Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2825

ตอนที่ 2825 ปิดผนึกโลก

“มอนสเตอร์ Faux Saint บินได้หลายพันตัวถูกจัดการไปแบบนี้เลยงั้นหรอ ?”

อันยีลดิ้งฮาร์ท และอิลูซะรี่เวิร์ดมองไปยังเหล่ามอนสเตอร์ Faux Saint บินได้ที่ค่อยๆร่วงหล่นลงสู่พื้นทีละตัวๆ ขณะที่ HP ของพวกมันก็ลดลงไปเหลือน้อยกว่าหนึ่งในสามกันทั้งหมดด้วยแววตาตกตะลึง

เดิมทีพวกเขาคิดว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก

แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้และตรึงกำลังไว้ทั้งวันทั้งคืน แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่จะทำให้มอนสเตอร์พวกนี้ได้รับความสูญเสียอย่างหนักแบบนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วมอนสเตอร์ Faux Saint แต่ละตัวนั้นมีมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงมาก และพวกมันก็สติปัญญาที่สูงด้วยเช่นกัน แถมพวกมันยังสามารถเรียนรู้ความสามารถต่างๆและปรับปรุงความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นยิ่งการต่อสู้ถูกลากออกไปยาวนานเท่าไหร่ พวกมันก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นแน่นอน

อย่างไรก็ตามในวันนี้นั้นป้อมปราการเคลื่อนที่ทำการโจมตีไปเพียงสองระลอกเท่านั้น แต่มันกับทำให้มอนสเตอร์ Faux Saint บินได้หลายพันตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่มอสเตอร์ Faux Saint บนพื้นดินก็ตายไปอีกนับแสนตัว

ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่การต่อสู้เลย มันก็แค่เทศกาลการสังหารหมู่เท่านั้น

มอนสเตอร์ Faux Saint ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่เป้าเคลื่อนที่ได้ของป้อมปราการเคลื่อนที่ที่รอการถูกโจมตีและสังหารหมู่เท่านั้น พวกมันไม่มีความสามารถแม้แต่จะต้านทานได้เลย

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาไม่ได้เห็นมหาอำนาจต่างๆอยู่ในสายตาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยป้อมปราการเคลื่อนที่นี้ แม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังจะไม่สามารถทำอะไรกับสภาสิบแปดปีกในปัจจุบันได้แน่นอน” อันยีลดิ้งฮาร์ทกล่าวพลางมองไปยังฉากตรงหน้าที่การโจมตีของป้อมปราการเคลื่อนที่สองระลอกสร้างขึ้นด้วยรอยยิ้ม

ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ลิ้งหรือร้อยผีโดดเดี่ยว ต่อหน้าป้อมปราการเคลื่อนที่แห่งนี้ ทั้งสองก็ไม่ต่างจากมดปลวก
อย่างไรก็ตามมันก็มีเพียงซือเฟิงเท่านั้นที่รู้ว่าค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการโจมตีเมื่อครู่มันมหาศาลแค่ไหน

ในการที่จะให้หอคอยแปดแห่งโจมตีพร้อมกันนั้น มันมีค่าใช้จ่ายเป็นคริสตัลเวทย์มนต์ถึงหนึ่งแสนหกหมื่นชิ้น ซึ่งนี่มันเทียบเท่ากับคริสตัลเวทย์มนต์สำรองในคลังของกิลชั้นรองเลย

ในปัจจุบันจำนวนคริสตัลเวทย์มนต์สำรองในคลังของกิลชั้นสูงนั้นก็จะมีไม่เกินสี่แสนชิ้นเท่านั้น ซึ่งนี่มันก็เท่ากับว่าการยิงเมื่อครู่นั้นผลาญคริสตัลเวทย์มนต์สำรองเกือบครึ่งในคลังของกิลชั้นสูงไปเลย และเมื่อรวมกันกับการโจมตีก่อนหน้านี้อีกครั้งหนึ่งนั้น มันก็จะเท่ากับว่าเขาผลาญคริสตัลเวทย์มนต์สำรองของกิลชั้นสูงไปมากกว่าครึ่งเลย

อย่างไรก็ตามที่บนหลังของอีกาเพลิงมืดนอกป้อมปราการเคลื่อนที่นั้น ลู่ชิงหลัว และจักรพรรดิอสูรก็พูดไม่ออกอย่างมาก

โดยเฉพาะจักรพรรดิอสูรที่ตอนนี้ความตกตะลึง และความสับสนเข้าเกาะกุมหัวใจของเขาเต็มไปหมดแล้ว ในตอนแรกด้วยกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ของเขานั้น เขามั่นใจมากๆว่าเขาจะสามารถกวาดผ่านอาณาจักรทวินทาวเวอร์ได้อย่างง่ายดาย และแม้แต่กองทัพ NPC ของอาณาจักรก็ยังไม่น่าจะสามารถหยุดเขาได้

แต่ตอนนี้ ….

ในเวลานี้ไม่เพียงแต่จักรพรรดิอสูรเท่านั้นที่รู้สึกตกตะลึงกับฉากนี้ แม้แต่ร้อยผีโดดเดี่ยวที่อยู่ไกลออกไปก็ยังมีความรู้สึกคล้ายๆกัน

การโจมตีสองระลอกของป้อมปราการเคลื่อนที่ได้สร้างความเสียหายให้กับกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint อย่างรุนแรง ซึ่งหากมอนสเตอร์พวกนี้ไม่ได้มี HP และค่าความต้านทานที่สูงลิ่ว พวกมันก็คงจะตายทันทีแน่นอน และถ้าเปลี่ยนจากกองทัพมอนสเตอร์แบบนี้เป็นกองทัพผู้เล่น กองทัพผู้เล่นก็คงจะถูกกวาดล้างไปนานแล้ว

“ผู้อาวุโสเฟิงหยิง ป้อมปราการเคลื่อนที่นี้มันทรงพลังมากเกินไป ถ้าเราเร่งรีบบุกเข้าไป ฉันกลัวว่าเราจะเจอกับอะไรที่แย่กว่านี้ ….” เฟยเย่ สาวสวยผมสั้นสีฟ้าที่นั่งอยู่บนหลังงูปีศาจโบราณตัวเดียวกับผู้อาวุโสเฟิงหยิงกล่าวขึ้นอย่างกังวล

ในแง่ของพลังการต่อสู้ทางอากาศ งูปีศาจโบราณนั้นทรงพลังกว่าพวกมอนสเตอร์ Faux Saint บินได้อย่างมาก และมันก็สามารถจะรับมือกับมอนสเตอร์ Faux Saint บินได้หลายตัวพร้อมกันได้สบายๆ

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่ากลัวแบบนี้ งูปีศาจโบราณก็คงจะมีสภาพไม่ได้ดีไปกว่ามอนสเตอร์ Faux Saint บินได้เหล่านี้มากนักแน่นอน

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าวงเวทย์ป้องกันของป้อมปราการเคลื่อนที่ยังคงจัดว่าอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์มากด้วย ซึ่งเมื่อบวกปัจจัยทั้งหมดเข้าไป มันก็เห็นได้ชัดเลยว่า มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเขาในตอนนี้ที่จะทำลายวงเวทย์ป้องกันนี้ลงให้ได้

เมื่อได้ยินคำพูดของเฟยเย่ ผู้อาวุโสจูเฟิงหยิงก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะกัดฟันออกคำสั่งว่า “พวกเราถอย !!!”

งูปีศาจโบราณนั้นเป็นอะเม้าท์บินได้ระดับตำนาน และมันก็พึ่งจะได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นอะเม้าท์ขั้นสี่ ขณะเดียวกันอะเม้าท์ตัวนี้ก็สามารถจะพัฒนาไปได้จนมีพลังที่ขั้นพื้นฐาน ของขั้นห้าเลย ซึ่งแม้แต่วงเวทย์ป้องกันของเมืองกิลชั้นสูงก็ยังจะไม่สามารถหยุดการโจมตีของพวกมันได้แน่นอน

ในความคิดของเขาแต่เดิมนั้น แม้ว่าวงเวทย์ป้องกันของป้อมปราการเคลื่อนที่อาจจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็น่าจะสามารถทำลายมันลงได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักหน่อยก็ตาม ….

