Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1031

เทพปีศาจหวนคืน บทที่1031 ไร้ที่ติ

แปลโดย iPAT 

 

ไห่ลั่วหลันตกใจและโกรธมาก

 

การประกาศอย่างกะทันหันของอิงอู๋เซี่ยทำให้ใบหน้าของไห่ลั่วหลันกลายเป็นมืดครึ้ม

 

แม้ไห่ลั่วหลันจะไม่รู้ว่าอิงอู๋เซี่ยเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่นางผ่านประสบการณ์บนภูเขาอี้เทียนมาแล้ว นางรู้ว่าอิงอู๋เซี่ย นิกายเงา และเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ฝ่ายเดียวกัน

 

บนภูเขาอี้เทียน ป้าทั้งสองของนาง นางมารผลาญสวรรค์ และเทพธิดาหลี่ซานตกตายลงที่นั่น

 

หญิงทั้งสองเป็นสมาชิกครอบครัวคนสำคัญของนาง

 

เมื่อนิกายเงาเป็นฆาตกรที่สังหารนางมารผลาญสวรรค์และเทพธิดาหลี่ซาน มันจึงช่วยไม่ได้ที่ไห่ลั่วหลันจะเต็มไปด้วยความโกรธและเกลียดชังต่อคนกลุ่มนี้

 

อิงอู๋เซี่ยรู้เรื่องนี้แต่เขาไม่สนใจและต้องการใช้กำลังบังคับไห่ลั่วหลันให้ยอมจำนนโดยตรง

 

หากนางไม่ยอมจำนน เขาจะฆ่านาง!

 

แม้อิงอู๋เซี่ยจะอยู่ในร่างผีดิบอมตะระดับหกของฟางหยวน แต่เขามีวิญญาณอมตะระดับเจ็ดของซื่อหนิว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือค่ายกลวิญญาณของที่นี่

 

มันสามารถป้องกันการตรวจสอบของวังสวรรค์และต่อต้านการโจมตีของสัตว์อสูรป่าที่อยู่ในถ้ำนรกใต้พิภพ หลังจากทั้งหมดนี่คือค่ายกลวิญญาณที่ใช้ปกป้องดวงวิญญาณของโป้ชิงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาและไม่ใช่สิ่งที่สามารถดูแคลน

 

นี่คือความมั่นใจของอิงอู๋เซี่ย

 

แม้อิงอู๋เซี่ยจะเป็นเพียงร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ แต่เขาก็ได้รับบุคลิกที่เหี้ยมโหดมาจากร่างหลัก

 

ไห่ลั่วหลันแสดงออกด้วยใบหน้ามืดมน

 

‘ตั้งแต่อิงอู๋เซี่ยกล้าท้าทายข้าโดยไม่เกรงกลัว เขาย่อมต้องเตรียมตัวมาแล้วและมีความมั่นใจมาก ความสามารถของฝ่ายตรงข้ามไม่อาจหยั่งรู้โดยเฉพาะเมื่อเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ หากข้าขัดขืน ข้าอาจตายอยู่ที่นี่ ตอนนี้ข้าทำได้เพียงอดทนและหาโอกาสแก้แค้นในภายหลังเท่านั้น’

 

หลังจากคิดได้เช่นนี้ ไห่ลั่วหลันจึงเปิดปากกล่าว “นิกายเงาของเจ้าสังหารคนในครอบครัวของข้าสองคน แต่เจ้ากลับต้องการให้ข้าเข้าร่วม เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะทรยศงั้นหรือ?”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” อิงอู๋เซี่ยหัวเราะ “มีสิ่งใดต้องกลัว?”

 

เขาหยุดก่อนกล่าวต่อ “ประการแรก ข้าแข็งแกร่งขณะที่เจ้าอ่อนแอ ประการที่สอง ข้ามีวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่สามารถสร้างข้อตกลงพันธมิตร ประการที่สาม ข้าเข้าใจบุคลิกของเจ้า เจ้ายังไม่ได้แก้แค้น ไห่เจิ้งยังมีชีวิตอยู่ เจ้าพอใจที่จะให้มันจบลงเช่นนี้งั้นหรือ? กระทั่งเจ้าจะสังหารไห่เจิ้งไปแล้ว เจ้าก็ยังต้องอดทนบ่มเพาะในช่วงเวลานี้และหาโอกาสแก้แค้นข้าในอนาคต”

 

ไห่ลั่วหลันเงียบ

 

คำกล่าวของอิงอู๋เซี่ยทำให้หัวใจของไห่ลั่วหลันจมดิ่งลง

 

รู้เขารู้เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้ ไห่ลั่วหลันไม่ได้คาดหวังว่าอิงอู๋เซี่ยจะรู้จักนางดีถึงเพียงนี้ ในทางตรงข้าม นางกลับไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับเขา

 

สิ่งนี้เกิดจากฟางหยวน

 

เมื่อผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อพบสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับฟางหยวน เขาใช้วิญญาณเผยความลับสวรรค์เพื่อเปิดเผยข้อมูลต่างๆของเป้าหมาย

 

เนื่องจากไห่ลั่วหลันและไท่เป่ยหยุนเฉิงเป็นคนใกล้ชิดของฟางหยวน นิกายเงาจึงได้รวบรวมข้อมูลของพวกเขามาอย่างละเอียด

 

เดิมทีอิงอู๋เซี่ยไม่รู้ แต่เขาได้รับข้อมูลมากมายจากเจตจำนงของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่อยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา นั่นทำให้เขาได้เรียนรู้หลายสิ่งเกี่ยวกับไห่ลั่วหลัน

 

เห็นไห่ลั่วหลันเงียบ อิงอู๋เซี่ยรอคอยอย่างอดทนโดยไม่เร่งรัด

 

มีเพียงแสงจากตะเกียงที่ส่องสว่างอยู่ท่ามกลางความมืด

 

หลังจากไม่นาน ไห่ลั่วหลันจึงเปิดปากกล่าว “เจ้าต้องการให้ข้าเข้าร่วมเพื่อกำจัดผู้ใด หากให้ข้าต่อสู้กับวังสวรรค์ เจ้าสามารถฆ่าข้าในตอนนี้”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” อิงอู๋เซี่ยหัวเราะ “ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ ข้าต้องการใช้เจ้าจัดการฟางหยวน”

 

ไห่ลั่วหลันกล่าวด้วยเสียงสูงขึ้น “โอ้ ดูเหมือนฟางหยวนจะยังไม่ตาย?”

 

“ไม่เพียงเขาจะยังไม่ตาย เขายังได้รับผลประโยชน์มหาศาล!” อิงอู๋เซี่ยไม่ปิดบังความเกลียดชังที่มีต่อฟางหยวน

 

“เจ้าต้องการใช้ประโยชน์จากข้าเพื่อทำร้ายฟางหยวนและยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูงั้นหรือ?” ไห่ลั่วหลันยังถามต่อ

 

“ฮืม!” อิงอู๋เซี่ยก่นเสียงเย็น “แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวกลายเป็นสถานที่รกร้างไปแล้ว ทรัพยากรทั้งหมดของเขาถูกย้ายไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา”

 

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา?”

 

“ฮ่าฮ่า มันเป็นสถานที่ที่เจ้ากับเทพธิดาหลี่ซานต่อสู้กับกลุ่มของฉินไป่เฉิง ไห่เจิ้ง และเทพธิดาเจียงหยู ฟางหยวนไม่ได้บอกเจ้างั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยเย้ยหยัน

 

ไห่ลั่วหลันจมลงสู่ความเงียบ

 

อิงอู๋เซี่ยกล่าวต่อ “แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาคือมิติช่องว่างที่ถูกทิ้งไว้โดยบรรพชนผมยาว มันเคยเป็นถ้ำสวรรค์ก่อนที่จะลดระดับมาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งของโลกใบนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือถูกทำลายไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีแดนศักดิ์สิทธิ์ใดสามารถเปรียบเทียบกับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา”

 

“ฟางหยวนไม่เพียงย้ายทรัพยากรไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแต่เขายังเข้าร่วมนิกายหลางหยาและกลายเป็นคนรับใช้ของเผ่ามนุษย์ขนเพื่อต่อต้านเผ่ามนุษย์!”

 

การแสดงออกของไห่ลั่วหลันเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องนี้

 

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มราวกับรู้ความคิดของนาง “เจ้าเดาถูก ข้ามีสายลับอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ข้ารู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟางหยวนจะไม่สามารถวิ่งไปรอบๆได้นานนัก สำหรับเจ้า เจ้าทำได้เพียงเข้าร่วมกับข้าเพื่อมีชีวิตต่อไปเท่านั้น”

 

ทิวทัศน์ของภูเขาอี้เทียนปรากฏขึ้นในใจของไห่ลั่วหลันอีกครั้ง

 

ร่างกายใหญ่โตของเทพปีศาจจิตวิญญาณยังฝังแน่นอยู่ในหัวใจของนาง

 

‘เทพปีศาจจิตวิญญาณ…’ ไห่ลั่วหลันพึมพำอยู่ในใจก่อนจะเปิดปากกล่าวด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม “สถานการณ์ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของข้า ข้าจะเข้าร่วมกับเจ้า แต่ข้าขอเตือนเจ้า กระทั่งเจ้าจะต้องการให้ข้าจัดการฟางหยวน แต่ข้ายังมีสัญญาพันธมิตรกับเขา”

 

“เพียงสัญญาพันธมิตร ข้าสามารถกำจัดออกไปได้อย่างง่ายดาย” อิงอู๋เซี่ยกล่าวด้วยความมั่นใจ

 

ไห่ลั่วหลันถาม “เจ้าแน่ใจงั้นหรือ? สัญญาพันธมิตรของพวกเราระบุรายละเอียดไว้ชัดเจนมาก หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำลายข้อตกลง อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องทำตามข้อตกลงอีกต่อไป”

 

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกยุ่งยากเล็กน้อย “โอ้ เช่นนั้นหากข้าช่วยเจ้ากำจัดสัญญาพันธมิตร มันก็คือการช่วยฟางหยวนกำจัดสัญญาพันธมิตรทางอ้อมงั้นหรือ?”

 

ไห่ลั่วหลันพยักหน้า “ถูกต้อง”

 

ฟางหยวนคิดถึงสถานการณ์นี้เอาไว้แล้ว ก่อนหน้าเขาเกรงว่าเทพธิดาหลี่ซานจะลบข้อตกลง ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า

 

แต่สิ่งต่างๆกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เรื่องไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นในชีวิตเสมอ

 

ตอนนี้เทพธิดาหลี่ซานเสียชีวิตแต่อิงอู๋เซี่ยกลับต้องการช่วยไห่ลั่วหลันลบข้อตกลง

 

‘การสร้างข้อตกลงพันธมิตรคือการทิ้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลเอาไว้ทั้งบนร่างกายและดวงวิญญาณ ในการลบข้อตกลง ข้าต้องลบร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านั้น’ อิงอู๋เซี่ยคิด

 

‘มันเป็นเรื่องง่ายที่ข้าจะกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของไห่ลั่วหลันโดยใช้ค่ายกลวิญญาณแต่วิธีนี้จะช่วยฟางหยวนเช่นกัน’

 

อิงอู๋เซี่ยไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น

 

ในความคิดของอิงอู๋เซี่ย สถานการณ์ที่ดีที่สุดก็คือไห่ลั่วหลันเป็นอิสระจากข้อตกลงขณะที่ฟางหยวนยังถูกกักขังเอาไว้

 

ด้วยวิธีนี้ ในการกำจัดฟางหยวน ไห่ลั่วหลันจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ

 

‘แท้จริงแล้วไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ตราบเท่าที่ข้าสามารถค้นหาร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่เป็นจุดเชื่อมต่อและทำลายมันก่อน’

 

บนร่างของไห่ลั่วหลันต้องมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่ระบุว่า ‘หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำลายข้อตกลง อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องทำตามข้อตกลงอีกต่อไป’

 

อิงอู๋เซี่ยต้องค้นหาร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋านี้และทำลายมันเป็นอันดับแรกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เขาต้องการ

 

‘แต่มันยากมาก…’ อิงอู๋เซี่ยขมวดคิ้วลึก

 

หากผิดพลาดเพียงเล็กน้อย พวกเขาจะได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง

 

‘บัดซบ! ฟางหยวนผู้นี้รอบคอบเกินไป! แผนการของเขาไร้ที่ติ!’ อิงอู๋เซี่ยรู้สึกถึงปัญหา

 

หากเป็นก่อนการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เรื่องนี้จะไม่ใช่ปัญหา อิงอู๋เซี่ยสามารถขอให้สมาชิกนิกายเงาบางคนหรือกระทั่งร่างหลักจัดการมันได้อย่างง่ายดาย

 

แต่สถานการณ์ในเวลานี้แตกต่างออกไป

 

หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน นิกายเงาพบความสูญเสียครั้งใหญ่ พวกเขาเหลือสมาชิกอยู่เพียงเล็กน้อย

 

อิงอู๋เซี่ยรู้ว่ากระทั่งเขาจะพยายามสร้างนิกายเงาขึ้นมาใหม่ มันก็ไม่สามารถบรรลุถึงระดับเดิม

 

‘หากเป็นเช่นนี้คุณค่าของไห่ลั่วหลันจะลดลงอย่างมาก ข้าควรสังหารนางและใช้ร่างของนางลบสถานะผีดิบของข้าหรือไม่?’ อิงอู๋เซี่ยคิด

 

แต่หลังจากพิจารณา เขาปฏิเสธความคิดนี้

 

‘การฟื้นคืนสู่ชีวิตด้วยมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตายมีจุดอ่อนมากมาย หากข้าโชคไม่ดี มิติช่องว่างของข้าอาจระเบิด หากข้าใช้ร่างผีดิบอมตะทั่วไปสร้างมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตาย มันจะมีความเสี่ยงน้อยกว่า’

 

เมื่อคิดถึงมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตาย ช่วยไม่ได้ที่อิงอู๋เซี่ยจะคิดไปถึงวิญญาณทารกอมตะ

 

เขากัดฟันแน่นขณะที่ความรู้สึกเกลียดชังที่มีต่อฟางหยวนทวีความรุนแรงมากขึ้น

 

หลังจากคิดค้นมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตาย นิกายเงาและเทพปีศาจจิตวิญญาณยังทุ่มเทความพยายามในการพัฒนาวิญญาณทารกอมตะ แต่สุดท้ายฟางหยวนกลับฉกชิงมันไป ความพยายามทั้งหมดของพวกเขากลายเป็นสูญเปล่า ความเกลียดชังนี้ฝังลึกเกินกว่าที่จะแก้ไข

 

‘ลืมมันไปซะ ข้าควรปลดปล่อยไห่ลั่วหลัน ตอนนี้ข้ากำลังขาดแคลนกำลังคน พรสวรรค์ของไห่ลั่วหลันยอดเยี่ยมมาก นางจะเป็นผู้ติดตามที่ดี’

 

‘ฟางหยวน วันหนึ่งเจ้าจะต้องตกอยู่ในกำมือของข้า เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะดึงเส้นเอ็นทุกเส้นของเจ้าออกมา ข้าจะถลกผิวหนังทั้งหมดของเจ้าและใช้มันหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะอีกครั้ง!’

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset