เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1085 การเดินทางสู่ไท่ชิว
แปลโดย iPAT
สถานที่ที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาชี้ไปคือไท่ชิว!
เป้าหมายที่แท้จริงของฟางหยวนก็คือไท่ชิวเช่นกัน
แต่มันไม่เหมาะสมที่ฟางหยวนจะกล่าวออกมาโดยตรง เขาต้องการให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหาคำตอบที่ถูกต้องด้วยตัวของเขาเอง
ไท่ชิวเป็นหนึ่งในสิบเขตต้องห้ามของภาคเหนือ
มันเป็นป่าขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้อายุอย่างน้อยหลักร้อยปีขึ้นไป
ต้นไม้เหล่านี้ก่อตัวเป็นป่าดึกดำบรรพ์ตามธรรมชาติ
ภายในป่าเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์อสูรเดียวดาย สัตว์อสูรบรรพกาล และสัตว์อสูรแรกกำเนิด
ผู้อมตะส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าไป ผู้อมตะระดับแปดยังต้องระวังตัว ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้พวกเขาทิ้งชีวิตไว้ที่นี่
ตงฟางชางฟานจัดตั้งมรดกของเขาไว้ที่นี่ก่อนหน้านี้ ต่อมาฟางหยวนและคนอื่นๆก็เข้าสู่การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่ไท่ชิว
“สถานที่แห่งนี้…เจ้าน่าจะคุ้นเคยดีถูกต้องหรือไม่?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายิ้ม
ฟางหยวนตอบ “ข้าค่อนข้างคุ้นเคยเพราะเรื่องของตงฟางชางฟาน”
เขามองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและตระหนักว่าฝ่ายหลังรู้เรื่องของเขาเป็นอย่างดี
“ข้าจะจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่ไว้ที่ไท่ชิว เจ้าคิดเห็นอย่างไร?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม
ฟางหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงลังเล “กล่าวตามตรง ข้าไม่แนะนำให้จัดตั้งค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่ไว้ที่ไท่ชิว มันเป็นเพราะข้าคุ้นเคยเล็กน้อยและรู้สึกว่าพวกเราไม่สามารถทำมัน ที่นั่นคือรังของสัตว์ร้าย ความปั่นป่วนเพียงเล็กน้อยก็สามารถดึงดูดคลื่นสัตว์อสูร นอกจากสัตว์อสูรเดียวดายยังมีสัตว์อสูรบรรพกาล มีความเป็นไปได้เช่นกันที่สัตว์อสูรแรกกำเนิดจะปรากฏตัวออกมา”
“ข้าเคยต่อสู้ที่นั่นมาก่อน แต่นั่นเป็นเพราะตงฟางชางฟานสร้างสนามรบโดยใช้ซากศพของค้างคาวมรณะแรกกำเนิด กลิ่นอายของมันสามารถขับไล่สัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาล เพียงเมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้น กลิ่นอายของมันจึงถูกกำจัดออกไป หลังจากซากศพของค้างคาวมรณะแรกกำเนิดถูกทำลาย สัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้ามาทันที พวกเราสามารถเห็นความน่าสะพรึงกลัวของไท่ชิวจากเรื่องนี้”
“หากพวกเราจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่ไว้รอบนอกของไท่ชิว พวกเราจะสามารถเดินทางไปกลับ แต่ผู้อมตะของนิกายหลางหยาอาจถูกค้นพบโดยกองกำลังอื่น หากจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่ไว้ในส่วนลึกของไท่ชิว เมื่อเกิดความผิดพลาดในการต่อสู้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเราจะสามารถล่าถอย”
“เพราะเหตุนี้กองกำลังอื่นจึงไม่กล้าแตะต้องไท่ชิว นิกายของเรายิ่งต้องระวังมากกว่าพวกเขา สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี”
ฟางหยวนวิเคราะห์และพยายามโน้มน้าวจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาลอบหัวเราะอยู่ในใจ
เขายกมือตบไหล่ฟางหยวนและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ฟางหยวน เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง แต่เจ้าสามารถมั่นใจได้ ลองดูว่านี่คือสิ่งใด?”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยานำวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกมา
หลังจากฟางหยวนเห็นมัน เขาแสร้งทำเป็นตกใจมาก “นี่…นี่…นี่คือแผนที่อย่างละเอียดของไท่ชิว! มันคือความช่วยเหลือจากเทพเจ้าในช่วงเวลาสำคัญอย่างแท้จริง! รากฐานของนิกายหลางหยาช่างลึกล้ำนัก หากข้าไม่เห็นสิ่งนี้กับตาของตนเอง ข้าอาจไม่เชื่อ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กดี เจ้าได้เปิดหูเปิดตาหรือยัง?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะอย่างมีความสุขและสะบัดมือออกไป
“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม!” ฟางหยวนยกย่องซ้ำๆ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอธิบายด้วยความตื่นเต้น “ในอดีต เพื่อรวบรวมทรัพยากรอมตะจากไท่ชิว ร่างหลักของข้าเดินทางไปที่นั่นซ้ำแล้วซ้ำอีกกระทั่งได้รับสิ่งนี้”
“เป็นเช่นนั้น” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น
ในความเป็นจริงเขารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว
มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาที่เขาได้รับจากนิกายเงา
แผนที่ไท่ชิวทำให้ฟางหยวนสามารถวางแผนโดยใช้โลกใต้บาดาลเป็นเหยื่อล่อลวงให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคิดถึงสถานที่แห่งนี้
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาชี้นิ้วออกไป “แผนที่ฉบับนี้ไม่เพียงบันทึกลักษณะภูมิประเทศทั้งหมดของไท่ชิว มันยังระบุตำแหน่งที่ตั้งของรังสัตว์อสูรต่างๆ แต่แผนที่ฉบับนี้ถูกสร้างขึ้นมานานแล้ว อาจมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นในไท่ชิว”
“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวถูกต้องแล้ว ข้ากังวลเรื่องนี้เช่นกัน” ฟางหยวนเร่งตอบรับ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวต่อ “ไม่ใช่ว่าเจ้าคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้งั้นหรือ? เจ้าเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์และมีวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ ข้าควรส่งเจ้าไปสำรวจที่นั่น…”
ฟางหยวนผุดลุกขึ้นยืนและกล่าวโดยปราศจากความลังเล “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง เพียงออกคำสั่ง ภารกิจนี้มีเพียงข้าที่ทำได้ ข้าจะปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่ สามารถรับใช้นิกายถือเป็นเกียรติของข้าแล้ว!”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะอยู่ในหัวใจและวางมือบนไหล่ของฟางหยวน “ดี ฟางหยวน ข้ามองเจ้าไม่ผิดจริงๆ วางใจได้ นิกายจะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไม่เป็นธรรม ในการเดินทางครั้งนี้ เป้าหมายคือตรวจสอบความถูกต้องของแผนที่ฉบับนี้ หากเจ้ามีโอกาส จงจัดตั้งรูปแบบพื้นฐานของค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่เอาไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม”
“เครื่องหมายสามจุดในแผนที่เป็นตำแหน่งที่มีซากศพของสัตว์อสูรแรกกำเนิด เจ้าจงไปตรวจสอบที่นั่น หากเจ้าสามารถจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่ไว้ในตำแหน่งเหล่านี้ นั่นจะยอดเยี่ยมมาก”
“แน่นอนว่าเจ้าต้องดูแลตนเองและเคลื่อนไหวอย่างลับๆ หากเจ้าถูกพบโดยมนุษย์ เจ้าอย่าเอ่ยถึงนิกายหลางหยา”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวเตือน
ฟางหยวนเร่งพยักหน้าและตบหน้าอกของตนเองด้วยความมั่นใจ “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ท่านวางใจได้ ข้าจะเตรียมตัวและออกเดินทางทันที!”
“ดี ดี” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะเสียงดัง
แท้จริงแล้วเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวมากนัก รากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาลึกมาก ฟางหยวนสามารถฝากภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญาไว้ที่นี่ได้อย่างไร้กังวล
แม้จะมีสายลับจากนิกายเงา พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดในสถานการณ์นี้ ผมที่หกแทบจะไร้ประโยชน์ ด้วยการคงอยู่ของนิกายหลางหยา ไม่มีผู้ใดกล้าบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาในเวลานี้
สำหรับวังสวรรค์ แม้พวกเขาจะค้นพบที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แล้วพวกเขาจะสามารถทำสิ่งใด?
ระหว่างสงครามห้าภูมิภาค วังสวรรค์โจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา สุดท้ายฟงจิวเก้อยังตกตายอยู่ที่นี่ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือตอนนี้สงครามห้าภูมิภาคยังไม่เกิดขึ้น
หลังจากตรวจสอบวิญญาณอมตะของเขาอีกครั้ง ฟางหยวนตัดสินใจนำพวกมันไปด้วยเกือบทั้งหมด สำหรับร่างผีดิบอมตะ เขานำมันไปเช่นกัน มิติช่องว่างจักรพรรดิมีพื้นที่มากพอที่จะเก็บทรัพย์สมบัติเหล่านี้
กล่าวถึงร่างผีดิบอมตะ มันค่อนข้างมีปัญหา โดยเฉพาะวิญญาณกาลเวลาที่ถูกปิดผนึกและไม่สามารถดูดซับสายธารแห่งกาลเวลา มันกำลังหิวโหยและอาจตายในไม่ช้า สิ่งสำคัญอีกประการก็คือเจตจำนงสวรรค์ที่อยู่ภายในวิญญาณกาลเวลา
ฟางหยวนรู้เรื่องนี้จากการทำธุรกรรมกับนิกายเงา
ข้อมูลเกี่ยวกับเจตจำนงสวรรค์ถือเป็นผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่!
‘ข้ามีมิติช่องว่างจักรพรรดิ มันเป็นโลกใบเล็กที่แยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ แต่ตอนนี้ข้าเก็บวิญญาณกาลเวลาเอาไว้และยังมีอสูรหิมะที่เต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ หากข้าไปไท่ชิว ข้าจะพบอุปสรรคที่ไม่คาดคิด เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ข้ารีบกลับมาจากภาคใต้ ข้าพบสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาล ต่อสู้กับฉีช่าย และอื่นๆอีกมากมาย’
ฟางหยวนไม่ถูกขังอยู่ในที่มืดอีกต่อไป ตรงข้าม เขาเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี
เจตจำนงสวรรค์มีขีดจำกัดของมันเอง
หลังจากเข้าใจเจตจำนงสวรรค์ ภัยคุกคามจากมันจึงลดน้อยลง
ดังคำกล่าวที่ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ภัยพิบัติพิภพครั้งแรกรุนแรงกว่าปกติ แต่ภัยพิบัติที่เกิดจากแดนน้ำแข็งกลับเป็นความช่วยเหลือที่เขาไม่รู้ตัว
เหตุผลก็คือภัยพิบัติพิภพครั้งนี้ได้รับอิทธิพลจากความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งและปรากฏตัวในรูปแบบของสัตว์อสูรเช่นอินทรีย์มงกุฎเหล็กหรือค้างคาวมรณะที่มีเจตจำนงสวรรค์อยู่ภายใน
ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ ดังนั้นพวกมันจะไม่หยุดจนกว่าจะสามารถกำจัดฟางหยวน
นอกจากนั้นอิทธิพลจากความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งยังทำให้ภัยคุกคามจากอสูรหิมะลดน้อยลง
ปัจจุบันอสูรหิมะยังอยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน พวกมันเก็บเจตจำนงสวรรค์เอาไว้ภายในเช่นเดียวกับวิญญาณกาลเวลา เมื่อฟางหยวนออกไปยังโลกภายนอก พวกมันจะกลายเป็นคบเพลิงที่ส่องแสงสว่างอยู่ท่ามกลางความมืดและทำให้เจตจำนงสวรรค์ตระหนักถึงฟางหยวน
‘เจตจำนงสวรรค์ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวมันเอง เว้นเพียงในช่วงเวลาแห่งภัยพิบัติ เมื่อข้าออกไปยังโลกภายนอก เจตจำนงสวรรค์จะส่งอิทธิพลต่อบางคนและส่งพวกเขามาสังหารข้า เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะจัดการพวกมันทั้งหมด!’
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น
ไม่นานหลังจากนั้น
‘ข้าออกมาแล้ว!’ ฟางหยวนกระตุ้นใช้วิญญาณสายป้องกันและตรวจสอบทันที
สายตาของเขากวาดมองไปทุกทิศทาง การรับรู้ของเขาครอบคลุมพื้นที่ในรัศมีหนึ่งหมื่นก้าว
มันค่อนข้างปลอดภัย
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่ไว้หลายตำแหน่ง นี่ถือเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
การจัดเตรียมนี้ถือว่าฉลาดกว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนหน้า
ฟางหยวนเคยใช้ค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่แห่งแรกที่อยู่บนหน้าผาเฟิงโป้ ตอนนี้เขายังได้เรียนรู้ตำแหน่งที่ตั้งของค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่แห่งที่สอง มันก็คือที่ราบมังกรคชสารของภาคเหนือ
‘ข้าต้องเคลื่อนไหวทันที มันไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน’
ด้วยความตั้งใจของฟางหยวน วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากบินออกมาจากมิติช่องว่างจักรพรรดิและนำร่างของเขาพุ่งทะยานออกไปราวกับลูกศร
วิสัยทัศน์ของเขาขยายขึ้นและสามารถมองเห็นภูมิประเทศด้านล่าง
ที่ราบมังกรคชสารเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์และมีฝูงมังกรคชสารอาศัยอยู่ทุกหนทุกแห่ง
นี่เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงและอยู่ภายใต้การปกครองของกองกำลังใหญ่ในพื้นที่ใกล้เคียง
‘ช่างเป็นภาพที่งดงามนัก’ ฟางหยวนชื่นชมขณะปกปิดตัวตนและบินไปข้างหน้า