ตอนที่ 2841 ห้องฝึกจิต
เมืองไห่เทียน Upper Zone :
เมื่อรถเก๋งซีดานที่ดูหรูหรามาจอดอยู่บริเวณประตูหน้าทางเข้าของ Upper Zone มันก็มีชายและหญิงคู่หนึ่งเดินลงมาจากรถ ซึ่งนี่มันก็ได้ดึงดูดความสนใจของวัยรุ่นชาย และหญิงหลายร้อยคนที่ยืนรอรับการทดสอบอยู่ในทันที
โดยชายและหญิงคู่หนึ่งนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซือเฟิง และมู่ฉิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมู่ฉินที่ถูกเหล่าวัยรุนหญิงจ้องมองมาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“ทำไมทายาทของบริษัทโบลเดอร์ถึงได้มาที่ Upper Zone ของเมืองไห่เทียน ?”
“เธอต้องการจะย้ายมาอยู่ที่ Upper Zone ของเมืองไห่เทียนรึปล่าว ?”
“ไม่น่าใช่ ฉันได้ยินมาว่าเมื่อเร็วนี้ๆนั้นมิสมู่ฉินได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วมากๆใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน และได้กลายเป็นผู้มีอำนาจเกรด 1 แล้ว และเมื่อรวมกับการสนับสนุนจากบริษัทโบลเดอร์ และเหล่าผู้บริหารในชั้นพื้นฐานที่เชื่อในตัวเธอ การที่เธอจะไปถึงชั้นกลางได้เมื่อไหร่ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ดังนั้นเธอจะย้ายมาที่นี่ทำไมกัน ?”
เมื่อได้เห็นการปรากฎตัวขึ้นอย่างกระทันหันของคนระดับมู่ฉินนั้น วัยรุ่นชาย และหญิงทุกคนต่างก็พูดคุยกันด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ
อย่างไรก็ตามสำหรับมู่ฉินนั้น เธอไม่ได้สนใจวัยรุ่นชาย และหญิงพวกนี้เลย และเธอก็ทำราวกับว่าวัยรุ่นชาย และหญิงพวกนี้เป็นอากาศธาตุ
“ทำไมที่นี่ถึงมีคนจำนวนมากมาเข้ารับการทดสอบกัน ? นี่มันน่าจะมากกว่าผู้ที่เข้ามารับการทดสอบที่เมืองหยวนเทียนราวสิบเท่าเลยนะ” ซือเฟิงมองไปที่วัยรุ่นชาย และหญิงทั้งหมด ขณะที่เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมจำนวนคนที่เข้าร่วมการทดสอบที่เมืองหยวนเทียน กับเมืองไห่เทียนถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้ ….
“พื้นที่ของ Upper Zone ที่นี่นั้นมันมีขนาดใหญ่กว่าที่เมืองหยวนเทียนอย่างมาก ดังนั้นนี่มันจึงเป็นเรื่องปกติ” มู่ฉินกล่าวอธิบายด้วยรอยยิ้ม “แถมวัยรุ่นหญิง และชายที่มาเข้ารับการทดสอบพวกนี้ก็ไม่ใช่คนที่บริษัทกรีนก๊อดคัดเลือกเข้ามาด้วย แต่พวกเขาเป็นเหล่าคนที่เกิดใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียน ซึ่งช่วงนี้มันตรงกับช่วงการทดสอบประจำปีพอดี ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนจำนวนมากมารอรับการทดสอบ”
“โดยการทดสอบในวันนี้จะชี้วัดถึงผู้ที่จะได้รับตำแหน่งทายาทของบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ พร้อมๆกับมันก็จะชี้วัดเรื่องจัดสรรปันส่วนทรัพยากรว่าบริษัทควรจะจัดให้ใคร อะไร และยังไง …. ดังนั้นสำหรับวัยรุ่นเหล่านี้ นี่แหละมันคือช่วงเวลาที่เข้มข้นที่สุดในชีวิต” ขณะที่มู่ฉินพูดนั้น ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความเสียใจอยู่เล็กๆ
เนื่องจากมันเป็นแบบนี้นี่แหละ เครุยกับเธอจึงไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากนัก พวกเธอต้องแข่งขันกันตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่ด้วยซ้ำ โลกของ Upper Zone นั้นมันโหดร้ายมากๆ
“เป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมวัยรุ่นพวกนี้ถึงมีร่างกายที่ดูแข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์ ….” ซือเฟิงกล่าวพลางมองไปยังเหล่าวัยรุ่นทั้งหมด
ต้องบอกเลยว่าเหล่าวัยรุ่นใน Upper Zone นั้นน่าทึ่งมากจริงๆ และพวกเขาก็เหนือกว่าพวกที่อยู่ในโลกภายนอกมาก หากออกไปในโลกภายนอก พวกเขาคนใดคนหนึ่งในนี้ก็จะสามารถจัดการกับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ทั่วไปได้สบายๆแน่นอน
และด้วยศักยภาพที่น่าทึ่งแบบนี้นั้น หากพวกเขาได้เข้าสู่ God domain พวกเขาน่าจะไปถึงขั้นสี่ได้ง่ายๆเลย พร้อมกันนั้นพวกเขาก็จะมีโอกาสสูงมากที่จะไปถึงขั้นห้าได้
ในเวลานี้ซือเฟิงก็ได้เข้าใจแล้วว่าทำไมมหาอำนาจที่แท้จริงใน God domain ถึงมีผู้เล่นขั้นสี่ กับขั้นห้ามากนัก ที่แท้มันก็มาจากเรื่องนี้นี่เอง ….
“เอาล่ะ พวกเราเข้าไปกันเถอะ ….” มู่ฉินมองดูเวลา และอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “ถ้าเส้นทางจิตถูกเปิดแล้ว มันจะยากสำหรับเราที่จะเข้าไปหาผู้หญิงที่คุณพูดถึง เพราะท้ายที่สุดแล้วอัตลักษณ์ในปัจจุบันของเรานั้นคือผู้ที่อยู่อาศัยใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน ไม่ใช่ Upper Zone ของเมืองไห่เทียน”
ซือเฟิงพยักหน้า พร้อมกันนั้นเขาก็ได้เดินตามมู่ฉินเข้าไปใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียนทันที
แม้ว่าพูดกันจริงๆตามกฎแล้วนั้น ผู้ที่มีอัตลักษณ์อยู่ใน Upper Zone นั้นจะสามารถเดินทางเข้าออก Upper Zone ทุกแห่งได้ตามต้องการ แต่ Upper Zone แต่ละแห่งนั้นมันก็เหมือนกับการดำรงอยู่ขององค์กรอิสระ และมันก็มีการแข่งขันกันเกิดขึ้นระหว่าง Upper Zone ต่างๆด้วย ดังนั้นพูดกันตามตรงแล้ว คนใน Upper Zone แต่ละแห่งจึงมักจะไม่ถูกกัน
ในสถานการณ์ปกติ มันเป็นเรื่องปกติมากที่คนจาก Upper Zone แห่งหนึ่งจะไม่ไปยัง Upper Zone อีกแห่ง เพราะมันอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ง่ายๆเลย
ขณะเดียวกันเมื่อได้เห็นมู่ฉินและซือเฟิงเดินเข้าสู่ Upper Zone ของเมืองไห่เทียนไป เหล่าวัยรุ่นที่เฝ้าดูอยู่ทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความอิจฉามากๆ
เนื่องจากคนที่สามารถเข้าสู่ Upper Zone ได้หลังจากอายุครบยี่สิบปีนั้นคือคนที่ได้รับสถานะใน Upper Zone อย่างแท้จริง ซึ่งมันแตกต่างจากพวกเขาที่ยังต้องดิ้นรนกันอย่างหนัก
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน ? เขาถึงขั้นสามารถให้ทายาทและอัจฉริยะของบริษัทโบลเดอร์มานำทางตัวเองได้ ?”
“เขาอาจจะเป็นคนจากชั้นกลางล่ะมั้ง … หรือไม่ก็เขาอาจจะเป็นลูกชายคนโตของสุดยอดปรมาจารย์ทางจิตสักคน ไม่งั้นเขาคงไม่สามารถทำให้คนอย่างมู่ฉินมานำทางเขาได้หรอก ….”
“อึก !! นี่มันน่าอิจฉาสุดๆ !!! จะเป็นอะไรก็แล้วแต่เถอะ แต่การที่เขาไม่ต้องมาดิ้นรนแบบพวกเรานี่มันน่าอิจฉาจริงๆ !!!”
เหล่าวัยรุ่นพูดคุยกันอย่างอิจฉาขณะที่มองไปยังซือเฟิง โดยพวกเขาต่างคาดเดากันไปว่าซือเฟิงน่าจะเป็นผู้ที่อยู่อาศัยใน Upper Zone ชั้นกลางสักแห่ง เพราะไม่งั้นซือเฟิงคงไม่สามารถจะให้คนอย่างมู่ฉินมานำทางได้
เมื่อซือเฟิงเดินเข้ามาใน Upper Zone เขาก็พบว่าที่ Upper Zone ของเมืองไห่เทียนนี้ มันมีประชากรอยู่มากกว่าที่ Upper Zone ของเมืองหยวนเทียนอย่างมาก และที่นี่ก็ดูเหมือนจะมีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่าเมืองหยวนเทียนอยู่เล็กน้อย
ไม่เพียงแต่มันจะมีอาคารสูงมากมายอยู่ตามท้องถนนของที่นี่ แต่ที่นี่มันยังมีโรงฝึกจิตที่ไม่ได้มีให้บริการใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียนด้วย
โดยโรงฝึกจิตทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก ซึ่งมันมีขนาดเท่ากับสนามบาสเก็ตบอลเท่านั้น และพวกมันทั้งหมดก็สูงไม่เกินสองชั้นเลย แต่มันกับมีผู้คนต่อแถวแออัดรอเข้าใช้บริการจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นคนของบริษัทกรีนก๊อด หรือทายาทของบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ
ฉากแบบนี้นั้นมันไม่สามารถจะหาได้อย่างสิ้นเชิงในเมืองหยวนเทียน
แม้แต่มู่ฉินซึ่งเป็นผู้นำทางซือเฟิงมาก็ยังอดไม่ได้ที่จะมีดวงตาที่เปล่งประกายไปด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปยังโรงฝึกจิต และพูดกันตามตรง เธอก็อยากจะกระโจนเข้าไปในโรงฝึกจิตทันทีเลยด้วยซ้ำ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เธอก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น ….
เนื่องจากกฎการเข้าใช้โรงฝึกจิตนั้นมันเข้มงวด และถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนมากๆ โดยมันจะมีแต่ผู้มีอำนาจเกรด 2 หรือเหนือกว่าขึ้นไปที่อาศัยอยู่ใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียนเท่านั้นที่จะมีสิทเข้าใช้บริการ ขณะที่ผู้คนจาก Upper Zone อื่นๆถูกห้ามเด็ดขาด
“สรุป Upper Zone ไม่ได้ยอมให้ผู้ที่มีอัตลักษณ์ของมันได้รับทุกสิ่งอย่างเท่าเทียมงั้นหรอ ?” ซือเฟิงที่ทำการตรวจสอบกฎเหล่านี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเช่นกัน “ทำไม Upper Zone ของเมืองไห่เทียนถึงมีกฎแบบนี้ นี่มันออกจะไม่ยุติธรรมสำหรับผู้คนจาก Upper Zone อื่นๆเลย”
“โรงฝึกจิตนั้นเป็นสิ่งที่ พวก Upper Zone ของเมืองไห่เทียนได้พยายามอย่างหนักกว่าจะสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ ดังนั้นบริษัทกรีนก๊อดจึงได้อนุญาติให้พวกเขาสามารถกำหนดกฎให้แค่เฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียนเท่านั้นที่จะสามารถเข้าใช้ที่นี่ได้” มู่ฉินกล่าวอธิบายด้วยรอยยิ้มขมขื่น เมื่อได้เห็นท่าทีของซือเฟิง ก่อนที่เธอจะกล่าวต่อว่า “และนี่มันก็เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้ที่นี่มีมหาอำนาจเข้ามาอาศัยมากกว่าที่อื่นด้วย หากบริษัทโบลเดอร์ของฉันไม่ได้มีรากฐานที่หยั่งลึกอยู่ใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียน ฉันคิดว่าพวกเขาก็คงจะตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่เช่นกัน …”
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของมู่ฉิน ซือเฟิงก็เริ่มตระหนักได้ถึงสถานการณ์ทั้งหมด และพูดกันตามตรงใน Upper Zone ที่ความแข็งแกร่งทางจิตนับเป็นทุกสิ่งอย่างนั้น แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกถูกล่อลวงให้อยากจะย้ายมาอยู่ที่ Upper Zone ของเมืองไห่เทียนเลย เพราะท้ายที่สุดหลังจากเขาได้ลองใช้โพชั่นแฟนธ่อมไปสามขวด เขาก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่าเขายังคงอยู่ห่างจากค่าความแข็งแกร่งทางจิตขั้นห้าอยู่ระดับหนึ่งเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ซือเฟิง และมู่ฉินกำลังพูดคุยกันนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันที่ดังมากๆมาจากบริเวณหน้าประตูห้องฝึกแห่งหนึ่ง
“ลู่เทียนตี้ !! อย่าให้มันมากเกินไปนัก !!! ฉันได้พูดไปแล้วว่าทีมนักผจญภัยของฉันจะไม่เข้าร่วมกับคุณ !!!”
หญิงสาวที่มีผิวขาวราวกับหยกและสวมใส่ชุดกีฬาสีฟ้าอ่อนตะโกนพลางมองไปยังชายหนุ่มในวัยยี่สิบต้นๆที่หล่อเหลาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ และความไม่พอใจ
อย่างไรก็ตามชายหนุ่มนั้นไม่ได้สนใจความโกรธหรือท่าทีใดๆของหญิงสาวผู้นี้เลย ตรงกันข้ามเขากับยิ้มบางๆ ก่อนที่ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาจะออกมาพูดแทนว่า “มิสจี้ลั่วหรง คุณไม่จำเป็นจะต้องยอมรับคำเชิญของนายน้อยของฉันก็ได้นะ อย่างไรก็ตามคุณก็รู้ดีว่าหลังจากเป็นแบบนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น !!! คุณจะไม่สามารถแลกเปลี่ยนทรัพยากรกับใครใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียนได้อีกเลย !! คุณก็รู้นี่ว่านายน้อยของฉันมีอำนาจจะทำให้คุณเป็นแบบนั้นได้ที่นี่ !!”
“คุณ !!!!”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคนผู้นี้ แม้ว่าหญิงสาวจะรู้สึกโกรธ แต่เธอก็ไม่สามารถจะเถียงอะไรเขาได้
เนื่องจากลู่เทียนตี้นั้นเป็นทายาทคนปัจจุบันของบริษัทสตาร์ไลน์ และบริษัทสตาร์ไลน์นั้นก็มีอิทธิพลค่อนข้างสูงมากใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียน ดังนั้นคำพูดของชายวัยกลางคนทั้งหมดมันจึงเป็นเรื่องจริงแน่นอน
เมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาว ชายร่างท้วมก็กล่าวต่อว่า “มิสจี้ลั่วหรง คุณและทีมนักผจญภัยของคุณมาเข้าร่วมกับเราดีๆเถอะน่า !!! ไม่งั้นคุณจะไม่สามารถอยู่ใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียนได้อีกต่อไปแน่นอน !!! สำหรับการจะรอให้พี่สาวของคุณมารับคุณไปนั้น ตอนนี้มันเป็นแค่ฝันเท่านั้นแหละ !!!”
เมื่อชายวัยกลางคนผู้นี้พูดจบ คนอื่นๆที่อยู่โดยรอบก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังหญิงสาวด้วยความเห็นใจ
ใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียนนั้น แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆก็ยังไม่ต้องการจะยั่วยุบริษัทสตาร์ไลน์เลย ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงพวกคนที่ไม่ได้มีภูมิหลังแข็งแกร่งมากนัก ….
หากหญิงสาวคนนี้ไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ ทุกคนก็สามารถจะบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าเธอจะไม่สามารถอาศัยอยู่ใน Upper Zone ของเมืองไห่เทียนได้แน่นอน เนื่องจากขาดทรัพยากร
และเมื่อได้เห็นหญิงสาวผู้นี้เงียบไปชั่วขณะ ชายวัยกลางคนก็ยิ้มออกมาอย่างผู้มีชัย ในขณะที่คนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
“งั้นหรอ ? แล้วมันจะเป็นยังไงถ้าฉันจะขายทรัพยากรให้ผู้หญิงคนนี้ ?”