Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1038

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1038 แข่งขันหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ

แปลโดย iPAT 

 

แสงสีเขียวและแสงสีแดงส่องประกายขึ้นเป็นครั้งคราว

 

ไห่ลั่วหลันนั่งอยู่กลางอากาศด้วยสายตาแห่งความชื่นชมและตกใจ

 

‘อิงอู๋เซี่ยเป็นสมาชิกนิกายเงา เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ข้าเคยคิดว่าเขาจะใช้วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณหรือความมืดเพื่อกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลบนร่างของข้า แต่ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะใช้วิธีบนเส้นทางแห่งแสง เทพปีศาจจิตวิญญาณและนิกายเงามีรากฐานที่ไม่อาจหยั่งถึงอย่างแท้จริง ท่านป้าของข้าเป็นกึ่งปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งข้อมูล แต่นิกายเงากลับสามารถทำลายมันได้อย่างง่ายดาย…’

 

ไห่ลั่วหลันลอบประเมิน

 

หลังจากชั่วครู่ทุกอย่างจึงกลับสู่สภาพปกติ

 

“ข้ากำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลบนร่างของเจ้าออกหมดแล้ว” อิงอู๋เซี่ยกล่าว

 

หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน อิงอู๋เซี่ยตัดสินใจเก็บไห่ลั่วหลันเอาไว้

 

ท้ายที่สุดแล้วภารกิจสำคัญที่สุดของเขาในเวลานี้ไม่ใช่การกำจัดฟางหยวนแต่คือการสร้างนิกายเงาขึ้นมาอีกครั้งเพื่อช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ฟางหยวนเป็นเป้าหมายรอง

 

แม้อิงอู๋เซี่ยจะเกลียดฟางหยวนแต่เขาก็ยังไม่สูญเสียหลักเหตุผล

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจไว้ชีวิตไห่ลั่วหลันและรับนางเข้าร่วม

 

ไห่ลั่วหลันเป็นคนมีความสามารถ

 

อิงอู๋เซี่ยรู้จักร่างสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงของนางเป็นอย่างดี หากเขาให้คำแนะนำบางอย่าง นางจะกลายเป็นอาวุธที่แหลมคมของเขา

 

ไห่ลั่วหลันตรวจสอบร่างกายของตน

 

นางไม่มีวิธีพิเศษในการตรวจสอบ แต่หลังจากตรวจสอบ นางก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆต่อร่างกายโดยเฉพาะจิตวิญญาณของนาง

 

หลังจากทั้งหมดทุกคนรู้ว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นผู้ก่อตั้งเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

 

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มบาง “ข้อตกลงเดิมถูกกำจัดไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาสร้างข้อตกลงใหม่ เจ้าจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าและเชื่อฟังคำสั่งของข้าโดยไม่ต่อต้านหรือซ่อนบางสิ่งจากข้า”

 

ไห่ลั่วหลันก่นเสียงเย็น

 

เนื่องจากอิงอู๋เซี่ยสามารถลบสัญญาพันธมิตรของนาง มันพิสูจน์แล้วว่าความสามารถของเขาเหนือกว่าเทพธิดาหลี่ซาน

 

หลังจากนี้ไห่ลั่วหลันจะสูญเสียอิสรภาพและต้องทำตามคำสั่งของอิงอู๋เซี่ย

 

แต่…

 

ไห่ลั่วหลันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับเท่านั้น

 

สถานการณ์ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของนาง หากนางปฏิเสธ นางจะต้องตาย

 

สำหรับเรื่องที่นางทรยศฟางหยวน ความรู้สึกผิดในใจของนางคือศูนย์

 

ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับฟางหยวนเป็นเพียงเรื่องของผลประโยชน์ ในความเป็นจริงนางกระทั่งเกลียดชังฟางหยวน!

 

“เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด? ล่อฟางหยวนมาที่นี่งั้นหรือ? ข้ามีวิญญาณประตูแห่งดวงดาว ข้าสามารถเดินทางไปทั้งห้าภูมิภาคโดยพึ่งพาสวรรค์สีดำ” ไห่ลั่วหลันกล่าวเสียงเรียบ

 

ปราศจากข้อตกลงพันธมิตร นางก็สามารถเปิดเผยความลับของฟางหยวนได้อย่างไร้ปรานี

 

แต่อิงอู๋เซี่ยกลับส่ายศีรษะ “ข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้าว่านิกายเงามีสายลับอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เรารู้เกี่ยวกับประตูแห่งดวงดาว แม้มันจะน่าทึ่ง แต่มันใช้งานได้กับผู้อมตะชั้นล่างของระดับหกเท่านั้น มันไม่แม้แต่จะสามารถขนส่งวิญญาณอมตะ นอกจากนั้นตอนนี้เจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวน”

 

อิงอู๋เซี่ยได้รับข้อมูลมากมายจากเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

เขายังเข้าใจร่างใหม่ของฟางหยวนและรู้ว่ามันเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

 

ด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าหลายพันร่องรอย ฟางหยวนไม่สามารถเดินทางผ่านประตูแห่งดวงดาว

 

“แผนการต่อไปของข้าคือหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ” อิงอู๋เซี่ยกล่าว

 

ดวงตาของไห่ลั่วหลันส่องประกายขึ้นขณะที่นางพยักหน้าเห็นด้วย

 

วิญญาณดวงนี้มีประโยชน์มากขณะที่อิงอู๋เซี่ยก็ฉลาดพอที่จะหลอมรวมมันเป็นอันดับแรก

 

“วิญญาณท่องแดนอมตะพึ่งถูกทำลาย มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะประสบความสำเร็จในการหลอมรวม ก่อนหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ เจ้าต้องหลอมรวมวิญญาณท่องแดนศักดิ์สิทธิ์ก่อนโดยการรวบรวมสุราชั้นยอดทั้งสี่…”

 

ก่อนที่ไห่ลั่วหลันจะกล่าวได้จบประโยค อิงอู๋เซี่ยกลับขัดจังหวะ “วิญญาณท่องแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา แต่มันไม่ได้หมายความว่าเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะมีเพียงหนึ่ง มีประตูหลายบานให้เลือกเพื่อไปถึงจุดหมายเดียวกัน”

 

ไห่ลั่วหลันเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “นี่หมายความว่าเจ้ามีเคล็ดลับใหม่ในการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะง้้นหรือ?”

 

“แน่นอน” อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มมั่นใจ

 

รากฐานของเทพปีศาจจิตวิญญาณกับนิกายเงาไม่ใช่สิ่งที่สามารถดูแคลน

 

เจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณจัดเตรียมหลายสิ่งไว้ให้อิงอู๋เซี่ยรวมถึงเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ!

 

…..

 

ภาคใต้

 

ฟางหยวนเดินทางอยู่ในภูเขา

 

เขาพึ่งทำลายล้างหมู่บ้านตระกูลหนี่ ตอนนี้เขากำลังประเมินกำไรที่ได้รับ

 

ความผิดพลาดคือบทเรียน

 

เมื่อคนผู้หนึ่งเรียนรู้จากประสบการณ์และคิดวิเคราะห์เกี่ยวกับมัน พวกเขาจะเติบโตขึ้น

 

ฟางหยวนใช้ทาสสัตว์อสูรโจมตีหมู่บ้านตระกูลหนี่โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหว

 

มีเพียงสัตว์อสูรเดียวดายที่ทำให้ฟางหยวนมีปัญหาเล็กน้อย

 

ในการต่อสู้ครั้งนี้ฟางหยวนค้นพบจุดอ่อนมากมายของตนเอง

 

‘แม้ข้าจะมีวิญญาณอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งดาบ แต่มันใช้พลังงานอมตะมากเกินไป’

 

วิญญาณและผู้ใช้วิญญาณมีเก้าระดับมาตั้งแต่โบราณ หลักการหนึ่งที่ทุกคนให้การยอมรับก็คือผู้ใช้วิญญาณควรใช้วิญญาณระดับเดียวกัน หากวิญญาณอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหรือสูงกว่า พวกเขาจะไม่สามารถปลดปล่อยพลังอำนาจของมันออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ตัวอย่างเช่นทุกครั้งที่ฟางหยวนใช้วิญญาณระดับเจ็ด เขาต้องจ่ายด้วยพลังงานอมตะจำนวนมหาศาล

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิของฟางหยวนสามารถผลิตองุ่นเขียวอมตะได้วันละสิบหกผล มันยังไม่เพียงพอให้เขากระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะระดับเจ็ดได้แม้แต่ครั้งเดียว

 

โชคดีที่เขาได้รับหินวิญญาณอมตะจำนวนหนึ่งมาจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา มิฉะนั้นเขาจะพบปัญหาหากต้องเผชิญหน้ากับอสูรโคลนเดียวดาย

 

‘ก่อนหน้านี้ข้ายังลังเล แต่ดูเหมือนข้าคงต้องลดระดับวิญญาณอมตะเหล่านี้’ ฟางหยวนถอนหายใจ

 

ยิ่งระดับของวิญญาณสูงเท่าใด พวกมันก็ยิ่งมีค่ามากเท่านั้น

 

แต่ในสถานการณ์ของฟางหยวน เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลดระดับวิญญาณให้เหมาะสมกับตนเอง

 

ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจะสามารถใช้งานพวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

‘ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของข้าไม่สูงมากนัก ข้าควรให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทำเรื่องนี้’

 

‘แม้บุคลิกของเขาจะเปลี่ยนไป แต่เขาก็เป็นเจตจำนงของบรรพชนผมยาว ตราบเท่าที่ข้าใช้แต้มผลงาน เขาจะทำมัน’

 

ฟางหยวนไตร่ตรอง

 

การลดระดับวิญญาณมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าการหลอมรวมวิญาณ แต่มันก็มีโอกาสล้มเหลวเช่นกัน

 

ดังนั้นมันจะดีที่สุดหากฟางหยวนมอบหน้าที่นี้ให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

‘วิญญาณอมตะเหล่านี้จะเหลืออยู่กี่ดวงหากข้าพยายามลดระดับพวกมัน’

 

‘แต่แค่เพียงวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบยังไม่พอ’

 

ฟางหยวนคิดถึงการต่อสู้กับอสูรโคลนเดียวดายอีกครั้ง

 

แม้เขาจะใช้วิญญาณอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งดาบ แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นอสูรโคลนเดียวดาย

 

ร่างของมันแตกต่างจากสัตว์อสูรทั่วไปเพราะมันถูกสร้างขึ้นจากดินโคลนที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีและสามารถก่อร่างขึ้นใหม่

 

แม้วิญญาณอมตะดาบบินของฟางหยวนจะแหลมคม แต่มันยังเป็นเรื่องยากที่จะทำลายร่างดินโคลนของอสูรโคลนเดียวดาย

 

แม้ฟางหยวนจะได้รับชัยชนะแต่เขาก็ไม่มีความสุขมากนัก

 

‘วิญญาณดาบบินเป็นวิญญาณอมตะของโป้ชิง เขาใช้มันเป็นแกนกลางเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะ หากข้ามีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบ ข้าจะสามารถปลดปล่อยฝนดาบออกไปและสามารถกำจัดอสูรโคลนเดียวดายได้ในครั้งเดียว’

 

ฟางหยวนไม่เพียงต้องลดระดับวิญญาณอมตะแต่เขายังต้องการท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบอีกด้วย

 

สำหรับการคิดค้นขึ้นมาด้วยตนเอง ลืมมันไปได้เลย

 

เขาไม่สามารถใช้แสงแห่งปัญญา ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่มีความสำเร็จใดๆบนเส้นทางแห่งดาบ

 

หากไม่ใช่เพราะเขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบในการครอบครอง เขาจะใช้วิธีบนเส้นทางแห่งเลือด

 

ฟางหยวนหยุดเท้า เขานั่งลงบนก้อนหินก่อนจะติดต่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

ตอนนี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ได้สนใจเรื่องการหลอมรวมวิญญาณมากนัก เขากำลังยุ่งอยู่กับการขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์ขนและปกครองโลกหล้า

 

แต่หากฟางหยวนใช้แต้มผลงาน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะไม่ปฏิเสธเขา

 

สำหรับท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเก็บท่าไม้ตายมากมายเอาไว้ในคลังสมบัติ

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเรียนรู้ท่าไม้ตายเหล่านี้เพื่อคิดค้นเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณ

 

แต่ฟางหยวนไม่รู้ว่าเขาจะได้รับท่าไม้ตายชนิดใด

 

เขาถามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ข้าตั้งใจว่าจะใช้โอกาสสุดท้ายขอให้ท่านหลอมรวมวิญญาณอมตะให้กับข้า”

 

แม้บุคลิกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ข้อตกลงยังอยู่

 

ฟางหยวนใช้โอกาสสองครั้งแรกในการหลอมรวมวิญญาณประตูแห่งดวงดาวและวิญญาณทะเลวิญญาณที่สอง

 

ตอนนี้เขาตัดสินใจใช้โอกาสครั้งสุดท้าย

 

“โอ้ เจ้าต้องการวิญญาณชนิดใด?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม

 

ฟางหยวนตอบกลับอย่างรวดเร็ว “วิญญาณท่องแดนอมตะ”

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset