Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2889

ตอนที่ 2889 ผลประโยชน์ของเมืองหินโบราณภายใต้เจ้าของใหม่

จักรวรรดิออร์ค เมืองหินโบราณ :

เมื่อซือเฟิงปรากฎตัวขึ้นบริเวณประตูเมืองหินโบราณ เขาก็สังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่าประตูเมืองหินโบราณนั้นได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดแล้ว ในตอนนี้กำแพงเมืองมีขนาดที่สูงกว่าเดิมมาก และบริเวณกำแพงนั้นก็ถูกสลักรูนเวทย์มนต์ไว้อย่างหนาแน่น นอกเหนือจากนี้แล้วเมืองก็ยังได้รับการติดตั้งวงเวทย์ที่จะช่วยดูดซับมานาจากภายนอกเข้ามาในเมืองโดยอัตโนมัติด้วย

ในส่วนของวงเวทย์ป้องกันของเมืองนั้น แม้แต่การโจมตีเต็มกำลังของอาชีพขั้นห้าก็ยังไม่อาจจะสามารถทำลายมันลงได้ง่ายๆ และตราบใดที่แหล่งพลังงานของวงเวทย์ยังคงเหลือเพียงพอนั้น วงเวทย์ป้องกันก็จะถูกซ่อมแซมโดยอัตโนมัติ แถมนอกเหนือจากนี้นั้นมันยังสามารถป้อนคริสตัลเวทย์มนต์เข้าไปเสริมแหล่งพลังงานส่วนสำรองที่หายไปได้เรื่อยๆด้วย

ขณะเดียวกันในเมืองก็มีอาคารสูงตั้งตระหง่านท่ามกลางสายหมอกเป็นจำนวนมาก ซึ่งนี่มันทำให้ซือเฟิงสามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าความหนาแน่น และสภาพแวดล้อมของเมืองนี้นั้นแทบจะเทียบได้กับเมืองสภาสิบแปดปีกเลย

ซือเฟิงนั้นอดไม่ได้ที่จะกระโดดขึ้นไปในอากาศเพื่อไปมองสภาพของเมืองหินโบราณทั้งหมดจากด้านบน ก่อนที่เขาจะพึมพำอย่างมีความสุขว่า “นี่มันได้รับการอัพเกรดเป็นเมืองหลักโดยอัตโนมัติงั้นหรอ ?”

ในเวลานี้เมืองหินโบราณนั้นมันดูมีขนาดใหญ่กว่าเมืองสภาสิบแปดปีกซะอีก โดยสถานที่ที่เคยเป็นสถานที่พักกิลของมือแห่งนักบุญนั้นก็ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งคฤหาสถ์นี้นั้นมีความสูงอยู่ที่ราวสามร้อยเมตร ขณะเดียวกันบริเวณยอดของคฤหาสถ์นั้นมันก็มีแสงของรูนศักสิทธิ์สว่างจ้าอยู่ โดยรูนศักสิทธิ์พวกนี้นั้นมันก็เกิดมาจากการทำงานขององค์ประกอบธาตุภายในเมืองที่เป็นไปได้อย่างดี

ซึ่งรูนศักสิทธิ์พวกนี้นั้นมันจะช่วยเพิ่มการรับรู้ และความเข้าใจของผู้เล่นต่อองค์ประกอบธาตุขึ้นอย่างมาก พูดกันตามตรงมันจะทำให้พวกเขาเข้าใจถึงกฎธรรมชาติขององค์ประกอบธาตุเลยด้วยซ้ำ และด้วยเรื่องนี้เองการที่ผู้เล่นคนหนึ่งจะกลายเป็นปรมาจารย์ธาตุนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมในชีวิตที่ผ่านมาของฉันนั้น เมืองที่มีแกนกลางเป็นดินแดนลับนั้นมันสามารถจะช่วยให้ผู้เล่นพัฒนาขึ้นไปได้อย่างรวดเร็วมากๆ ด้วยรูนศักสิทธิ์ที่ปรากฎขึ้นนี้ มันจะทำให้ผู้เล่นขั้นสี่ที่เข้ามาฝึกในเมืองมีโอกาสเลื่อนขั้นเป็นขั้นห้าได้มากกว่าในโลกภายนอกราวยี่สิบถึงสามสิบเปอเซ็นต์เลย” ซือเฟิงมองไปที่คฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครอง ในขณะที่เขากำลังคิดอย่างพึงพอใจ

อย่างไรก็ตามในขณะที่ซือเฟิงกำลังสังเกตเมืองหินโบราณนั้น มันก็มีผู้เล่นจำนวนมากเริ่มมารวมตัวกันรอบตัวเขา โดยผู้เล่นทั้งหมดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปกับเมืองหินโบราณโฉมใหม่เช่นกัน

เมืองหินโบราณที่ก่อนหน้านี้นั้นเหลือแต่ซากปรักหักพังได้กลายมาเป็นเมืองที่เทียบเท่ากับเมืองหลวงของอาณาจักรได้แล้ว นี่ยังไม่ต้องพูดถึงสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมานาจำนวนมหาศาลที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า รวมทั้งตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของเมืองที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ชั้นในของจักรวรรดิออร์คเลย …. ซึ่งพูดกันตามตรงด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้นั้น มันจะทำให้เมืองหินโบราณเป็นดั่งดินแดนสวรรค์สำหรับเหล่าผู้เล่นในจักรวรรดิออร์คแน่นอน

และเมื่อซือเฟิงเห็นผู้เล่นมารวมตัวกันมากขึ้นนั้น เขาจึงได้เลือกจะรีบบินตรงไปที่คฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองทันที

ตอนนี้เมื่อเมืองหินโบราณได้รับการอัพเกรด และไม่ได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของระบบแล้ว มันจึงสามารถจะกล่าวได้เลยว่าเมืองหินโบราณนั้นอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด และมันก็จะเป็นเรื่องยากมากๆที่จะป้องกัน หากมีกองกำลังใดกองกำลังหนึ่งตัดสินใจเข้าโจมตีเมืองในตอนนี้

ดังนั้นตอนนี้สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือการรีบไปเปิดใช้งานวงเวทย์ของเมืองทั้งหมดที่คฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครอง เพราะเมื่อวงเวทย์ทั้งหมดถูกเปิดใช้งานแล้วนั้น แม้พวกเขาจะไม่มีใครคอยป้องกันเมือง แต่เมืองมันก็จะสามารถทนการโจมตีของพวกขั้นห้าได้ระยะหนึ่งแน่นอน

หลังจากซือเฟิงได้เข้าไปในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง เขาก็ตกใจกับสภาพแวดล้อมภายในอย่างมาก

สภาพแวดล้อมในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองหินโบราณตอนนี้นั้นเปรียบได้กับสภาพแวดล้อมใน God domain ยุคโบราณเลย นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าหากฝึกที่นี่ความชัดเจน และความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบธาตุของผู้เล่นจะพัฒนาขึ้นไปได้รวดเร็วกว่าในห้องใต้ดินของเมืองสภาสิบแปดปีกซะอีก

นอกเหนือจากนี้แล้ว ห้องใต้ดินของเมืองสภาสิบแปดปีก (ที่มีรูปสลักสัตว์อสูรโบราณ)นั้นก็สามารถใช้ฝึกได้แค่หลายสิบคนเท่านั้น ขณะที่ลานฝึกของที่นี่นั้นสามารถจะให้คนหลายหมื่นคนใช้ฝึกได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ

สำหรับห้องควบคุมหลักของคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง เมื่อซือเฟิงมาถึงประตูที่มืดมิดก็ได้ถูกเปิดออกจนสุด หลังจากนั้นมานาจำนวนมหาศาลจากดินแดนลับก็ได้เริ่มกระจายตัวออกไปทั่วคฤหาสถ์ ซึ่งนี่มันก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย รวมไปถึงในดินแดนลับด้วยเช่นกัน

ดินแดนลับของเทพปีศาจซึ่งแต่เดิมป้องกันไม่ให้คนนอกเข้าใกล้ ตอนนี้มันมีบันไดสิบเก้าชั้นซึ่งเป็นทางตรงนำไปสู่ดินแดนลับในทันที แต่อย่างไรก็ตามการจะก้าวไปได้แต่ละขั้นนั้นมันก็มีการกำหนดความต้องการขั้นต่ำในเรื่องความเข้าใจขององค์ประกอบธาตุ

ขณะเดียวกันมันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีลัดเลย โดยวิธีลัดที่ว่านั้นผู้เล่นจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อผ่านข้อกำหนดขั้นต่ำที่ตัวเองต้องเป็นขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ และต้องจ่ายด้วยคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งพันชิ้น

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือตอนนี้มันมีทางให้เลือกสองทางเพื่อที่จะเข้าสู่ดินแดนลับของเทพปีศาจ

หนึ่งฟรี แต่ต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญมีความเข้าใจในองค์ประกอบธาตุถึงเกณฑ์ที่กำหนด

สำหรับอีกทางหนึ่งนั้นก็คือการที่ผู้เล่นต้องผ่านข้อกำหนดขั้นต่ำโดยที่ผู้เล่นต้องเป็นอาชีพขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ และต้องจ่ายด้วยคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งพันชิ้นเพื่อเข้าสู่ดินแดนลับของเทพปีศาจ ซึ่งนี่มันก็นับเป็นโบนัสก้อนโตอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะท้ายที่สุดดินแดนลับระดับพระเจ้าเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบขึ้นไปนั้น หากอาชีพขั้นสี่ได้เข้าไป มันก็จะช่วยได้อย่างมากเลยในหลายๆด้าน

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามอนสเตอร์ในดินแดนลับแบบนี้แต่ละตัวนั้นล้วนดรอปไอเทมที่มีค่ามากๆ
ในดินแดนลับระดับพระเจ้าที่มีเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบนั้นมันมีข่าวลือว่ามอน
สเตอร์ใดๆก็ตามที่เป็นมอนสเตอร์ขั้นสี่ ระดับเทพนิยายจะมีอัตราการดรอปมากกว่าในโลกภายนอกสองถึงสามเท่า ขณะที่ค่า EXP ที่มอนสเตอร์พวกนี้มอบให้มันก็จะมากกว่าในโลกภายนอกถึงห้าเท่า ดินแดนลับแบบนี้มันนับเป็นขุมทรัพย์อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้จัดว่าเป็นขุมทรัพย์ซะทีเดียว เพราะระบบหลักของ God domain นั้นจะไม่ยอมให้ผู้เล่นได้รับอะไรมาง่ายๆแน่นอน ดังนั้นในดินแดนลับแบบนี้ มอนสเตอร์พวกนี้จึงถูกตั้งค่าให้มีพลังและมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงมาก และสำหรับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย ขั้นสี่นั้น มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ทั่วไปจะสามารถจัดการได้ง่ายๆเลย

ผู้เล่นจะอยู่รอดในดินแดนลับแบบนี้ได้ง่ายขึ้นก็ต่อเมื่อเข้าสู่ขั้นห้าแล้วเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหากผู้เล่นขั้นห้าบังเอิญซวยไปเจอ มอนสเตอร์ระดับโดเมนศักสิทธิ์ ขั้นห้า พวกเขาก็มีสิทจะตายได้เช่นกัน

เนื่องจากมอนสเตอร์ระดับโดเมนศักสิทธิ์ในดินแดนลับ ระดับพระเจ้า นั้นล้วนมีมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงมาก โดยแม้แต่ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกมันก็ยังสามารถเทียบกับผู้ที่พึ่งจะเข้าสู่ขอบเขตอนันต์ได้ และเมื่อบวกกับค่าสถานะพื้นฐานที่สูงลิ่วของมันนั้น มันจึงเป็นเรื่องยากมากๆที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าทั่วไปจะสามารถต้านทานมันได้ โดยทั่วไปแล้วในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง มันจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าอย่างน้อยสามคน และฮีลเลอร์กับแท๊งเกอร์ที่เป็นทีมสามคนคอยประสานงาน และช่วยเหลือกัน มันจึงจะสามารถล้มมอนสเตอร์ระดับนี้

แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทั้งหมดมันก็ทำให้ซือเฟิงตื่นเต้นมากๆ ….

เนื่องจากในดินแดนลับ ระดับพระเจ้าที่มีเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบนั้นมีโอกาสจะดรอปคริสตัลศักสิทธิ์ออกมา ซึ่งมันนับเป็นไอเทมสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพลังให้กับไอเทมระดับตำนาน และมันยังมีโอกาสจะดรอปหนังสือสกิล กับเวทย์มนต์ขั้นห้าด้วย โดยทั้งหมดนี้มันก็คือกุญแจสำคัญในการปรับปรุงความแข็งแกร่งของอาชีพขั้นห้า

ถึงกระนั้นซือเฟิงก็เลือกจะปรามให้ตัวเองสงบลงไป เพราะในตอนนี้ต่อให้เขาเข้าไปพร้อมกับไฟเออร์แดนซ์ กับคนอื่นๆนั้น อย่างมากเขาก็จะสามารถฆ่าได้แค่มอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายเท่านั้น สำหรับมอนสเตอร์ระดับโดเมนศักสิทธิ์ มันยังคงเป็นแค่ความฝัน

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้ใช้คริสตัลเวทย์มนต์สามแสนชิ้นเพื่อเปิดใช้งานวงเวทย์ทั้งหมดของเมืองหินโบราณ

ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานวงเวทย์นั้น เมืองหินโบราณก็เหมือนกับยักษ์หลับใหลที่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมา โดยมานาในรัศมีสองหมื่นหลานั้นได้เริ่มมาบรรจบกันที่เมืองหินโบราณ ซึ่งนี่มันทำให้มานารอบบริเวณนั้นเหือดแห้งจนผู้เล่นขั้นหนึ่ง กับขั้นสองนั้นรู้สึกอึดอัดมากๆ ในส่วนของอาชีพขั้นสาม และขั้นสี่นั้น พลังของพวกเขาก็จะลดลงไปในระดับหนึ่ง

สำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นห้า แม้ว่าพวกเขาจะมาโจมตีเมืองป่าหินตอนนี้ แต่ความรุนแรงในการโจมตีของพวกเขาก็จะลดลงไปอย่างมาก ….

“วงเวทย์ทั้งหมด รวมไปถึงวงเวทย์แกนกลางพวกนี้มันช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ !!” ซือเฟิงที่อยู่ในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองนั้นก็รู้สึกตกตะลึงมากเช่นกัน

และหลังจากเปิดใช้งานวงเวทย์ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ซือเฟิงก็ได้ออกคำสั่งให้ไฟ
เออร์แดนซ์เริ่มส่งคนจำนวนมากเข้ามา

หลังจากนั้นเมืองหินโบราณที่ว่างเปล่าก็ได้เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของสภาสิบแปดปีกมากกว่าสองแสนคนในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่มากกว่าสามสิบคนยังถูกระดมเข้ามาประจำการที่นี่ พร้อมกับเรือเหาะมังกรสีเลือดสามลำ องคร์ระดับลึกลับขั้นเงิน ขั้นสี่ หกคน และองค์รักษ์ระดับดาร์คโกล ขั้นสี่ สองคน

ซึ่งด้วยกองกำลังแบบนี้นั้น เมืองหินโบราณจะมีการป้องกันที่แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าเมืองกิลของซุเปอร์กิลทั่วไปแน่นอน

“หัวหน้ากิล การวางกำลังการป้องกันของเมืองในขั้นพื้นฐานเสร็จเรียบร้อย หัวหน้าจะเปิดเมืองเลยไหม ?” ไฟเออร์แดนซ์อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น หลังจากที่ได้อ่านรายงาน

“เปิดเลย” ซือเฟิงกล่าวโดยไม่ลังเล “สำหรับค่าเข้าให้คิดเป็นเงินสี่สิบเหรียญเงิน หรือคริสตัลเวทย์มนต์ที่มูลค่าเท่ากัน !!!”

เมืองกิลจะสามารถดึงดูดทหาร NPC ให้เข้ามาสมัครประจำการได้ก็ต่อเมื่อเมืองถูกเปิดแล้วเท่านั้น ขณะเดียวกันเพื่อที่จะคงสถานะการป้องกันของเมืองหินโบราณในตอนนี้ไว้นั้น มันก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่คริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งแสนชิ้นต่อวัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเปิดเมืองเพื่อหารายได้ ….
และเมื่อเมืองหินโบราณถูกเปิดขึ้นนั้น มันก็จะกลายเป็นตัวเลือกแรกๆของผู้เล่นที่วางแผนจะไปล่าในเมืองหลวงของจักรวรรดิออร์คที่จะเข้ามาพักผ่อนแน่นอน เพราะเมืองหินโบราณนั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของจักรวรรดิออร์คที่สุด

หลังจากนั้นภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง มันก็มีผู้เล่นมากกว่าหกแสนคนหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหินโบราณ โดยทุกคนล้วนอยู่ในขั้นสามเป็นอย่างน้อย

โดยผู้เล่นทุกคนที่เข้าสู่เมืองหินโบราณนั้นล้วนตกตะลึงกับผลประโยชน์ทั้งหมด และสภาพแวดล้อมที่มันมอบให้อย่างมาก และนี่มันก็ทำให้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องของเมืองหินโบราณนั้นแพร่กระจายออกไปทั่วทั้ง God domain อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้นั้น แม้แต่ซุเปอร์กิลที่คิดจะแย่งชิงเมืองนี้ไปจากสภาสิบแปดปีกก็ยังต้องยอมแพ้ และเลือกจะรอกองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นแทน

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่หลายฝ่ายกำลังตกตะลึงนี้นั้น ซือเฟิงก็ได้นำจักรพรรดิอสูรไปที่วิหารเทพสงครามของอาณาจักรสตาร์มูน

ในตอนนี้เมื่อทุกอย่างในด้านของเมืองหินโบราณเรียบร้อยแล้วนั้น ซือเฟิงจึงสามารถจะออกห่างจากเมืองมาได้ โดยเขาก็ได้เลือกจะมุ่งหน้าไปยังวิหารเทพสงครามเป็นที่แรก อันเนื่องมาจากวิหารเทพสงครามนั้นมีความเกลียดชังกับวิหารเทพปีศาจอย่างมาก ดังนั้นค่าหัวของทูตของเทพปีศาจอย่างจักรพรรดิอสูรก็จะสูงมากแน่นอน ซึ่งซือเฟิงนั้นต้องการค่าหัวนี้อย่างมาก ….

เมื่อซือเฟิงเดินเข้ามาในห้องโถงของวิหารเทพสงครามพร้อมกับจักรพรรดิอสูร
มัคนายกเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบก็ได้เดินเข้ามาหาเขา

“ท่านลอร์ดท่านมาเพื่อรับรางวัลค่าหัวสินะ โปรดตามฉันมาเลย ลอร์ดแห่งวิหารเทพสงครามกำลังรอท่านอยู่ที่ห้องโถงวิหารเทพสงคราม” มัคนายกขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบกล่าวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ

“โอเค ! นำไป !!” ซือเฟิงพยักหน้า

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset