ตอนที่ 2911 ได้รับสมบัติ
ซือเฟิงนั้นรู้สึกลังเลมากๆเมื่อเขามองไปยังสมบัติทั้งสามชิ้นของอาณาจักร
เพราะไม่ว่าจะเป็นชิ้นไหนจากทั้งสามชิ้นนี้ มันก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้อาณาจักรหนึ่ง หรือกิลๆหนึ่งเติบโตขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันสมบัติทั้งสามชิ้นนี้มันก็ต่างมีข้อดี ข้อเสียเป็นของตัวเอง และไม่มีสิ่งใดที่โดดเด่นขึ้นมาโดยสิ้นเชิง
“แลกได้ชิ้นเดียวงั้นหรอ ?” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะถามชายชรา
“คุณสามารถแลกได้เพียงชิ้วเดียวเท่านั้น …” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจว่า “แน่นอนว่ามันไม่มีทางอื่นอีกแล้ว นอกซะจากว่าคุณจะสามารถทำให้อาณาจักรสตาร์มูนเลื่อนขั้นไปเป็นจักรวรรดิได้ คุณจึงจะสามารถแลกเปลี่ยนสมบัติทั้งสามชิ้นนี้ได้เพิ่มเติม”
“เลื่อนขั้นไปเป็นจักรวรรดิงั้นหรอ ?” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมา และยิ้มอย่างขมขื่น
มันมีอยู่หลายวิธีสำหรับอาณาจักรที่จะเลื่อนขั้นไปเป็นจักรวรรดิ แต่วิธีการเหล่านี้นั้นไม่สามารถจะทำได้ง่ายๆ และมันก็ต้องใช้เวลานานมาก
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ แววตาของซือเฟิงก็สว่างวาบขึ้น ก่อนที่เขาจะมองตรงไปที่ชายชราและถามว่า “ฉันอยากถามหน่อยว่าฉันมีคุณสมบัติมากพอจะแลกเปลี่ยนพวกนี้เพิ่มเติม นอกเหนือจากที่ฉันมีสิทได้รับไหม ?”
ผู้เล่นในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาที่โชคดีมากพอจะได้รับสมบัติของอาณาจักร หรือจักรวรรดิต่างๆนั้นล้วนแต่ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าที่จะได้รับพวกมันมาสักชิ้น เพราะท้ายที่สุดแล้วนั้นสมบัติของอาณาจักร หรือจักรวรรดิต่างๆที่พวกเขาได้มาล้วนแต่เป็นของประเทศที่สาบสูญไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อผู้เล่นได้รับมันมาแล้วนั้น พวกเขาก็มีสิทจะฟื้นฟู และสร้างอาณาจักร หรือจักรวรรดิที่ว่านี้ขึ้นมาได้ใหม่เลย
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะค้นหาสมบัติของอาณาจักร หรือจักรวรรดิที่สาบสูญไปแล้ว และความยากของมันก็เทียบได้กับเควสระดับตำนานเลย
อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้นั้นแม้ว่าเขาจะส่งคนในกิลออกไปตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาพักหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้รับเบาะแสใดๆเลยเกี่ยวกับอาณาจักร และจักรวรรดิที่สาบสูญไปแล้ว นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าในปัจจุบันนั้นเหล่าผู้เล่นใน God domain ยังสำรวจแผนที่ทั่วทั้งหมดของ God domain ไปได้ไม่ถึงยี่สิบเปอเซ็นต์เลยด้วยซ้ำ
หรือถ้าจะให้พูดกันตามตรงจริงๆจากที่ซือเฟิงคำณวนนั้นตอนนี้ผู้เล่นใน God domain ยังสำรวจแผนที่ทั่วทั้งหมดของ God domain ไปได้ไม่ถึงสิบห้าเปอเซ็นต์ด้วยซ้ำ
ในทวีปหลักของ God domain อาณาจักร และจักรวรรดิต่างๆของเผ่ามนุษย์นั้นครอบครองพื้นที่เพียงแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น ขณะที่สถานที่ลึกลับอื่นๆรวมไปถึงแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบหรือมากกว่านั้นก็จะครอบครองพื้นที่อยู่มากที่สุดโดยคิดเป็นมากกว่าห้าสิบเปอเซ็นต์ในทวีปหลัก ส่วนอีกมากกว่าสี่สิบเปอเซ็นต์นั้นมันก็เป็นของพวกแผนที่เลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบ หรือมากกว่านั้น ซึ่งแผนที่ระดับนี้นั้น แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามก็ยังยากจะเข้าไปสำรวจได้
นี่ยังไม่นับรวมพื้นที่ที่เป็นทะเล ซึ่งกว้างกว่าทวีปหลักอย่างมาก แถมมันยังมีเกาะมากมาย โดยหลายเกาะก็ใหญ่เท่ากับอาณาจักร หรือจักรวรรดิในทวีปหลัก ดังนั้นการจะค้นหาประเทศหนึ่งที่สาบสูญไปแล้วใน God domain มันจึงเป็นไปได้ยากมากๆ
ดังนั้นเมื่อได้รับโอกาสแบบนี้มา ซือเฟิงจึงไม่คิดจะปล่อยมันไปง่ายๆ และเขาก็ได้เลือกที่จะถามชายชราถึงสิ่งที่เขาคิดมาตลอด เพราะในชีวิตที่แล้วของเขานั้น มันดูเหมือนจะมีบางคนที่ได้รับโอกาสแบบเขา และสามารถแลกเปลี่ยนสมบัติออกไปได้
“แลกเปลี่ยนเพิ่มเติม ?” ชายชรารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ที่คุณถามมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่าคุณยินดีจะจ่ายในราคาสูงลิ่วงั้นหรอ ?”
