ตอนที่ 9 แขกผู้มาเยือน (5)
ถ้าเอียนไม่ได้บอกว่ามันเป็นหมาป่า ผู้คนคงคิดว่ามันเป็นลูกสุนัขอย่างแน่นอน
ลูกสุนัขที่มีดวงตาเฉียบแหลม
‘ในชีวิตในอดีตของฉัน ฉันสามารถเรียกสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ได้มากนัก’
แต่สำหรับพลังมานาในปัจจุบันของเขามันก็ยังไม่เพียงพอ
ถ้าเขาใช้มานาโดยไม่ยั้งคิดเขาอาจจะสูญเสียความสามารถของมานาไปทั้งหมด
‘นั่นเป็นเหตุผลที่เวทมนตร์ของเขาในตอนนี้เรียกออกมาได้แค่ลูกหมาป่า’
ร้อยละ 90 ของจอมเวทย์ทั้งหมดยังคงอยู่ในขั้นที่ 1
“ ว้าว…ฉันไม่เคยเห็นเวทมนตร์แบบนี้มาก่อน ”
” แล้วคุณล่ะ คุณเคยเห็นมันมาจากในเมืองหลวง? ”
“ แน่นอนฉันเคยเห็นมันมาก่อนแล้ว ”
“ อู้ววว ”
ทหารเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับเวทมนตร์ที่อยู่ตรงหน้า
พวกเขาต้องประทับใจในเวทมนตร์ที่ตนนั้นได้เห็นต่อหน้าต่อตา
” มานี่สิ “
เอียนเรียกวิญญาณหมาป่าไปยังที่ ๆ มีเลือดอยู่
มันวิ่งไปหาเจ้าของเหมือนลูกสุนัข
“ กลิ่นเหล่านี้ แกสามารถค้นหาว่าพวกมันไปยังที่ไหนได้ไหม? ”
วิญญาณหมาป่าดมกลิ่นไปทั่วบริเวณนั่น
มันพยายามค้นหาคนที่หายไปด้วยกลิ่นเลือด
” ท่านจอมเวทย์ “
” พูดมา “
“ ฉันขอโทษที่รบกวนคุณ แต่เราได้เคยนำตัวสุนัขล่าเนื้อมาตามหาแล้ว แต่พวกมันก็หาทางไปไม่เจอ ก็อบลินต้องทิ้งกลิ่นปลอมไว้เพื่อทำให้สับสนเส้นทางอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะตามหาพวกเขาด้วยกลิ่น ”
อัศวินบอกเอียนถึงสิ่งที่เขาทำมาแล้วในครั้งแรกที่ออกตามหา
สิ่งที่เขาพูดนั้นมันก็มีเหตุผล
แต่อย่างไรก็ตาม
“ มีคนพูดว่าสุนัขมีการรับกลิ่นที่ดีกว่ามนุษย์หลายเท่านักใช่ไหม? ”
เอียนถามคำถามกับอัศวินแทนที่จะตอบคำถาม
“ นั่นคือสิ่งที่ฉันเคยได้ยิน ”
“ วิญญาณหมาป่ามีการรับกลิ่นที่ดีกว่าสุนัขนับร้อยเท่า ”
“ จริงเหรอ? ”
“ ฉันอ่านจากหนังสือ ”
“…… ? “
“ ‘ทุกอย่างเกี่ยวกับเวทมนตร์’ มันเป็นหนังสือที่มีชื่อเสียงคุณรู้หรือไม่? อาร์ชเมจ ลูค เป็นผู้เขียนไว้ ”
“ ฉันรู้แล้ว แต่… ”
เขาพูดอย่างมั่นใจ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นความมั่นใจที่ได้จากหนังสือเหรอ
อัศวินมองดูวิญญาณหมาป่า
‘จริง ๆ เหรอ? เจ้านั่นจะช่วยได้จริงงั้นเหรอ?’
นอกจากนี้เขายังบอกว่าเขาได้อ่านมันมาจากหนังสือ
อัศวินรู้ดีว่าหนังสือเล่มนั้นมีชื่อเสียงอย่างมาก
แม้แต่เหล่าอัศวินเองก็ยังต้องไปอ่านมัน
หนังสือที่อธิบายถึงเวทมนตร์ฟลากหลายชนิด
มันถูกเขียนโดยจอมเวทย์ในตำนาน
แต่นี่มัน….
