เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 991 ฉกชิงมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
แปลโดย iPAT
ฟางหยวนไม่ทราบเหตุผลหรือแหล่งที่มา แต่เมื่อบทเพลงของเทพอมตะกลุ่มดาวดังขึ้น ข้อมูลจำนวนมากก็พุ่งเข้าสู่จิตใจของเขาทันที
หนึ่งในข้อมูลเหล่านี้บอกว่าหุบเขาเหล่าโปซ่อนมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เอาไว้
แม้มันจะน่าสงสัยแต่ฟางหยวนก็ถูกล่อลวงอย่างช่วยไม่ได้
‘นี่เป็นกับดักที่ผู้อมตะภาคกลางทิ้งไว้หรือไม่? พวกเขาอาจใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อล่อลวงศัตรูที่เข้ามาในหุบเขา?’
ฟางหยวนสงบจิตใจลงและเริ่มสำรวจพื้นที่
หลังจากทั้งหมดบทเพลงของเทพอมตะกลุ่มดาวดังขึ้นอย่างกะทันหันและหายไปอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนตรวจสอบแต่ยังไม่พบสิ่งใด
เขาไตร่ตรองและรู้สึกว่าข้อมูลที่ได้รับมีความน่าเชื่อถือ
เหตุผล?
หนึ่ง มันเป็นบทเพลงของเทพอมตะกลุ่มดาว สอง ข้อมูลที่เขาได้รับบอกวิธีเข้าสู่ด่านรับสืบทอดมรดกแห่งนี้
‘ข้าเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา วิธีทั่วไปของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาไม่สามารถหลอกลวงข้า นอกจากนี้ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเพียงหนึ่งเดียวของกลุ่มผู้อมตะภาคกลางเฒ่าพยากรณ์ก็ตายไปแล้วในการต่อสู้ร้อยวัน เรื่องนี้ง่ายมาก ข้าเพียงต้องทดสอบมันด้วยตนเอง’
ฟางหยวนตัดสินใจและเคลื่อนที่ไปยังจุดหมาย
ด้วยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา ฟางหยวนสามารถเดินอ้อมค่ายกลวิญญาณที่ถูกทิ้งไว้และบรรลุถึงสถานที่เป้าหมายในที่สุด
ฟางหยวนตรวจสอบเป็นเวลานานแต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ
สถานที่แห่งนี้ปลอดภัยมาก ฟางหยวนไม่พบกับดักใดๆทั้งสิ้น
หลังจากยืนยันความปลอดภัยซ้ำแล้วซ้ำอีก ฟางหยวนจึงตัดสินใจเปิดประตูด่านรับสืบทอดมรดกตามวิธีการที่ได้รับ
ในชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนเคยใช้วิญญาณเปิดประตูเพื่อเข้าสู่ด่านรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เช่นกัน แต่เขาไม่ได้รับสิ่งใดและคิดว่ามันถูกนิกายเงายึดครองไปแล้ว
แต่ในชีวิตนี้เมื่อฟางหยวนเปิดประตู เหตุการณ์กลับแตกต่างออกไป
ลำแสงสายหนึ่งพลันแผ่พุ่งลงมา
ฟางหยวนตกใจแต่เขาก็ปล่อยให้ลำแสงกลืนกินเขาเข้าไป
ในเวลาต่อมาฟางหยวนถูกนำเข้าสู่ด่านรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
เขาก้าวเท้าออกไปจากเสาแสงและพบกับพื้นที่ขนาดใหญ่
ด้านหลังเขาคือเสาแสงสายเดิมที่นำเขาเข้ามา มันยังคงอยู่แต่เริ่มหดเล็กลงเรื่อยๆ
เสียงลมดังขึ้น ฟางหยวนหันหน้าไปทางแหล่งที่มาของเสียง
“ลมมรณะ!” เขาอุทาน
นี่เป็นฉากที่เขาเคยเห็น เขารู้จักพลังอำนาจของลมมรณะเป็นอย่างดีจากแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือ
ตอนนี้ลมมรณะกำลังกลืนกินด่านรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เข้าไปอย่างช้าๆ
เขาล่าถอยออกไปหลายร้อยก้าวและรู้สึกดีใจเล็กน้อยเพราะนี่คือการยืนยันว่ามีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์อยู่ที่นี่จริงๆ
‘ข้อมูลเหล่านั้นเป็นเรื่องจริง!’ ฟางหยวนสามารถยืนยันบางสิ่งแต่ยังสงสัยเกี่ยวกับบทเพลงของเทพอมตะกลุ่มดาวและข้อมูลลึกลับ
เขาคิดต่อ ‘หากวิญญาณเปิดประตูสามารถเปิดทางเข้า แล้ววิญญาณปิดประตูจะสามารถปิดทางเข้าหรือไม่?’
ฟางหยวนทดลองใช้วิญญาณปิดประตูทันที
ดังคาด เสาแสงที่นำเขาเข้ามาอันตรธานหายไปในพริบตา
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขากระตุ้นใช้วิญญาณเปิดประตูอีกครั้ง
ภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณเปิดประตูระดับห้า เสาแสงสายใหม่ก่อตัวขึ้น
ฟางหยวนก้าวเท้าเข้าไปในเสาแสงขณะที่มันนำเขากลับสู่หุบเขาเหล่าโปอีกครั้ง
‘นี่หมายความว่าข้อมูลลึกลับเป็นเรื่องจริง ไม่! เพียงส่วนของวิญญาณเปิดประตูและวิญญาณปิดประตูเท่านั้นที่สามารถยืนยัน’
ฟางหยวนคิดก่อนจะกลับเข้าไปในด่านรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
‘ตามข้อมูลที่ได้รับ ลมมรณะเป็นของจริงแต่มันไม่เป็นอันตรายต่อข้า ข้าสามารถก้าวผ่านลมมรณะและรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสรรค์!’
ฟางหยวนเดินเข้าสู่ลมมรณะด้วยความระมัดระวัง ในช่วงเวลานี้เขาเปิดเผยร่างที่แท้จริงของตนออกมา
ลมมรณะเปิดทางให้เขา นี่ทำให้ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น
เขาพึมพำกับตนเอง “เหลือเชื่อ! ลมมรณะสามารถกลืนกินทุกสิ่งแต่พวกมันกลับถูกควบคุมโดยด่านรับสืบทอดมรดกนี้ แม้ผู้สร้างสถานที่แห่งนี้จะไม่ใช่เทพปีศาจปล้นสวรรค์ แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของเขาได้เป็นอย่างดี”
แม้ลมมรณะจะเปิดทางให้ฟางหยวนแต่เขาก็ไม่ประมาทและพร้อมล่าถอยทันทีหากเกิดเรื่องผิดปกติ
ฟางหยวนใช้วิญญาณเปิดประตูและวิญญาณปิดประตูเพื่อทิ้งเส้นทางหลบหนีสายหนึ่งเอาไว้ทุกระยะที่เขาเคลื่อนที่ไป
ลมมรณะค่อยๆคลี่คลายลงภายใต้ความพยายามของฟางหยวน
หลังจากไม่นานฟางหยวนก็บรรลึถึงส่วนที่ลึกที่สุดของด่านรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
ฟางหยวนสังเกตและค้นพบบางสิ่ง ‘ลมมรณะลูกสุดท้ายไม่เพียงใหญ่โตแต่มันยังทรงพลังที่สุด’
เขารู้สึกว่าลมมรณะลูกนี้ซ่อนบางสิ่งเอาไว้ภายใน
‘เป็นไปได้หรือไม่ว่ามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์อยู่ในลมมรณะลูกนี้?’ ฟางหยวนคาดเดา
เขายื่นมือออกไปสัมผัสลมมรณะสีเขียวมรกตลูกนี้อย่างช้าๆ
ทันใดนั้นมันกลับเผยให้เห็นร่างของคนผู้หนึ่ง
“ฟงจิวเก้อ!” ฟางหยวนอุทานเบาๆและก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
แต่ฟงจิวเก้อยังเร็วกว่าฟางหยวน
เขาเปิดเปลือกตาขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นลำแสงสีรุ้งพุ่งผ่านฟางหยวนและจากไปทางประตูแสง
กระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเสี้ยวพริบตา
ฟางหยวนตอบสนองโดยการใช้วิญญาณปิดประตูก่อนจะสามารถผ่อนคลายลง
“เหตุใดฟงจิวเก้อจึงอยู่ที่นี่? เขาถูกกักขังไว้ที่นี่งั้นหรือ? แล้วคนอื่น? ฉินไป่เฉิง เทพธิดาโอวเซี่ย และเทพธิดาหลิงเหม่ย พวกเขาอยู่ที่ใด?”
ฟางหยวนเร่งตรวจสอบพื้นที่แต่เขาพบเพียงความว่างเปล่า
มีเพียงวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงหนึ่งเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้โดยฟงจิวเก้อ
เมื่อฟางหยวนไม่พบสิ่งผิดปกติ เขาจึงเริ่มเปิดอ่านข้อมูลจากวิญญาณดวงนี้
“ฟางหยวน เจ้าเป็นปีศาจต่างโลก ข้าจะเก็บข้อมูลนี้ไว้เป็นความลับ เจ้าคงอยากรู้ว่าเพราะเหตุใดข้าจึงจดจำเจ้าได้ เหตุผลก็คือข้าเป็นบิดาของฟงจินฮวง วันนี้เจ้าช่วยชีวิตข้า ข้าจะตอบแทนเรื่องนี้ในอนาคต ตอนนี้มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์จะเป็นของเจ้า ข้าเชื่อว่าเราจะได้พบกันอีกหลังจากนี้”
“ฟงจิวเก้อ…” ฟางหยวนแสดงออกด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
เขาถอนหายใจก่อนจะเก็บวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลเข้าไปในมิติช่องว่างของตน
เป็นเพียงเวลานี้ที่ด่านรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศจปล้นสวรรค์เริ่มมืดลง
ท่ามกลางความมืดมิด ตำแหน่งที่ฟางหยวนยืนอยู่เป็นจุดเดียวที่มีแสงสว่างส่องลงมา
เสียงของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น
“นักเดินทางจากแดนไกล”
“เจ้าและข้าต่างเป็นคนน่าสงสารที่ไม่สามารถกลับบ้านของเรา”
“ชื่อจริงของข้าคือ เพ่งเจียซัน แต่ผู้คนบนโลกใบนี้เรียกข้าว่าเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ในความเป็นจริงข้าเป็นเพียงคนจรที่ต้องการกลับบ้าน”
“โลกใบนี้เหมือนคุกที่พันธนาการข้าเอาไว้ด้วยความสิ้นหวัง”
“หากเจ้าต้องการกลับบ้านเช่นกันก็รับของขวัญจากข้าเอาไว้”
“ข้าเชื่อว่ามันจะสามารถช่วยเหลือเจ้า แต่หากเจ้าต้องการกลับบ้านจริงๆ เจ้ายังต้องพึ่งพาความพยายามของตนเอง”
“ของขวัญชิ้นนี้มีชื่อว่า ผนึกภูตผี”
ในเวลาต่อมาฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่หุบเขาเหล่าโป
ชั้นแสงสีเทาส่องประกายขึ้นบนร่างกายของเขา
ฟางหยวนเพิกเฉยต่อชั้นแสงเหล่านี้แต่เร่งตรวจสอบสภาพแวดล้อม
ไม่ปรากฏร่องรอยการคงอยู่ของฟงจิวเก้อ
‘ดูเหมือนอาการบาดเจ็บของเขาจะร้ายแรงมาก หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ เขาคงโจมตีข้าในด่านรับสืบทอดมรดกไปแล้ว’
‘แต่…คนผู้นี้สามารถแยกแยะบุญคุณและความแค้น เขาจะตอบแทนความเมตตาและจะแก้แค้นศัตรูอย่างสาสม เขาได้รับการยกย่องเกี่ยวกับประเด็นนี้และถูกบันทึกไว้ในอัตชีวประวัติของเขา บางทีในอนาคตเขาอาจตอบแทนข้าจริงๆ’
ฟางหยวนครุ่นคิด
ฟงจิวเก้อไม่โจมตีฟางหยวน นี่อาจไม่เกี่ยวกับพลังการต่อสู้ที่ลดลงของเขาแต่เป็นเพราะฟางหยวนช่วยชีวิตเขาเอาไว้
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลใด มันก็ทำให้ฟางหยวนได้รับประโยชน์ครั้งใหญ่
ฟงจิวเก้อติดหนี้บุญคุณฟางหยวน การเชื่อมต่อนี้อาจเป็นประโยชน์มหาศาลต่อเขาในอนาคต
นอกจากนี้เขายังได้รับท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผี แม้ฟางหยวนจะไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด แต่อย่างน้อยมันก็เป็นมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์!
สุดท้ายยังมีหุบเขาเหล่าโป
‘ฟงจิวเก้อจากไปแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการยึดครองหุบเขาเหล่าโป’ ฟางหยวนคิดและลงมือทันที
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฮุ้ยฟงซื่อตกใจเมื่อเห็นหุบเขาเหล่าโปถูกยกขึ้น ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะที่เขาอุทานด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “บางคนกำลังขโมยหุบเขาเหล่าโปงั้นหรือ?”