“ราคาเท่าไหร่ ?” ซือเฟิงถาม
“มันมีอยู่สองตัวเลือก ตัวเลือกแรกคือการนำสมบัติลับมาแลก ขณะที่ตัวเลือกที่สองคือจ่ายมันในราคาที่แพงขึ้นสองเท่าเพื่อแลกเปลี่ยนไป ….” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ราคาที่แพงขึ้นสองเท่างั้นหรอ ?” เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
ตัวเลือกแรกนั้นก็จัดว่าหนักมากแล้ว และมันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเขา ขณะที่ตัวเลือกที่สองนั้น ต่อให้เป็นมหาอำนาจที่แท้จริงก็ยังแทบจะไม่สามารถจ่ายได้เลยด้วยซ้ำ ….
“ถูกต้อง มันมีแค่สองตัวเลือกนี้นั้นแหละ ไม่งั้นเราก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันต่อ ….” ชายชรากล่าวพลางพยักหน้า
“เอาล่ะ งั้นฉันจะแลกเปลี่ยนสมบัติลับกับแบบแปลนเรือเหาะระดับเหล็กลึกลับ และในเวลาเดียวกันฉันก็จะขอแลกเปลี่ยนแบบแปลนหุ่นกลผู้พิทักษ์ระดับลึกลับขั้นเงินไปในราคาสองเท่าด้วยสิทของฉัน !!!” ซือเฟิงกัดฟันพลางหยิบสมบัติลับที่เขาบังเอิญได้รับมาชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขาได้จัดการหยิบสมบัติลับที่เขาบังเอิญได้รับมาชิ้นหนึ่งออกมาจากคลังกิลของสภาสิบแปดปีก พร้อมกับเงิน และคริสตัลเวทย์มนต์ที่กิลสะสมไว้จำนวนมหาศาล โดยเงินนั้นมีทั้งหมดห้าล้านห้าแสนเหรียญทอง ขณะที่คริสตัลเวทย์มนต์นั้นมีทั้งหมดห้าล้านสามแสนชิ้น ซึ่งมันเป็นขีดจำกัดสูงสุดในปัจจุบันที่สภาสิบแปดปีกสามารถจะจ่ายได้
ชายชรามองไปที่ซือเฟิงด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวล่าสุดของเขา “คุณมีทุกอย่างตรงตามเงื่อนไขจริงๆ !!!”
“แน่นอน รีบจัดการให้ฉันเลย !!!” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า
“โอเค ! งั้นทั้งหมดที่เหลือที่คุณยังต้องจ่ายก็คิดเป็นเงินสี่ล้านเหรียญทอง และคริสตัลเวทย์มนต์สองล้านชิ้น”
“เชิญตรวจสอบมันได้เลย”
ซือเฟิงกล่าวพลางจัดการโอนสมบัติลับ รวมไปถึงคริสตัลเวทย์มนต์ และเงินตามที่ชายชราบอกไปใส่กระเป๋าของชายชราทันที และหลังจากที่ชายชรายืนยันว่าได้ทุกอย่างถูกต้องครบตามที่เขาต้องการแล้ว เขาก็ได้โบกมือส่งแบบแปลนสองอย่างที่ซือเฟิงต้องการไปให้ซือเฟิงทันที
ซึ่งเมื่อซือเฟิงได้รับมันมานั้น เขาก็มีท่าทีที่ค่อนข้างจะตื่นเต้นมากๆ และหลัง
จากนั้นซือเฟิงก็รีบทำการตรวจสอบแบบแปลนทั้งสองชิ้นนี้ทันที เพราะว่าเขาต้องการจะรวบรวมวัสดุที่จำเป็นในการผลิตพวกมัน และเริ่มผลิตให้ได้จำนวนมากทันที
“วัสดุทุกชิ้นที่จำเป็นในการผลิตพวกมันนั้นล้วนแต่เป็นวัสดุที่หายากมากๆใน God domain ในปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแร่ไททัน และหินเวทย์เอลฟ์ซึ่งต้องใช้เป็นจำนวนมาก …” ซือเฟิงพึมพำ และก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เมื่อเขาได้เห็นถึงวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิตเรือเหาะระดับเหล็กลึกลับ และหุ่นกลผู้พิทักษ์ระดับลึกลับขั้นเงิน
เรือเหาะระดับเหล็กลึกลับนั้นจำเป็นต้องใช้แร่ไททันห้าพันชิ้น และหินเวทย์เอลฟ์หกร้อยก้อนในการสร้างหนึ่งลำ
ขณะที่หุ่นกลผู้พิทักษ์ระดับลึกลับขั้นเงินนั้นก็จำเป็นจะต้องใช้แร่ไททันหนึ่งพันชิ้น และหินเวทย์เอลฟ์สองร้อยก้อนในการสร้างหนึ่งตัว
ซึ่งนี่มันนับว่าเป็นจำนวนความต้องการที่มหาศาลมากๆ แต่อย่างไรก็ตามมันก็นับเป็นเรื่องโชคดีสำหรับสภาสิบแปดปีก เพราะหลังจากที่หยานย่า และคนอื่นๆกลับมาจากโลก God domain ยุคโบราณ พวกเขาก็ได้ซื้อ และแลกเปลี่ยนของพวกนี้มามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหินเวทย์เอลฟ์ที่ตอนนี้สภาสิบแปดปีกมีสต๊อคอยู่ในคลังกิล
มากกว่าสี่พันชิ้น ….
ปัญหาเดียวตอนนี้ของสภาสิบแปดปีกคือเรื่องแร่ไททัน เพราะตอนนี้พวกเขามีสต๊อคไว้มากกว่าสามหมื่นชิ้นเท่านั้น และในสามหมื่นชิ้นนี้ พวกเขาก็จะต้องแบ่งมันไปไว้ใช้ทำอาวุธกับอุปกรณ์ชั้นยอดให้สมาชิกในกิลด้วย แถมมันก็ยังเป็นเรื่องยากมากๆสำหรับพวกเขาที่จะได้รับมาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ซือเฟิงกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องทั้งหมดนี้อยู่ ฟางฉีหานก็ได้ติดต่อเขาเข้ามา
“หัวหน้ากิล ตัวแทนของกองกำลังต่างๆในอาณาจักรสตาร์มูน และอาณาจักรทวินทาวเวอร์ได้มาถึงแล้ว อย่างไรก็ตามมันมีตัวแทนจากกองกำลังต่างๆของประเทศที่อยู่ใกล้เคียงมาไม่มากนัก ….” ฟางฉีหานรายงานอย่างเป็นกังวล ก่อนที่เธอจะกล่าวต่อว่า “โดยมันมีมหาอำนาจสองกลุ่ม และกิลชั้นสูงแปดกิลที่ไม่ได้ตอบรับคำเชิญของเรา ขณะที่พวกที่มานั้นมีเพียงกิลชั้นสูงสามกิล และกิลชั้นรองอีกเกือบยี่สิบกิลเท่านั้น”
ความสำเร็จในการเชิญตัวแทนของกองกำลังต่างๆมานั้นอาจจัดได้ว่าไม่ต่ำเลยในสถานการณ์ปกติ อย่างไรก็ตามมันก็แตกต่างออกไปในสถานการณ์ที่พวกเขาต้อง
เตรียมการในการทำสงครามครั้งใหญ่
“หื้ม ?” ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินรายงานนี้ของฟางฉีหาน
การที่มหาอำนาจสองกลุ่มไม่มานั้นเขายังพอเข้าใจได้บ้าง เพราะท้ายที่สุดมหาอำนาจแบบนี้นั้นมักจะมีฐานของตัวเองอยู่ในหลายประเทศ ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่จำเป็นจะต้องห่วงสถานการณ์นี้มากนัก และสามารถรอดูท่าที่ไปก่อนได้ …
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับพวกกิลชั้นสูงนั้นไม่ใช่ และข้อเสนอที่สภาสิบแปดปีกเสนอไปเพื่อจะให้พวกเขาเข้ามาช่วยในสงครามครั้งนี้นั้นมันก็จัดว่ามหาศาลมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสะสมในจำนวนที่มากกว่าที่กิลอื่นๆเสนอเพื่อนำไปแลกที่พักในเมืองสภาสิบแปดปีก กับเมืองหินโบราณ หรือไอเทมระดับสูงอีกมากมาย แถมนี่ยังไม่นับรวมรางวัลที่พวกเขาจะได้รับจากทั้งสองอาณาจักรโดยตรงหากพวกเขาเข้าร่วมสงครามครั้งนี้อีก
ฟางฉีหานยิ้มอย่างขมขื่น และกล่าวว่า “พวกนั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มาเลยน่ะ เพียงแต่ว่าพวกนั้นยื่นข้อเสนอมาว่า หากเราต้องการจะให้พวกเขาเข้าช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ เราจะต้องอนุญาติให้พวกเขาสามารถซื้อบ้านพักส่วนตัว และสถานที่พักกิลของตัวเองในเมืองสภาสิบแปดปีก กับเมืองหินโบราณแบบถาวรได้ พวกเขากล่าวเสริมมาอีกว่ามหาอำนาจอื่นๆนั้นก็ได้เสนออะไรแบบนี้มาให้พวกเขาเช่นกัน ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกเสนอมาเทียบเท่า พวกเขาก็ยินดีจะเลือกสภาสิบแปดปีกก่อน ….”
หลังจากซือเฟิงทำการกวาดล้างกองทัพผู้เล่นจากโลกอื่นไปในดาบเดียวนั้น มันก็ได้ก่อให้เกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่ไปทั่วทั้ง God domain ซึ่งนี่มันก็ทำให้มหาอำนาจบางกลุ่มที่ต้องการจะกำหนดเป้าหมายไปที่สภาสิบแปดปีกนั้นยอมรามือไป นอกเหนือจากนี้มันก็ยังทำให้ผู้เชี่ยวชาญ และผู้เล่นอิสระอีกจำนวนมากนั้นเลือกจะเปลี่ยนใจกลับมาปกป้องอาณาจักรทั้งสองอาณาจักรของตัวเอง แถมสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมันทำให้จำนวนคนที่ต้องการจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกนั้นพุ่งสูงขึ้นมาก
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบไปถึงการตัดสินใจของกองกำลังต่างๆในการจะเข้าช่วยเหลือสภาสิบแปดปีกในสงครามครั้งนี้ ตรงกันข้ามนี่มันกับทำให้พวกเขามองเห็นโอกาสในการหาผลประโยชน์ด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้วกองทัพ NPC ที่สภาสิบแปดปีกจะต้องทำสงครามด้วยนั้นมีจำนวนมหาศาลมากๆ แถมในหมู่ NPC เหล่านี้มันก็ยังมี NPC ขั้นสี่กับขั้นห้าอีกจำนวนมาก ….
แถมทรัพยากรที่สภาสิบแปดปีกมีในตอนนี้นั้นมันก็ทำให้แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังอิจฉา ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงกิลพวกนี้เลย ซึ่งก่อนหน้านี้กิลพวกนี้นั้นไม่มีโอกาสใดๆ แต่ตอนนี้พวกเขามีแล้ว ดังนั้นโดยธรรมชาติ พวกเขาจึงจะไม่ยอมปล่อยมันไปแน่นอน
“โอเค ! ดี !! ดีมาก !!!” ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ “คุณไปบอกกิลชั้นสูงพวกนั้นถ้าพวกเขาไม่คิดจะมาตอนนี้ มันก็จะดีมากเลยถ้าในอนาคตถ้าในอนาคต พวกเขาจะไม่โผล่หัวมาให้ฉันเห็นหน้าอีก !!!”
“นี่ …” ฟางฉีหานพูดไม่ออก เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง
หากเธอทำตามคำสั่งของซือเฟิง นี่มันจะเท่ากับว่าเป็นการประกาศสงครามกับกิลชั้นสูงพวกนี้ชัดๆ และปัญหาที่สภาสิบแปดปีกเผชิญอยู่นั้นมันก็จะต้องถูกลากยาวออกไปแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องสงครามโลกที่ตอนนี้หลายพื้นที่ในทวีปด้านตะวันออกนั้นมีปัญหาขาดแคลนกำลังคน อันเนื่องมาจากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง … ดังนั้นแม้แต่มหาอำนาจต่างๆจึงยังต้องจำยอมกัดฟันให้กิลชั้นสูง และกิลชั้นรอง
บางกิลที่เรื่องมากเรียกในราคาที่สูงลิ่วได้ โดยที่ยังไม่กำจัดกิลเหล่านี้ ….
ตัวซือเฟิงนั้นก็เข้าใจในจุดนี้ดี และเขาก็เข้าใจในความกังวลของฟางฉีหาน ดังนั้นเขาจึงได้เลือกที่จะหยิบแบบแปลนที่เขาพึ่งได้รับมาสองชิ้นออกมา พลางแชร์ให้ฟางฉีหานดูทันที “คุณรู้ไหมว่าทั้งสองสิ่งนี้มันคืออะไร ?”