เอียนน่าเชื่อถือได้จริง ๆ ใช่ไหม
เมื่อความสงสัยของอัศวินเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น
* คำราม .. โบร่วววว! *
วิญญาณหมาป่าหยุดดมกลิ่นและเริ่มส่งเสียงคำราม
มันฟังดูเหมือนอยากให้พวกเขานั่นตามมันไป
มันเจอแล้ว
“ ไปกันเถอะ ”
ทุกคนรวมถึงเอียนก็เริ่มเคลื่อนไหว
วิญญาณหมาป่าวิ่งนำทางไป
เมื่อเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ มันก็พบกับอีกหนึ่งเส้นทาง
มันจะต้องมีความคล้ายคลึงกันกับเส้นทางในโลกของชีวิตในอดีตของเขา
จอมเวทย์มาร์โคต้องเลือกแบบเดียวกันกับเขาแน่ ๆ
*สูดอากาศ! สูดอากาศ!*
มันวิ่งผ่านป่าไปอย่างไม่ลดละ
สัตว์ป่าเห็นร่างของมันแล้วต่างก็วิ่งหนีไปในป่า
แม้ว่ามันจะเป็นเหมือนลูกสุนัข แต่ก็ยังเป็นวิญญาณของสัตว์ร้าย
มันดูเหมือนสัตว์ร้ายที่สามารถฆ่าสัตว์ป่าพวกนั้นได้ด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว
ลมหายใจของทหารเริ่มหยาบกร้าน
เพราะพวกเขาวิ่งมาไกลมากและลึกเข้าไปในป่า
หากยังคืนวิ่งไปไกลกว่านี้พวกเขาอาจหอบจนตายได้
พวกเขาเริ่มกังวลว่าจะกลับไปถูกทางได้อย่างไร
* * * * * * * * กรรรรร
ทันใดนั้นวิญญาณหมาป่าก็หยุด
ไม่เพียงแค่หยุดเท่านั้นมันยังส่งสัญญาณเตือนถึงอะไรบางอย่าง
” หยุดก่อน “
ตามคำสั่งของเอียน
” หยุด! “
อัศวินและทหารหยุดในทันทีที่ได้ยินคำสั่ง
* เสียงหอบหลังจากวิ่งมานาน *
เอียนก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง
“ หุบเขาเหรอ? ”
ด้านหน้าของพวกเขามีหุบเขาขนาดใหญ่
มันลึกมากจนไม่สามารถรับประกันว่าถ้าตกลงไปแล้วจะปลอดภัย
มีถ้ำอยู่ตรงโค้งของหุบเขา
มันเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับทำรัง
“ ดู…ดูนั่นสิ! ”
ทหารที่กำลังมองลงไปที่หุบเขาตะโกนทันที
ใบหน้าของทุกคนซีดไปหมด
“ เป็นไปไม่ได้ ”
“ก๊อบลิน … . ”
ที่ด้านล่างสุดของหุบเขา
มีภาพที่น่าตกใจรออยู่
“ ฉันไม่สามารถนับได้ว่ามันมีทั้งหมดกี่ตัว … ”
พวกก๊อบลินมารวมตัวกันที่นั่นอย่างมหาศาล
เมื่อลองมองไปและนับคราวก็น่าจะมีก๊อบลินมากกว่าห้าร้อยตัว
ในขณะนั้น
* Doooom – Doooom – Doooom – Doooom – Doooom *
มีเสียงกลองที่หนักหน่วงดังขึ้นมาจากนั้นก๊อบลินก็เริ่มเคลื่อนไหว
พวกมันจับกลุ่มกันเป็นวงกลมอย่างรวดเร็วแล้วเว้นช่องว่างตรงกลาง
มันเหมือนกับทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พวกมันเคลื่อนไหวกันอย่างพร้อมเพียง
“ นั่นอะไรน่ะ? ”
เมื่อถึงจุดที่ทุกคนกำลังมองไปที่สัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักกำลังเคลื่อนที่ผ่านไปทางที่พวกก็อบลินสร้างขึ้นมา
‘เทวดาตัวเล็ก?’
คราวนี้เอียนก็ประหลาดใจเช่นกัน
มันมีขนาดใหญ่เท่ามนุษย์และมีผิวสีชมพูอ่อน
มันต้องเป็นฮอบก็อบลินที่เอียนคิดไว้เมื่อที่จะเข้ามาแน่ ๆ
‘แต่มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร’
ฮอบก็อบลินจะอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าใหญ่ทางใต้เท่านั้นนี่
นั่นคือสิ่งที่เอียนได้เรียนรู้มาก่อนหน้านี้
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขานั้นจะคิดผิด
‘ดังนั้นมันจึงทำหน้าที่เป็นผู้นำของพวกก็อบลิน’
สิ่งที่เขาสามารถมั่นใจได้ก็คือมันปกครองฝูงก็อบลินในฐานะราชา
ราชาแห่งก็อบลินทุกตัวบนภูเขาโมเกรียน
* Dooom – Dooom – Dooom *
อีกครั้งที่เสียงกลองเริ่มดัง
ก็อบลินปรากฏออกมาจากถ้ำที่ตรงโค้งของหุบเขา
พวกมันออกมาจากถ้ำพร้อมแบกอะไรบางอย่างออกมาด้วย
“ เจ้าของบ้าน … ? ”
อัศวินและทหารกล่าวขณะยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว
มันเป็นเจ้าของบ้านที่ถูกแบกออกมาโดยพวกก็อบลิน
“ เขายังมีชีวิตอยู่! ”
“ หัวหน้าของเรา….ด้วย! ”
ไม่เพียง แค่เจ้าของบ้านเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่
ลาบิ โมเกรียน ลูกชายของเขาก็ยังอยู่
เจมส์, หัวหน้าอัศวินโมเกรียน
นอกจากนี้ยังมีอัศวินและทหารคนอื่น ๆ ก็ยังมีชีวิตเหมือนกัน
พวกเขาทั้งหมดถูกล่ามโซ่ไว้และถูกลากออกไปที่กลางวงลอมของก็อบลิน
* เคี๊ยก! เคี๊ยก! เคี๊ยก! เคี๊ยก! *
เสียงโห่ร้องของพวกก็อบลินสนั่นหุบเขา
พวกมันเริ่มขว้างของโสโครกไปที่มนุษย์
นี่เป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความบ้าคลั่ง
การดำเนินพิธีการสำหรับมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้น
* * * * * * * * ซุรุรุง
อัศวินและทหารดึงดาบของเขาออกมา
คนอื่นก็ทำแบบเดียวกัน
“ เราต้องปกป้องเจ้าของบ้านของเรา! ”
พวกเขาเริ่มเข้าไปที่หน้าผาเพื่อปีนลงไปในหุบเขา
“ พวกมันทุกตัวจะต้องตาย “
เอียนบอกพวกเขา
มีก็อบลินมากเกินไป
พวกเขาจะไม่มีทางชนะการต่อสู้ครั้งนี้ได้
“ แต่เราไม่สามารถนั่งดูอยู่ที่นี่โดยที่ไม่ทำอะไรเลยได้! ”
แน่นอนพวกเขาจะไม่ฟัง
ทุกคนสูญเสียสติไปหลังจากเห็นเจ้าของบ้าน
เอียนคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้น
“ แค่อยู่ที่นี่แล้วดูไปก่อน ”
” อะไร….! “
นั่นคือคำพูดสุดท้ายของเอียน
เขาโดดลงไปที่หุบเขาโดยไม่ลังเล
“ ทะ..ท่านจอมเวทย์! ”
“ เฟียร์เทอร์ฟอล ”
เหล่าอัศวินตะโกนเพราะตกใจ
เพราะเอียนนั้นไม่ได้ปีนกำแพงด้านข้างลงไป
แต่เขาเพิ่งจะกระโดดลงไปในหุบเขา
มันหมายความว่าเขาจะต้องตกลงไปตาย
“ … ฮะ? “
แต่เอียนก็ไม่เป็นอะไรเลย
แต่เขากลับร่วงลงไปอย่างช้า ๆ
มันเป็นผลของเวทย์มนตร์ที่เขาใช้ไปก่อนที่จะกระโดดลงไปในหุบเขา
‘ฉันจะลงไปในจุดที่ที่เหมาะสม’
ที่ใจกลางของก็อบลิน
ดังนั้นเขาจะลงไปในจุดที่ใกล้กับเจ้าของบ้าน อัศวินและทหารคนอื่น ๆ
เขาอาจจะสามารถกำำจัดก็อบลินให้สำเร็จได้ในครั้งเดียว
ด้วยการใช้พลังสูงสุดของแหวนมันน่าจะมีโอกาสที่เป็นไปได้
และที่สำคัญที่สุดพวกมันทั้งหมดรวมตัวกันในตำแหน่งที่เหมาะพอดี
‘ฉันต้องดึงพลังเต็มที่จากส่วนลึกของมานาพูลของฉัน’
เอียนเริ่มนึกภาพมานาของเขา
มานาเริ่มไหลไปที่มือขวาของเขาและเขาก็เริ่มปลดปล่อยพลังงานแช่แข็ง
เมื่อมันเย็นตัวลงมันก่อตัวเป็นน้ำแข็งในอากาศ
“ เคี๊ยก! เคี๊ยก! เคี๊ยก! ”
เมื่อเขาเข้าใกล้เสียงตะโกนดังขึ้น
เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของก๊อบลิน
ไม่เป็นที่พอใจที่ได้ยินอย่างนั้นเลย
‘อีกหน่อย’
เอียนบิดร่างของเขาเพื่อตั้งท่าให้ได้พลังที่รุนแรงขึ้น
เพื่อที่เขาจะได้ลงไปที่จุดศูนย์กลางของพื้นที่ที่เขาจะโจมตี
‘อีกหน่อย’
เขาสามารถมองเห็นเจ้าของบ้านและคนอื่น ๆ
ยังมีระยะห่างระหว่างเขากับผู้คน
‘อีกหน่อย’
ตอนนี้เขาเกือบจะมาถึงพวกเขาแล้ว
เขาทุมมานาไปที่ขา
เพื่อที่จะสามารถรับมือกับแรงกระแทกในการลงถึงพื้นได้
“ เคี๊ยกกก? ”
ก็อบลินเริ่มมองเขาทีละตัว
ฮอบก็อบลินจับขวานของมัน
” ยกเลิกเวทย์ “
ร่างของเอียนเริ่มร่วงหล่นลงอย่างรวดเร็วเพราะเขายกเลิกเวทมนต์ที่ร่ายเอาไว้ระหว่างร่วงลงมา
แต่ทุกอย่างนั้นสมบูรณ์แบบแล้ว
ระยะห่างระหว่างเขากับพื้นไม่ห่างกันมากนักและมานาก็รุนแรงขึ้น
สองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องการ
* ชน! *
เจ้าของบ้านที่สูญเสียความหวังไปแล้วพร้อมกับลูกชายคนเล็กของเขาและทหารคนอื่น ๆ
เอียนก็ลงไปอยู่ต่อหน้าพวกเขา
” ฟรอสต์ “
หลังจากลงไปที่พื้นเอียนก็วางมือขวาลงบนพื้น
“ โนวา ”
มันคือเวทย์แช่แข็งของเอียนที่ได้ใช้แช่แข็งโรงยิมมาก่อนหน้านี้
ระยะรัศมีของมันมากกว่าระดับเดิมอย่างแน่นอน
ฟรอสต์โนวา
* แคระ แคร็ก แคร็กกก !!! *
พลังแช่แข็งที่ปล่อยออกมาจากมือของเอียนแช่พวกก็อบลินทันที
มันมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาร่ายเวทย์มนตร์ที่โรงยิม
มันเป็นผลมาจากการใช้มานาทุกส่วนภายในตัวของเอียน
“ คิ คิค เคี๊ยกกก! ”
“ เคี๊ยกกกกกกกกกกก! ”
หลังจากนั้นหุบเขาก็เป็นเหมือนนรกเยือกแข็งซึ่งเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของก็อบลินเท่านั้น
” นั่นคือ…. “
พลังของจอมเวทย์ที่ปกติจะจินตนาการผ่านการดูหนังสือเท่านั้น
ฮัศวินและทหารที่กำลังมองเขาจากข้างบนได้เห็นพลังที่แท้จริงของเอียนอยู่บนหุบเขา
พวกเขาพูดไม่ออกและไม่กระพริบตาด้วยความประหลาดใจ
อาวุธในมือของพวกเขาดูไร้ประโยชน์ไปในทันที
” …จอมเวทย์…? “
End…