าจะด้อยไปกว่าห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด” ยักษ์ขั้นสามกล่าวพลางถอนหายใจ “และตอนนี้มันก็กำลังจะมีการเปิดการเจรจากันขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างสตาร์ลิ้ง กับพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีก ซึ่งมันทำให้ทีมนักผจญภัยสิงโตขาวของเราที่พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้างในอาณาจักรทวินทาวเวอร์ได้รับเชิญให้มาเข้าร่วมด้วย ….”
“แถมฉันก็ยังได้ยินมาด้วยว่าผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของทั้งสามกิลจะมาเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้แน่นอน ซึ่งหากการเจรจาครั้งนี้ไม่สามารถจบลงด้วยดีได้ มันก็จะกลายเป็นสงครามการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ God domain แน่นอน !!!”
“เป็นอย่างนี้เองสินะ ….” ซือเฟิงพยักหน้าอย่างเข้าใจในสิ่งที่ยักษ์ขั้นสามอธิบาย
ซือเฟิงนั้นพอจะคาดเดาสิ่งที่สตาร์ลิ้งต้องการออกแทบทั้งหมด
หนึ่งคือสตาร์ลิ้งนั้นตั้งใจจะใช้การเคลื่อนไหวนี้เพื่อจำกัดพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีก
สองคือสตาร์ลิ้งต้องการจะใช้สภาสิบแปดปีก อันยีลดิ้งโซล และจักรพรรดิคริมสัน ทั้งสามกิลนี้เป็นก้อนหินเพื่อปูทางไปสู่การกลายเป็นห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด และนั่นก็คือเหตุผลหลักด้วยที่สตาร์ลิ้งจงใจเชิญให้หลายฝ่าย นอกเหนือจากจักรพรรดิ
คริมสัน อันยีลดิ้งโซล สภาสิบแปดปีก และตัวเอง มาเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้
“พวกคุณทั้งสามคนก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน ตอนนี้เมืองสกายสปริงนั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวายมากจริงๆ และหากพวกคุณคิดจะมาที่นี่เพื่อเข้าไปในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับละก็เลิกคิดไปได้เลย เพราะตอนนี้มหาอำนาจต่างๆล้วนจับตาดูเมืองสกายสปริง และหอคอยแห่งพันธสัญญาลับอย่างใกล้ชิด หากพวกคุณถูกคิดว่าเป็นสมาชิกของสภาสิบแปดปีก จักรพรรดิคริมสัน หรืออันยีลดิ้งโซล พวกคุณอาจจะถูกฆ่าหรือถูกจับกุมได้” ยักษ์ขั้นสามกล่าวเตือนกลุ่มสามคนของซือเฟิง
“ขอบคุณที่เตือนพวกเรา” ซือเฟิงกล่าวขอบคุณ
หลังจากซือเฟิงพูดจบ เขาก็ออกจากห้องเทเลพอร์ตไปพร้อมกับไลฟ์เลสธอร์น และโซริทารี่ไนน์
และหลังจากที่กลุ่มของซือเฟิงจากไป ชายหนุ่มคนหนึ่งจากทีมนักผจญภัยสิงโตขาวก็เดินเข้าไปถามยักษ์ขั้นสาม ซึ่งเป็นหัวหน้าของพวกเขาด้วยความงงงวย “หัวหน้า ทำไมจู่ๆคุณถึงเริ่มพูดคุยกับคนแปลกหน้าพวกนั้น ?”
“มันไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่รู้สึกว่าสามคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาน่ะ และจนถึงตอนนี้ทีมนักผจญภัยสิงโตขาวของเราก็ยังไม่สามารถจะผสานรวมกันได้อย่างกลมเกลียว ดังนั้นมันจึงจะดีกว่าที่จะสร้างเพื่อน และเส้นทางไว้หลายเส้น แถมต่อไปในอนาคต เมื่อเราแข็งแกร่งขึ้น เราก็น่าจะมีประโยชน์สำหรับคนเหล่านั้น หรือคนเหล่านั้นก็อาจจะมีประโยชน์กับเราด้วย” ยักษ์ขั้นสามกล่าวพลางมองไปยังทิศทางที่กลุ่มของซือเฟิงหายไปด้วยรอยยิ้ม “อีกอย่างนักดาบในชุดเสื้อคลุมสีดำที่เป็นผู้นำกลุ่มนั่น ฉันคุ้นๆเขามากเลย แต่นึกไม่ออกว่าเขาเป็นใครกัน ….”
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจให้กับท่าที และการกระทำของยักษ์ขั้นสามที่เป็นหัวหน้าของเขา ….
ที่ด้านนอกห้องเทเลพอร์ต ….
“ผู้บัญชาการ ตอนนี้เราจะไปไหนกัน ?” ไลฟ์เลสธอร์นมองไปที่ซือเฟิง ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีแผนที่จะกลับไปที่สถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีกด้วยแววตาประหลาดใจ
“สตาร์ลิ้งได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมาเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้ แถมยังวางแผนที่จะใช้พวกระดับสูงของสภาสิบแปดปีกเพื่อสังเวยภายใต้ธงของพวกเขา ดังนั้นจะไม่ให้ฉันไปแสดงความยินดีกับพวกเขาสักหน่อยได้อย่างไร ?” ซือเฟิงกล่าวพลางมองไปยังไลฟ์เลสธอร์นอย่างสบายๆ
หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้นำโซริทารี่ไนน์ และไลฟ์เลสธอร์น ตรงไปยังสถานที่พักกิลของสตาร์ลิ้งที่ดูโอ่อ่า และหรูหราที่ตั้งอยู่ที่ถนนสายหลักใจกลางเมือง