เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1029 วิญญาณโชคอึสุนัข
แปลโดย iPAT
‘ตอนนี้ทรัพยากรในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว’ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจสำคัญ ฟางหยวนจึงสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาเป็นคนที่จะคำนึงถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก่อนเสมอ ตอนนี้ไม่ว่าอิงอู๋เซี่ยจะตอบสนองอย่างไร ความสูญเสียของฟางหยวนก็จะลดลงอย่างมาก
สถานการณ์ของอิงอู๋เซี่ยกับฟางหยวนสลับกันด้วยวิธีนี้
เป้าหมายของฟางหยวนคือชีวิตนิรันดร์ ร่างกายภาพไม่ต่างจากเสื้อผ้าอาภรณ์สำหรับเขา เขาไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนชุดใหม่ สิ่งที่เขาสนใจมีอยู่สามประการ
หนึ่ง วิญญาณชุดเดิมของเขา
สอง ทรัพยากรในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว
สาม ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไท่เป่ยหยุนเฉิง ไห่ลั่วหลัน จิตวิญญารแผ่นดินหลางหยา และกองกำลังอื่นๆ
ฟางหยวนจ้องมองท้องฟ้าที่มืดมิดขณะที่สายลมทำให้กิ่งต้นสนสั่นไหว
เขาครุ่นคิดกับตนเอง ‘ตอนนี้วิญญาณท่องแดนอมตะควรจะระเบิดตัวเองไปแล้ว ต่อไปก็เป็นวิญญาณดวงอื่นๆ ข้าสงสัยว่าอิงอู๋เซี่ยจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?’
‘มีความหวังเพียงเล็กน้อยที่ข้าจะสามารถนำวิญญาณเหล่านั้นกลับมา ตอนนี้ทรัพยากรทั้งหมดของข้าถูกย้ายไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเรียบร้อยแล้วขณะที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูถูกยึดครองโดยผู้อมตะภาคกลาง สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวที่อยู่ในถ้ำนรกใต้พิภพ มีเพียงไห่ลั่วหลันและไท่เป่ยหยุนเฉิงที่รู้เรื่องนี้’
ฟางหยวนไตร่ตรอง
ในแง่มุมที่สาม ความสัมพันธ์ระหว่างฟางหยวนกับนิกายคฤหาสน์วิญญาณและนิกายกระเรียนอมตะถูกทำลายลงแล้ว
ความจริงเบื้องหลังการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงถูกเปิดเผยออกไปแล้ว วังสวรรค์ย่อมต้องติดตามเอาความเรื่องนี้กับฟางหยวน อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยอยู่ในร่างเดิมของฟางหยวน นั่นหมายความว่าเขาอาจพบปัญหาเช่นกัน
ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก
สิ่งที่ฟางหยวนกังวลก็คือไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน
เทพธิดาหลี่ซานและนางมารผลาญสวรรค์เสียชีวิตไปแล้ว คุณค่าของไห่ลั่วหลันลดลงอย่างรวดเร็ว แต่นางยังเป็นผู้อมตะที่ครอบครองสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง นอกจากนั้นในชีวิตก่อนหน้านางยังเคยเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณและสิ่งที่ไม่สามารถลืมก็คือโชคและนิสัยที่น่าเกรงขามของนาง
ด้านไท่เป่ยหยุนเฉิง เขามีวิญญาณอมตะเพียงสองดวง แต่พวกมันกลับล้ำค่ามาก
ฟางหยวนเกรงว่าคนทั้งสองจะถูกอิงอู๋เซี่ยหลอกใช้และหันมาสร้างปัญหาให้กับเขา
ด้วยเหตุนี้หลังจากจัดการเรื่องแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว ฟางหยวนจึงพยายามติดต่อไห่ลั่วหลันและไท่เป่ยหยุนเฉิงผ่านสวรรค์สีเหลือง พวกเขาทิ้งเจตจำนงไว้ที่นั่น นี่เป็นการเตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
อย่างไรก็ตามแม้ฟางหยวนจะสามารถติดต่อเจตจำนงของไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงที่อยู่ในสวรรค์สีเหลือง มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถติดต่อคนทั้งสองได้อย่างแท้จริง
เพียงเมื่อไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลืองและรับเจตจำนงของพวกเขากลับไป พวกเขาจึงจะได้รับข้อความที่ฟางหยวนทิ้งไว้
เมื่อไม่ได้รับการติดต่อกลับจากพวกเขา สายตาของฟางหยวนยิ่งเผยให้เห็นถึงความกังวล
ฟางหยวนหยุดคาดหวังและหันไปติดต่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
ครั้งนี้เขาได้รับการติดต่อกลับทันที
“เด็กบ้า! เจ้าติดต่อข้าในที่สุด!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากรีดร้องด้วยความตื่นเต้น
ในความเป็นจริงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารับปากช่วยย้ายทรัพยากรให้กับฟางหยวนเนื่องจากสถานะผู้อาวุโสนอกของฟางหยวนเท่านั้น
แต่เมื่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเห็นภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป โดยเฉพาะวิญญาณสติปัญญา เขาตกใจมาก
เขาไม่คาดหวังว่าทรัพยากรของฟางหยวนจะล้ำค่าถึงเพียงนี้
มันล้ำค่าจนไม่น่าเชื่อ
เมื่อได้ยินคำกล่าวของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ฟางหยวนเผยรอยยิ้มราวกับเห็นลิงกอริลลากำลังกระโดดไปมาด้วยการแสดงออกที่มากเกินจริง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีต้นกำเนิดจากบรรพชนผมยาว ตอนนี้เขาอยู่ในบุลลิกที่ก้าวร้าวและทะเยอทะยาน
อย่างไรก็ตามเขายังเป็นเพียงจิตวิญญาณแผ่นดินที่ตรงไปตรงมาและสามารถรับมือได้ง่ายกว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์
เมื่อเห็นฟางหยวนยังเงียบ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงไม่สามารถอดทน “ฟางหยวน นิกายหลางหยาให้ความช่วยเหลือเจ้าอย่างมากในครั้งนี้ หากเจ้าสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป เจ้าจะไม่ทุบศีรษะตนเองให้ตายงั้นหรือ? แล้วเจ้าจะตอบแทนข้าอย่างไร?”
เขาหยุดก่อนกล่าวต่อ “เด็กบ้า! บริจาคสิ่งเหล่านี้ให้กับนิกาย ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าพบกับความสูญเสียอย่างแน่นอน เจ้าเป็นผู้อาวุโสนอกของนิกายหลางหยา ข้าจะมอบแต้มผลงานจำนวนนับไม่ถ้วนให้เจ้า! แต้มผลงานเหล่านี้สามารถแลกเปลี่ยนเคล็ดลับการหลอมรวมและวิญญาณอมตะมากมาย!”
ตั้งแต่ฟางหยวนขอความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว ทุกคนที่ได้เห็นภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญา หัวใจของพวกเขาจะต้องสั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย กระทั่งจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอาจเป็นคนตรงไปตรงมาและดื้อรั้น แต่เขาไม่ใช่คนโง่
ฟางหยวนตอบอย่างใจเย็น “ข้าเป็นผู้อาวุโสนอกของนิกายหลางหยา สิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติของข้า ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านคงไม่คิดที่จะฉกชิงพวกมันไปจากข้าใช่หรือไม่?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะก่อนตะโกน “หากข้ารู้เรื่องนี้ก่อน ข้าจะไม่ให้เจ้าเป็นผู้อาวุโสนอกของนิกายหลางหยาและจะยึดสมบัติเหล่านี้เอาไว้โดยตรง! บัดซบ! ข้าพูดความคิดออกไปอีกครั้ง!”
ฟางหยวนหัวเราะ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทำข้อตกลงกับฟางหยวนเรียบร้อยแล้ว มันสายเกินไปที่เขาจะยกเลิก อย่างน้อยที่สุดในปัจจุบันเขาก็ไม่มีวิธีฝ่าฝืนข้อตกลง
แม้เขาจะต้องการทำลายข้อตกลง เขาก็ยังต้องใช้เวลาเตรียมตัว
เนื่องจากจิตวิญญาณแผ่นดินไม่สามารถโกหก ฟางหยวนจึงทดสอบเพื่อดึงข้อมูลเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
ตอนนี้เขาเข้าใจสถานภาพของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาแล้ว
ยิ่งคิดฟางหยวนก็ยิ่งมั่นใจว่ามันดีที่สุดที่จะฝากภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญาไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปเคยเป็นสมบัติของเทพปีศาจจิตวิญญาณมาก่อน หากวิญญาณท่องแดนอมตะไม่ถูกทำลาย อิงอู๋เซี่ยจะสามารถเดินทางไปยังสถานที่ทั้งสองได้โดยตรง
หากฟางหยวนวางภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปไว้ในมิติช่องว่างของตน มันอาจเป็นการเปิดประตูให้ขโมยเข้าบ้าน
สำหรับวิญญาณสติปัญญา ฟางหยวนไม่สามารถใช้งานมันได้ในช่วงเวลานี้
ตอนนี้เขาอยู่ในร่างใหม่ซึ่งแตกต่างจากร่างเดิมที่เป็นผีดิบอมตะ
ในร่างผีดิบอมตะ ฟางหยวนไม่ต้องกลัวแสงแห่งปัญญา แต่ตอนนี้หากเขาเข้าไปในอาณาเขตของแสงแห่งปัญญา อายุขัยของเขาจะลดลงอย่างรวดเร็ว นี่เป็นราคาที่ฟางหยวนไม่สามารถยอมรับ
ดังนั้นในช่วงเวลานี้มันจะดีที่สุดหากเขาไม่ใช้วิญญาณสติปัญญา
‘ข้าได้รับมิติช่องว่างจักรพรรดิแต่สูญเสียการสนับสนุนจากวิญญาณสติปัญญา มันเป็นผลกำไรที่ได้มาพร้อมกับความสูญเสีย แต่วันหนึ่งข้าจะหาวิธีใช้งานวิญญาณสติปัญญาด้วยร่างมนุษย์ที่มีชีวิต ในช่วงเวลานี้มันจะดีกว่าที่จะให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปกป้องวิญญาณสติปัญญาให้ข้า’
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฟางหยวนจึงเปิดปากกล่าว “ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านต้องการให้ข้ามอบสมบัติทั้งสามให้กับนิกาย นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างความร่วมมือ ข้าสามารถให้นิกายหลางหยาใช้งานภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญา แต่นิกายต้องดูแลพวกมันให้ข้า หากเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น ท่านจะต้องชดใช้ให้ข้าสิบเท่า แน่นอนว่าท่านสามารถชดเชยด้วยแต้มผลงานบางส่วน”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะโกนด้วยความสุข “เด็กน้อย เจ้าช่างมีไหวพริบ ดี นั่นเป็นสิ่งที่เหมาะสม ข้าจะให้เด็กๆของข้าใช้ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปในการเสริมสร้างและขัดเกลาจิตวิญญาณ นี่จะเป็นตัวช่วยชั้นยอดในการหลอมรวมวิญญาณ วิญญาณสติปัญญาก็เช่นกัน ฮ่าฮ่า มันคือวิญญาณระดับเก้าบนเส้นทางแห่งปัญญา ในอดีตมันเป็นวิญญาณหลักของเทพอมตะกลุ่มดาว ฮ่าฮ่าฮ่า การใช้มันในการอนุมานเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเกินไป”
ฟังจากน้ำเสียงของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ชัดเจนว่าเขารู้วิธีใช้งานมัน ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องเปิดปากถามอย่างช่วยไม่ได้
แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ใช่คนโง่ เขาหัวเราะเบาๆ “หากเจ้าอยากรู้วิธีใช้งานวิญญาณสติปัญญา เจ้าสามารถใช้แต้มผลงานในการแลกเปลี่ยน!”
ทั้งสองเจรจากันอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะสามารถสร้างข้อตกลงทั้งหมด
ฟางหยวนยังกล่าวถึงทาสอมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจง นี่เป็นความสัมพันธ์ที่ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันล่วงรู้ ดังนั้นมันจะดีที่สุดหากจ้าวจงและเผ่ามนุษย์วิหคจะย้ายไปอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นการชั่วคราว
สำหรับทาสมนุษย์ขน หลังจากทะเลาะกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ทาสมนุษย์ขนยังเป็นของฟางหยวนแต่เขาต้องยกเลิกสถานะทาส พวกมันจะถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนในนิกายหลางหยาเท่านั้น
เนื่องจากตัวตนที่แท้จริงของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็คือมนุษย์ขน ดังนั้นเขาจึงมีความรักในเผ่าพันธุ์ของตนและยังต้องการนำเผ่ามนุษย์ขนปกครองโลกอีกด้วย แน่นอนว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาย่อมไม่ปล่อยให้ฟางหยวนกดขี่ชนเผ่าของเขา
มันดีมากแล้วที่เขาอนุญาตให้มนุษย์ขนเหล่านี้อยู่ใต้การบังคับบัญชาของฟางหยวนขณะที่ฟางหยวนก็มีความสุขกับเงื่อนไขนี้
ตราบเท่าที่ฟางหยวนต้องการหลอมรวมวิญญาณ เขายังสามารถใช้งานพวกมันได้ไม่ต่างจากก่อนหน้า
นอกจากนั้นด้วยรากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกมันยังสามารถยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดฟางหยวนก็บอกข้อมูลเกี่ยวกับอิงอู๋เซี่ยและนิกายเงาให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารับรู้อย่างคร่าวๆ
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยานิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนจะสามารถตอบสนอง
“เช่นนั้นเจ้าก็มีวิญญาณกาลเวลาที่เป็นวิญญาณหลักของเทพปีศาจบัวแดง!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากรีดร้อง “เด็กบ้า! โชคของเจ้าช่างบัดซบราวกับอึสุนัข! โอ้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้ามีวิญญาณหลักของเทพอมตะตะวันเดือด วิญญาณโชคอึสุนัข!”
“วิญญาณหลักของเทพอมตะตะวันเดือดไม่ใช่วิญญาณโชคชะตาท้าทายสวรรค์แต่เป็นวิญญาณโชคอึสุนัขงั้นหรือ?”
จิตวิญญาณแผ่นดินเย้ยหยัน “เขาหลอมรวมวิญญาณโชคชะตาท้าทายสวรรค์ในช่วงปีหลังๆของชีวิต ในช่วงแรกของชีวิต วิญญาณโชคอึสุนัขเป็นวิญญาณหลักของเขา ข้าเคยร่วมมือกับเขาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แล้วข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?”