เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1104 สวรรค์สีเหลืองเปิดอีกครั้ง
แปลโดย iPAT
สิ่งที่นิกายเงาทิ้งไว้เบื้องหลังไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
ด้านหน้าไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงมีวิญญาณอมตะหลายสิบดวง
แต่เมื่อมองไปที่วิญญาณอมตะเหล่านี้ ความยินดีบนใบหน้าของพวกเขากลับจางหายไป
“ข้ามีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงแต่ไม่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งอยู่ที่นี่…” ไห่ลั่วหลันส่ายศีรษะและกล่าวด้วยความเสียใจ
“เห้อ…ฟางหยวน เจ้ารู้ว่าข้าบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา หากข้าใช้วิญญาณอมตะเหล่านี้…” ไท่เป่ยหยุนเฉิงอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับไห่ลั่วหลัน
วิญญาณอมตะส่วนใหญ่เป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ
ซื่อหนิวเงียบ เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี เขามีวิญญาณอมตะสองดวงและพวกมันยังอยู่กับเขา
อิงอู๋เซี่ยพยักหน้า รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายังไม่จางหายไป
เขารู้ว่านี่คือวิญญาณอมตะที่ถูกทำลายระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน หลายวันที่ผ่านมาคฤหาสน์วิญญาณอมตะสระแห่งความโศกเศร้าถูกกระตุ้นใช้งานตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและหลอมรวมวิญญาณอมตะเหล่านั้นขึ้นมาอีกครั้ง
การหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการเวลาส่วนใหญ่ล้มเหลว
วิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งไม่มีเลย
“ไม่มีปัญหา พวกเจ้ากังวลว่าร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจะขัดแย้งกัน แต่ข้ามีวิธีพิเศษที่สามารถช่วยให้พวกเจ้าบ่มเพาะบนเส้นทางสายอื่นได้โดยไม่เกิดความขัดแย้งกับเส้นทางสายหลักของพวกเจ้า”
“มีวิธีเช่นนั้นงั้นหรือ?” ดวงตาของไท่เป่ยหยุนเฉิงเบิกกว้างขึ้น
การแสดงออกของซื่อหนิวเปลี่ยนไปเช่นกัน เขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
ไห่ลั่วหลันหรี่ตามองและคิดว่าอิงอู๋เซี่ยพยายามวางแผนเพิ่มการควบคุมพวกนาง
นางกล่าว “มีข้อดีย่อมมีข้อเสียถูกต้องหรือไม่?”
อิงอู๋เซี่ยยิ้ม “ข้ามั่นใจว่าไม่มีข้อเสียใดๆ”
เห็นการแสดงออของอิงอู๋เซี่ย ช่วยไม่ได้ที่ไห่ลั่วหลันจะคิดถึงฟางหยวน
นอกจากวิญญาณทารกอมตะยังมีวิธีที่สามารถบ่มเพาะบนเส้นทางสองสายโดยไม่เกิดความขัดแย้ง?
นิกายเงาสร้างวิญญาณทารกอมตะ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังประตูแห่งชีวิตและความตาย เทพปีศาจจิตวิญญาณกลืนกินดวงวิญญาณของผู้อมตะจำนวนนับไม่ถ้วนทำให้เขาได้รับประสบการณ์การบ่มเพาะมากมาย
เขาใช้เวลาเตรียมตัวนับแสนปี วิธีการบ่มเพาะบนเส้นทางสองสายเป็นงานวิจัยชิ้นแรกๆของพวกเขา
แต่กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณและนิกายเงาจะวางแผนมาเป็นอย่างดี สุดท้ายวิญญาณทารกอมตะกลับถูกฉกชิงไปโดยฟางหยวน
วิญญาณทารกอมตะเป็นวิญญาณที่ใช้ได้ครั้งเดียว ฟางหยวนใช้มันไปแล้วขณะที่ต้นทุนการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะเป็นครั้งที่สองสูงเกินไป กระทั่งอิงอู๋เซี่ยก็ไม่มีความมั่นใจในเรื่องนี้
‘เว้นเพียงข้าจะสามารถจับตัวฟางหยวนและใช้ร่างกายของเขาเป็นวัสดุในการหลอมรวม!’
‘อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะจัดการเขา’
‘ข้าต้องเพิ่มความแข็งแกร่งและรวบรวมกองกำลังที่เหลืออยู่ของนิกายเงาเพื่อช่วยร่างหลักเป็นอันดับแรก!’
อิงอู๋เซี่ยลอบถอนหายใจ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาต่อสู้กับฟางหยวน
…..
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
ตั้งแต่ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สองของฟางหยวน ตอนนี้ผ่านมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว
สวรรค์สีเหลืองยังไม่เปิด
แผนการเกี่ยวกับมิติช่องว่างของฟางหยวนได้รับผลกระทบอย่างมาก เขาทำได้เพียงฝึกฝนและอนุมานถึงความเป็นไปได้ต่างๆในภาคเหนือเท่านั้น
ภัยพิบัติพิภพจะเกิดขึ้นทุกสองเดือน ตอนนี้เวลาผ่านไปมากกว่าหนึ่งเดือน นั่นหมายความว่าฟางหยวนกำลังจะพบกับภัยพิบัติพิภพครั้งที่สามเร็วๆนี้!
สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนกังวลก็คือภัยพิบัติพิภพครั้งที่สามจะอันตรายกว่าครั้งที่สอง นอกจากนั้นเขายังไม่มีความก้าวหน้าใดๆ
‘หากข้าได้รับมรดกของไห่ฟาน ข้าจะสามารถใช้ประโยชน์จากวิญญาณอมตะบางดวงเพื่อชะลอเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ด้วยวิธีนี้ข้าจะมีความได้เปรียบอย่างมากในอนาคต!’
ฟางหยวนได้รับข้อมูลมากมายจากไห่เจิ้ง
มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานน่าประทับใจมาก ไห่ฟานเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา หากเขาได้รับมรดกนี้ นอกจากเขาจะได้รับวิญญาณอมตะ เขายังสามารถยึดครองถ้ำสวรรค์!
มรดกที่แท้จริงของผู้อมตะจำนวนมากมีเพียงเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะและท่าไม้ตายอมตะของพวกเขา ส่วนใหญ่ไม่มีการส่งมอบวิญญาณอมตะ เนื่องจากการให้อาหารวิญญาณเป็นเรื่องยากลำบาก
แต่มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานแตกต่างออกไป
วิญญาณอมตะของไห่ฟานยังอยู่ในถ้ำสวรรค์ของเขา
โดยปกติมิติช่องว่างของผู้อมตะจะสามารถผลิตอาหารให้กับวิญญาณอมตะของพวกเขาเอง
ไห่ฟานเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงของภาคเหนือกระทั่งถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าถ้ำสวรรค์ของเขาต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
หากฟางหยวนได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน ความสามารถของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อเขาชะลอเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ สถานการณ์อันตรายของเขาจะยุติลง
หลายวันที่ผ่านมานิกายหลางหยาได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับความวุ่นวายในภาคเหนือ
ในความเป็นจริงความสามารถในการรวบรวมข้อมูลของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนยังด้อยกว่าเทพธิดาหลี่ซานอยู่มาก
เหตุผลที่พวกเขาได้รับข้อมูลมากมายเป็นเพราะความวุ่นวายของภาคเหนือที่รุนแรงเกินไป ความขัดแย้งของพวกเขาสามารถเก็บซ่อนจากมนุษย์ธรรมดา แต่สำหรับผู้อมตะ มันไม่สามารถปิดบัง
แม้ฟางหยวนจะอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแต่เขายังเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เผ่าไห่ถูกลงโทษหนักเกินไป พวกเขากำลังเสี่ยงกับการล่มสลาย
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะ ฝ่ายปีศาจ หรือผู้บ่มเพาะสันโดษ พวกเขาไม่ต่างจากหมาป่าโหยที่พุ่งเข้าขย้ำเหยื่อ
หากมองจากแผนที่ของภาคเหนือ เผ่าไห่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาปกครองพื้นที่ขนาดใหญ่และควบคุมแหล่งทรัพยากรมากมาย
ทรัพยากรเหล่านี้ดึงดูดความโลภของผู้คนทั้งหมด
แรกเริ่มพวกเขายังสามารถยับยั้งชั่งใจ แต่ด้วยผลประโยชน์อันยิ่งใหญ มันจึงดึงดูดปีศาจอมตะเข้าสู่การต่อสู้
ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายธรรมะและฝ่ายปีศาจทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เหตุการณ์หนึ่งที่น่าสนใจคือการต่อสู้ระหว่างกวงเฉินจ้าวกับสองผู้พเนจร เนื่องจากฝ่ายปีศาจมีจำนวนมากกว่า พวกเขาจึงสามารถยึดครองทุ่งรวงทอง
หลังจากนั้นปีศาจอมตะหลายคนเริ่มรวมกลุ่มกันเพื่อแย่งชิงทรัพยากรของเผ่าไห่
ฝ่ายธรรมะถูกกีดขวาง
ป่าน้ำพุหลั่งไหลเผชิญหน้ากับการทำลายล้างภายใต้สถานการณ์นี้ ความพยายามตลอดหลายร้อยปีของเผ่าไห่กลายเป็นความว่างเปล่า
ฝ่ายธรรมะตื่นตัวมากขึ้นและเริ่มประสานงานกัน
โลกของผู้อมตะถูกควบคุมโดยฝ่ายธรรมะมาตลอด
โดยเฉพาะฝ่ายธรรมะของภาคเหนือ เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดล้วนมีต้นกำเนิดเดียวกัน นั่นคือตระกูลฮวงจิน
ฝ่ายปีศาจตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่เมื่อปีศาจอมตะระดับเจ็ดเช่นบัณฑิตสันโดษและไป่ซุ้ยฮันปรากฏตัว ความวุ่นวายระลอกใหม่ก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายธรรมะถูกผลักดันให้ล่าถอย
เดิมทีผู้อมตะเผ่าไห่ยังต่อต้าน แต่หลังจากประสบกับความสูญเสียมากมาย พวกเขาต้องซ่อนตัวอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ของตนและไม่สามารถออกมา
สิ่งนี้ทำให้ฝ่ายปีศาจรู้สึกลำพองใจ
เช่นเดียวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ปีศาจอมตะเซี่ยหูเอาชนะเหยากวงกับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูและถูกยกย่องว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของภาคเหนือ
สิ่งสำคัญที่สุดคือการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง หลังจาการประมูลของฉินไป่เฉิง ผู้อมตะจำนวนมากได้รับวิญญาณอมตะและมีพลังการต่อสู้เพิ่มสูงขึ้น
สิ่งนี้ทำให้ฝ่ายปีศาจและผู้บ่มเพาะสันโดษสามารถต่อสู้กับฝ่ายธรรมะได้ในเวลานี้
‘ข้าทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง หลังจากไม่นานผลกระทบของมันแผ่ขยายไปในวงกว้าง ภาคเหนือในปัจจุบันแตกต่างจากชีวิตก่อนหน้าของข้าเป็นอย่างมาก!’
ฟางหยวนถอนหายใจ
สถานการณ์ในภาคเหนือเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเพราะเขา
ภูมิภาคอื่นยังไม่ได้ผลกระทบมากนัก แต่ในภาคเหนือ ฟางหยวนสูญเสียความได้เปรียบของการกำเนิดใหม่ไปแล้ว
แน่นอนว่าหลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับเจตจำนงสวรรค์ เขากลายเป็นระแวงถึงสิ่งที่เรียกว่าข้อได้เปรียบของการกำเนิดใหม่
ฟางหยวนรอคอยอยู่อย่างอดทน
ทรัพยากรของเผ่าไห่ดึงดูดความสนใจของเขา แต่เขายังไม่เคลื่อนไหวเพราะสมบัติล้ำค่าที่สุดของเผ่าไห่คือมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน
หลายวันต่อมา
ในที่สุดฟางหยวนก็ได้ยินว่าผู้อมตะของภาคเหนือกำลังจะบุกโจมตีฐานทัพใหญ่ของเผ่าไห่
‘มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานซ่อนอยู่ในฐานทัพใหญ่ของเผ่าไห่ ถึงเวลาแล้ว!’
ฟางหยวนตัดสินใจใช้ค่ายกลวิญญาณขนส่งเดินทางออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาทันที
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสนับสนุนการกระทำของเขา
เนื่องจากนี่เป็นโอกาสดีที่จะตรวจสอบผู้อมตะทั้งหมดของภาคเหนือและเรียนรู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของพวกเขา หากโชคดี นิกายหลางหยาอาจได้รับผลประโยชน์บางอย่าง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่กล้าส่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนของนิกายหลางหยาออกไป แต่ฟางหยวนเป็นมนุษย์และมีความสามารถ เขาเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำสิ่งนี้
เมื่อฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นที่ภาคเหนือ เขาเร่งใช้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดและท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยเพื่อปกปิดตนเองอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันเขายังกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติและท่าไม้ตายอมตะแม่น้ำเลือดเพื่อการเดินทางที่รวดเร็วที่สุด
เขาเคลื่อนไหวเร็วมากและไม่พบปัญหา
ผู้อมตะของภาคเหนือส่วนใหญ่รวมตัวกันอยู่รอบๆฐานทัพใหญ่ของเผ่าไห่ นี่ทำให้ฟางหยวนสามารถเดินทางได้โดยไม่ดึงดูดความสงสัย
เพียงไม่นานเขาก็มองเห็นฐานทัพใหญ่ของเผ่าไห่
‘มรดกที่แท้จริงของไฟ่ฟาน…ข้ามาแล้ว!’ ฟางหยวนคิดกับตนเอง แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือสวรรค์สีเหลืองเปิดแล้วในขณะนี้!
สถานการณ์ของโลกผู้อมตะร้อนแรงขึ้นทันที
การเปิดตัวอีกครั้งของสวรรค์สีเหลืองทำให้ผู้อมตะทุกคนที่รอคอยอยู่อย่างอดทนระเบิดอารมณ์ออกมาและตอบสนองต่อมันอย่างรุนแรง
ฟางหยวนหยุดเคลื่อนไหว เขาลังเลว่าควรเดินหน้าต่อหรือกลับไป
เขาได้รับข้อความที่ถูกทิ้งไว้ในสวรรค์สีเหลือง
มันเป็นข้อความจากชูตู๋!