Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1030

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1030 ไห่ลั่วหลันรู้ความจริง

แปลโดย iPAT 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนเคยได้ยินเกี่ยวกับวิญญาณโชคอึสุนัข

 

ในสถานการณ์ปัจจุบันการเปิดเผยวิญญาณกาลเวลาไม่ใช่เรื่องใหญ่

 

ผู้อมตะวังสวรรค์รู้เรื่องนี้ นั่นหมายความว่านิกายโบราณทั้งสิบก็ต้องรู้และโลกของผู้อมตะก็ต้องรู้เช่นเดียวกัน

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวต่อ “น่าเสียดายที่วิญญาณกาลเวลาดวงนี้เป็นวิญญาณระดับหก หากเป็นวิญญาณกาลเวลาระดับเก้า เจ้าจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้วิญญาณกาลเวลาอยู่ในมือของอิงอู๋เซี่ย เราไม่สามารถให้เขาใช้งานมันได้! ข้ามีวิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพียงเล็กน้อย แต่มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะต่อต้านวิญญาณกาลเวลาระดับหก”

 

“ต่อต้านวิญญาณกาลเวลา?” ฟางหยวนรู้สึกสนใจมาก ในความเป็นจริงเขากังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากที่สุด

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวต่อ “วิญญาณกาลเวลาเป็นเพียงวิญญาณระดับหก มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการโดยเฉพาะเมื่อเรารู้ว่าผู้ใดครอบครองมันอยู่ มันอาจเป็นวิญญาณหลักของเทพปีศาจบัวแดง แต่แล้วอย่างไร? มีเพียงผู้ใช้วิญญาณที่ไม่อาจเอาชนะ แต่ไม่มีวิญญาณที่ไม่สามารถเอาชนะ บนโลกใบนี้เส้นทางแห่งกาลเวลาไม่ได้ยิ่งใหญ่ที่สุด ทุกเส้นทางล้วนมีความแข็งแกร่งของตนเอง แต่หากเราใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลา มันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการต่อต้านวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลา”

 

ฟางหยวนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำกล่าวของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

วิญญาณกาลเวลามีความสามารถที่น่าอัศจรรย์ แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีวิธีต่อต้าน มนุษย์คือจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด วิญญาณคือแก่นแท้แห่งสวรรค์พิภพ ธรรมชาติจะรักษาสมดุลของมันเสมอ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้หากจะมีวิธีการบางอย่างสามารถต่อต้านวิญญาณกาลเวลา

 

‘ตั้งแต่กำเนิดใหม่ ข้าคิดว่าวิญญาณกาลเวลาเป็นไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้ามาตลอด ผู้ใดจะคิดว่าวันหนึ่งข้าจะต้องจัดการมัน’ ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

ขณะที่เขากำลังติดต่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ในเวลาเดียวกันที่ภาคกลาง

 

หุบเขาหมิงเติ้ง

 

นี่เป็นหุบเขาที่มีชื่อเสียงของภาคกลาง

 

มันอยู่ภายใต้การปกครองของนิกายเมฆาวายุและนิกายบัวสวรรค์ สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ให้กำเนิดวิญญาณบนเส้นทางแห่งแสง

 

ลึกเข้าไปในหุบเขา มีปีศาจอมตะซ่อนตัวอยู่

 

เขาคือขุนเขาที่ไม่สามารถเคลื่อนย้าย กงซุนเหลียง

 

ทันใดนั้นเขาพลันเปิดเปลือกตาขึ้น

 

“มีบางคนติดต่อข้างั้นหรือ?” เขาพึมพำเบาๆ ความสงสัยบนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดจริงจังหลังจากนั้น

 

เขาเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างของตนและใช้วิธีการสื่อสารบางอย่าง

 

“นายท่าน ท่านต้องการยืมวิญญาณอมตะของข้างั้นหรือ?”