อย่างไรก็ตามหลังจากได้เห็นการโจมตีทั้งสองระลอกของป้อมปราการเคลื่อนที่ เขาก็เข้าใจอย่างชัดเจนเลยว่าตอนนี้เขาไม่สามารถจะทำอะไรกับป้อมปราการเคลื่อนที่ได้ และเขาก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องอยู่ที่นี่ต่อแล้ว

ในเวลานี้ไม่ใช่แค่จูเฟิงหยิงเท่านั้นที่มีความคิดแบบนี้ แต่จักรพรรดิอสูรเองก็เช่นกัน ซึ่งเขาก็ได้ออกคำสั่งให้กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ของเขาเริ่มทำการถอยหนีอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากจักรพรรดิอสูรออกคำสั่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังลู่ชิงหลัวที่เต็มไปด้วยท่าทีไม่เต็มใจและพูดว่า “ถอยกลับกันเถอะ ตอนนี้เราไม่สามารถจะทำอะไรได้มากไปกว่านี้แล้ว ….”
ตอนนี้กองทัพของพวกเขานั้นจัดว่าไม่มีอะไรเลย เมื่ออยู่ต่อหน้าป้อมปราการเคลื่อนที่ สำหรับหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ พวกเขาก็ไม่สามารถจะเข้ามายุ่งกับมันได้อีกต่อไป หรือพูดกันตามตรงอย่างน้อยในระหว่างที่ป้อมปราการเคลื่อนที่ยังอยู่นั้น พวกเขาก็ไม่มีสิทและโอกาสใดๆเลย

“จักรพรรดิอสูร มันไม่มีอะไรที่คุณสามารถจะทำได้อีกแล้วจริงๆงั้นหรอ ? ฉันได้เทหมดหน้าตักไปกับคุณแล้วนะ !!!” ลู่ชิงหลัวกล่าวพลางมองไปยังจักรพรรดิอสูรด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและไม่เต็มใจ

ก่อนหน้านี้สตาร์ลิ้งก็ประสบกับความสูญเสียอย่างหนักในเมืองสกายสปริง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงมั่นใจว่าเขาจะสามารถเข้ายึดครองและควบคุมหอคอยแห่งพันธสัญญาลับได้ ซึ่งตราบใดที่เขาทำได้ตามนี้ปัญหาหลายอย่างก็จะถูกแก้ไปในทันที แต่ตอนนี้ทุกสิ่งที่เขาคิดไว้มันกับสลายหายไปแล้ว ดังนั้นจะให้เขายอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร ?

“ชิงหลัว วันนี้คุณอาจจะพ่ายแพ้และสูญเสียอย่างหนักที่นี่ แต่ด้วยความแข็งแกร่ง รากฐาน และเงินทุนของบริษัทสตาร์ไลน์ คุณสามารถจะมาติดตามฉันได้นะ ….” จักรพรรดิอสูรกล่าว “กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint พวกนี้จะขยายตัวและแข็งแกร่งขึ้นอีกมากในอนาคต ซึ่งฉันกล้าการันตีเลยว่าต่อไป แม้แต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคุณก็จะไม่อาจต่อกรกับกองทัพนี้ได้แน่นอน …”

“สำหรับสภาสิบแปดปีก ไม่ช้าก็เร็วฉันจะลบพวกเขาออกไปจาก God domain อย่างสิ้นเชิง !!!”

เมื่อพูดมาถึงเรื่องของสภาสิบแปดปีก เสียงของจักรพรรดิอสูรก็ฟังดูเย็นชาเล็กน้อย

หากไม่ใช่เพราะสภาสิบแปดปีก กองทัพของเขาก็คงจะเข้ากลืนกิน และเดินทางตัดผ่านอาณาจักรสตาร์มูน กับจักรวรรดิมังกรดำไปได้นานแล้ว เพราะท้ายที่สุดแล้ว ก่อนจะเกิดการอัพเดทครั้งใหญ่ขึ้นนั้น มันไม่มีใครที่จะสามารถหยุดกองทัพนี้ของเขาได้แน่นอน ….

สำหรับตอนนี้กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนักแล้ว และพวกมอนสเตอร์ Faux Saint บินได้ระดับเทพนิยายนั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเลี้ยงดูขึ้นมาได้ง่ายๆเลย ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องออกคำสั่งให้ถอยเพื่อลดความสูญเสีย เพราะท้ายที่สุดแล้วด้วยจำนวนที่มีมากขนาดนี้ต่อให้สภาสิบแปดปีกอยากจะตามล่าพวกเขาต่อ แต่สภาสิบแปดปีกจะสามารถฆ่ามอนสเตอร์ Faux Saint พวกนี้ได้กี่ตัวกัน ?

ในทางตรงกันข้ามจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีก ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำก็คือรอ รอให้มีมอนสเตอร์ Faux Saint ขั้นห้าปรากฎตัวขึ้นก่อน !!!

ตราบใดที่เขามีมอนสเตอร์ Faux Saint ขั้นห้าเมื่อไหร่ ไม่ต้องพูดถึงป้อมปราการเคลื่อนที่ของสภาสิบแปดปีกเลย เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถยึดประเทศใน God domain ได้ทุกประเทศตามที่เขาต้องการแน่นอน

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลี้ยงดูมอนสเตอร์ Faux Saint ขั้นห้าขึ้นมาให้ได้ เพราะมันต้องใช้มอนสเตอร์ Faux Saint ขั้นสี่ พร้อมกับทรัพยากรอีกจำนวนมากเพื่อให้กำเนิดมอนสเตอร์ Faux Saint ขั้นห้า และลู่ชิงหลัว ซึ่งเป็นหัวหน้ากิลของสตาร์ลิ้ง และทายาทของบริษัทสตาร์ไลน์นั้นก็นับเป็นตัวจ่ายเงินที่ดีสำหรับเรื่องนี้

เมื่อได้ฟังคำพูดของจักรพรรดิอสูร ลู่ชิงหลัวก็พยักหน้ารับอย่างไม่สามารถจะทำอะไรได้ และเมื่อเขาเลือกจะยืนอยู่ข้างจักรพรรดิอสูรแบบนี้แล้ว มันก็จะถือว่าเขายืนอยู่ตรงข้ามกับผู้เล่นแทบทุกคนใน God domain เลย แถมเขายังจะต้องมอบทรัพยากรจำนวนมากที่เขาได้รับมาจาก Upper Zone ให้จักรพรรดิอสูรอีก

แต่แม้จะเป็นแบบนี้เขาก็ต้องยอมรับสภาพ เพราะท้ายที่สุดแล้วไม่งั้นตำแหน่งทา
ยาทบริษัทสตาร์ไลน์ของเขามันอาจจะถูกแทนที่ด้วยคนอื่น ….

ไฟเออร์แดนซ์มองไปยังอีกาเพลิงมืด และงูปีศาจโบราณที่เริ่มพยายามจะถอยด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เธอจะกล่าวออกมาว่า “หัวหน้ากิล ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะเริ่มถอยกันแล้ว”

มันค่อนข้างจะน่าเสียดายอยู่เล็กน้อยที่ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาตัดสินใจถอยเร็วแบบนี้ เพราะท้ายที่สุดแม้ว่าป้อมปราการเคลื่อนที่จะมีความสามารถในการโจมตีที่สูงมาก และสามารถเคลื่อนที่ได้ แต่มันก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะหยุดกองทัพนับล้านไม่ให้ถอยได้ แถมหากพวกเขาเลือกจะออกไปไล่ล่ากองทัพนี้ด้วยตัวเอง มันก็มีสิทจะไปเข้าทางลู่ชิงหลัวกับคนอื่นๆอีก

“ถอย ? เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดได้เข้ามาโจมตีเราที่นี่ ดังนั้นก็อย่าคิดว่าจะจากไปได้ !!!”

ซือเฟิงยิ้ม เมื่อเขาเห็นว่าจักรพรรดิอสูร และร้อยผีโดดเดี่ยวเริ่มทำการถอย ก่อนที่เขาจะเริ่มเปิดใช้งานกระจกแห่งโลกเพื่อปิดผนึกพื้นที่

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset