ตอนที่ 7 แขกผู้มาเยือน (3) (ฟรี)
ที่นี่คือโรงยิมของปราสาทโมเกรียน
มันเคยเป็นพื้นที่ที่อัศวินใช้ฝึกฝนทักษะของพวกเขา
ในตอนนี้เอียนยืนอยู่ตรงนั้น
เขาเลือกที่จะมาโรงยิมนี้เพื่อฝึกทักษะของเขา
ลมหายใจมานามีประสิทธิภาพมากกว่าที่จะไปใช้ข้างนอกนั่น
นอกจากนี้ยังจำเป็นที่จะต้องเพิ่มสมาธิของเขา
‘วันนี้เงียบดีจริง ๆ’
คนรับใช้หลายคนแอบเข้าไปในโรงยิมเมื่อสักครู่นี้ที่ได้ยินว่าจอมเวทย์จะไปที่นั่น
จอมเวทย์จะไปทำอะไรที่โรงยิม?
ทุกคนต่างก็เกิดความสงสัย
‘ฉันไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร’
ส่วนใหญ่ที่แอบเข้ามาเพิ่งเห็นว่าเขากำลังนั่งสมาธิกำลังหนดลมหายใจ
แค่นี้?
มีเพียงคนไม่กี่คนที่ได้เห็นเขาใช้เวทมนตร์จริง ๆ ในโรงยิมนั่น
พวกเขาแพร่กระจายข่าวลืออย่างรวดเร็วจริง
“ ฉันเห็นเขาโจมตีหุ่นด้วยลูกบอลไฟกลม ๆ ในนั้น! ”
“ ฉันเห็นเศษน้ำแข็งกำลังพุ่งไปมา! ”
“ ฉันเห็นอะไรที่เป็นเเหมือนฟองบางอย่าง มันเป็น…. ”
เป็นต้น
มันไม่ใช่แค่ข่าวลือ
Fireball, Aquaball, Ice spear และอื่น ๆ …
นั่นเวทมนต์ขั้นที่ 1 ที่เขาแสดงให้เห็นในระหว่างการทดสอบของเขา
เขาอุ่นเครื่องด้วยเวทมนต์พวกนี้
‘มันไม่เลวเลยที่จะได้ใส่พลังให้เต็มที่’
ณ เวลาแห่งนี้ไม่ใช่ยุคที่แต่ละประเทศจะสงบสุขปรองดองกัน
มันยังคงเป็นยุคที่ทั้งสามประเทศยังคงแตกแยกกันอยู่
ในตอนนี้เขาต้องทำให้ความสามารถของเขาถูกแพร่กระจายไปมากเท่าที่จะทำได้เพราะถ้ากระจายไปได้มากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น
อัจฉริยะที่มีความสามารถเหมือนกับของ ‘จอมเวทย์คนแรก’
มันก็ไม่ได้เลวร้ายจนกระทั่งประเทศทั้งสามนั้นรวมตัวกัน
แน่นอนว่าต้องมีข้อสงสัยและสายลับที่แอบติดตามเขา
โดยเฉพาะคนจากหอคอยงาช้าง
‘ไม่มีอะไรที่คนพวกนั้นจะได้เห็น’
ไม่ว่าจะเทคนิคแบบไหนที่เขากำลังจะใช้
เพระาเขารู้เคล็ดลับทุกอย่างที่เขานั้นต้องใช้อยู่แล้ว
เขาสามารถจัดการกับมันได้ง่ายดาย
‘ฉันสามารถเลือกวิธีที่ปลอดภัยกว่าได้’
คราวนี้เขาเลือกเส้นทางที่แตกต่าง
แม้ว่ามันอาจจะเป็นอันตราย แต่มันเป็นวิธีที่จะช่วยให้เขานั้นได้เติบโตเร็วที่สุด
‘จนถึงตอนนี้ฉันสามารถร่ายเวทย์มังกรได้อย่างน้อยหนึ่งเพลงได้’
เมื่อใดก็ตามที่เขาไปถึงขั้นเดิมของเขาได้เขาก็จะสามารถย้อนเวลาได้อีกตามที่ต้องการ
เอียนมีรอยยิ้มพร้อมกับมองไปรอบ ๆ
โชคดีที่ไม่มีคนรับใช้เฝ้าดูอยู่ในเวลานี้
“ ลองทำสิ่งนี้ในขณะที่ไม่มัใครอยู่รอบ ๆ เลยดีกว่า… ”
เอียนยืนขึ้นแล้ววางมือลงบนพื้นโรงยิม
* * * * * * * * wooooosh …
ในพริบตานั้น
ในมือของเขามีอากาศที่เย็นเยือกออกมา
“ Frost Nova ”
เมื่อเขาร่ายเวทย์เสร็จ
* แคะ, แคร็ก, แคร็กกก *!
พลังแห่งความเย็นเยือกเริ่มแข็งกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ในโรงยิม
พื้นของโรงยิม หุ่นจำลองและทุก ๆ อย่างที่อยู่ในระยะเวทย์ของเขานั่นเริ่มเข้าสู่สภาวะเป็นน้ำแข็ง
มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น
‘มันยังไม่พอ’
ใบหน้าของเอียนเต็มไปด้วยความผิดหวัง
แต่เขาก็มาถึงขั้นนี้ได้ภายใน 15 วัน
มันเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก
อย่างไรก็ตามเขายังคงไม่พอใจ
‘ฉันคิดที่จะแช่แข็งทั้งปราสาททั้งเจ้าของไม่ใช่แค่โรงยิมแห่งนี้’
มันอาจทำได้อย่างแน่นอนถ้าเขาได้อยู่ในร่างเดิมของเขา
ความอัจฉริยะของเขาจะทำให้ปราสาททั้งหลังนี้แช่แข็งได้ทั้งหมดโดยไม่ยากเลย
‘ต้องมีบางสิ่งที่สามารถมาช่วยรองรับมานาของฉัน … ‘
ไม่ว่าจะเป็นยาอายุวัฒนะหรืออาร์คติแฟค
เขาต้องการของสนับสนุนบางอย่างเพื่อช่วยเพิ่มเติมทักษะของเขาให้เติบโตได้เร็วขึ้น
‘ยาอายุวัฒนะก็ยังไม่พร้อมใช้งาน’
ยาอายุวัฒนะที่สามารถเพิ่มพลังงานของผู้บริโภคเข้าไปชั่วคราวหรือถาวรได้ และ ‘มานา’ นั้นก็รวมอยู่ในหมวดหมู่ของ ‘พลังงาน’
‘แต่ในตอนนี้ฉันได้รับการสนับสนุนจากหอคอยงาช้าง’
ถ้าเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากหอคอยงาช้างหรือองค์จักรพรรดิมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ยาอายุวัฒนะ
เพราะมันมีค่าเหมือนทองคำ
‘อย่างไรก็ตามสำหรับยาอายุวัฒนะเหล่านี้ .. ‘
ยาอายุวัฒนะที่มีพลังซ่อนเร้นอยู่ ส่วนใหญ่จะถูกครอบครองโดยขุนนางชั้นสูง
แทบจะถือได้ว่าเป็นมรดกตกทอดได้เลย
‘การทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขาสูญเสียศักยภาพของมันไป’
ในช่วงสงครามครั้งแรกหอคอยงาช้างเกลี้ยกล่อมขุนนางให้มอบยาอายุวัฒนะของพวกเขาซึ่งเหล่าขุนนางกำลังใช้อย่างสิ้นเปลืองเพื่อที่จะเพิ่มพลังของจอมเวทย์ มันถูกส่งมอบให้กับขุนนางทุกคนในอาณาจักรโดยไม่มีข้อยกเว้น
‘และฉันก็เป็นคนรับผิดชอบ’
เขาอ่านรายการของยาอายุวัฒนะหลายครั้งมาก
ขอบคุณที่เอียนยังจำรายการพวกนั้นได้
ประเภทของพลังของยาอายุวัฒนะ รูปลักษณ์ของมันและบ้านที่ครอบครองมันอยู่
‘โมเกรียนก็ครอบครอง…. แหวนโมเกียน?’
มันเป็นวงแหวนเวทย์ระดับต่ำที่เรียกว่า ‘แหวนโมเกรียน’
ฉันจำได้ว่ามันเป็นแหวนซึ่งจะเป็นตัวเร่งหัวใจมานา
‘ในอดีตนั้นมันไร้ประโยชน์มากสำหรับฉัน’
ในอดีตชีวิตของเขา เอียนเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดในเรื่องของพลังมานาที่เขานั้นมีมากเหลือเฟือ
ชื่อเล่นของเขาชื่อว่า ‘ครึ่งมังกร’ เป็นเพราะจำนวนมานาของเขาที่สามารถดึงออกมาใช้ได้จำนวนมาก
‘อย่างไรก็ตามมันมีความแตกต่างสำหรับฉันในตอนนี้’
เขาต้องการไอเทมสนับสนุนใด ๆ ก็ได้ที่จะช่วยเพิ่มมานาของเขา
มันโชคดีที่ตอนนี้เขาอยู่ในปราสาทโมเกรียน
‘ปัญหาคือทำอย่างไรจึงจะได้มันมา’
เขารู้ว่ามันเป็นมรดกตกทอดภายในบ้านของพวกเขา ซึ่งมันไม่มีทางที่พวกเขาจะให้มันกับเขาและพวกเขาก็จะไม่ขายมันอย่างแน่นอน
‘อืม …’
เขาไม่สามารถคิดหาแผนการที่เหมาะสมได้ในตอนนี้
เขาตัดสินใจที่จะใช้เวลาให้มากขึ้นในการคิดแผนในครั้งนี้
“ คุณจอมเวทย์! คุณจอมเวทย์! ”
ทันใดนั้นก็มีใครบางคนรีบเข้ามาที่โรงยิม
มันเป็นพ่อบ้านของโมเกรียนที่มีหนวดสีขาว
เขาเรียกเอียนอย่างเร่งด่วน
‘ระวังตัวเอาไว้ก่อนดีกว่า’
ในตอนนี้พื้นของโรงยิมนั้นเต็มไปด้วยน้ำแข็งทุกอย่างถูกแช่แข็ง
ซึ่งผลของเวทมนตร์ Frost Nova ยังคงทำงานอยู่
“ อั๊ก! ”
อย่างที่เขาคาดไว้
หากเขาล้มลงกับพื้น เขาจะต้องเจ็บก้นแน่นอน ฮ่า ๆ
“ Feather Fall ”
เอียนมองไปที่พ่อบ้านอย่างรวดเร็วด้วยเวทย์มนต์ Feather Fall
ร่างกายของพ่อบ้านล้มลงมาอย่างช้า ๆ เหมือนขนนกกำลังร่วงลงพื้น
“ ทำไมคุณเรียกหาฉัน ”
“ …… อ๊า! คุณจอมเวทย์! โปรดช่วยพวกเราด้วย! ”
หลังจากคำถามของเอียน พ่อบ้านก็เร่งเขาอีกครั้ง
หากไม่มีคำอธิบายแล้วจะให้เขาช่วยอะไร
“ เจ้าของบ้านของเราหายตัวไปในภูเขา! ”
“ คุณหมายถึงอะไร ”
“ คือเขาเข้าไปที่ภูเขาโมเกรียนเพื่อตามล่า…”
บทสรุปของเรื่องราวที่พ่อบ้านคนนี้พูดถึงคือ เจ้าของบ้านจัดงานการล่าเป็นระยะ ๆ และไม่ใช่สัตว์ธรรมดา แต่เป็น ‘สัตว์ประหลาด’ ของโมเกรียน
อย่างไรก็ตามเจ้าของบ้านไม่ได้กลับมาจากภูเขาเป็นเวลานานแล้ว
‘ภูเขาโมเกรียน …’
มันก็น่าจะมีแค่ก๊อบลินอยู่สองถึงสามตัวเท่านั้นนี่
อัศวินและทหารที่ไปคุ้มกันพวกเขาแพ้ให้ก๊อบลิน?
สัตว์ประหลาดที่มีร่างกายขนาดเล็กไม่แข็งแรงอ่อนแอและไร้สมอง
นอกจากนี้พวกมันยังเป็นพวกขี้ขลาดที่ไม่เคยกล้าที่จะโจมตีมนุษย์ก่อน
นอกจากนี้พวกมันจะไม่จับกลุ่มกันมากนัก
มากที่สุดที่มันจะจับกลุ่มกันก็ประมาณ 15 ตัว
นอกจากนี้เจ้าของบ้านก็เคยไปล่าแล้วเป็นระยะ ๆ และไม่เคยมีเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย
“ จากรายงานของหน่วยลาดตระเวน พบว่ามีศพและ…เลือดมนุษย์กระจายไปทั่ว ”
พวกเขาแพ้ก๊อบลินจริง ๆ หรือ
‘มันไม่ใช่เวลาที่เขาจะต้องมาตาย’
มาร์คัส โมเกรียน เจ้าของบ้านผู้ยิ่งใหญ่ควรจะตายในภายหลังไม่ใช่เวลานี้
‘ไม่ใช่ลูกชายของเขา’
เอียนยังจำเรื่องราวของ ลาบิ โมเกรียน ได้อย่างชัดเจน
เด็กโง่ที่วิ่งหนีเมื่อสงครามได้เริ่มตึ้นขึ้น
เธอละทิ้งเมืองโมเกรียนที่เป็นบ้านเกิดของเธอทันที
นั่นคือสิ่งที่เธอเป็นเท่าที่เอียนจำได้
‘การล่าเป็นระยะ ๆ หมายถึง….’
เจ้าของบ้านและลูกชายของเขาจะต้องล่าแบบนี้ในอดีตเช่นกัน
มันไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการย้อนเวลาของเอียนนะ
‘เขาอาจกลับมามีชีวิตใหม่’
แต่อนาคตก็จะน่าไม่เปลี่ยนแปลงได้ด้วยตัวเอง
ดูเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องกังวล
“ คุณมาร์โกไม่อยู่ที่นี่เหรอ? ”
มันเป็นชื่อของจอมเวทย์คนหนึ่ง
เขาต้องเข้าไปช่วยพวกเขาเหมือนอย่างในอดีตก่อนที่เขาจะย้อนเวลามาเพื่อไม่ให้อนาคตเปลี่ยนไปมาก
เอียนจึงปล่อยเขาไว้เพื่อให้ไปช่วยเจ้าของบ้านเอง
“ โชคไม่ดีที่จอมเวทย์ท่านนั้นได้ออกไปจากที่นี่เพื่อทำภารกิจอื่น… ”
เอียนไม่ได้คาดหวังว่าเรื่องจะมาเป็นแบบนี้
‘นี่จะต้องเป็นผลข้างเคียงของการย้อนเวลากลับมา’
มันหายากจริง ๆ ที่จอมเวทย์จะออกไปทำภารกิจต่างเมือง
เอียนรู้ดีเพราะว่าเขาก็เคยไปทำภารกิจที่เมืองอื่นมาก่อนเหมือนกัน
ภารกิจจะต้องเป็นสิ่งที่มีแต่เขาเท่านั้นที่ทำได้ถึงได้ไปต่างเมือง
ตัวอย่างเช่นการส่งรายงานอย่างลับ ๆ ไปยังหอคอยต่าง ๆ
‘เรื่องนี้จะต้องกลายเป็นเรื่องที่อันตรายแล้วล่ะ’
ความตายของเขาผู้จะเปลี่ยนแปลงอนาคตไป
เอียนต้องหยุดเรื่องนี้ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดีที่สุด
การรู้อนาคต
มันเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่เอียนมีใช่ไหม?
อาจจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับความสามารถที่วิเศษของเขา
หรืออาจจะแข็งแกร่งกว่า
“ นั่นคือเหตุผลที่ฉันมาหาคุณอย่างเร่งด่วนและไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ฉันอยากขอให้ท่านจอมเวทย์ช่วยในการตามหาเขา… .. ด้วยวิธีการทั่วไปของเรา เราไม่สามารถหาเขาได้พบ ”
จอมเวทย์เป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับสำหรับคนปกติ
นอกจากนี้ยังมีคำพูดที่เอียนใช้เวทมนตร์ได้แพร่กระจายออกไป
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะเชื่อว่าจอมเวทย์จะมีทางออกให้สำหรับพวกเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาไม่สามารถหาทางออกในสถานการณ์นี้ได้
” เขาอยู่ที่ไหน? “
” ฮะ? “
“ ฉันจะออกไปตามหาเขา ”
เอียนพูดด้วยความมั่นใจ
ไม่เพียงแค่เจ้าของบ้านที่หายตัวไป แต่ลูกชายของเขาก็หายไปด้วย
เขารับประกันกับพ่อบ้านว่าเขาจะพบเจ้าของบ้านที่ยังมีชีวิตอยู่
เพื่อให้เขาสามารถป้องกันอนาคตจากการเปลี่ยนแปลงหากคนพวกนั้นตาย
End…