Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2871

ตอนที่ 2871 สั่นสะเทือนทั่วทั้ง God domain

“ตาย ?”

ทั่วทั้งห้องรับรองนั้นตกตะลึงไปชั่วขณะจากการตายของซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยางเทียนเหอ และพวกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่พวกเขาได้เห็นนั้นมันเป็นเรื่องจริง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโคลท์ชาโด้ว คนสนิทของซือถู ฉิงเทียน และเด็กหนุ่มที่เป็นคนสนิทของซื่อหยาง เทียนเหอที่ชั่วครู่หนึ่งนั้นพวกเขาอดจะคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นตอนนี้ มันเป็นภาพหลอนหรือปล่าว ?….

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”

“นี่ผู้ฝึกสอนไม่สามารถจะป้องกันการโจมตีได้แม้แต่นิดเดียวเลยงั้นหรอ ?”

เมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้วโคลท์ชาโด้ว และเด็กหนุ่มที่เป็นคนสนิทของซื่อหยาง เทียนเหอนั้นมีความเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยางเทียนเหอมากที่สุด

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องมาตราฐานการต่อสู้ของทั้งสองเลย แค่เรื่องค่าสถานะพื้นฐาน และร่างมานา รวมไปถึงพลังมานาของพวกเขานั้นมันก็แข็งแกร่งมากพอที่จะเทียบกับ
มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายชั้นยอดในเลเวลเดียวกันได้แน่นอน

แต่สองคนที่แข็งแกร่งราวกับสัตว์ประหลาดแบบนี้กับถูกซือเฟิงฆ่าในการโจมตีเดียว โดยที่ไม่สามารถจะตอบโต้ใดๆได้เลยด้วย ใครกันจะเชื่อเรื่องแบบนี้ ?

หยวนเทียนซินและเพอเพิ้ลเจดที่เฝ้าดูฉากนี้อยู่ไม่ไกลนั้นก็ตกตะลึงมากเช่นกัน และกว่าที่พวกเขาจะสามารถประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับหายตกตะลึงได้นั้น พวกเขาก็ต้องใช้เวลานานมากๆ

เดิมทีพวกเขาคิดว่ามันน่าจะเป็นการต่อสู้ที่สั่นสะเทือนโลกแน่นอน และพวกเขาก็คิดว่าการที่ซือเฟิงตัดสินใจทำแบบนี้นั้นมันไม่ฉลาดเลย

ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองคนนั้นมีพลังเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายชั้นยอดในเลเวลเดียวกัน แม้ว่าที่นี่จะเป็นสถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก และแม้ว่าในท้ายที่สุดทั้งสองก็จะต้องถูกฆ่า แต่สภาสิบแปดปีกก็จะต้องจ่ายสำหรับเรื่องนี้อย่างมหาศาลแน่นอน

แต่ตอนนี้ ….

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจกับการตายของซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยาง เทียนเหอนั้น เรลอส ผู้อาวุโสแห่งจักรวรรดิโลกใต้พิภพก็ได้มองไปยังซือเฟิงที่ยืนอยู่บริเวณหน้าต่างด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและหวาดกลัว

“นักบุญแห่งดาบขั้นห้า ?”

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ช่วงแวบเดียว แต่เรลอสก็สามารถสัมผัสได้ถึงความกลัวอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนจากร่างของซือเฟิง โดยเขาก็สามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่านี่มันไม่ได้เกิดจากค่าสถานะ ร่างมานา หรือมาตราฐานการต่อสู้ที่เหนือกว่าเพียงอย่างเดียว แต่มันเกิดจากเรื่องความแตกต่างของชนชั้นสิ่งมีชีวิตด้วย มันเป็นความกลัวที่เกิดจากสัญชาตญาณ ….

และหากวิเคราะห์กันแบบเป็นเหตุเป็นผลนั้น มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่ดีที่ผู้เล่นที่อยู่ในขั้นสี่ด้วยกัน และมีพลังใกล้เคียงกันจะสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ในการโจมตีเดียว

ดังนั้นความเป็นไปได้ที่เหลืออยู่เพียงอย่างเดียวก็คือซือเฟิงนั้นไม่ได้เป็นจักรพรรดิดาบขั้นสี่อีกต่อไปแล้ว ….

โดยตอนนี้เขาได้ขึ้นไปเป็นอะไรที่เหนือกว่านั้นแล้ว …. ซึ่งนั่นก็คือนักบุญแห่งดาบขั้นห้า !!!

แม้ว่าเรลอสจะพึมพำเบาๆแบบพูดกับตัวเอง แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสี่ทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาจึงได้ยินคำพูดของเรลอสอย่างชัดเจน

“นักบุญแห่งดาบขั้นห้า ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของเรลอสนั้น ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงทันที การตายของซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยางเทียนเหอนั้นมันน่าตกตะลึงเกินไปจนทำให้พวกเขาลืมนึกถึงพลังของซือเฟิง แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเรลอส และได้นึกถึงพลังของซือเฟิงแล้ว พวกเขาทุกคนก็ล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“เป็นไปได้ยังไงกัน !!! เขาได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นขั้นแล้วแล้วจริงๆ !!!”

ใบหน้าของโคลท์ชาโด้ว และเด็กหนุ่มคนสนิทของซื่อหยาง เทียนเหอนั้นมืดมนลง ในขณะที่หัวใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ในเวลานี้ทุกอย่างมันชัดเจนมากจริงๆว่าซือเฟิงนั้นได้กลายเป็นอาชีพขั้นห้าแล้ว เพราะเมื่อพวกเขาได้ลองสัมผัสจริงๆ ออร่าที่ซือเฟิงแผ่ออกมานั้น มันแตกต่างจากอาชีพขั้นสี่อย่างชัดเจน

หากในคืนที่มืดมิด อาชีพขั้นสี่นั้นเป็นเปลวไฟใหญ่ที่ลุกโหม อาชีพขั้นห้าก็เป็นดั่งดวงอาทิตย์ ซึ่งมันเทียบกันไม่ติดเลย ….

“นี่คือเหตุผลที่เขาไม่สนใจซุเปอร์กิลทั้งสองเลยสินะ ?”

หยวนเทียนซินมองไปยังซือเฟิงที่ทำการฆ่าซือถู ฉิงเทียน และซื่อหยาง เทียนเหออย่างไม่ลังเลด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ขณะที่เพอเพิ้ลเจดเองก็พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ ในขณะที่การแสดงออกด้านอารมณ์บนใบหน้าของเธอนั้นมันก็เต็มไปด้วยความซับซ้อน

ตอนแรกที่เธอเดินทางมาที่นี่นั้น เธอคิดว่าจะลองมาประมือกับซือเฟิงเพื่อเช็คความสามารถและการเติบโตของเธอตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมไปถึงเธอก็อยากจะรู้ว่าเธอเข้าใกล้ซือเฟิงได้แค่ไหนแล้ว ….

แต่ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงการเข้าใกล้เลย เพราะทั้งสองอยู่ในขั้นที่แตกต่างกันแล้ว !!

อาชีพขั้นห้า !!

ในยุคที่พวกเทพขั้นหกไม่ได้โผล่ออกมาแล้ว อาชีพขั้นห้านั้นนับเป็นจุดสูงสุดใน God domain และอาชีพขั้นห้านั้นก็สามารถจะทำลายอาณาจักรหนึ่งได้สบายๆเลย พวกเขาไม่ใช่ตัวตนที่ผู้เล่นขั้นสี่ในปัจจุบันจะสามารถต่อกรได้

“หัวหน้ากิล !!”

ไฟเออร์แดนซ์ และสมาชิกของสภาสิบแปดปีกคนอื่นๆที่อยู่ในห้องรับรองมองไปที่ซือเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความปิติยินดี และตกตะลึง
เพราะท้ายที่สุดแล้วข่าวนี้มันน่าทึ่งมากๆ !!!

ถ้าก่อนหน้านี้สภาสิบแปดปีกต้องกลัวห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด ตอนนี้พวกเขาก็จะไม่ต้องกลัวห้าซุเปอร์กิลนี้แล้ว เพราะท้ายที่สุดช่องว่างระหว่างขั้นห้า และขั้นสี่นั้นมันยิ่งใหญ่มากๆ แม้ว่ามันจะมีสัตว์ประหลาดอยู่จำนวนมากในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด แต่พวกนั้นทั้งหมดก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาชีพขั้นห้าแน่นอน แต่หากพวกเขากล้าคิดจะต่อสู้ พวกเขาก็มีโอกาสสูงมากที่จะถูกสังหารหมู่

เว้นแต่ว่าห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดจะมีผู้เล่นขั้นห้าโผล่ขึ้นมา ไม่งั้นต่อให้พวกเขาจะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่มากขนาดไหน มันก็จะไม่มีประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าของซือเฟิงที่เป็นผู้เล่นขั้นห้า ….

เนื่องจากอาชีพขั้นห้านั้นสามารถจะทำลายเมืองกิลเมืองหนึ่งลงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหากคนๆหนึ่งต้องการจะต้านทานการโจมตีของพวกขั้นห้านั้น มันก็จะสามารถทำได้แค่ในเมืองใหญ่ๆระดับเมืองหลักหรือเหนือกว่าขึ้นไปเท่านั้น แต่หากไม่มีวิธีการรับมือที่ดีพอ แม้แต่เมืองใหญ่ๆก็อาจจะทนการโจมตีของพวกขั้นห้าได้ไม่นานด้วยซ้ำ

หลังจากช่วงเวลาแห่งความปิติยินดีของไฟเออร์แดนซ์กับคนอื่นๆ ซือเฟิงก็ได้หันไปมองโคลท์ชาโด้ว และเด็กหนุ่มคนสนิทของซื่อหยาง เทียนเหอ ก่อนที่เขาจะกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “วันนี้ฉันจะจัดการลงโทษแค่สองคนนี้เท่านั้น !!! ถ้าครั้งหน้าพวกคุณยังกล้าจะมาทำตัวใหญ่โตหรือก่อปัญหาให้สภาสิบแปดปีกอีก ก็อย่าโทษฉันแล้วกันถ้าฉันจะไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่หลักของกิลพวกคุณด้วยตัวเอง !!!”

เมื่อซือเฟิงกล่าวจบนั้น โคลท์ชาโด้ว และเด็กหนุ่มคนสนิทของซื่อหยาง เทียนเหอก็ไม่ได้คิดจะโต้ตอบ หรือพูดอะไรเลย โดยพวกเขาก็ได้รับนำคนของพวกเขาที่เหลือเดินออกจากห้องรับรองไปทันที และเมื่อมาถึงตรงนี้นั้น มันก็เหลือแต่เพียงคนของศาลาลับ และจักรวรรดิโลกใต้พิภพเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ซึ่งคนจากทั้งสองกิลนี้ก็ได้แต่เฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกที่หลากหลายในใจของพวกเขา

หากก่อนหน้านี้พวกเขาปฎิบัติต่อสภาสิบแปดปีกในฐานะกิลชั้นยอด ตอนนี้พวกเขาก็จะต้องปฎิบัติต่อสภาสิบแปดปีกในฐานะกิลที่มีสถานะเทียบเท่ากับซุเปอร์กิลแบบพวกเขาแล้ว

ในตอนนี้นอกเหนือจากนักบุญแห่งดาบขั้นห้าแล้ว สภาสิบแปดปีกก็ยังมีดินแดนศักสิทธิ์อย่างเมืองสภาสิบแปดปีกอยู่ในครอบครองอีก ซึ่งห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นเทียบกับพวกเขาไม่ได้เลยในด้านนี้ และหากมีเวลาเพียงพอนั้น พวกเขาจะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นกิลอันดับหนึ่งของ God domain รวมถึงก้าวไปแทนที่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดได้แน่นอน

ในเวลานี้เรลอส ผู้อาวุโสที่เป็นตัวแทนของจักรวรรดิโลกใต้พิภพก็ได้ลุกขึ้นยืน และเดินเข้าไปหาซือเฟิง พลางกล่าวด้วยความเคารพว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันมีชื่อว่าเรลอส ฉันเป็นผู้อาวุโสและตัวแทนของกิลจักรวรรดิโลกใต้พิภพที่มาเพื่อเจรจาขอร่วมมือกับสภาสิบแปดปีก โดยสิ่งที่จักรวรรดิโลกใต้พิภพของเราต้องการนั้นก็มีเพียงแค่สถานที่พักกิลชั่วคราวในเมืองสภาสิบแปดปีก ซึ่งเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนนั้นจักรวรรดิโลกใต้พิภพของเราจะจัดหาทรัพยากร และช่องทาง รวมไปถึงคอนเนคชั่นต่างๆที่สภาสิบแปดปีกต้องการในทวีปด้านตะวันตกให้ นอกจากนี้เราก็จะเข้าเป็นพันธมิตรกับสภาสิบแปดปีกเพื่อช่วยสภาสิบแปดปีกตั้งรับการโจมตีของกองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นด้วย หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมคิดว่ายังไง ?”

สำหรับเรื่องพฤติกรรมที่ดูให้ความเคารพ รวมทั้งเงื่อนไขที่จริงใจของเรลอสนั้น เด็กหนุ่มสวมหน้ากากกับหยวนเทียนซินนั้นไม่ได้ประหลาดใจเลย

แม้กระทั่งสำหรับผู้เชี่ยวชาญอย่างเรลอส การจะเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นห้าให้ได้นั้นมันก็จัดว่ายากมากๆ เพราะการจะเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นห้านั้นมันไม่เกี่ยวข้องกับมาตราฐานการต่อสู้ของผู้เล่น มันขึ้นอยู่กับความเข้าใจ และการควบคุมมานากับองค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ของผู้เล่น ซึ่งจำเป็นจะต้องมีให้มากพอเพื่อที่พวกเขาจะได้สร้างร่างมานาใหม่ของขั้นห้าขึ้นมาได้

สำหรับผู้ที่ยังไปไม่ถึงขั้นห้านั้น การมาทำตัวหยิ่งผยองกับผู้ที่อยู่ในขั้นห้ามันก็เท่ากับการแสวงหาความตายชัดๆ

ขณะเดียวกันหยวนเทียนซินที่อยู่ไม่ไกลนั้นก็ไม่พลาดเช่นกัน เขาได้เป็นตัวแทนของศาลาลับมาเสนอเงื่อนไขที่แทบจะคล้ายกับจักรวรรดิโลกใต้พิภพเลย ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวของศาลาลับกับจักรวรรดิโลกใต้พิภพก็คือ ศาลาลับจะช่วยสภาสิบแปดปีกในการป้องกันเมืองป่าหิน กับเมืองสภาสิบแปดปีกเท่านั้น และจะไม่เข้าร่วมการต่อสู้อื่นๆ

“ฉันไม่ได้มีปัญหากับเงื่อนไขของพวกคุณหรอกนะ อย่างไรก็ตามตัวฉันเองก็มีเงื่อนไขของตัวเองอยู่ข้อหนึ่ง ซึ่งหากพวกคุณตกลง เราก็มาเซ็นสัญญากันได้เลย …” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเรลอสได้ยินดังนี้เขาก็รีบพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม โปรดบอกฉันมาเลย …”

ในตอนแรกเขาคิดว่าซือเฟิงจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับข้อเสนอนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วด้วยเมืองสภาสิบแปดปีกนั้น ซือเฟิงจะมีตัวเลือกอีกมากมายที่ต้องการจะเข้าเป็นพันธมิตรกับเขา และขอน้อยกว่านี้แน่นอน ซึ่งหากรวมๆกัน ซือเฟิงก็อาจจะได้รับมากกว่าข้อเสนอที่เขาเสนอไป อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อซือเฟิงยอมรับแล้ว มันก็นับเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน

ด้านหยวนเทียนซินนั้นก็พยักหน้าเช่นกัน ….

ซือเฟิงมองไปที่ทั้งสองก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เงื่อนไขของฉันนั้นง่ายมาก ฉันต้องการมรดกขอบเขตโดเมนที่สมบูรณ์ของกิลทั้งสองของพวกคุณ ซึ่งหากพวกคุณตกลง เราก็มาเซ็นสัญญากันได้เลย !!”

ปัจจุบันสภาสิบแปดปีกนั้นไม่ได้ขาดแคลนสิ่งอื่นๆเลย ตราบใดที่ยังมีเมืองสภาสิบแปดปีก การที่พวกเขาจะได้รับทรัพยากรที่พวกเขาต้องการทั้งตอนนี้และในอนาคตก็จะไม่เป็นปัญหาแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามการจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่พวกเขามีให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุดนั้น พวกเขาก็จำเป็นจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีความสามารถพิเศษจำนวนมากด้วย

ดังนั้นการได้รับมรดกขอบเขตโดเมนที่สมบูรณ์มาจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อสภาสิบแปดปีกในตอนนี้ ซึ่งมันก็เป็นไปเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญของพวกเขาสามารถเติบโตไปจนถึงขอบเขตโดเมนได้

“โอเค ฉันยอมรับเงื่อนไขของคุณในนามของจักรวรรดิโลกใต้พิภพ !!!” เรลอสตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

สำหรับหยวนเทียนซิน เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกัดฟันและพูดว่า “ศาลาลับของเราก็ยินดีจะยอมรับเงื่อนไขของคุณเช่นกัน …”

เมื่อซือเฟิงได้ยินดังนี้เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะท้ายที่สุดมรดกกิลที่สมบูรณ์นั้นมีความสำคัญมากๆสำหรับแต่ละกิล และหลายกิลก็ยินดีที่จะถูกทำลายดีกว่าจะมอบให้คนอื่น ….

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้กล่าวออกมาว่า “ยอดเยี่ยม !! งั้นมาเซ็นสัญญากันเลย และฉันก็ขอให้ทั้งสามกิลของพวกเราร่วมมือกันแบบนี้ไปได้นานๆ !!!”

เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ทั้งหมดต่างก็เซ็นสัญญาอย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่มันทำให้ทั้งสามฝ่ายของพวกเขานั้นมีความสุขมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซือเฟิง เพราะนี่มันนับเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้สภาสิบแปดปีกกลายเป็นกิลอันดับหนึ่งของ God domain ในอนาคต

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยซือเฟิงก็ใช้เวลาอีกนิดหน่อยในการพูดคุยรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆกับตัวแทนทั้งสอง ซึ่งในระหว่างนี้นั้นข่าวเรื่องที่ซือเฟิงกลายเป็นขั้นห้า และข่าวที่ซือถู ฉิงเทียน กับซื่อหยาง เทียนเหอถูกฆ่าที่สถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีกก็ได้แพร่กระจายออกไปในหมู่มหาอำนาจของ God domain อย่างรวดเร็ว

และชั่วครู่หนึ่ง ข่าวนี้มันก็ทำให้ทั่วทั้ง God domain สั่นสะเทือน !!!

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset