ตอนที่ 2827 ยอมแพ้และตายซะ
ที่บริเวณขอบบาเรีย … (ซึ่งก็คือขอบแผนที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับนั่นแหละ) เมื่อเหล่ามอนสเตอร์ Faux Saint บินได้หลายร้อยตัวนี้ได้ยินคำสั่งของจักรพรรดิอสูร พวกมันก็เริ่มพุ่งเข้าโจมตีขอบบาเรียพร้อมกัน
แม้ว่ามอนสเตอร์ Faux Saint บินได้พวกนี้จะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่พวกมันก็ยังคงมีพลังต่อสู้เทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไปอยู่ และพวกมันก็มีสกิลโจมตีที่ดี
ตู้ม !
โดยมอนสเตอร์ Faux Saint บินได้หลายร้อยตัวที่ติดตามจักรพรรดิอสูรมาได้ใช้สกิลที่รุนแรงประสานงานการโจมตีไปยังจุดเดียวกันทันที
หลังจากมีเสียงระเบิดดังขึ้นจักรพรรดิอสูร และลู่ชิงหลัวก็รีบตรงไปยังจุดนั้นทันที
“เป็นไปได้ยังไง !!”
แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับการโจมตีประสานงานกันด้วยสกิลที่รุนแรงของมอนสเตอร์ Faux Saint บินได้หลายร้อยตัว แต่บาเรียก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม และดูแทบไม่มีรอยขีดข่วนใดๆเลย
ในเวลานี้ไม่เพียงแต่จักรพรรดิอสูรกับลู่ชิงหลัวเท่านั้นที่ประหลาดใจ แม้แต่ร้อยผีโดดเดี่ยวเองก็ยังประหลาดใจกับเรื่องนี้มากเช่นกัน
“มันเป็นเพราะมอนสเตอร์ Faux Saint บินได้เหล่านั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงมีพลังไม่เพียงพอจะทำลายบาเรียงั้นหรอ ?” เฟยยี่ที่เป็นเบอเซิกเกอร์อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นฉากตรงหน้า
วงเวทย์ที่สามารถใช้ปิดผนึกพื้นที่ได้ทั้งแผนที่และตัดการสื่อสารทั้งหมดจากโลกภายนอกได้นั้นมันก็จัดว่าทรงพลังมาแล้ว แต่ตอนนี้มันกับสามารถจะทนต่อการโจมตีของมอนสเตอร์ Faux Saint หลายร้อยตัวพร้อมกันได้ด้วย นี่มันน่าเหลือเชื่อมากๆ
ขณะเดียวกันชายยักษ์เกราะทองที่ชื่อหานเทียนก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเฟยยี่ “น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเราจะต้องลงมือทำลายมันเอง”
“ก็คงต้องอย่างนั้น ….”
ผู้อาวุโสจูเฟิงหยิงไม่สามารถจะทำอะไรได้นอกจากต้องควบคุมงูปีศาจโบราณอ้าปากของมันขึ้น และทำการพ่นลมหายใจแห่งความมืดออกมาโดยตรง
ตู้ม !!
อย่างไรก็ตามเมื่อผลของการโจมตีจากลมหายใจแห่งความมืดของงูปีศาจโบราณหมดลงทุกคนก็ต้องอ้าปากค้างกันอีกครั้ง
“มันไม่เป็นไรเลย ?”
เพราะท้ายที่สุดแล้วอะเม้าท์บินได้อย่างงูปีศาจโบราณที่เป็นของผู้อาวุโสจูเฟิงหยิงนั้นอยู่ในขั้นสี่แล้ว และมันก็มีพลังใกล้เคียงกับขั้นห้ามากๆ ซึ่งการโจมตีด้วยลมหายใจแห่งความมืดหนึ่งครั้งนั้นมันสามารถจะทำให้มอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายบาดเจ็บสาหัสได้ด้วยซ้ำ หรือมันสามารถจะทำลายวงเวทย์ป้องกันของ
เมืองกิลเมืองหนึ่งได้ด้วยซ้ำ ….
แต่ตอนนี้เมื่อใช้มันโจมตีบาเรียตรงหน้าของพวกเขา บาเรียกับแทบไม่มีร่องรอยใดๆเลย
ในขณะนี้ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิอสูร ลู่ชิงหลัว หรือพวกร้อยผีโดดเดี่ยวเลย แม้แต่อันยีลดิ้งฮาร์ท กับอิลูซะรี่เวิร์ดก็ล้วนตกตะลึงมากๆเมื่อได้เห็นฉากนี้
พลังที่งูปีศาจโบราณใช้โจมตีเมื่อครู่นั้นมันแทบจะเทียบได้กับพลังโจมตีของโทเดลย่า ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายชั้นยอดที่น่ากลัวเลย แต่มันกับไม่สามารถทำลายบาเรียตรงหน้าลงได้ พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องของวงเวทย์ที่มีพลังมากขนาดนี้มาก่อนเลย ….
วงเวทย์มนต์ที่ใช้ปกคลุมทั้งพื้นที่ที่สามารถต้านทานการโจมตีที่มีพลังเทียบเท่ากับขั้นสี่ได้มันก็จัดว่าน่าทึ่งแล้ว แต่เมื่อครู่มันกับสามารถต้านทานพลังการโจมตีที่มีพลังเทียบเท่ากับขั้นห้าได้ด้วย และเมื่อบวกเพิ่มป้อมปราการเคลื่อนที่เข้ามาในปัจจัยทั้งหมด นี่มันจะทำให้พวกเขานั้นสามารถเข้าควบคุมแผนที่นี้ทั้งหมดไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเลย
อย่างไรก็ตามมันก็เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิอสูรและคนอื่นๆนั้นยังคงไม่คิดจะยอมแพ้ เพราะพวกเขายังคงระดมโจมตีบาเรียนี้กันต่ออย่างบ้าคลั่ง
ในความคิดของพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถทำลายบาเรียนี้ลงได้ในทันที แต่การโจมตีของพวกเขาก็น่าจะกลืนกินแหล่งพลังงานของบาเรียไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันก็คงจะทำให้บาเรียทนได้อีกไม่นานนักแน่นอน
ในขณะที่มอนสเตอร์ Faux Saint บินได้รอบตัวจักรพรรดิอสูรและงูปีศาจโบราณกำลังโจมตีบาเรียนี้กันอย่างบ้าคลั่ง ซือเฟิงและคนอื่นๆก็ได้ไล่ฆ่าพวกมอนสเตอร์ Faux Saint เรื่อยๆ และเริ่มขยับเข้าใกล้พวกเขามาเรื่อยๆ
หนึ่งนาที …. สามนาที …. สิบนาที ….
จนกระทั่งซือเฟิงและคนอื่นๆได้ฆ่ามอนสเตอร์ Faux Saint บินได้ไปมากกว่าพันตัว จักรพรรดิอสูร และพวกร้อยผีโดดเดี่ยวก็ยังไม่สามารถทำลายบาเรียได้ สำหรับเลเวลไฟเนั้น ออร์แดนซ์กับไวโอเล็ตคลาวด์ก็ไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบหกแล้ว ขณะที่เลเวลของอันยีลดิ้งฮาร์ทกับอิลูซะรี่เวิร์ดก็ไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบเอ็ด ส่วนเลเวลของไลฟ์เลสธอร์นกับโซริทารี่ไนน์ก็ไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบสาม
เมื่อเหลือระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายน้อยกว่าห้าร้อยหลาแล้ว จักรพรรดิอสูรและพวกร้อยผีโดดเดี่ยวก็หยุดการโจมตีของพวกเขาพลางมองไปยังบาเรียตรงหน้า สลับกับซือเฟิงกับและคนอื่นๆ พร้อมกับป้อมปราการเคลื่อนที่ที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาด้วยความระมัดระวัง
“ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจักรพรรดิอสูร ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะ ….” ซือเฟิงมองไปที่จักรพรรดิอสูรและจูเฟิงหยิงพลางหัวเราะเบาๆ “ตอนนี้พวกคุณจะดิ้นรนกันต่อ หรือจะหันมาขอร้องฉันดี ?”
“แบล๊คเฟรม อย่ามั่นใจในตัวเองมากเกินไปนัก !!! ตอนนี้พวกมอนสเตอร์ Faux Saint บินได้นั้นฟื้นตัวกันอย่างเต็มที่แล้ว !!!” จักรพรรดิอสูรมองไปยังซือเฟิงด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว “และแม้ว่าตอนนี้พวกมันจะเหลือมากกว่าสามร้อยตัวเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อคุณเข้ามาอยู่ในระยะใกล้ขนาดนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยนะที่จะสั่งให้พวกมันล้อมฆ่าคุณ !!!”
เมื่อเห็นซือเฟิงและคนอื่นๆฆ่ามอนสเตอร์ Faux Saint บินได้ของเขาไปมากกว่าพันตัวนั้น จักรพรรดิอสูรก็แทบจะกระอักเลือดออกมา
หากในตอนนี้มันไม่ได้เป็นเพราะเขากลัวป้อมปราการเคลื่อนที่ เขาก็คงจะสั่งให้มอนสเตอร์ Faux Saint บินได้ทั้งหมดที่เหลือเขาล้อมและฆ่าซือเฟิงกับคนอื่นๆไปแล้วแน่นอน
เมื่อเทียบกับความโกรธของจักรพรรดิอสูรแล้ว ฝั่งของร้อยผีโดดเดี่ยวนั้นดูสงบจนน่าประหลาดใจ
“สวัสดีหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันคือผู้อาวุสจูเฟิงหยิงแห่งร้อยผีโดดเดี่ยว” จูเฟิงหยิงพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เขาจะพูดอย่างช้าๆว่า “คราวนี้พวกเราร้อยผีโดดเดี่ยวจะขอเจรจา คุณสามารถบอกราคามาได้เลยหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม เรายินดีจะจ่ายเพื่อแลกกับชีวิตของเราทั้งหมด และซี่หยวนที่ถูกขังไว้”
“ผู้อาวุโสจูเฟิงหยิง ?” เฟยเย่ตกใจเมื่อเธอได้ยินคำพูดของจูเฟิงหยิง
ร้อยผีโดดเดี่ยวของพวกเขานั้นแข็งแกร่งมากๆ และแทบจะไม่เคยเห็นกิลในทวีปหลักของ God domain อยู่ในสายตาเลย ไม่เว้นแม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด ตอนนี้ถ้าพวกเขายอมแพ้ให้กับสภาสิบแปดปีก พวกเขาก็จะกลายเป็นที่หัวเราะในหมู่มหาอำนาจต่างๆของ God domain แน่นอน
และหากเรื่องนี้เกิดขึ้น พวกเขาทั้งหมดก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะต้องไปอธิบายให้พวกระดับสูงของกิลพวกเขาเข้าใจได้อย่างไร ….
จักรพรรดิอสูรและลู่ชิงหลัวที่อยู่ไม่ไกลนักก็ผงะเช่นกัน เมื่อได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาไม่คิดเลยว่าจูเฟิงหยิงจะยอมรับความพ่ายแพ้โดยไม่พูดอะไรสักคำ ซึ่งนี่มันก็ทำให้พวกเขาหมดความมั่นใจในการจะรับมือกับสภาสิบแปดปีกตอนนี้ไปเลย
“ผู้อาวุโสจูเฟิงหยิง ดูเหมือนว่าร้อยผีโดดเดี่ยวของคุณจะกลัวสภาสิบแปดปีกตั้งแต่ยังไม่เริ่มต่อสู้เลยนะ ….” จักรพรรดิอสูรกล่าวอย่างเย้ยหยัน “ฉันได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้แม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังเกรงกลัวพวกคุณ แต่ตอนนี้จริงๆแล้วดูเหมือนว่าพวกคุณจะไม่มีอะไรเลยสินะ พวกคุณมันมีแค่เปลือกจริงๆ !!!”
“จักรพรรดิอสูร ร้อยผีโดดเดี่ยวของเราก็มีกฎเป็นของตัวเอง และพูดกันตามตรงเราก็ไม่ได้มีความเกลียดชังหรือปัญหาใดๆกับสภาสิบแปดปีก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะเรื่องเข้าใจผิดที่เมืองสกายสปริง ซึ่งพวกรุ่นเยาว์ของเราไปยั่วยุสภาสิบแปดปีกโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เอง สำหรับพวกคุณในเมื่อพวกคุณไปยั่วยุสภาสิบแปดปีก มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกคุณจะต้องถูกลงโทษ” จูเฟิงหยิงกล่าวอย่างไม่แยแส
“ผู้อาวุโสจูเฟิงหยิง คุณนี่มัน …” จักรพรรดิอสูรมองไปยังจูเฟิงหยิงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าคนอย่างจูเฟิงหยิงจะยอมแพ้โดยไม่สนใบหน้าใดๆเลย และตอนนี้มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าจูเฟิงหยิงวางแผนที่จะแยกตัวออกจากความขัดแย้งนี้ “แต่อย่างไรก็ตามแบล๊คเฟรมก็จะไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆแน่นอน !!!”
“ใช่แล้วที่คุณพูดมามันก็ถูก ….” จูเฟิงหยิงยิ้มและพูดว่า “แต่ฉันอยากจะบอกว่าร้อยผีโดดเดี่ยวของเรายินดีจะแลกเปลี่ยนชีวิตของพวกเรากับแบบแปลนเซ็ทมานาขั้นสามจำลอง”
“นี่คุณบ้ารึปล่าว ?!” จักรพรรดิอสูรที่ได้ยินข้อเสนอของจูเฟิงหยิงตกตะลึง
พลังของเซ็ทมานาขั้นสามนั้นเขาสามารถรู้ได้เลยจากกองอัศวินดำเบื้องหลังจูเฟิง
หยิง และท้ายที่สุดแล้วเซ็ทมานาขั้นสามนี้มันก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่สวมใส่มันทุกคนมีความสามารถจะโซโล่กับมอนสเตอร์ Faux Saint ระดับเทพนิยายของเขาได้เลย ซึ่งแค่เรื่องเซ็ทนี้อย่างเดียว มันก็ทำให้ซุเปอร์กิลส่วนใหญ่ไม่กล้าจะมีปัญหากับร้อยผีโดดเดี่ยวแล้ว
แต่ตอนนี้จูเฟิงหยิงกำลังวางแผนที่จะใช้ของสิ่งนี้ซื้อชีวิตของตัวเองจริงๆงั้นหรอ ?
ในเวลานี้ไม่เพียงแต่จักรพรรดิอสูรกับลู่ชิงหลัวเท่านั้น แม้แต่ซือฟเิงก็ยังตกตะลึงกับเรื่องนี้
เดิมทีเขาได้วางแผนที่จะเรียกหลายสิ่งอย่างมหาศาลจนเกินเกณฑ์ที่ผู้อาวุโสทั่วไปของกิลๆหนึ่งจะสามารถรับได้ ซึ่งหากจูเฟิงหยิงไม่รับ เขาก็จะจัดการฆ่าซะ เพราะท้ายที่สุดตอนนี้เขามีป้อมปราการเคลื่อนที่แล้ว มันจึงไม่มีใครในปัจจุบันของ God domain จะสามารถต่อกรกับเขาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องร้อยผีโดดเดี่ยวมากนัก
แต่ตอนนี้หัวใจของเขานั้นสั่นจริงๆด้วยข้อเสนอของจูเฟิงหยิง ในสมุดบันทึกมานาที่เขาได้รับมานั้น มันไม่ได้บอกถึงวิธีการสร้างเซ็ทมานาขั้นสามเอาไว้ ดังนั้นมันจึงทำให้ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะสนใจ
เมื่อเห็นปฎิกิริยาของซือเฟิง จูเฟิงหยิงก็มองไปยังซือเฟิงด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พลางพูดว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมคิดยังไงกับข้อเสนอนี้ ?”
“ก็ได้เอาตามที่คุณว่า ….” ซือเฟิงครุ่นคิด หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “แต่ฉันมีอีกเงื่อนไขหนึ่งคือพวกคุณต้องร่วมมือกับพวกเราทำการปิดล้อมจักรพรรดิอสูร ลู่ชิงหลัว และกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint โดยพวกคุณจะต้องให้คนของเราทำการลาสฮิตมอนสเตอร์ Faux Saint ส่วนใหญ่ทั้งหมด”
“แบล๊คเฟรม !!!” เมื่อจักรพรรดิอสูรได้ยินเงื่อนไขที่ซือเฟิงต้องการจากจูเฟิงหยิง เขาก็แทบอยากจะกระโดดไปฆ่าซือเฟิงทันที “รอก่อนเถอะ ฉันจะให้คุณชดใช้สำหรับเรื่องนี้ไม่ช้าก็เร็ว !!!”
แต่อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ไม่ได้รอให้จักรพรรดิอสูรทันได้พูดจบ เพราะซือเฟิงที่อยู่ห่างออกไปกว่าสี่ร้อยหลาได้มาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของจักรพรรดิอสูรและใช้ดาบแสงแห่งสองโลกแทงทะลุหัวใจของเขาทันที
สกิลมรดกขั้นสี่ Magic Light Strike!
การกระทำของซือเฟิงทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีและมันก็รวดเร็วมากๆ
“คุณ !!!”
จักรพรรดิอสูรมองไปยังดาบที่แทงทะลุหัวใจของเขาด้วยความรู้สึกโง่งม เขาไม่ได้คิดเลยว่าซือเฟิงจะปล่อยให้เขาพูด และเลือกให้เขาเตรียมจะใช้วิธีการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของตัวเอง แล้วซือเฟิงถึงค่อยพุ่งมาโจมตี และฆ่าเขาเขาโดยใช้ม้วนคัมภีร์เวทย์แห่งความมืดล๊อควิญญาณของเขาไว้ พร้อมกันนั้นผลของการใช้ม้วนคัมภีร์นี้มันยังจะทำให้ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายโดนโทษจากการตายเพิ่มขึ้นสามถึงห้าเท่าด้วย โดยมันจะมีผลสามนาที
ขณะที่ลู่ชิงหลัวที่อยู่ด้านข้างของจักรพรรดิอสูรนั้นก็รู้สึกพูดไม่ออกและหวาดกลัวมากๆ เขาไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะใช้วิธีโหดเหี้ยมแบบนี้ในการฆ่าจักรพรรดิอสูร และเขาก็ไม่นึกเลยว่าจักรพรรดิอสูรจะตายแบบนี้
หลังจากซือเฟิงดึงดาบแสงแห่งสองโลกออกมาจากร่างของจักรพรรดิอสูร และจัดการเก็บไอเทมสองชิ้นที่จักรพรรดิอสูรดรอปออกมาแล้ว เขาก็มองไปยังลู่ชิงหลัวที่อยู่ด้านข้างพลางยิ้ม และพูดอย่างสบายๆว่า “หัวหน้ากิลชิงหลัว ครั้งที่แล้วคุณหนีไปได้ งั้นครั้งนี้ฉันขอคิดบัญชีแบบทบต้นทบดอกเลยแล้วกันนะ …”