Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2892

ตอนที่ 2892 เข้าสู่ดินแดนลับของเทพปีศาจ

จักรวรรดิรัตติกาล เมืองดาร์คไนท์ :

หลังจากสงครามครั้งล่าสุดกับสภาสิบแปดปีก …. ในตอนนี้สถานที่พักกิลของสตาร์ลิ้งที่เคยเต็มไปด้วยผู้เล่นต่อแถวมารอสมัครเข้ากิลนั้นไม่มีอีกแล้ว และหากให้พูดกันตามตรงคือตอนนี้นั้นมันลดน้อยลงจนแทบจะเรียกได้ว่าแทบไม่มีผู้มาสมัครเข้ากิลเลยด้วยซ้ำ

ซึ่งเรื่องที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้นมันก็ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสตาร์ลิ้งมากๆ และตอนนี้มันก็ทำให้พวกเขาเริ่มจะกลับมาเสียเปรียบอันยีลดิ้งโซล และจักรวรรดิคริมสันแล้ว

แต่ในตอนนี้นั้นห้องประชุมขนาดใหญ่ของสตาร์ลิ้งมันกับแออัดไปด้วยผู้เล่นจำนวนมากซึ่งเป็นตัวแทนจากกิลชั้นยอด ซุเปอร์กิล และกิลสายความมืดระดับสูง …. โดยพวกเขามารวมตัวกันที่นี่ก็เพื่อพูดคุยหาวิธีต่อต้านสภาสิบแปดปีกกันอย่างลับๆ

อย่างไรก็ตามเมื่อหลายคนได้รับข่าวล่าสุดเกี่ยวกับสภาสิบแปดปีกนั้นใบหน้าของพวกเขาก็แข็งค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“โคลท์ชาโด้วนั้นบ้าคลั่งอย่างแท้จริงๆ !!! เธอได้ตัดสินใจจะละทิ้งไมโทโลจี้และไปเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกโดยตรง นี่เธอไม่กลัวว่าไมโทโลจี้จะตามมาล้างแค้นเลยรึไง ?”

“ไม่ใช่ว่าโคลท์ชาโด้วเคยพยายามจะเข้ายึดสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ? แล้วนี่มันอะไรกัน ?”

“ดูเหมือนว่าโคลท์ชาโด้วจะวางแผนมาอย่างดีเลยทีเดียวสำหรับเรื่องนี้ เพราะแม้แต่ไมโทโลจี้ก็ยังไม่ทันได้เตรียมตัวใดๆสำหรับเรื่องนี้เลย เธอสามารถโอนถ่ายทรัพยากรทั้งหมดของไมโทโลจี้ที่อยู่ภายใต้ชื่อของเธอ และภายใต้การปกครองของเธอไปให้สภาสิบแปดปีกได้ทั้งหมด นอกเหนือจากนี้แล้วเธอก็ยังนำผู้เล่นอีกหลายพันคนภายใต้การบังคับบัญชาของเธอติดตามไปเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกด้วย ครั้งนี้นั้นนับว่าไมโทโลจี้ได้รับความสูญเสียอย่างหนักจากการกระทำของเธอจริงๆ ….”

แต่แม้ว่าโคลท์ชาโด้วจะนำคน และทรัพยากรของเธอทั้งหมดเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีก มันก็ไม่ได้ช่วยทำให้สถานการณ์ในสงครามโลกของสภาสิบแปดปีกดีขึ้นมากเท่าไหร่นัก เพราะตอนนี้นั้นมันมีกองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นจำนวนมากที่กำลังพุ่งเป้ามาที่สภาสิบแปดปีก

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องของไมโทโลจี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดเลย การที่โคลท์ชาโด้วตัดสินใจทำแบบนี้ และทำให้ไมโทโลจี้ได้รับความสูญเสียอย่างหนักนั้น ไมโทโลจี้จะต้องตามมาล้างแค้นแน่นอน และสภาสิบแปดปีกกิลที่เธอไปเข้าร่วมก็จะต้องโดนไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ….

นอกเหนือจากนี้แล้วเมืองสภาสิบแปดปีกซึ่งมีเส้นทางเทเลพอร์ตระหว่างทวีปหลักสองด้านนั้นก็กำลังถูกจับตามองจากทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่กองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่น ซึ่งหากพวกเขามองเห็นโอกาสเมื่อไหร่ พวกเขาก็จะเริ่มโจมตี และพยายามยึดครองไปเป็นของตัวเองแน่นอน ดังนั้นนี่มันจึงทำให้สถานการณ์ในปัจจุบันของสภาสิบแปดปีกนั้นล่อแหลมมากๆ

อย่างไรก็ตามในสถานการณ์แบบนี้โคลท์ชาโด้วกับตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกจริงๆ ดังนั้นนี่มันจึงทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่อดไม่ได้ที่จะสงสัยจริงๆว่าโคลท์ชาโด้วคิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนี้ ….

“พวกคุณเงียบกันได้แล้ว !!!” ลู่เทียนตี้กล่าวพลางลุกขึ้นยืน และกวาดตามองไปทั่วห้องประชุม “แม้ว่าโคลท์ชาโด้วจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีก และทำให้สภาสิบแปดปีกแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก แต่แผนของเราก็จะยังไม่เปลี่ยนแปลง เพราะตามข่าวล่าสุดที่ฉันได้รับมาตอนนี้มันมีกองกำลัง NPC และผู้เล่นจากโลกอื่นมากกว่าสิบกลุ่มที่เตรียมจะบุกเข้าสู่อาณาจักรสตาร์มูน กับอาณาจักรทวินทาวเวอร์แล้ว”

“โดยหากพวกเราต้องการจะให้อาณาจักรสตาร์มูน กับอาณาจักรทวินทาวเวอร์ถูกทำลายอย่างแน่นอน พวกเราก็จะต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้ไว้ที่สุดด้วยการประกาศ และบังคับให้ผู้เชี่ยวชาญทุกคนย้ายออกจากอาณาจักรสตาร์มูน กับอาณาจักรทวินทาวเวอร์ นอกเหนือจากนี้แล้วก็ให้ทำการกดดันเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในประเทศใกล้เคียงด้วย ซึ่งเมื่อสภาสิบแปดปีก และสองอาณาจักรขาดผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากคอยช่วยเมื่อไหร่ พวกเขาก็จะไม่สามารถต้านทานการรุกรานของกองกำลังจากโลกอื่นได้แน่นอน !!!”

เมื่อได้ยินคำพูดของลู่เทียนตี้นั้นตัวแทนทั้งหมดที่อยู่ในห้องประชุมก็เริ่มพยักหน้ากันอย่างเห็นด้วย

“เอาตามที่หัวหน้ากิลลู่ว่ามาแล้วกัน !!! พวกเราจะเร่งดำเนินการให้ไวที่สุด และจะไม่ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญพวกนั้นได้ไปเป็นพลังของสภาสิบแปดปีก !!!”

“ฉันไม่มีปัญหาใดๆกับเรื่องนี้ …”

หากมองแค่ผิวเผินสภาสิบแปดปีกตอนนี้อาจดูรุ่งโรจน์อย่างถึงขีดสุด แถมกิลยังมีซือเฟิงที่เป็นนักบุญแห่งดาบขั้นห้าคอยดูแลด้วย ดังนั้นกิลจึงมีอิทธิพลแทบจะเทียบเคียงกับห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดเลยในตอนนี้

อย่างไรก็ตามทุกอย่างมันจะแตกต่างออกไปหากมองลึกลงไป และคิดถึงปัจจัยโดยรวมทั้งหมด เพราะท้ายที่สุดแล้วผู้เล่นขั้นห้าเพียงคนเดียวนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนกระแสของเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้แน่นอน

ซึ่งในระหว่างที่มหาอำนาจทั้งหมดนี้กำลังวางแผนต่อต้านสภาสิบแปดปีกกันอย่างลับๆนั้น ไกลออกไปที่เมืองหินโบราณ … ในตอนนี้กองกำลังผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของโคลท์ชาโด้วก็ได้เดินทางเข้ามาถึงเมืองหินโบราณแล้ว …

เมื่อการ์เดี้ยนไนท์หญิง ไวท์เฟเธอร์ได้เห็นผู้เล่น และ NPC ที่เดินไปมาในถนนของเมืองหินโบราณ เธอก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นว่า “รองหัวหน้ากิล เมืองหินโบราณนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ นอกเหนือจากการโครงสร้างการป้องกันที่น่ากลัวแล้ว เมืองยังมี NPC ขั้นสี่มากมายประจำการอยู่ที่นี่ด้วย ซึ่งนี่มันทำให้เมืองมีพลังการป้องกันที่เหนือกว่าเมืองหลวงของจักรวรรดิส่วนใหญ่เลยทีเดียว …”

แม้ว่าไวท์เฟเธอร์จะปฎิบัติการอยู่ในจักรวรรดิมังกรไฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่จักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดของ God domain มานาน แต่เธอก็ไม่เคยคิด และไม่เคยเห็นเลยว่ามันจะมีเมืองกิลที่สามารถทำได้ขนาดนี้อยู่จริงๆ

อย่างไรก็ตามหลังจากเธอมาถึงเมืองหินโบราณนั้น เธอก็จำเป็นจะต้องยอมรับในทุกสิ่งที่เธอได้เห็นจริงๆ ….

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของปริมาณ NPC ขั้นสี่ที่เมืองหินโบราณนั้นสามารถจะเทียบได้กับเมืองมังกรไฟที่เป็นเมืองหลวงจักรวรรดิมังกรไฟเลย
และสำหรับเมืองกิลนั้น ยิ่งมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งเท่าไหร่ มันก็ยิ่งนับเป็นโอกาสเช่นกัน ….

“ก็จริง แล้วก็เมืองนี้นั้นพัฒนาไปได้อย่างดีจริงๆ แม้ว่าในตอนนี้มันจะเป็นเพียงภาพลวงตาก็ตาม ….” โคลท์ชาโด้วกล่าวพลางพยักหน้า

เดิมทีในตอนที่เธอตัดสินใจจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกนั้น เธอยังคงมีความกังวลอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามหลังจากได้เห็นเมืองหินโบราณ เธอก็คลายความกังวลไปในระดับหนึ่ง

ด้วยข้อได้เปรียบของเมืองหินโบราณ แม้ว่าซือเฟิงจะไม่อยู่ แต่สภาสิบแปดปีกก็จะไม่มีปัญหาใดๆในการต่อต้านมหาอำนาจต่างๆรวมไปถึงไมโทโลจี้ด้วย ….

และตราบเท่าที่มีเวลามากเพียงพอ เมืองหินโบราณก็จะสามารถรับเอาทรัพยากรจากเมืองหลวงของจักรวรรดิออร์คได้อย่างมหาศาล นอกเหนือจากนี้แล้วสภาสิบแปดปีกก็จะสามารถรับสมัครผู้เชี่ยวชาญจากจักรวรรดิออร์ค และประเทศใกล้เคียงเข้ามาได้มากเท่าที่กิลต้องการ ….

หลังจากนั้นเมื่อสภาสิบแปดปีกสามารถต้านทานการรุกรานของกองกำลังจากโลกอื่นได้ การที่กิลจะกลายเป็นกิลอันดับหนึ่งของ God domain มันก็จะไม่ใช่เพียงความฝันอีกต่อไป

แต่อย่างไรก็ตามเรื่องทั้งหมดนี้มันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงเช่นกัน เพราะหากสภาสิบแปดปีกไม่สามารถต้านทานได้ กิลก็มีสิทจะถูกทำลายล้างแบบถอนรากถอนโคนเลยทีเดียว

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้โคลท์ชาโด้วก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมซือเฟิงถึงเรียกผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ส่วนใหญ่ของกิลมาที่นี่ ในเวลาแบบนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วนั้นในตอนนี้สงครามโลกมันกำลังจะปะทุแล้ว ซึ่งหากพวกเขาเตรียมตัวไม่ดีนั้น พวกเขาก็มีสิทจะเป็นแบบพวกที่ถูกทำลายในสงครามโลกครั้งแรก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่พวกเขาควรจะทำตอนนี้ก็คือเตรียมพร้อมให้ดีที่สุดเพื่อป้องกันดินแดนของกิลมากกว่า

ในระหว่างที่โคลท์ชาโด้วกับไวท์เฟเธอร์กำลังพูดคุยกันนั้น พวกเธอก็ได้นำกองกำลังของตัวเองมาถึงที่บริเวณคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองแล้ว และเมื่อพวกเธอพากันก้าวเข้าสู่คฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองนั้น พวกเธอก็เต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

“รองหัวหน้ากิล … นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน ? ฉันสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยว่าหากเราได้ฝึกที่นี่ ความชัดเจน และความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบธาตุของเราจะพัฒนาขึ้นไปได้รวดเร็วแน่นอน และแม้แต่ดินแดนลับที่ใช้ในการฝึกของไมโทโลจี้ก็ยังไม่สามารถจะเทียบกับที่นี่ได้เลยด้วยซ้ำ …” ไวท์เฟเธอร์กล่าวอย่างตกตะลึง เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ หากได้ฝึกในคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมือง

ดินแดนลับที่ใช้ในการฝึกของไมโทโลจี้ที่ไวท์เฟเธอร์กล่าวถึงนั้นมันค่อนข้างจะพิเศษมากๆ และการจะเข้าไปที่นั่นได้มันก็ต้องจ่ายในราคามหาศาล ซึ่งแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่บางคนก็ยังรู้สึกเจ็บปวด แถมมันยังมีโควต้าที่จำกัดด้วย แต่อย่างไรก็ตาม หากได้เข้าไปนั้นผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ก็จะได้รับการปรับปรุงอย่างมาก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามก็จะมีโอกาสทำเควสเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นสี่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

แต่ตอนนี้สภาสิบแปดปีกกับมีคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองที่ให้ผลดีกว่าดินแดนลับพิเศษนี้มากๆ แถมคฤหาสถ์นี้ก็ยังไม่ได้จำกัดโควต้าด้วย หากผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม และสี่ของไมโทโลจี้รู้เรื่องนี้ พวกเขาคงจะอกแตกตายด้วยความอิจฉาแน่นอน ….

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่โคลท์ชาโด้ว ไวท์เฟเธอร์ และคนอื่นๆยังไม่ทันได้หายตกตะลึงนั้น ซือเฟิงก็ได้เดินเข้ามาหาพวกเขาและกล่าวว่า “โอเค !! ตอนนี้ในเมื่อมากันพร้อมแล้ว เราก็เข้าสู่ดินแดนลับของเทพปีศาจกันเถอะ !!!”

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset