เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1032 ขนส่งวิญญาณผ่านสวรรค์สีเหลือง
แปลโดย iPAT
“โอ้ เจ้าตัดสินใจแล้วงั้นหรือ? เจ้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดนอกของนิกายหลางหยา เจ้าสามารถใช้แต้มผลงานแลกเปลี่ยนกับวิธีเหล่านี้” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยรอยยิ้ม
ที่ภาคกลางไห่ลั่วหลันถูกบังคับโดยอิงอู๋เซี่ยและไม่มีทางเลือกนอกจากยอมจำนน ฟางหยวนไม่รู้เรื่องนี้และกำลังติดต่อกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีต้นกำเนิดมาจากบรรพชนผมยาว ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขาจะมีวิธีต่อต้านวิญญาณกาลเวลา
ระหว่างการสนทนา ฟางหยวนรู้สึกตกใจมากเมื่อพบว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีมากกว่าสิบวิธีที่สามารถจัดการวิญญาณกาลเวลา
เมื่อมีหลายวิธีให้เลือก ฟางหยวนรู้สึกลังเลเล็กน้อย
เขาถามเมื่อคิดถึงบางสิ่ง “ข้ามีคำถาม ตอนนี้ข้ามีแต้มผลงานอยู่เท่าใด?”
“สามร้อยแต้ม!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาลังเลก่อนตอบ
“สามร้อย…” ฟางหยวนขมวดคิ้ว เขาไม่เคยทำภารกิจให้กับนิกายหลางหยามาก่อน แต้มผลงานทั้งหมดมาจากการให้ยืมภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญามีคุณค่าเพียงสามร้อยแต้มงั้นหรือ?
ฟางหยวนมีข้อสงสัยแต่เขาไม่ได้ถามโดยตรง “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ข้าไม่แน่ใจว่าท่านใช้วิธีใดคำนวณแต้มผลงานของข้า?”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีความสุขมากเมื่อได้ยินฟางหยวนเรียกตนเองว่าผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง
เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมา “นี่เป็นเรื่องง่ายมาก ภูเขาตงฮันหนึ่งร้อยแต้ม หุบเขาเหล่าโปหนึ่งร้อยแต้ม และวิญญาณสติปัญญาอีกหนึ่งร้อยแต้ม”
เสียงของฟางหยวนต่ำลง “วิญญาณสติปัญญาเป็นวิญญาณระดับเก้า เหตุใดมันจึงมีมูลค่าเท่ากับภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโป?”
“ไม่จำเป็นต้องสงสัย” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบอย่างรวดเร็ว “เจ้าให้นิกายยืมสมบัติทั้งสาม แต่นิกายต้องแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นปราณพิภพหรืออาหารของวิญญาณสติปัญญา แต้มผลงานของเจ้าเหมาะสมแล้ว ข้ารู้ว่าความยุติธรรมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนิกาย อย่ากังวล เราจะแลกเปลี่ยนอย่างยุติธรรม แต่เราก็จะไม่ให้เจ้าทำกำไรจากนิกายเช่นกัน”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหยุดก่อนกล่าวต่อ “แน่นอนว่าหากเจ้าบริจาคพวกมันให้กับนิกาย เจ้าจะได้รับแต้มผลงานจำนวนมหาศาลล! เป็นไปได้เช่นกันที่เจ้าจะกลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายหลางหยา!”
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายหลางหยา? แม้ฟางหยวนจะไม่ใช่เจ้าของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แต่เขาก็สามารถระดมกำลังผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนใช่หรือไม่?
อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังกล่าวต่อ “แต่เพื่อให้เจ้ากลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายหลางหยา เจ้าต้องกำจัดสถานะมนุษย์และเปลี่ยนเป็นมนุษย์ขนอย่างสมบูรณ์ มีเพียงมนุษย์ขนเท่านั้นที่สามารถปกครองมนุษย์ขน!”
น้ำเสียงของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของตนเอง
ฟางหยวนปัดเป่าความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไปทันที เขาไม่สงสัยเลยว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีวิธีเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นมนุษย์ขน แต่การเปลี่ยนเป็นมนุษย์ขนเป็นราคาที่ฟางหยวนไม่สามารถยอมรับ
โดยพื้นฐานแล้วโลกใบนี้ถูกปกครองโดยเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้มนุษย์กลายพันธุ์จะสามารถบรรลุขอบเขตอมตะ แต่พวกเขาก็ยังถูกมองข้าม
นอกจากนี้ข้อบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์กลายพันธุ์ก็คือพวกเขาไม่สามารถบรรลุถึงระดับเก้า!
ฟางหยวนปรารถนาชีวิตนิรันดร์ การบ่มเพาะเป็นเพียงเครื่องมือ แต่เห็นได้ชัดว่ายิ่งระดับการบ่มเพาะสูงเท่าใด เขาก็ยิ่งเข้าใกล้เป้าหมายมากเท่านั้น
ตรรกะนี้ง่ายมาก หากเปรียบเทียบ ระหว่างมดกับต้นไม้ สิ่งใดอยู่ใกล้กับชีวิตนิรันดร์มากกว่า?
ตอนนี้ฟางหยวนมีแต้มผลงานเพียงสามร้อยแต้ม จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคำนวณไว้อย่างแม่นยำโดยไม่เปิดโอกาสให้ฟางหยวนต่อรอง
อย่างไรก็ตามฟางหยวนรู้สึกว่าแต้มผลงานเหล่านี้มีคุณค่ามาก หากใช้อย่างชาญฉลาด มันจะช่วยเขาได้มาก
หลังจากไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ฟางหยวนไม่รีบใช้แต้มผลงานเหล่านี้เพื่อแลกกับวิธีรับมือวิญญาณกาลเวลา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าว “แต้มผลงานมีไว้ใช้ อย่าตระหนี่เกินไป พวกเรามีภารกิจอีกมากมาย ตราบเท่าที่เจ้าทำสำเร็จ เจ้าจะได้รับแต้มผลงานเพิ่มขึ้น”
“โอ้ ภารกิจใด?” ฟางหยวนถามเบาๆ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องการใช้ความแข็งแกร่งของฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงเร่งตอบคำถาม
ฟางหยวนส่ายศีรษะหลังจากได้ยินคำอธิบาย
ภารกิจของนิกายหลางหยาแบ่งออกเป็นสองประเภท หนึ่งคือรวบรวมทรัพยากร สองคือฝึกฝนการต่อสู้ให้กับผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาบุคลิกที่สองต้องการปกครองโลกใบนี้ เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องฝึกการต่อสู้ให้กับผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน
ก่อนหน้านี้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนรู้เพียงวิธีหลอมรวมวิญญาณ พวกเขาไม่เคยฝึกการต่อสู้มาก่อน ดังนั้นพลังการต่อสู้ของพวกเขาจึงต่ำมาก
แต่ปัจจุบันฟางหยวนไม่มีเวลาฝึกการต่อสู้ให้กับผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนหรือออกรวบรวมทรัพยากร
“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ตอนนี้ข้ากำลังขาดแคลนวิญญาณ เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านจะช่วยซื้อวิญญาณจากสวรรค์สีเหลืองและตรวจสอบพวกมันก่อนจะส่งมาให้ข้า” ฟางหยวนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้
ชุดวิญญาณถูกส่งผ่านสวรรค์สีเหลืองไปยังมิติช่องว่างของฟางหยวนอย่างรวดเร็ว
วิญญาณชุดแรกประกอบด้วยวิญญาณบุปผาเก็บสุรา วิญญาณหญ้าถุงข้าว วิญญาณน้ำพุ วิญญาณกินลมดื่มน้ำค้าง และอื่นๆ
ตอนนี้แตกต่างออกไป ก่อนหน้าฟางหยวนเป็นผีดิบอมตะ เขาไม่จำเป็นต้องกินหรือดื่ม
แต่ร่างกายที่มีชีวิตยังต้องการสารอาหาร กระทั่งผู้อมตะก็อาจตกตายหากขาดอาหารเป็นเวลานาน เว้นเพียงพวกเขาจะมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางอาหาร
นอกจากวิญญาณระดับมนุษย์เกี่ยวกับอาหารและน้ำดื่มยังมีวิญญาณเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกเล็กน้อย
ฟางหยวนยังไม่พอใจวิญญาณอาภรณ์เพลิงเพราะมันดึงดูดความสนใจมากเกินไป
หลังจากได้รับวิญญาณเปลี่ยนเสื้อผ้า เขารีบเปลี่ยนชุดทันที
นอกเหนือจากนั้นยังมีวิญญาณเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ตัวอย่างเช่นวิญญาณถ้ำสามดารา
วิญญาณชุดที่สองมีวิญญาณถ้วยชมทิวทัศน์และวิญญาณประตูแห่งดวงดาว
มันไม่ปลอดภัยที่จะส่งสิ่งของต่างๆผ่านสวรรค์สีเหลือง
สวรรค์สีเหลืองเป็นตลาดเปิด มันไม่ใช่ช่องทางลับ
วิญญาณถ้วยชมทิวทัศน์เป็นประตูมิติที่ไม่คำนึงถึงภูมิภาค
ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณถ้วยชมทิวทัศน์หรือวิญญาณประตูแห่งดวงดาว จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้รับพวกมันมาจากฟางหยวนทั้งสิ้น
ด้วยบุลลิกแรกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เป็นธรรมดาที่เขาจะหลอมรวมพวกมันเก็บไว้เป็นจำนวนมาก
ดังนั้นวิญญาณทั้งสองดวงจึงถูกส่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาโดยตรง พวกมันทำให้วิญญาณแสงสมบัติในสวรรค์สีเหลืองส่องประกายสว่างไสวและดึงดูดความสนใจจากผู้อมตะมากมาย
หลังจากทั้งหมดพวกมันเป็นเพียงวิญญาณระดับมนุษย์แต่กลับล้ำค่ามาก
ผู้อมตะหลายคนพยายามสอบถามแต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปฏิเสธที่จะตอบ
วิญญาณชุดที่สามยังเป็นวิญญาณระดับมนุษย์ พวกมันถูกส่งมาจากคลังสมบัติของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาโดยตรง ฟางหยวนต้องการใช้วิญญาณเหล่านี้ทดสอบมิติช่องว่างจักรพรรดิ
การทดสอบก่อนหน้าเป็นเพียงการสังเกตอย่างผิวเผินเท่านั้น
เพื่อเรียนรู้มิติช่องว่างจักรพรรดิ เขาต้องใช้วิญญาณเป็นเครื่องมือ
วิญญาณชุดที่สี่เป็นวิญญาณหลัก
มันคือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบของโป้ชิง!