 

อีกด้านหนึ่ง ในส่วนลึกของถ้ำนรกใต้พิภพ อิงอู๋เซี่ยตอบกลับ “ถูกต้อง”

 

กงซุนเหลียงเปิดเปลือกตาขึ้นด้วยความลังเล

 

เขาเป็นปีศาจอมตะที่ถูกไล่ล่าโดยเฉพาะจากนิกายโบราณทั้งสิบ

 

เขาใช้ชีวิตเหมือนคนจรจัด ครั้งหนึ่งเมื่อเขาตกลงสู่หลุมพรางของศัตรูและเกือบเสียชีวิต เขาถูกช่วยไว้โดยชายลึกลับผู้หนึ่ง

 

กงซุนเหลียงไม่เพียงสามารถรักษาชีวิต เขายังสามารถเข้าร่วมกับองค์กรลึกลับ

 

มันมีชื่อว่า ท้าทายสวรรค์

 

สมาชิกขององค์กรถูกเรียกด้วยตัวเลข

 

ปราศจากความช่วยเหลือจากองค์กรนี้ กงซุนเหลียงจะไม่มีชีวิตที่สงบสุขเช่นวันนี้

 

เมื่อเวลาผ่านไปเขาเริ่มเห็นความสำคัญขององค์กรนี้มากขึ้นและสามารถคาดเดาแรงจูงใจของพวกเขาได้บ้าง

 

‘ตัวเลขระบุตัวตนของสมาชิกหมายถึงลำดับก่อนหลังในการเข้าร่วมและสถานะของพวกเขา นายท่านอยู่บนจุดสูงสุด เขาเป็นผู้สร้างนิกายท้าทายสวรรค์ แต่ตอนนี้เขากลับขอยืมวิญญาณอมตะจากข้า…’

 

หลังจากลังเลอยู่นาน กงซุนเหลียงทำได้เพียงกัดฟันและพยักหน้า

 

ภาคกลาง นิกายดาบสวรรค์

 

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งดาบสองคน เหมาจุน และ เหมาอวี๋ กำลังปรึกษากันเกี่ยวกับปัญหาของนิกาย

 

ทันใดนั้นร่างกายของเหมาจุนพลันสั่นสะท้านขึ้นเมื่อได้รับข้อความจากอิงอู๋เซี่ย

 

เหมาจุนกล่าวกับเหมาอวี๋ด้วยความลังเล “นายท่านติดต่อมา ท่านต้องการยืมวิญญาณอมตะของพวกเรา”

 

เหมาอวี๋ขมวดคิ้ว “คนผู้นี้ลึกลับเกินไป เราพึ่งเข้าร่วมนิกายท้าทายสวรรค์ได้เพียงไม่นาน เราไม่เคยได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับเขา แต่ตอนนี้เขากลับติดต่อมาเพื่อขอยืมวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

 

เหมาจุนพยักหน้า “เราเข้าร่วมนิกายท้าทายสวรรค์เพราะต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา แต่ก่อนหน้านี้เมื่อพวกเราพยายามแยกตัวออกจากนิกายกระเรียนอมตะ พวกเขากลับไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ ตอนนี้เขากลับต้องการยืมวิญญาณอมตะของพวกเรา ช่างไร้ยางอายนัก!”

 

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา สมาชิกบางคนของนิกายดาบสวรรค์ก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นกองกำลังที่มีผู้อมตะสามคน

 

นิกายดาบสวรรค์เป็นกองกำลังย่อยของนิกายกระเรียนอมตะ แต่เมื่อพวกเขามีผู้อมตะสามคน พวกเขาจึงต้องการแยกตัวออกไป

 

น่าเสียดายที่แผนการของพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จขณะที่ผู้อมตะคนที่สามของนิกายดาบสวรรค์ถูกดึงเข้าสู่นิกายกระเรียนอมตะ

 

หลังจากนั้นเป็นต้นมาชีวิตของเหมาจุนและเหมาอวี๋ก็กลายเป็นยากลำบาก

 

ทั้งสองต้องการหยิบยืมความแข็งแกร่งจากนิกายท้าทายสวรรค์ แต่ความปรารถนาของพวกเขาไม่ได้รับการตอบสนอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีความสุขนัก

 

นี่ทำให้อิงอู๋เซี่ยไม่สามารถยืมวิญญาณอมตะจากพวกเขา

 

“ปัง!”

 

ในห้องลับ อิงอู๋เซี่ยทุบโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าอย่างแรง

 

“ฮืม เหมาจุน เหมาอวี๋…” อิงอู๋เซี่ยกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ

 

แน่นอนว่านิกายท้าทายสวรรค์ถูกสร้างขึ้นโดยนิกายเงา

 

ภาคกลางแตกต่างจากอีกสี่ภูมิภาค วังสวรรค์คือจุดสูงสุด พวกเขาใช้นิกายโบราณทั้งสิบเพื่อควบคุมทรัพยากรทั้งหมด

 

ขณะเดียวกันนิกายขนาดเล็กและขนาดกลางมากมายต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด

 

ผู้ใดบ้างที่จะไม่ต้องการยกระดับ ผู้ใดไม่ต้องการขยายอาณาเขตของตน และผู้ใดจะไม่ต้องการทรัพยากรที่มากขึ้น?

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อมตะ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเป็นครั้งคราว ดังนั้นพวกเขาจึงถูกบังคับให้บ่มเพาะและยกระดับ มิฉะนั้นพวกเขาจะตายในภัยพิบัติ

 

การเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเองไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่มีผู้ใดสามารถทำอาหารโดยปราศจากวัตถุดิบ

 

แต่นิกายโบราณทั้งสิบมีความแข็งแกร่งที่ไม่น่าเชื่อ พวกเขาสามารถยึดครองทรัพยากรส่วนใหญ่ ขณะที่กองกำลังอื่นไม่สามารถรวบรวมความแข็งแกร่งเพื่อต่อต้านพวกเขา

 

ผู้คนที่มีความทะเยอทะยานสังเกตเห็นสิ่งนี้และพยายามรวมกลุ่มทุกประเภท

 

แต่พันธมิตรเหล่านี้ไม่แข็งแรง เนื่องจากนิกายโบราณทั้งสิบพยายามสร้างปัญหาทุกประเภทให้กับพวกเขา

 

แน่นอนว่าปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่เพียงพอที่จะท้าทายนิกายโบราณทั้งสิบของภาคกลาง

 

ดังนั้นนิกายเงาจึงสร้างนิกายท้าทายสวรรค์ขึ้นอย่างลับๆและพยายามรวบรวมสมาชิกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง

 

แต่นี่เป็นเพียงแผนการเล็กๆของพวกเขา นิกายเงาไม่ได้คาดหวังกับมันมากนัก

 

ยิ่งมีสมาชิกมากเท่าใด มันก็ยิ่งจัดการได้ยากเท่านั้น

 

นอกจากนี้สมาชิกขององค์กรไม่ใช่ปีศาจต่างโลก พวกเขาไม่สามารถหลบหนีจากชะตากรรมและต่อต้านเจตจำนงสวรรค์

 

นี่เป็นเหตุให้ผู้คนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในแผนการหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

แต่หลังจากนิกายเงาล้มเหลว อิงอู๋เซี่ยยังสามารถใช้ประโยชน์จากนิกายท้าทายสวรรค์

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่ประสบความสำเร็จมากนักในการยืมวิญญาณอมตะ

 

มีเพียงตัวตนเช่นกงซุนเหลียงที่ไร้ผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเท่านั้นจึงจะให้อิงอู๋เซี่ยยืมวิญญาณอมตะเพราะไม่มีทางเลือก

 

อิงอู๋เซี่ยใช้เวลาค่อนข้างนานในการหยิบยืมวิญญาณอมตะขณะที่วิญญาณของฟางหยวนค่อยๆระเบิดตัวเองไปทีละดวง

 

แต่สุดท้ายอิงอู๋เซี่ยก็สามารถควบคุมสถานการณ์และป้องกันไม่ให้วิญญาณเหล่านั้นทำลายตัวเอง

 

“ฟางหยวน ครั้งนี้เจ้าทำได้ดีมาก! เจ้าช่างเด็ดเดี่ยวนัก!” ท่ามกลางความมืด อิงอู๋เซี่ยแสดงออกอย่างเคร่งขรึม “แต่มีเพียงคนที่มีความสามารถเช่นเจ้าเท่านั้นที่มีคุณสมบัติฉกชิงทารกอมตะ!”

