ตอนที่ 2817 กลับลำ
เมื่อซือเฟิงร่ายเวทย์และเปิดใช้งานมันเรียบร้อย วงเวทย์อัญเชิญสองวงก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศ และในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที ร่างสองร่างก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศ
ซึ่งเมื่อทั้งสองร่างนี้ปรากฎตัวออกมา ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้ทั้งหมดก็รับรู้ได้ถึงออร่า และแรงกดดันที่น่ากลัวที่พวกเขาแทบไม่เคยรู้สึกได้จากที่ไหนมาก่อน
“องครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่สองคน ?!”
“เขามีองครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่สองได้ยังไงกัน ?!”
เมื่อได้เห็นข้อมูลของร่างที่ปรากฎขึ้นมากลางอากาศทั้งสองร่างนั้น เหล่าผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่บริเวณนี้ก็แทบจะหยุดหายใจ
เนื่องจากองครักษ์ส่วนตัวนั้นจะก้าวไปถึงขั้นสี่ได้ยากกว่าผู้เล่นมากๆ แม้ว่าองครักษ์ส่วนตัวคนนั้นจะอยู่ในระดับลึกลับขั้นเงิน แต่อัตราความสำเร็จในการจะเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นสี่ก็ยังคงจะน้อยกว่ายี่สิบห้าเปอเซ็นต์อยู่ดี และหากองครักษ์ส่วนตัวคนหนึ่งทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ล้มเหลว องครักษ์ส่วนตัวคนนั้นก็จะต้องรอหนึ่งเดือนก่อนที่จะสามารถท้าทายใหม่ได้อีกครั้ง และอัตราความสำเร็จในการทำเควสก็จะไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับมี และได้อัญเชิญองครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่ออกมาสองคนจริงๆ
ซึ่งองครักษ์ส่วนตัวสองคนที่ซือเฟิงอัญเชิญออกมานี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแอนนา และไคท์
ก่อนหน้านี้มันเป็นเพราะว่าทั้งสองคนนั้นยุ่งอยู่กับการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ของตัวเอง ดังนั้นเพื่อให้พวกเขารู้สึกสบายใจ และสามารถทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้สำเร็จได้ ซือเฟิงจึงไม่ได้ทำการอัญเชิญทั้งสองมาเลย เพราะท้ายที่สุดซือเฟิงเองก็เข้าใจดีว่าองครักษ์ส่วนตัวนั้นจะก้าวขึ้นไปถึงขั้นสี่ได้ยากกว่าผู้เล่นมาก
โชคดีที่ศักยภาพในการเติบโตของทั้งสองนั้นสูงมาก และตอนนี้เมื่อพวกเขาได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่แล้ว เลเวลของพวกเขาก็พุ่งขึ้นไปสูงกว่าซือเฟิงมากเช่นกัน โดยตอนนี้ไคท์มีเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบหก ขณะที่แอนนามีเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบเก้า ซึ่งเลเวลของพวกเขาทั้งสองคนนั้นไม่ได้แย่ไปกว่า NPC ขั้นสี่ สามคนของมือลับมากนักเลย
และเนื่องจากทั้งสองฝ่ายเป็นขั้นสี่เหมือนกัน ดังนั้นตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายมีเลเวลแตกต่างกันราวสิบเลเวลหรือมากกว่านิดหน่อย ค่าสถานะของทั้งสองฝ่ายจึงจะไม่ได้แตกต่างกันมากนักเลย ซึ่งหากจะวัดความแข็งแกร่งจริงๆของทั้งสองฝ่ายก็จะต้องดูกันที่ความรู้ และความเข้าใจในการควบคุมองค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ และมานา รวมไปถึงสกิลและเวทย์ขั้นสี่ที่มีเป็นหลัก
ซึ่งด้วยการปรากฎตัวของไคท์และแอนนานี้ แม้แต่คนโง่ก็สามารถจะบอกได้เลยว่าตอนนี้สถานการณ์ของสงครามมันได้เปลี่ยนไปแล้ว
ตอนนี้เมื่อสตาร์ลิ้ง และพันธมิตรของพวกเขาไม่มีวงเวทย์วิญญาณระดับปรมาจารย์ที่คอยช่วยปราบปรามพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกอีกต่อไป พวกเขาก็เริ่มจะกลับมาเสียเปรียบแล้ว และพวกเขาก็จะสามารถพึ่งพาได้เพียงแค่ NPC ขั้นสี่จากมือลับในการต่อกรกับพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกเท่านั้น
แต่ตอนนี้ไคท์และแอนนาซึ่งเป็นองครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่ของซือเฟิงก็ได้ถูกอัญเชิญออกมาแล้ว นี่ยังไม่นับรวมพวก NPC ขั้นสี่ของเมืองสกายสปริงที่จะเข้ามาช่วยพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกในไม่ช้าแน่นอนอีก มันจึงเท่ากับว่าตอนนี้สตาร์ลิ้ง และพันธมิตรของพวกเขาไม่มีข้อได้เปรียบใดๆเลย
และเมื่อบวกปัจจัยทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันนั้น มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้สตาร์ลิ้ง และพันธมิตรของพวกเขาสิ้นหวังได้ แถมถ้าหากพวกเขารอต่อไปจนเมืองสกายสปริงทั้งเมืองถูกปิดผนึก มันก็จะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะหนีออกจากเมืองได้ นอกจากจะใช้ห้องเทเลพอร์ต ซึ่งหากสถานการณ์นี้เกิดขึ้นมันก็จะนับว่าอันตรายมากๆสำหรับพวกเขา
ในเวลานี้ลู่ชิงหลัวเองก็รู้สึกอับอายเช่นกัน เขาไม่ได้คิดเลยว่าซือเฟิงจะทำให้สถานการณ์พลิกกลับตาลปัตรแบบนี้จนทำให้พวกเขามาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแทน
“หัวหน้ากิลชิงหลัว เราจะเอายังไงกันต่อ ? หากเราเคลื่อนไหวตอนนี้ มันจะเป็นฝ่ายของเราเท่านั้นเลยนะที่ถูกฆ่า ….” ไซเร้นมาร์ชมองไปยังลู่ชิงหลัวพลางถามด้วยน้ำเสียงต่ำ
ครั้งนี้แผนการทั้งหมดนั้นได้ถูกคิดขึ้นและดำเนินการโดยลู่ชิงหลัว และพวกเขาก็เพียงแค่เข้ามาช่วยเท่านั้น ลู่ชิงหลัวได้ให้สัญญาซ้ำแล้วซ้ำแล้วซ้ำเล่าวว่า เขาจะสามารถเอาชนะสภาสิบแปดปีกได้แน่นอนในครั้งนี้ และหลังจากนั้นเขาก็จะแบ่งสภาสิบแปดปีกกับพันํมิตรสามกิล และหอคอยแห่งพันธสัญญาลับให้กับมหาอำนาจที่ส่งความช่วยเหลือมาให้เขาจัดการเรื่องนี้
แต่ตอนนี้มิราเคิลของพวกเขานั้นยังไม่ทันได้รับอะไรเลยด้วยซ้ำ พวกเขาก็สูญเสียมิราเคิลดราก้อนไปด้วยน้ำมือของผู้เชี่ยวชาญของสภาสิบแปดปีกแล้ว และตอนนี้ไซเร้นมาร์ชเองก็มีสิทที่จะต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับมิราเคิลดราก้อนสูงมาก
“ฉันรู้น่า …” ลู่ชิงหลัวกล่าวพลางถอนหายใจออกมา “เดิมทีฉันคิดว่าวิธีการเหล่านี้ มันก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะใช้เอาชนะสภาสิบแปดปีก อย่างไรก็ตามท้ายที่สุด ฉันก็ยังคงต้องไปขอความช่วยเหลือจากพวกเขาสินะ”
“อย่าบอกนะว่าคุณกำลังพูดถึงพวกกิลร้อยผีโดดเดี่ยว ?” เมื่อได้ยินคำพูดของลู่ชิงหลัว ไซเร้นมาร์ชก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองทีมของร้อยผีโดดเดี่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขานัก
เธอไม่คิดเลยว่าลู่ชิงหลัวจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากพอกับร้อยผีโดดเดี่ยวจนเอ่ยปากขอให้พวกเขาลงมือได้
“ใช่ พวกเขานั่นแหละ …” ลู่ชิงหลัวพยักหน้า จากนั้นเขาก็มองไปยังชายหนุ่มรูปหล่อที่เป็นผู้นำทีมของร้อยผีโดดเดี่ยว และพูดด้วยเสียงอันดังว่า “พี่ซี่หยวน ฉันขอรบกวนให้พวกคุณเคลื่อนไหวจัดการเรื่องนี้ให้หน่อย สตาร์ลิ้งยินดีจะยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดที่คุณต้องการ !!!”
“ยอดเยี่ยม !! เรารอคำนี้จากคุณมานานแล้ว หัวหน้ากิลชิงหลัว !!!” ซี่หยวนกล่าวอย่างมีความสุข เมื่อได้ยินคำพูดล่าสุดของลู่ชิงหลัว “เนื่องจากหัวหน้ากิลชิงหลัวกล่าวมาแบบนี้ ทางเราก็จะจัดการทุกอย่างให้เอง !!!”
“ขอบคุณมากพี่ซี่หยวน !!!” ลู่ชิงหลัวกล่าวพลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เพราะในเวลานี้นั้นเขาถูกซือเฟิงผลักดันให้จมลงไปสู่ความสิ้นหวังจริงๆ เนื่องจากท้ายที่สุดแล้วนี่มันไม่ใช่ภายนอกเมือง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในเมืองสกายสปริง และที่นี่ก็นับเป็นดินแดนของสภาสิบแปดปีกด้วย ไม่ว่าพวกเขาจะตายลงจากการต่อสู้ในเมืองสกายสปริง หรือถูกซือเฟิงกับคนอื่นๆจับ ในตอนสุดท้ายพวกเขาก็จะถูกจับขังคุกในเมืองสกายสปริงตั้งแต่สองถึงสามวัน ไปจนถึงมากกว่าสิบวัน
ซึ่งนี่มันคือสิ่งเขาทนไม่ได้อย่างแน่นอน !!!
แต่ตอนนี้ในเมื่อร้อยผีโดดเดี่ยวยินดีจะเข้าแทรกแซง ทุกอย่างมันก็จะง่ายขึ้นมากสำหรับเขา
เพราะเขารู้ดีว่าดีว่าวิธีการ และพลังลึกลับที่อยู่เบื้องหลังกิลๆนี้นั้นไม่ธรรมดาเลย และพวกเขาก็เหนือกว่ามหาอำนาจส่วนใหญ่ในทวีปหลักของ God domain ตอนนี้ด้วย
สำหรับเหล่าผู้ชมที่เฝ้าชมอยู่นั้น เมื่อพวกเขาเห็นลู่ชิงหลัวหันไปขอร้องชายหนุ่มรูปหล่อ กับทีมของชายหนุ่มรูปหล่อ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ และพวกเขาก็ยิ่งประหลาดใจเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อได้เห็นว่าสีหน้ากดดันของลู่ชิงหลัวนั้นดูผ่อนคลายลงมาก หลังจากที่ชายหนุ่มรูปหล่อพยักหน้ายอมรับจะช่วยเขา
“พวกเขาเป็นใครกัน ? พวกเขาถึงกับทำให้ลู่ชิงหลัวต้องขอร้องพวกเขาได้ ?”
“นี่คุณไปอยู่ไหนมาเนี่ย ?! นั่นก็พวกกิลร้อยผีโดดเดี่ยวไง พวกเขาเป็นกิลที่ลึกลับ และทรงพลังมากๆ ซึ่งแม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องเกรงใจพวกเขา เพราะพวกเขาได้เอาชนะผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นของห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดมาแล้วจำนวนมาก ฉันไม่ได้คาดหวังเลยว่าสตาร์ลิ้งจะขอความร่วมมือกับร้อยผีโดดเดี่ยวได้ด้วย !!!”
มันมีผู้เล่นจำนวนมากที่เฝ้าดูอยู่ไม่เข้าใจถึงตัวตนของร้อยผีโดดเดี่ยว อย่างไรก็ตาม เมื่อคนที่เข้าใจได้อธิบายให้พวกเขาฟัง ผู้เล่นทั้งหมดโดยรอบบริเวณก็เริ่มเข้าใจถึงตัวตน และพลังที่ค่อนข้างพิเศษของร้อยผีโดดเดี่ยว
อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่ง ใบหน้าของอันยีลดิ้งฮาร์ทและอิลูซะรี่เวิร์ดนั้นมืดมนลงทันที เมื่อได้เห็นฉากนี้
“แม่งเอ้ย !!! ร้อยผีโดดเดี่ยวไปทำงานร่วมกับสตาร์ลิ้งตั้งแต่ตอนไหนกัน ?!” อันยีลดิ้งฮาร์ทอดไม่ได้ที่จะมองไปยังชายหนุ่มรูปหล่อที่ชื่อซี่หยวนนี้อย่างไม่ค่อยพอใจ
สำหรับอิลูซะรี่เวิร์ดแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของอันยีลดิ้งฮาร์ท ซึ่งพูดกันตามตรงนั้น พวกเขาได้รับคำเตือนมาจากกิลของพวกเขาอย่างชัดเจนแล้วด้วยว่าห้ามยั่วยุร้อยผีโดดเดี่ยวเด็ดขาด
หลังจากที่ซี่หยวนตบปากรับคำขอความช่วยเหลือของลู่ชิงหลัวแล้ว เขาก็ได้หันไปมองซือเฟิงที่อยู่ไกลออกไป และพูดด้วยเสียงอันดังว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คนเหล่านี้นั้นเป็นพันธมิตรและมีส่วนเกี่ยวข้องกับร้อยผีโดดเดี่ยวของเรา คุณช่วยเห็นแก่หน้าของร้อยผีโดดเดี่ยวเราสักครั้ง และปล่อยพวกเขาไปหน่อยได้ไหมในวันนี้ ? หากคุณยอม ฉันซี่หยวนขอสัญญาเลยว่าถ้าสภาสิบแปดปีกมีเรื่อง หรือปัญหาในอนาคต ฉันจะเข้าไปช่วยเหลือทันที”
ตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของซี่หยวนนั้น ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองซือเฟิงที่ลอยอยู่กลางอากาศ หากซือเฟิงยอมทำตามคำพูดของซี่หยวนในวันนี้ เขาก็จะพลาดโอกาสที่จะสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับสตาร์ลิ้ง และพันธมิตรของพวกเขา แต่หากซือเฟิงไม่ยอมทำตาม เขาก็จะต้องกลายเป็นศัตรูของร้อยผีโดดเดี่ยวที่แม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังเกรงใจและหวาดกลัว
“เห็นแก่หน้า ? เข้าช่วยเหลือทันที ?” ซือเฟิงมองไปที่ซี่หยวน และอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ก่อนหน้านี้ในตอนที่สตาร์ลิ้งและพันธมิตรของพวกเขาผลักดันให้พันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกไปถึงทางตัน ทำไมตอนนั้นคุณไม่ลุกขึ้นยืนมาแบบนี้บ้างล่ะ ? แต่พอไอ้พวกโง่นี้มันตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง พวกคุณกับลุกขึ้นยืนมาขอให้ฉันปล่อยพวกโง่นี้ไป …. พวกคุณคิดว่าไอ้หน้าของพวกคุณเนี่ยมันมีค่ามากนักหรอ ? แล้วพวกคุณจะทำยังไงถ้าฉันไม่เห็นแก่หน้าพวกคุณ ?!”