ตอนที่ 2854 ไม่มีชื่อตอน เนื่องจากบอกแล้วมันจะสปอยของทั้งตอนเลย
ในวิหารโบราณอันงดงาม :
“นี่มันน่าทึ่งมากๆ !!!” ผีมังกรจ้องมองไปยังซือเฟิงที่จู่ๆก็ปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของมันด้วยความประหลาดใจ “เห็นได้ชัดว่าคุณมีเพียงแค่ร่างกายของมนุษย์ แต่คุณกับสามารถทำการทดสอบของตระกูลมังกรเราได้สำเร็จ แถมยังผ่านไปได้มากกว่าครึ่งอีก ซึ่งนี่มันจัดว่าหาได้ยากเลยแม้แต่ในตระกูลมังกรเองก็ตาม ….”
“หาได้ยาก ?” ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของผีมังกร
มังกรนั้นจัดเป็นเผ่าชั้นสูงที่ยอดเยี่ยม และการรับรู้สิ่งต่างๆของเผ่ามังกรนั้นมันก็ดีกว่าเขามาก นี่ไม่ต้องพูดถึงพวกมังกรศักสิทธิ์เลย และต่อให้พวกนั้นสามารถไปถึงผืนดินที่อยู่ตรงสุดทางได้เขาก็จะไม่แปลกใจสักนิด เพราะท้ายที่สุดแล้วเผ่ามังกรแบบนี้นั้นมีชนชั้นสิ่งมีชีวิตที่สูงมากๆ
“ใช่แล้ว หาได้ยาก …” ผีมังกรพยักหน้า “ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของตระกูลมังกรเรา มีเพียงแค่ห้าตนเท่านั้นที่สามารถไปไกลมากกว่าครึ่งทางได้ตอนที่ตัวเองอยู่ในขั้นสี่ ซึ่งทุกตนนั้นล้วนเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมของเผ่ามังกรที่มีสายเลือดชั้นยอด แต่คุณกลับสามารถทำมันได้ด้วยร่างกายมนุษย์ !”
ซือเฟิงนั้นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่นึกเลยว่าแม้แต่ในตระกูลมังกรก็จะมีมังกรที่ทำเรื่องนี้ได้น้อยแบบนี้
แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากมากจริงๆที่จะสร้างสะพานขึ้นใหม่ และเดินไปให้ได้ครึ่งทางหรือมากกว่านั้น เพราะมันต้องใช้ทั้งจิตวิญญาณที่ทรงพลัง และความเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะ รวมไปถึงกฎการทำงานของธาตุเวทย์มนต์ต่างๆในระดับที่สูงมาก แต่ด้วยความสามารถที่มีมาแต่กำเนิดของเผ่ามังกร ซือเฟิงก็คิดว่าพวกมังกรน่าจะทำกันได้ไม่ยากนัก ….
“โดยทั่วไปแล้วมังกรที่สามารถทำได้แบบคุณนั้นจะเป็นมังกรโตเต็มวัยขั้นห้า คุณมีความสามารถแบบนี้นี่เอง …. ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมออร์เบ็คถึงมอบคุณสมบัติในการทดสอบให้คุณ …” ผีมังกรกล่าวพลางมองไปยังซือเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม “แล้วก็ตามสัญญาโบราณ คุณจะสามารถเลือกหนึ่งในสามหีบสมบัติจากบ้านสมบัติมังกรเพื่อนำมันออกไปได้”
หลังจากที่ผีมังกรกล่าวจบ หีบสมบัติสามใบก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของซือเฟิง
ซึ่งการปรากฎขึ้นของหีบสมบัติทั้งสามใบนี้มันก็ทำให้มานาในห้องโถงเริ่มเดือดพล่าน แถมหีบสมบัติทั้งสามใบนี้ มันก็ยังแผ่ออร่า divine might ออกมาเล็กน้อยด้วย
“มันเป็นรางวัลสำหรับตระกูลมังกรอย่างแท้จริง หากไม่นับพวกของที่สมบูรณ์ที่พวกเทพขั้นหกสร้างขึ้น ฉันก็คิดว่ามันคงจะไม่มีอะไรที่มีค่ามากไปกว่านี้แล้ว …”
ซือเฟิงนั้นมองไปที่หีบสมบัติขนาดใหญ่สามใบตรงหน้าของเขาด้วยความรู้สึกที่ตกตะลึงอย่างแทบไม่อาจจะอธิบายได้
เนื่องจากรางวัลจากการทดสอบนี้มันดูใจกว้างมากๆ
หากหีบสมบัติทั้งสามใบนี้ปรากฎขึ้นในทวีปหลักของ God domain มันก็มีค่ามากเพียงพอที่จะทำให้มหาอำนาจต่างๆทำสงครามแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่งเลย
หีบสมบัติใบแรกมีชื่อว่า หีบสมบัติหินดำ ซึ่งเมื่อเปิดมัน มันจะทำการสุ่มจากไอเทมทั้งหมดสามชิ้น ซึ่งประกอบไปด้วยอาวุธระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน และอุปกรณ์ระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานสองชิ้นที่เหมาะกับผู้เล่น
หีบสมบัติใบที่สองมีชื่อว่า หีบสมบัติคริสตัลแดง ซึ่งเมื่อเปิดมัน มันจะทำการสุ่มจากไอเทมทั้งหมดสี่ชิ้น โดยมันจะมีทั้งหนังสือสกิลและเวทย์ขั้นห้า รวมไปถึงคำแนะนำมรดกขั้นห้าที่เหมาะกับผู้เล่น
สำหรับหีบสมบัติใบที่สามนั้นมีชื่อว่า หีบสมบัติหยกม่วง โดยมันจะสามารถสุ่มและทำให้ผู้เปิดได้รับคริสตัลเทพเจ้าตั้งแต่สิบถึงสิบสองชิ้น
ซึ่งสำหรับซือเฟิงในตอนนี้นั้นต้องบอกเลยว่า ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะนำหีบสมบัติทั้งสามนี้ไปด้วยหมดเลย ….
“เลือกหนึ่งในสามมา …” ผีมังกรจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยรอยยิ้มบางๆ “ในอีกสามนาทีฉันจะส่งคุณกลับไป คุณไม่ควรจะคิดนานนัก ….”
อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ยังคงครุ่นคิดต่อไปอีกพักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะกล่าวขึ้นมาอย่างจริงจังว่า “ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะเลือกหีบสมบัติหยกม่วง”
เท่าที่เขาคิด ….ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือการอัพเกรดอาวุธและอุปกรณ์ในร่างกายของเขาให้ไปได้ไกลกว่านี้ ซึ่งคริสตัลเทพเจ้านั้นมันก็จะช่วยเขาได้อย่างมาก
“โอเค หีบสมบัติหยกม่วงนี้มันเป็นของคุณ ….”
เมื่อผีมังกรกล่าวจบ ตราผนึกหีบสมบัติหยกม่วงก็ถูกปลดออกในทันที ซึ่งนี่มันก็ทำให้หีบสมบัติหยกม่วงนั้นพร้อมที่จะถูกเปิดได้ทุกเมื่อ
ซึ่งซือเฟิงก็ได้เลือกจะเดินเข้าไปเปิดหีบสมบัติหยกม่วงโดยไม่พูดอะไรทันที เพราะท้ายที่สุดเขาไม่สามารถจะนำหีบสมบัติขนาดใหญ่นี้ติดตัวไปได้ ดังนั้นเขาจึงได้เลือกจะเปิดมันตรงนี้เลย
ช่วงเวลาที่หีบสมบัติถูกเปิดขึ้นออร่า divine might ที่แผ่ออกมาจากหีบสมบัตินั้นมันก็แข็งแกร่งขึ้นมากๆ และออร่านี้มันอาจทำให้ผู้เล่นขั้นสี่ทั่วไปนั้นหวาดกลัวได้เลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามสำหรับซือเฟิงที่มีค่าความแข็งแกร่งทางจิตมาถึงขั้นห้าแล้ว เขาไม่ได้มีปัญหาใดๆเลยในการจะต้องรับมือกับปรากฎการณ์นี้ ในตอนนี้แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับเทพขั้นหกโดยตรง แต่เขาก็จะไม่ถูกกดขี่ และปราบปรามหนักมากนักแน่นอน ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงปรากฎการณ์นี้เลย
“สิบเอ็ดชิ้น ?”
เมื่อซือเฟิงได้เห็นคริสตัลเทพเจ้าที่อยู่ในหีบ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายเล็กๆ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะความจำเป็นที่เขาจะต้องเปิดมันที่นี่ เขาจะเลือกนำมันไปเปิดข้างนอกในตอนที่เปิดใช้งานสกิล Divine Providence แน่นอน
ท้ายที่สุดแล้วขาดไปจากจำนวนสูงสุดเพียงชิ้นมันก็มีค่ามาก เพราะคริสตัลเทพเจ้าแต่ละชิ้นนั้นมีค่ามากเท่ากับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานเลย และความหายากของมันก็มากพอๆกันด้วย
“เอาเถอะ อย่างน้อยฉันก็สามารถจะใช้มันเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาวุธที่ฉันใช้ได้ …”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้นั้น ซือเฟิงก็ได้เลือกจะหยิบคริสตัลเทพเจ้าสี่ชิ้นออกมา และมอบให้กับ Abyssal Blade ดูดซับมันโดยตรง
สำหรับเขาที่มาถึงครึ่งก้าวขั้นห้าตอนนี้นั้นมันมีเพียงแต่ดาบแสงแห่งสองโลกเท่านั้นที่ตามทันความสามารถของเขาได้ ขณะที่ Abyssal Blade นั้นไม่ ดังนั้นเขาจึงได้เลือกที่จะอัพเกรด Abyssal Blade
ซึ่งเมื่อ Abyssal Blade ได้ดูดซับคริสตัลเทพเจ้าสี่ชิ้นเข้าไป สกิลและเวทย์ของมันก็ได้รับการอัพเกรดเป็นขั้นสี่ และคุณสมบัติพื้นฐานของมันก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปส่วนหนึ่งด้วย
[Abyssal Blade] (ดาบมือเดียว อาวุธเวทย์มนต์ เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน)
ความต้องการอุปกรณ์ : STR 3,000 AGI 2,000
พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 235 เปอเซ็นต์ของค่าสถานะ STR ของผู้ใช้
ความเร็วในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น 2.3 เปอเซ็นต์ของค่าสถานะ AGI ของผู้ใช้
ค่าสถานะทั้งหมด (เพิ่มขึ้นตามเลเวลของผู้ใช้)
Ignore Levels +35
การโจมตีมี :
โอกาสเจ็ดสิบเปอเซ็นต์ที่จะสร้างความเสียหายได้มากกว่าปกติสองร้อยห้าสิบเปอเซ็นต์
โอกาสสี่สิบเปอเซ็นต์ที่จะสร้างความเสียหายได้มากกว่าปกติสามร้อยเปอเซ็นต์
การโจมตีทุกครั้งจะเพิ่มค่าความเสียหายขึ้นสองเปอเซ็นต์ สูงสุดที่สามสิบเปอเซ็นต์
เมื่อติดตั้ง :
ค่า STR เพิ่มขึ้น 50 เปอเซ็นต์ ค่า AGI เพิ่มขึ้น 50 เปอเซ็นต์ ค่า INT เพิ่มขึ้น 35 เปอเซ็นต์ ค่า Endurance เพิ่มขึ้น 50 เปอเซ็นต์ ความเร็วในการโจมตีเพิ่มขึ้น 50 เปอเซ็นต์
เอฟเฟคทั้งหมดของสกิลที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเพิ่มขึ้น 20 เปอเซ็นต์
ความต้องการเลเวลของไอเทมทั้งหมดลดลง 10 เลเวล
หากผู้ถือครองมีอาชีพเป็นนักดาบสกิลทั้งหมดจะมีเลเวลเพิ่มขึ้นหกเลเวล
เพิ่มค่าสถานะฟรีที่จะได้รับทุกครั้ง เมื่อมีการเลื่อนเลเวลเพิ่มขึ้นอีกสองแต้ม
สกิลใช้งานเพิ่มเติม 1 : ดาร์คเนสไบรน์ (ขั้นสี่) พันธนาการศัตรูทั้งหมดในรัศมีห้าร้อยหลาพร้อมกันเป็นเวลาสี่วินาที และทำให้ศัตรูไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ รวมทั้งลดพลังป้องกันและค่าความต้านทานเวทย์มนต์ลงหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์เป็นเวลายี่สิบวินาที
คูลดาวน์ : 40 วินาที
สกิลใช้งานเพิมเติม 2 : โดเมนแห่งความมืด (ขั้นสี่) แปลงพื้นที่ในรัศมีแปดร้อยหลารอบๆผู้ใช้ให้เป็นโดเมนแห่งความมืด และทำให้ความรู้สึกของศัตรูทั้งหมดช้าลงยี่สิบเปอเซ็นต์ รวมถึงลดค่าถานะพื้นฐานะของศัตรูลงยี่สิบเปอเซ็นต์ และขณะที่อยู่ในโดเมนแห่งความมืด ผู้ใช้มันจะสามารถควบคุมพลังแห่งความมืดได้ถึงสามสิบหกเส้น โดยแต่ละเส้นจะมีพลังเทียบเท่ากับหนึ่งร้อยห้าสิบเปอเซ็นต์ของค่าสถานะ STR ของผู้ใช้ และสร้างความเสียเป็นพลังแห่งความมืดได้สองร้อยเปอเซ็นต์
ระยะเวลา : 60 วินาที
คูลดาวน์ : 10 นาที
สกิลพาสซีฟมรดกที่ลึกซึ้งเพิ่มเติม : มานาอะบีส (ขั้นสี่) ยิ่งความหนาแน่นของมานารอบๆ Abyssal Blade สูงมากเท่าไหร่ อาวุธก็จะแสดงพลังได้มากขึ้นเท่านั้น โดยอาวุธจะสามารถมีพลังเพิ่มขึ้นได้สูงสุดหนึ่งร้อยห้าสิบเปอเซ็นต์
สกิลพาสซีฟมรดกที่ลึกซึ้งเพิ่มเติม : วิญญาณมังกรดำ (ขั้นสี่) มอบวิญญาณของราชันมังกรดำให้กับผู้ใช้ และเปลี่ยนผู้ใช้ให้กลายเป็นราชันมังกรดำ และยิ่งคะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตของผู้ใช้มันสูงมากเท่าไหร่ คะแนนชนชั้นสิ่งมีชีวิตของมังกรดำก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น และสามารถใช้สกิลลมหายใจมังกรได้
ระยะเวลา : 10 นาที
คูลดาวน์ : 15 ชั่วโมง
อุปกรณ์ ขั้นสี่ : สามารถอัพเกรดเป็นขั้นห้าได้ด้วยการกลืนกินคริสตัลเทพเจ้าเก้าชิ้น
ดาบนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่จากชิ้นส่วนอาวุธโบราณที่ไม่รู้จัก และมันมีพลังของราชันมังกรดำถูกผนึกเอาไว้ในดาบพร้อมกับคำสาปของราชันมังกรดำ นอกเหนือจากความแข็งแกร่งอย่างมากที่ดาบจะมอบให้กับผู้ใช้แล้ว เมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ผู้ใช้ก็จะต้องเผชิญกับผลสะท้อนกลับด้วย และหากผู้ใช้ไม่สามารถทนได้ ผู้ใช้ก็จะโดนคำสาปของราชันมังกรดำทำให้ค่าสถานะทั้งหมดลดลงเจ็ดสิบเปอเซ็นต์อย่างถาวร
ไม่สามารถตกหล่นได้
ไม่สามารถซื้อขายได้
ไม่สามารถถูกทำลายได้
เมื่อได้เห็นอาวุธ Abyssal Blade หลังการอัพเกรดแล้ว ซือเฟิงก็รู้สึกพึงพอใจมากเช่นกัน แม้ว่ามันอาจจะยังไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับดาบแสงแห่งสองโลก แต่ตอนนี้มันก็จัดว่าเป็นอาวุธชั้นยอดที่ระดับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานได้แล้ว
สำหรับตัวเลือกในการซ่อมแซมไอเทมระดับตำนานชิ้นอื่นๆที่ตัวเองสวมใส่อยู่นั้น ซือเฟิงเลือกจะพับไปก่อน เพราะท้ายที่สุดถ้าเขาซ่อมมันจนสมบูรณ์แล้ว และค่าสถานะของมันพุ่งสูงจนกลับไปทรงพลังดังเดิม เขาก็คงจะได้รอจนกว่าถึงขั้นห้าแน่นอนกว่าที่เขาจะสามารถกลับมาใช้มันได้อีกครั้ง
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น เขาคงได้ร้องไห้แน่ๆ ….
ดังนั้นซือเฟิงจึงได้เลือกที่จะอัพเกรดแค่พอใช้ได้ก่อน สำหรับเรื่องการซ่อมแซมไอเทมระดับตำนานชิ้นอื่นๆที่เขาสวมใส่อยู่นั้น ค่อยรอให้ถึงขั้นห้าแล้วค่อยทำมันจะดีกว่ามาก ….
“เวลาหมดแล้ว คุณออกไปจากที่นี่ได้แล้ว …”
ผีมังกรกล่าวกับซือเฟิงที่ยังคงตรวจสอบพลังใหม่ของ Abyssal Blade อย่างระมัดระวัง
หลังจากนั้นผีมังกรก็ได้โบกมือและทำให้ซือเฟิงกลายเป็นลำแสงหายออกไปจากวิหารแห่งนี้ในทันที ….
ซึ่งเมื่อซือเฟิงกลับมาถึงที่ห้องโถงอัญเชิญของป้อมปราการแสงดาวนั้น เขาก็พบว่าออร์เบ็ค มังกรเงินศักสิทธิ์ที่อยู่ในห้องนั้นไม่ได้สังเกตเห็นการมาถึงของเขาด้วยซ้ำ และมันก็ยังคงหลับอยู่อย่างสงบ