 

หลังจากปรับแต่งวิญญาณทั้งหมดของฟางหยวน อิงอู๋เซี่ยยังใช้วิญญาณอมตะที่ยืมมากำจัดเจตจำนงปลอมที่อยู่ในใจของเขาออกไป

 

แต่ระหว่างนี้เขาตระหนักถึงการเคลื่อนไหวของไห่ลั่วหลัน

 

ไห่ลั่วหลันนั่งอยู่บนเตียงหินและเปิดเปลือกตาขึ้น

 

นางขมวดคิ้วและเผยให้เห็นถึงความกังวลในดวงตา

 

ท่ามกลางความมืด นางได้ยินเสียงของอิงอู๋เซี่ย “ไห่ลั่วหลัน หยุดพยายามได้แล้ว เจ้าไม่สามารถเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลืองในสถานที่แห่งนี้”

 

ไห่ลั่วหลันกำลังจะกล่าวแต่กลับถูกขัดจังหวะโดยอิงอู๋เซี่ย “เจ้าไม่จำเป็นต้องแสร้งแสดงละคร ข้ารู้ว่าเจ้าสงสัยในตัวข้า เช่นนั้นข้าก็จะบอกเจ้า ข้าไม่ใช่ฟางหยวน ชื่อของข้าคืออิงอู๋เซี่ย”

 

การแสดงออกของไห่ลั่วหลันเปลี่ยนแปลงไปทันที

 

หลังจากทั้งหมดนางไม่ใช่ไท่เป่ยหยุนเฉิงที่สามารถหลอกลวงได้โดยง่าย

 

ตั้งแต่ฟางหยวนตื่นขึ้นจากอาณาจักรแห่งความฝัน เขาทำตัวแปลกประหลาดมาโดยตลอด ไห่ลั่วหลันไม่สามารถระงับความสงสัยที่อยู่ในใจ แต่เวลานั้นนางต้องพึ่งพาวิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อหลบหนีออกจากภาคใต้เป็นอันดับแรก

 

มีค่ายกลวิญญาณมากมายอยู่ในสถานที่แห่งนี้ มันทำให้ไห่ลั่วหลันไม่สามารถเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลือง

 

นี่ทำให้ไห่ลั่วหลันสงสัยตัวตนของอิงอู๋เซี่ยมากขึ้นไปอีก

 

แต่ตอนนี้เมื่ออิงอู๋เซี่ยบอกความจริงกับนางโดยตรง นางจึงไม่รู้ว่าควรแสดงออกอย่างไร

 

อิงอู๋เซี่ยยังกล่าวต่อ “ข้าเป็นหนึ่งในร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่เข้ายึดร่างของฟางหยวน ตอนนี้เจ้ามีทางเลือกสองทาง หนึ่งคือตาย สองคือทิ้งฟางหยวนและเข้าร่วมกับข้า”

 

ในมุมมองของอิงอู๋เซี่ย ไห่ลั่วหลันครอบครองสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงและสามารถหลบหนีจากชะตากรรม นางถือเป็นตัวหมากชั้นยอด

 

แต่หากไห่ลั่วหลันไม่รู้ว่าสิ่งใดดีต่อตัวนาง อิงอู๋เซี่ยก็พร้อมที่จะสังหารนางและใช้ศพของนางเพื่อลบสถานะผีดิบอมตะ

 

ด้วยค่ายกลวิญญาณทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ อิงอู๋เซี่ยมั่นใจมากว่าตนเองสามารถเอาชนะไห่ลั่วหลัน

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset