ตอนที่ 2829 ความพ่ายแพ้ของจักรพรรดิอสูร
จักรวรรดิมังกรไฟ เมืองมังกรไฟ :
“กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ขณะที่พวกร้อยผีโดดเดี่ยวก็ถูกบังคับให้ต้องยอมเปลี่ยนฝั่งไปช่วยแบล๊คเฟรมเพื่อเอาชีวิตรอด ? นี่มันเป็นไปได้อย่างไร ?”
หลังจากได้รับข่าวล่าสุดจากหอคอยแห่งพันธสัญญาลับมา มหาอำนาจต่างๆส่วนใหญ่ก็ล้วนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าข่าวที่พวกเขาได้รับมามันจะเป็นเรื่องจริง
กองทัพที่มุ่งไปจัดการพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกนั้นประกอบไปด้วยมอน
สเตอร์ Faux Saint นับล้าน แถมในหมู่พวกมันยังมีมอนสเตอร์ Faux Saint ระดับเทพนิยายอีกหลายพันตัว นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่ากิลร้อยผีโดดเดี่ยว ซึ่งเป็นกิลที่แม้แต่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังหวาดกลัวได้เดินทางร่วมกับกองทัพนี้ไปด้วย
แต่ตอนนี้ข่าวล่าสุดที่พวกเขาได้รับมามันกับเป็นข่าวที่กองทัพนี้ได้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง แถมกิลร้อยผีโดดเดี่ยวยังถูกบังคับให้ต้องยอมเปลี่ยนฝั่งเพื่อเอาชีวิตรอดอีก นี่มันบ้าชัดๆ !!!
ขณะเดียวกันวีดีโอเกี่ยวกับการต่อสู้ก็เริ่มถูกเผยแพร่ออกมา ซึ่งนี่มันก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวีดีโอในช่วงตอนที่หอคอยเวทย์มนต์ของป้อมปราการเคลื่อนที่ทำการโจมตีและกวาดล้างมอนสเตอร์ Faux Saint บินได้ระดับเทพนิยาย …..
ขณะเดียวกันที่สถานที่พักกิลของฟรอสต์ฮีฟเว่น :
“สุดยอดเลย !!! ตามที่คาดไว้ ป้อมปราการเคลื่อนที่ของสภาสิบแปดปีกนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะแตะต้องได้อย่างแท้จริง !!! และเมื่อสถานการณ์ดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว หอคอยแห่งพันธสัญญาลับก็จะไม่เปลี่ยนมือแน่นอน แถมมันก็จะไม่มีใครใน God domain ที่จะสามารถเอาชนะพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกได้แน่นอน !!!” มู่ฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มแห่งความประหลาดใจอย่างถึงที่สุด เมื่อเธอได้รับรายงานล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องสงครามแย่งชิงหอคอยแห่งพันธสัญญาลับมา
แม้ว่าฟรอสต์ฮีฟเว่ของพวกเขาต้องการจะเข้าช่วยสภาสิบแปดปีกในเรื่องนี้ แต่หลังจากได้รับตำแหน่งหนึ่งในหกตำแหน่งสำรองของสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน God domain มา กิลของพวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องปัญหากับซุเปอร์กิลสองแห่งในจักรวรรดิมังกรไฟอย่างจักรวรรดิไพรน์ และสกายดราก้อนเฮ้าท์ที่มันนับเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับพวกเขามาตลอด
แถมนอกเหนือจากซุเปอร์กิลทั้งสองนี้แล้ว มันก็ยังมีมิราเคิล วังปีศาจ และมหาอำนาจอื่นๆอีกมากมายที่คอยก่อกวนพวกเขาอย่างลับๆในจักรวรรดิมังกรไฟ ซึ่งมันทำให้พวกเขาจัดการเรื่องต่างๆในจักรวรรดิมังกรไฟได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ
หากไม่ใช่เพราะว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นของพวกเขาได้เข้าประจำการในเมืองหลักของจักรวรรดิมังกรไฟแล้ว และเมืองหลายเมืองของจักรวรรดิก็ถือเป็นบ้านของพวกเขา …. ในเวลานี้ฟรอสต์ฮีฟเว่นของพวกเขาก็อาจจะถูกจัดการไปแล้วก็ได้ เนื่องจากสกายดราก้อนเฮ้าท์ และจักรวรรดิไพรน์นั้นเป็นกิลที่เริ่มพัฒนาในจักรวรรดิมังกรไฟมาตั้งแต่ต้น ดังนั้นรากฐานของพวกเขาที่นี่มันจึงลึกเกินจะหยั่งถึงมากๆ
แม้แต่กองกำลัง NPC บางส่วนในจักรวรรดิมังกรไฟก็ยังเต็มใจจะเป็นพันธมิตรกับซุเปอร์กิลทั้งสองนี้
แต่มันก็โชคดีที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นของพวกเขานั้นได้รับผลประโยชน์ รวมไปถึงทรัพยากรค่อนข้างมากจากเมืองหลัก NPC บางแห่งที่พวกเขามีสิทจัดการในจักรวรรดิมังกรไฟ และเมืองชายฝั่งอีกหนึ่งแห่ง ไม่งั้นพวกเขาก็คงจะไม่สามารถยืนหยัดต่อต้านซุเปอร์กิลทั้งสองในจักรวรรดิมังกรไฟมาได้นานขนาดนี้แน่นอน
“ป้อมปราการเคลื่อนที่งั้นหรอ ? ….” หงซินหยวนกล่าวด้วยความอิจฉาว่า “ถ้า
ฟรอสต์ฮีฟเว่นของเราได้รับป้อมปราการเคลื่อนที่แบบนี้มาสักป้อม มันจะช่วยให้สมาชิกของเราสามารถเก็บเลเวลและรวบรวมทรัพยากรได้จำนวนมากเลย แถมมันยังจะช่วยแก้ปัญหาหลายอย่างที่เราเจออยู่ตอนนี้ได้แบบง่ายดายมากๆ”
วิเคราะห์จากข้อมูลที่สายลับของพวกเขาส่งมานั้น ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการป้องกันหรือความสามารถในการโจมตีของป้อมปราการเคลื่อนที่นั้น มันสามารถที่จะถูกใช้นำเข้าประจำการที่แผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบหรือมากกว่านั้นนิดหน่อยได้สบายๆเลย ซึ่งแผนที่แบบนี้นั้นมหาอำนาจทุกกลุ่มในปัจจุบันล้วนอยากจะเข้าไปสำรวจ และยึดครองมากๆ
เนื่องจากหากเข้าไปที่แผนที่แบบนี้ได้ ไม่เพียงแต่ผู้เล่นจะสามารถเก็บเลเวลได้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่มันยังจะมีทรัพยากรที่หายากมากมาย รวมไปถึงสิ่งที่หลงเหลือมาจากยุคโบราณ และคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่อยู่ด้วย
แต่เดิมมันมีแผนที่เพียงไม่กี่แผนที่เท่านั้นที่ผู้เล่นจะสามารถไปสำรวจและรับเอาคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่มาได้ อย่างไรก็ตามสำหรับแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบหรือมากกว่านั้น แทบทุกแผนที่ล้วนมีสิทที่จะดรอปและทำให้ผู้เล่นได้รับคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ แม้ว่าโอกาสของเรื่องนี้จะค่อนข้างต่ำก็ตาม
อย่างไรก็ตามแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบหรือมากกว่านั้นมันก็อันตรายอย่างมาก แค่พลังงานแปลกปลอมที่จะกัดกร่อนร่างกายของผู้เล่นมันก็หนักหนากว่าแผนที่อื่นๆมากแล้ว และแม้ว่ามันอาจจะยังเทียบไม่ได้กับดินแดนต้องห้าม แต่มันก็มักจะมีมอนสเตอร์เป็นกลุ่มใหญ่ปรากฎตัวขึ้นไล่ล่าผู้เล่นที่เข้าไปเสมอๆไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ซึ่งแม้แต่ผู้เล่นขั้นสี่ก็ยังยากจะอยู่รอดในแผนที่แบบนี้ได้ หากถูกมอน
สเตอร์กลุ่มใหญ่ในแผนที่ล้อม
นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่ากิจกรรมหลักของเหล่ากองกำลัง NPC ที่แข็งแกร่งมักจะอยู่ในแผนที่แบบนี้ด้วย ….
แต่ในเมื่อตอนนี้สภาสิบแปดปีกมีป้อมปราการเคลื่อนที่แล้ว ดังนั้นทุกคนจึงจะสามารถจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะมีข้อได้เปรียบมากขนาดไหนในเรื่องนี้ และมหาอำนาจต่างๆก็จะไม่สามารถเทียบกับสภาสิบแปดปีกได้เลย
และตอนนี้ในเมื่อสภาสิบแปดปีกมีป้อมปราการเคลื่อนที่ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถควบคุมหอคอยแห่งพันธสัญญาลับได้อย่างสมบูรณ์แล้ว มันก็จะทำให้พวกเขาสามารถเลี้ยงดูและเพิ่มพูนจำนวนผู้เล่นขั้นสามของตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว โดยในอนาคตแม้แต่ซุเปอร์กิลบางแห่งก็จะเทียบกับพวกเขาไม่ได้ในเรื่องนี้
ในตอนนี้หากสภาสิบแปดปีกต้องการจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่แท้จริงใน God domain สิ่งที่พวกเขาเหลือต้องทำก็แค่รอเท่านั้น เมื่อพวกเขามีผู้เล่นขั้นสามมากเพียงพอ และพัฒนารากฐานของตัวเองขึ้นมาได้แข็งแกร่งเพียงพอ พวกเขาก็จะเริ่มมีความสามารถในการเข้ายึดครองดินแดนต่างๆรวมไปถึงเมืองของ NPC ได้เพิ่มเติม ซึ่งเมื่อเวลานั้นมาถึงบางทีพวกเขาอาจขึ้นไปเทียบกับห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดได้ด้วยซ้ำ ในแง่ของอิทธิพลใน God domain
ซึ่งในขณะที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นกำลังรู้สึกตกตะลึงและประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของสภาสิบแปดปีก โคลท์ชาโด้วที่อยู่ในเมืองหลักชายฝั่งเมืองหนึ่งของจักรวรรดิอะโพคาลิปก็ได้รับข่าวที่น่าประหลาดใจนี้เช่นกัน
“นี่มันน่าสนใจจริงๆ …. แม้แต่กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint และพวกร้อยผีโดดเดี่ยวก็ยังไม่สามารถจะทำอะไรกับป้อมปราการเคลื่อนที่ได้ ….” โคลท์ชาโด้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธอเปิดอ่านรายงานในมือของเธอ “ในครั้งนี้ลู่ชิงหลัวได้พ่ายแพ้ และสูญเสียอย่างรุนแรงจนน่าสังเวช หลังจากนี้ฉันคิดว่าเขามีสิทจะหลุดจากตำแหน่งทายาทสูงเลยทีเดียว”
“รองหัวหน้ากิล แล้วพวกเราจะเอายังไงกันดี ?” ไวท์เฟเธอร์ที่ยืนอยู่ข้างๆโคลท์ชาโด้วถามขึ้นอย่างกังวล “หัวหน้ากิลส่งพวกเรามาเพื่อให้พวกเราวางรากฐานที่มั่นคงในทวีปด้านตะวันออกให้กับไมโทโลจี้ เพื่อที่ว่าไมโทโลจี้ของเราจะได้เข้าครอบงำทั้งสองทวีปหลักได้ในอนาคต แต่ตอนนี้สภาสิบแปดปีกกับโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งมากๆ ขณะที่ฝั่งที่เป็นศัตรูกับพวกเขานั้นอ่อนแอลงเรื่อยๆ”
“ไม่ต้องกังวลหรอกน่า ตราบใดที่เราสามารถทำสิ่งที่เราทำอยู่ได้สำเร็จ และคนๆนั้นทำสิ่งนั้นเรียบร้อย ไมโทโลจี้ของเราจะเข้าครอบครองทวีปด้านตะวันออกได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆแน่นอน” โคลท์ชาโด้วกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ “และถ้าเราโชคดีเราก็อาจจะสามารถเข้ายึดสภาสิบแปดปีกได้ทั้งหมดเลย เพราะท้ายที่สุดแล้วมันเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วสำหรับกองกำลังต่างๆในทวีปด้านตะวันออก”
“หื้ม ? นี่ท่านโอดินใกล้จะทำสิ่งนั้นสำเร็จแล้วงั้นหรอ ?” ไวท์เฟเธอร์เริ่มตระหนักได้ถึงหลายสิ่ง เมื่อได้ฟังคำพูดของโคลท์ชาโด้ว
“ใช่แล้ว และเมื่อเวลานั้นมาถึงทวีปด้านตะวันออกทั้งทวีปก็จะกลายเป็นสนามรบ” โคลท์ชาโด้วกล่าวพลางพยักหน้า “กองกำลังต่างๆในทวีปด้านตะวันออกจะทำได้แค่เฝ้าดู และรอวันตายอย่างไม่สามารถจะทำอะไรได้ และแม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะมีป้อมปราการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นมาอีกสักป้อม แต่มันก็จะไร้ประโยชน์ !!!”
อาณาจักรทวินทาวเวอร์ เมืองสกายสปริง :
เนื่องจากชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของสภาสิบแปดปีก มหาอำนาจต่างๆที่หวังจะเข้ามาหาผลประโยชน์ในเมืองสกายสปริง และหอคอยแห่งพันธสัญญาลับจึงจำต้องเริ่มถอนตัวกลับ ส่วนสมาชิกพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกต่างก็ส่งเสียงเชียร์ และตะโกนดีใจกันให้กับเรื่องนี้
ตอนนี้เมื่อผลของการต่อสู้ครั้งล่าสุดออกมา มันก็ชัดเจนแล้วว่าใครคือเจ้าของหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ
และด้วยการอาศัยมรดกที่สมบูรณ์ขั้นสามจากหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ ตลอดไปจนความเร็วในการเก็บเลเวลภายในนั้น พันธมิตรสามกิลของพวกเขาก็จะสามารถเลี้ยงดูผู้เล่นขั้นสามจำนวนมากขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในแง่นี้นั้น ในอนาคตแม้แต่ซุเปอร์กิลก็ยังไม่อาจจะเทียบกับพวกเขาได้แน่นอนในเรื่องนี้ แถมเมื่อสถานการณ์ออกมาในรูปแบบนี้พันธมิตรสามกิลของพวกเขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องกองกำลัง NPC อีกต่อไป โดยพันธมิตรามกิลของพวกเขาน่าจะสามารถเผชิญหน้ากับกองกำลัง NPC ต่างๆได้สบายเลยด้วยซ้ำในอนาคต
“ผู้อาวุโสจูเฟิงหยิง การที่คุณมอบแบบแปลนเซ็ทมานาขั้นสาม ถึงมันจะเป็นแค่แบบจำลองก็เถอะให้กับสภาสิบแปดปีก นี่มันเท่ากับว่าเป็นการไปติดปีกให้กับเสืออย่างสภาสิบแปดปีกเลย และเมื่อพวกเรากลับไป หัวหน้ากิลก็จะลงโทษพวกเราอย่างหนักแน่นอนในเรื่องนี้ เนื่องจากสิ่งนี้มันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อแผนการในอนาคตของกิลเรา” ซี่หยวนที่พึ่งได้รับการปล่อยตัวออกมากล่าวบ่นจูเฟิงหยิง
เซ็ทมานาขั้นสามนั้นคือสิ่งที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ได้ และตราบใดที่กิลๆหนึ่งมีของสิ่งนี้นั้น พวกเขาก็จะกลายเป็นภัยคุกคามขนาดใหญ่มากๆพอกับการมีป้อมปราการเคลื่อนที่เลย ….
แถมนี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่า หากผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ได้สวมใส่มันนั้น พลังในการต่อสู้ของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก และพวกเขาก็จะสามารถทำหลายสิ่งได้มากกว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ทั่วไปมาก ซึ่งมันก็จะนับเป็นประโยชน์ต่อกิลอย่างมหาศาล ….
“ซี่หยวน นี่คุณยังไม่เข้าใจความคิดของผู้อาวุโสเฟิงหยิงอีกรึไง ?” ชายยักษ์ในชุดเกราะทองที่ชื่อหานเทียนที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวพลางหัวเราะ “คุณคิดว่าสภาสิบแปดปีกจะสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้จริงๆงั้นหรอ ?”
“คุณหมายความว่ายังไง ?” ซี่หยวนถามอย่างงงงวย
“การจะผลิตเซ็ทมานาขั้นสามสักเซ็ทขึ้นมาให้ได้นั้นมันท้าทายมากๆ แล้วคุณคิดว่าสภาสิบแปดปีกจะสามารถผลิตมันขึ้นได้มากมายด้วยแบบแปลนจำลองนั่นงั้นหรอ ?” หานเทียนกล่าวอธิบายด้วยรอยยิ้ม “โดยทั่วไปแล้วหากต้องการจะสร้างเซ็ทมานาขั้นสามสักเซ้ทนั้นก็จะต้องใช้ปรมาจารย์ช่างตีเหล็กขั้นสูงที่มีความสามารถในด้านวงเวทย์อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงด้วย แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ก็ยังไม่ใช่ปัญหาจริงๆทั้งหมด ปัญหาจริงๆทั้งหมดคือเรื่องวัสดุที่หายากมากๆ โดยเฉพาะแร่เงินลึกลับที่ขนาดเราก็ยังหามาได้ยากมากๆ ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงสภาสิบแปดปีกเลย”
“และแม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะสามารถผลิตเซ็ทมานาขั้นสามขึ้นมาได้จริงๆ แต่ผู้ที่จะสวมใส่มันได้ หากไม่นับผู้เล่นขั้นสี่ มันก็จะมีแค่ผู้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่มีค่าสถานะแทบจะเทียบเท่ากับพวกขั้นสี่โดยทั่วไปเท่านั้น ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขสองข้อนี้ได้มากพอ สิ่งที่พวกเขาได้ไปมันก็จะเป็นแค่แผ่นกระดาษ”
เมื่อซี่หยวนได้ฟังคำอธิบายทั้งหมด เขาก็เริ่มเข้าใจในหลายสิ่งทันที ….
“ในครั้งนี้แม้ว่าแบล๊คเฟรมจะคิดว่าเขาทำกำไรได้อย่างมหาศาล แต่ความจริงแล้ว หากเขาไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขสองข้อนี้ได้มากพอ มันก็จะเท่ากับว่าเขาไม่ได้อะไรเลย” หานเทียนกล่าวเสริม “แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เราต้องรีบออกจากที่นี่แล้ว หัวหน้ากิลได้เตือนเรามาว่ามันกำลังจะมีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นในทวีปด้านตะวันออกแห่งนี้ ดังนั้นเราจึงต้องรีบออกจากที่นี่ไปทำงานที่ได้รับมาให้เสร็จสิ้น และรีบกลับไป เพราะหากเราได้รับผลกระทบไปด้วย สภาพของเราคงดูไม่จืดเลยทีเดียว ….”
“นี่มันแปลว่าสภาสิบแปดปีกก็ได้รับแค่เศษกระดาษไปสินะ …” ซี่หยวนอดไม่ได้ที่จะพึมพำด้วยรอยยิ้ม
“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะเดินทางไปพร้อมกับเฟยเย่เพื่อทำสิ่งที่หัวหน้ากิลได้มอบหมายเรามาให้เสร็จเรียบร้อย” ซี่หยวนกล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้น เดิมทีเขาต้องการจะแก้แค้นสภาสิบแปดปีก แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าจะไม่จำเป็นแล้ว เพราะเวลาของสภาสิบแปดปีกกำลังจะหมดลงโดยที่สภาสิบแปดปีกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่เหล่าสมาชิกของร้อยผีโดดเดี่ยวกำลังเดินทางออกจากเมืองสกายสปริง ซือเฟิงที่อยู่ห่างออกไปในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการเคลื่อนที่นั้นก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อเขาได้ทำการตรวจสอบไอเทมที่จักรพรรดิอสูรดรอปออกมา
“สิ่งนี้มันไปอยู่ในมือหมอนี่ได้ยังไงกัน ?!”
ซือเฟิงนั้นแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะไอเทมสองชิ้นที่จักรพรรดิอสูรดรอปออกมานั้นมันมีค่ามากๆ แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นสิ่งที่ซือเฟิงตามหามาตลอดแต่ยังไม่พบด้วย
ใช่แล้ว หนึ่งในเจ็ดสมบัติแห่ง God domain !!!
สมบัติแห่งไฟ : มงกุฎชำระโลก !!!