เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1063 เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
แปลโดย iPAT
ร่างของฟางหยวนบินหายไปที่เส้นขอบฟ้า
“ปล่อยเขาไปเช่นนี้เป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่?” ชูตู๋หรี่ตามอง
แต่ในไม่ช้าเขาก็เผยรอยยิ้มขมขื่นกับตนเอง “แม้ข้าจะไม่ต้องการปล่อยเขา แต่ข้าจะทำสิ่งใดได้?”
“ทักษะของข้าไม่สามารถจับตัวเขา”
“กระทั่งข้าจะสามารถจับเขาและใช้กำลังบีบบังคับ เขาก็ยังสามารถทำลายวิญญาณทั้งหมดของตน”
“แต่จากท่าทีของเขา ดูเหมือนเขาจะต้องการทำธุรกรรมกับข้าเช่นกัน มิฉะนั้นเขาคงจากไปนานแล้ว เหตุใดเขาต้องหยุดพูดคุยกับข้า?”
หลังจากไตร่ตรอง ชูตู๋รู้สึกถึงความจริงใจของฟางหยวน แม้ฟางหยวนจะไม่กล่าวถึงจุดสำคัญใดๆ แต่ชูตู๋กลับรู้สึกถึงความจริงใจโดยที่ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำสัญญา
แน่นอนว่าความมั่นใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชูตู๋ไม่ได้อยู่ที่ทัศนคติของฟางหยวนแต่เป็นวิญญาณอมตะดาบบินที่อยู่ในมือเขา
“นี่คือวิญญาณอมตะระดับเจ็ด!”
กระทั่งชูตู๋ก็ยังมีวิญญาณอมตะระดับเจ็ดในการครอบครองไม่มาก แล้วฟางหยวนจะจากไปโดยไม่สนใจมันได้อย่างไร
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเตรียมผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนรอรับฟางหยวนอยู่แล้ว
ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถกลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้อย่างไม่มีปัญหา
“เจ้ามีวิญญาณโชคอึสุนัขแต่เจ้ายังพบชูตู๋ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ บางคนกำลังต่อต้านเจ้าอยู่หรือไม่?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถามฟางหยวนอย่างตรงไปตรงมา
ฟางหยวนขมวดคิ้ว เขาพิจารณาคำถามนี้มานานแล้วเช่นกัน
‘ด้วยวิญญาณโชคอึสุนัข โชคของข้าย่อมไม่เลวร้าย แต่ภัยพิบัติพิภพรุนแรงเกินไป โชคของข้าจึงถูกใช้เพื่อรับมือภัยพิบัติงั้นหรือ?’ ฟางหยวนคาดเดาแต่เขาไม่สามารถกล่าวออกมา
เขาเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขณะที่นิกายหลางหยาเป็นองค์กรของเผ่าพันธุ์อื่น
เช่นเดียวกับก่อนหน้า เมื่อฟางหยวนรีบร้อนเดินทางออกจากชายแดนภาคใต้ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาฉวยโอกาสแสวงหาประโยชน์จากสถานการณ์ของเขา
‘หากภัยพิบัติพิภพที่ข้าผ่านมาอ่อนแอลงเพราะโชคของข้า เช่นนั้นภัยพิบัติพิภพที่แท้จริงที่ข้าต้องเผชิญจะแข็งแกร่งถึงระดับใด?’
ฟางหยวนคิดและรู้สึกสยดสยอง
กล่าวได้ว่าฟางหยวนสามารถหลบหนีจากความตายมาได้อย่างฉิวเฉียด
ในความเป็นจริงพลังอำนาจของภัยพิบัติครั้งนี้เหนือกว่าระดับของภัยพิบัติพิภพไปแล้ว กระทั่งภัยพิบัติใหญ่สิบครั้งก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับภัยพิบัติครั้งนี้ของฟางหยวน
‘แต่ข้าเชื่อมโยงโชคกับคนอื่นๆ บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่โชคของข้ากระจัดกระจายออกไป’ ฟางหยวนคิด แต่เขากล่าวอีกอย่าง “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ท่านกล่าวได้ถูกต้อง นี่ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับโชคแต่มีบางคนวางแผนร้ายต่อข้า”
ตัวตนของฟางหยวนถูกเปิดเผยในการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน
ไม่ว่าจะเป็นความลับเกี่ยวกับปีศาจต่างโลก วิญญาณกาลเวลา รวมถึงความจริงที่เขาเป็นผู้ทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง
นิกายเงา วังสวรรค์ และตระกูลฮวงจินของภาคเหนือมีแนวโน้มที่จะวางแผนร้ายกับเขา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อาจไม่มีผู้ใดวางแผนต่อต้านเจ้า อย่าลืมว่าเจ้าเป็นสมาชิกของนิกายหลางหยา แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกโจมตีมามากกว่าหนึ่งครั้งและสูญเสียผู้อมตะสองคน คุณค่าของสถานที่แห่งนี้เพียงพอที่จะดึงดูดความโลภของทุกกองกำลัง”
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวถึงเรื่องนี้เป็นเพราะเขายังต้องการวิญญาณสติปัญญาที่ฟางหยวนไม่ได้ขายให้เขาในธุรกรรมครั้งก่อนหน้า
“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณวิญญาณของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งที่ทำให้ข้าสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติ ข้าจะคืนพวกมันให้ท่านเดี๋ยวนี้ วิญญาณเหล่านี้เป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง” ฟางหยวนนำวิญญาณจำนวนมากออกมาจากมิติช่องว่างของเขา
“แน่นอน ด้วยความช่วยเหลือจากพวกมัน ภัยพิบัติพิภพก็ไม่ต่างจากขนมหวานชิ้นหนึ่ง” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
ฟางหยวนไม่ได้กล่าวความจริงทั้งหมดแต่เขาก็ไม่ได้โกหก เขารีบเปลี่ยนประเด็น “โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ มันมีประสิทธิภาพมาก แต่ชูตู๋กลับปรากฏตัวในตอนท้าย มันค่อนข้างน่ากลัว โชคดีที่ท่าไม้ตายอมตะสายเคลื่อนไหวของข้าเหนือกว่าเขาเล็กน้อย”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตรวจสอบวิญญาณและเก็บพวกมันกลับไปขณะเดียวกันก็ถามฟางหยวนอีกครั้ง “เจ้าจะไม่ขายภูเขาตงฮันกับวิญญาณสติปัญญาให้ข้าจริงๆงั้นหรือ?”
ในการทำธุรกรรมครั้งก่อน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเสนอสุดยอดมรดกที่แท้จริงทั้งสามเป็นของแลกเปลี่ยน
แต่หลังจากไตร่ตรอง ฟางหยวนรู้สึกว่ามรดกทั้งสามยังไม่เหมาะสมกับแผนการในอนาคตของเขามากนัก
อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติและวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขสามารถช่วยเหลือเขาได้มาก
ดังนั้นฟางหยวนจึงเลือกกล่าวบางคำเพื่อหลอกล่อจิตวิญญาณแผ่นดิน “ท่านต้องการแลกเปลี่ยนมรดกทั้งสามกับข้าจริงๆงั้นหรือ? มีวิญญาณอมตะมากมายอยู่ในมรดกเหล่านี้ หากมอบพวกมันให้ข้า แล้วนิกายหลางหยาจะไม่ต้องใช้พวกมันในอนาคตเช่นนั้นหรือ?”
แท้จริงแล้วจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่เต็มใจที่จะปล่อยพวกมันไปเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขที่บรรพชนผมยาวรีบหลอมรวมทันทีเมื่อเทพอมตะตะวันเดือดเสียชีวิต
หลังจากนั้นเป็นต้นมาวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขช่วยปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจากภัยพิบัติและให้ความช่วยเหลือมากมายแก่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนหน้าในการหลอมรวมวิญญาณ
อย่างไรก็ตามหากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่เสนอมรดกที่แท้จริงเหล่านี้ มูลค่าของมันจะต่ำเกินกว่าที่จะแลกเปลี่ยนกับสมบัติของฟางหยวน
ดังนั้นฟางหยวนจึงกระตุ้นอีกครั้ง “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง เนื่องจากเราทั้งคู่ไม่เต็มใจ เหตุใดเราไม่จัดการเพียงบางจุด?”
“อธิบายให้ชัดเจน” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม
ฟางหยวนกล่าวความตั้งใจของเขาแต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปฏิเสธ “ไม่มีทาง เจ้าต้องการส่วนสำคัญที่สุดของมรดกทั้งสามแต่เสนอเพียงภูเขาเหล่าโปให้ข้า นี่เป็นความสูญเสีย มันจะไม่เกิดขึ้น!”
ฟางหยวนยิ้มและเจรจาต่อไป
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่เก่งเรื่องเจรจา เขาจึงถูกล่อลวงโดยฟางหยวนอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนขายหุบเขาเหล่าโปให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขณะที่เขาได้รับวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข วิญญาณอมตะสมบัติเลือด และวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด ทั้งสามเป็นวิญญาณอมตะระดับหก หนี้ของเขาถูกชำระล้าง เขายังสามารถยืมวิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากเพื่อแก้ไขจุดอ่อน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเขาสามารถเรียนรู้ท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติและท่าไม้ตายอมตะคลื่นดาบสามชั้น
ท่าไม้ตายอมตะทั้งสองมีประโยชน์อย่างมากในการก้าวข้ามภัยพิบัติของฟางหยวน
อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังต้องการภูเขาตงฮันและวิญญาณสติปัญญา
ครั้งนี้เขาแสดงเจตจำนงที่จะซื้อพวกมันอีกครั้ง
แต่ฟางหยวนจะตกลงได้อย่างไร?
เขาไม่สามารถปฏิเสธจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอย่างรุนแรงและเลือกถ้อยคำอย่างระมัดระวัง “ข้ายังไม่มีความตั้งใจที่จะขายพวกมัน แต่หากข้ามีปัญหาในอนาคต ข้าจะแลกเปลี่ยนกับผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากำลังจะกล่าวแต่ฟางหยวนชิงโบกมือ “ข้าจะทิ้งสมบัติทั้งสองไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ข้าจะไม่นำพวกมันติดตัวไปด้วย ข้าจะให้นิกายยืมพวกมันตามข้อตกลงก่อนหน้านี้”
การฝากวิญญาณสติปัญญาไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาหมายความว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องเลี้ยงดูมัน นี่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับฟางหยวน
สำหรับภูเขาตงฮันที่ดูดซับปราณพิภพตลอดเวลา มันจะดีกว่าหากไม่วางมันไว้ในมิติช่องว่างของเขา
สิ่งสำคัญก็คือนิกายเงารู้จักภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปเป็นอย่างดี หากพวกเขาใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ พวกเขาจะสามารถเข้าไปในมิติช่องว่างของฟางหยวนได้โดยตรง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังไม่ยอมแพ้ แต่ฟางหยวนคือผู้ใด เขาเป็นคนที่มีทักษะการเจรจาต่อรองเป็นเลิศ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาที่มีความคิดเรียบง่ายจะสามารถแข่งขันกับเขาได้อย่างไร
หลังจากสนทนาเป็นเวลานาน ฟางหยวนนำทรัพยากรจำนวนมากที่ฝากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไว้กลับคืน
ตัวอย่างเช่นอสรพิษเพลิง แมงมุมหน้าคน ปลามังกร และอื่นๆ
ตั้งแต่ต้นจนจบฟางหยวนไม่ได้ถามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเกี่ยวกับการขายท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติแม้แต่คำเดียว
แล้วชูตู๋?
เขาเป็นเพียงแผนสำรองของฟางหยวน
แม้พวกเขาจะแลกเปลี่ยนวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลและสามารถติดต่อสื่อสาร แต่ธุรกรรมใดก็ตาม ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ของฟางหยวน
สำหรับวิญญาณอมตะดาบบินระดับเจ็ด?
ฮ่าฮ่า มันเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับเจ็ดแต่ฟางหยวนกระทั่งเป็นเจ้าของวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า ดังนั้นมุมมองของเขาจึงแตกต่างออกไปโดยธรรมชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเขาเสียวิญญาณอมตะเกือบทั้งมหดให้กับอิงอู๋เซี่ยเมื่อไม่นานมานี้
วิญญาณอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งดาบเพียงดวงเดียวจะสามารถเปรียบเทียบกับวิญญาณอมตะเหล่านั้นได้อย่างไร
ชูตู๋ไม่รู้ภูมิหลังของฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงประเมินฟางหยวนต่ำเกินไป
โดยรวมมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่ฟางหยวนจะทำธุรกรรมกับชูตู๋
หลังจากทั้งหมดความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งสำคัญกับฟางหยวนมากกว่าวิญญาณอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งดาบ
‘เพราะเส้นทางที่ข้ากำลังจะเดินไปหลังจากนี้คือเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง’
ฟางหยวนไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง!
นี่เป็นเส้นทางที่เหมาะสมกับเขามากที่สุดในเวลานี้