ฟางหยวนขโมยวิญญาณมากมายมาจากโป้ชิง เขาใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อหลอกลวงวิญญาณเหล่านี้และค่อยๆปรับแต่งพวกมันอย่างช้าๆ
ก่อนเข้าร่วมการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เขาสามารถปรับแต่งวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณเท่านั้น แต่ในช่วงเวลาสำคัญ มันยังช่วยเขาพลิกสถานการณ์
ตอนนี้วิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณยังอยู่กับฟางหยวน
สำหรับวิญญาณอมตะดวงอื่นๆ มันเต็มไปด้วยเจตจำนงของโป้ชิงและเป็นเรื่องยากที่จะปรับแต่งพวกมัน ดังนั้นวิญญาณเหล่านี้จึงถูกทิ้งไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู
อย่างไรก็ตามแม้จะไม่สามารถปรับแต่งแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่สามารถ ค่ายกลวิญญาณที่ฟางหยวนสร้างขึ้นยังปรับแต่งพวกมันตลอดเวลา
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเป็นความโชคดีของฟางหยวนที่ไม่ได้นำวิญญาณอมตะเหล่านี้ติดตัวไปยังภูเขาอี้เทียน มิฉะนั้นตอนนี้พวกมันจะตกอยู่ในกำมือของอิงอู๋เซี่ย
วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบเหล่านี้ประกอบไปด้วยวิญญาณดาบแห่งปัญญาระดับแปด วิญญาณดาบทะลวงมิติระดับเจ็ด วิญญาณคิ้วดาบระดับเจ็ด วิญญาณคลื่นดาบระดับเจ็ด และวิญญาณดาบบินระดับเจ็ด
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาส่งเพียงวิญญาณดาบทะลวงมิติและวิญญาณดาบบินให้กับฟางหยวนเท่านั้น
ธุรกรรมเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็วแต่มันกลับสร้างความโกลาหลขึ้นในสวรรค์สีเหลือง
“แสงสมบัติสูงหลายร้อยเมตร เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ธุรกรรมวิญญาณอมตะงั้นหรือ!?”
“เป็นไปได้อย่างไร?”
“ข้าเห็นมัน! บางคนขายวิญญาณอมตะระดับเจ็ดสองดวง พวกเขาเคลื่อนไหวเร็วมาก!”
“ซื้อขายวิญญาณอมตะระดับเจ็ดสองดวง โอ้ สวรรค์! ข้าไม่มีวิญญาณอมตะระดับหกแม้แต่ดวงเดียว ผู้ใดช่างร่ำรวยนัก!?”
ธุรกรรมวิญญาณระดับมนุษย์จากก่อนหน้าดึงดูดความสนใจจากผู้คนไปบ้างแล้ว ตอนนี้เมื่อเกิดการซื้อขายวิญญาณอมตะ มันจึงช่วยไม่ได้ที่จะเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสวรรค์สีเหลือง
โดยปกติธุรกรรมวิญญาณอมตะมักจะเป็นการแลกเปลี่ยนวิญญาณ มันหาได้ยากที่จะพบเห็นการซื้อขายวิญญาณอมตะด้วยหินวิญญาณอมตะ
ดังนั้นการทำธุรกรรมของฟางหยวนกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงไม่ต่างจากการโยนหินลงไปในทะเลสาบและสร้างระลอกคลื่นให้เกิดขึ้น
“วิญญาณอมตะสองดวง…แต่ละดวงทำให้แสงสมบัติสูงหลายร้อยเมตร แต่อีกฝ่ายกลับจ่ายด้วยหินวิญญาณอมตะ!”
ข้อมูลนี้ทำให้บทสนทนาร้อนแรงมากขึ้นไปอีก
“เจ้าล้อข้าเล่นหรือไม่?”
“นี่ไม่ใช่ธุรกรรมปกติ พวกเขาใช้สวรรค์สีเหลืองในการขนส่งวิญญาณ!”
“แม้พวกเขาจะต้องการขนส่งวิญญาณอมตะแต่มันก็หาได้ยากเพราะสวรรค์สีเหลืองจะเก็บค่าธรรมเนียมตามความสว่างไสวของแสงสมบัติ!”
ในครั้งเดียว ฟางหยวนกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทำให้สวรรค์สีเหลืองตกอยู่ในความสันสบวุ่นวาย