Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 979

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 979 ปล่อยไปตามกระแส

แปลโดย iPAT 

 

ฟางหยวนมีความอดทนสูงมาก

 

หลังจากช่วยไท่เป่ยหยุนเฉิงก้าวข้ามภัยพิบัติ ฟางหยวนหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันและเก็บเกี่ยวผลไม้แห่งความฝันขณะเดียวกันเขาก็ขยายธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยวรวมถึงการค้าอสรพิษเพลิง

 

สุดท้ายกำไรในแต่ละเดือนของเขาก็พุ่งขึ้นเกินกว่าสองพันหินวิญญาณอมตะ

 

สาเหตุสำคัญของเรื่องนี้มีอยู่หลายประการ

 

ประการแรก ฟางหยวนตัดสินใจเลือกพันธมิตรทางธุรกิจอย่างรอบคอบโดยเฉพาะในทะเลทรายตะวันตก

 

ด้วยประสบการณ์จากชีวิตก่อนหน้า มันไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะติดต่อและสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรที่ทรงพลัง

 

ประการที่สอง ฟางหยวนเพิ่มการผลิตวิญญาณถุงสูญญากาศ นี่แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้าที่เขาต้องใช้มนุษย์ขนส่วนหนึ่งผลิตวิญญาณความคิดดาราและวิญญาณอื่นๆทำให้สูญเสียรายได้

 

ประการที่สาม เขาไม่มีแผนการที่จะย้ายไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว อย่างน้อยก็ไม่ใช่เร็วๆนี้

 

ประการที่สี่ การจัดตั้งขบวนสินค้าของเผ่ามนุษย์วิหคในทะเลทรายตะวันตกทำให้ฟางหยวนได้รับผลประโยชน์มากขึ้น

 

ประโยชน์ของทาสมนุษย์วิหคเริ่มปรากฏให้เห็นในเรื่องนี้

 

แต่มันยังเป็นเพียงการทดลองเท่านั้น ฟางหยวนยังไม่ได้ส่งมนุษย์วิหคทั้งหมดออกไป

 

ในแง่มุมนี้เขามีแผนการระยะยาว เขาต้องการขยายพันธุ์มนุษย์วิหคและขายทาสมนุษย์วิหคในอนาคต

 

แม้การค้าทาสมนุษย์วิหคจะด้อยกว่าทาสมนุษย์ขน แต่มันยังดีกว่าทาสมนุษย์หิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลทรายตะวันตก ที่นั่นมีความต้องการทาสมนุษย์วิหคสูงมาก

 

ฟางหยวนค่อยๆสะสมหินวิญญาณอมตะอย่างอดทน

 

เมื่อเวลาผ่านไปแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาก็ถูกโจมตีโดยศัตรูที่แข็งแกร่งอีกครั้ง

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องขอความช่วยเหลือจากฟางหยวนกับไท่เป่ยหยุนเฉิง

 

ในชีวิตนี้ฟางหยวนวางแผนอย่างพิถีพิถัน หลังจากได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือ คนทั้งสองจึงเดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีชั้นเมฆหมอกปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น สิ่งนี้ปิดบังวิสัยทัศน์ของทุกคนเอาไว้ทั้งหมด พวกเขาไม่แม้แต่จะสามารถมองเห็นนิ้วมือของตนเอง

 

“นี่คือค่ายกลความสับสนของเมฆาทั้งสิบสอง” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอธิบายเสียงต่ำ “และนี่คือผู้บุกรุก”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสะบัดแขนเสื้อแสดงภาพหลายภาพด้านหน้าฟางหยวนกับไท่เป่ยหยุนเฉิง

 

ฉินไป่เฉิง เจียงหยู ไห่เจิ้ง เซี่ยซ่งซื่อ อี้หลางซื่อ ฮุ้ยฟงซื่อ รวมถึงผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์อยู่ที่นี่ทั้งหมด

 

“มันคือพวกเขา!” ฟางหยวนแสร้งประหลาดใจ

 

“เจ้ารู้จักผู้คนเหล่านี้งั้นหรือ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม

 

ฟางหยวนพยักหน้า “พวกเขาแข็งแกร่งมาก ผู้นำกลุ่มคือฉินไป่เฉิง เขาอาจเป็นผู้อมตระดับเจ็ด แต่เขาสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปด!”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะลึง “แข็งแกร่งถึงเพียงนั้นเลยงั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนชี้นิ้วไปที่คนอื่นๆ “นี่คือเทพธิดาเจียงหยู นางครอบครองวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด นี่คือไห่เจิ้ง ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าไห่ กองกำลังขนาดใหญ่ของภาคเหนือ เขามีคฤหาสน์วิญญาณอมตะคุกทมิฬในการครอบครอง นอกจากนี้ยังมีเซี่ยซ่งซื่อ เขาอาจเป็นเพียงปีศาจอมตะระดับหก แต่เขาเป็นสมาชิกของกองกำลังพันธมิตรภูเขาหิมะและได้รับการสนับสนุนจากปีศาจอมตะเซี่ยหู คนผู้นี้คืออี้หลางซื่อ เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่มีพลังการต่อสู้สูงมาก ในอดีตเขาเคยได้รับเชิญจากปีศาจอมตะเซี่ยหูให้เข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรภูเขาหิมะแต่เขาปฏิเสธ นี่คือฮุ้ยฟงซื่อ ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งวายุของเขาลึกซึ้งมาก เขาเป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องจากสาธารณชนว่าเป็นคนที่รวดเร็วที่สุดของภาคเหนือ ในอดีตเขาเคยหลบหนีจากผู้อมตะระดับแปดหลายคน”

 

ขณะที่ฟางหยวนกล่าว การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม

 

เมื่อฟางหยวนกล่าวจบ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาชี้นิ้วไปที่ผู้อมตะลึกลับในชุดคลุมดำ “แล้วคนผู้นี้คือผู้ใด?”

 

ฟางหยวนรู้อยู่แล้วแต่เขาแสร้งแสดงออกด้วยความสงสัย

 

เขาลังเลก่อนกล่าว “คนผู้นี้ปกปิดใบหน้า เขามีท่าไม้ตายที่สามารถปกปิดตัวตน ข้าจะลองอนุมานดู”

 

หลังกล่าวจบคำ ฟางหยวนเริ่มขยับนิ้วพร้อมกับปลดปล่อยแสงดาวออกมา กลิ่นอายวิญญาณอมตะวนเวียนอยู่รอบตัวเขาราวกับเขากำลังทำงานอย่างหนัก

 

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงถูกหลอกอย่างสมบูรณ์ เขาคิด ‘แม้ในอดีตข้าจะเคยขอให้ฟางหยวนพัฒนาเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะมาหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขาอนุมาน ข้าไม่รู้ว่าเขาใช้วิญญาณอมตะชนิดใด แต่กล่าวถึงความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขา มันไม่น้อยเลย!’

 

แสงดาวบนร่างของฟางหยวนค่อยๆเลือนหายไปขณะที่ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้น “สวรรค์! ผู้อมตะลึกลับผู้นี้พิเศษมาก เขาเป็นผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์!”

 

“เจ้าอนุมานได้ถึงระดับนี้เลยงั้นหรือ?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาประหลาดใจ

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงหัวเราะเบาๆ “ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก”

 

“ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา!?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตกใจมาก เขาต้องประเมินฟางหยวนใหม่อีกครั้ง นี่ทำให้สายตาของเขาที่มองฟางหยวนแตกต่างออกไปจากก่อนหน้า

 

“โอ้” ฟางหยวนยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งและแสร้งมองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาด้วยความสงสัย “ดูเหมือนท่านจะยังมีความช่วยเหลืออื่นอยู่อีกถูกต้องหรือไม่?”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเผยรอยยิ้มด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขาไม่ตอบแต่เปลี่ยนเป็นฝ่ายตรวจสอบฟางหยวน “เจ้าเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาตั้งแต่อายุยังน้อย กล่าวตามตรง ข้าค่อนข้างประหลาดใจ เหตุใดเจ้าไม่ลองอนุมานว่าข้ามีวิธีการใดและจะสามารถกำจัดศัตรูได้อย่างไร?”

 

ฟางหยวนรู้อยู่แล้วว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหม้อหลอมรวม

 

แต่เขากลับแสดงออกด้วยความยากลำบากหลังจากทดลองอนุมาน

 

ในที่สุดเขาก็ยอมรับความล้มเหลว “ข้าไม่สามารถอนุมานเรื่องนี้ กล่าวตามตรง ในอดีตข้าเคยพยายามอนุมานเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแต่กลับไม่พบสิ่งใด ตอนนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเงยศีรษะหัวเราะเสียงดังด้วยความภาคภูมิใจแต่เขาก็ไม่ได้พูดมาก

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะมีความสามารถทั้งการโจมตีและป้องกัน หม้อหลอมรวมก็เช่นกัน

 

หม้อหลอมรวมไม่เพียงป้องกันการโจมตีทางกายภาพแต่มันยังสามารถป้องกันการอนุมานของคนนอก

 

ดังนั้นความล้มเหลวของฟางหยวนจึงอยู่ในการคาดเดาของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

จากมุมมองของเขา นี่เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ว่าฟางหยวนจะโดดเด่นเพียงใด การบ่มเพาะของเขาก็ยังอยู่ในระดับหก ไม่ว่าวิญญาณอมตะของเขาจะลึกลับเพียงไหน มันก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับคฤหาสน์วิญยาณอมตะระดับแปดหม้อหลอมรวม

 

‘เป็นเรื่องปกติที่ข้าจะล้มเหลวในการอนุมาน หากข้าทำสำเร็จ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะหวาดระแวงข้า’ ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นอยู่ภายใน

 

จิตวิญญาณแผ่นดินมีความคิดที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาโง่เขลา

 

โดยเฉพาะเมื่อร่างต้นของจิตวิญญารแผ่นดินหลางหยาคือบรรพชนผมยาวที่เป็นสหายกับผู้อมตะอวี๋เยี่ยน ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ทำนายการถือกำเนิดของเทพอมตะทั้งสาม

 

ด้วยเหตุนี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาในระดับหนึ่ง

 

การอนุมานเกี่ยวกับหม้อหลอมรวมอยู่นอกเหนือขอบเขตของผู้อมตะระดับหกที่จะสามารถทำได้ หากฟางหยวนค้นพบบางสิ่ง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะรู้สึกสงสัยและเริ่มระแวง

 

เขาจะคิด ‘ฟางหยวนคนเดียวจะสามารถอนุมานได้อย่างไร ชัดเจนว่ามีบางคนอยู่เบื้องหลังและคนผู้นี้ต้องแข็งแกร่งมากเพราะเขาสามารถทำลายการป้องกันของหม้อหลอมรวมและอนุมานเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา!’

 

หากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคิดเช่นนี้ เขาจะตื่นตัวและระวังตัวจากฟางหยวน

 

ท้ายที่สุดจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็เป็นเจตจำนงของบรรพชนผมยาวซึ่งเป็นมนุษย์ขน ทัศนคติต่อมนุษย์ของบรรพชนผมยาวสามารถเห็นได้ชัดจากบุคลิกที่สองของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

เหตุผลที่ฟางหยวนสามารถเข้าใกล้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเป็นเพียงเพราะเขาคือผู้สืบทอดของเทพปีศาจปล้นสวรรค์

 

เนื่องจากบรรพชนผมยาวมีข้อตกลงกับเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ดังนั้นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงต้องหลอมรวมวิญญาณให้ฟางหยวนจำนวนสามดวง

 

มิฉะนั้นฟางหยวนในฐานะมนุษย์จะเข้าใกล้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้อย่างไร

 

แม้ฟางหยวนจะต้องการวิญญาณอมตะความคิดดารา แต่เขาก็ไม่ขอให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้เพราะเขายังต้องการอยู่ใกล้ชิตจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต่อไป

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่สามารถออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา นอกจากการติดต่อซื้อขายในสวรรค์สีเหลือง เขาก็มีสหายเพียงโม่ตันซานเท่านั้น

 

เขาเข้าใจว่าความมั่งคั่งจะดึงดูดความโลภของผู้คน ดังนั้นเขาจึงต้องรักษาระยะห่างจากคนอื่นๆ

 

ในเวลาเดียวกันเขาก็มีธรรมชาติที่หวาดระแวงต่อผู้อื่น

 

แรกเริ่มฟางหยวนยังอ่อนแอมาก นั่นทำให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ระวังหรือสงสัยในตัวเขา แต่ตอนนี้ฟางหยวนเริ่มแสดงความสามารถออกมา ดังนั้นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงเริ่มตื่นตัวและไม่สบายใจ

 

ในอดีตฟางหยวนเป็นเพียงกระต่ายน้อย แต่เมื่อฟางหยวนกลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา เขาก็ไม่ต่างจากอสรพิษ

 

สถานการณ์ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาค่อยๆพัฒนาไปในลักษณะเดียวกับชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน

 

ฟางหยวนได้รับภารกิจให้อยู่ปกป้องหอคอยเมฆาหลังหนึ่ง

 

แต่ก่อนหน้านั้นฟางหยวนแนะนำให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอนุญาตให้กำลังเสริมของเขาซึ่งก็คือไห่ลั่วหลันกับเทพธิดาหลี่ซานมาที่นี่และเข้าร่วมในการต่อสู้

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงสนับสนุนเรื่องนี้เช่นกัน

 

แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปฏิเสธ

 

ฟางหยวนใช้วิธีที่แตกต่างออกไปกับเซี่ยซ่งซื่อ ครั้งนี้เขาไม่ได้ลอบโจมตีแต่เขาออกมาต่อสู้อย่างเปิดเผย

 

แม้มันจะเป็นการต่อสู้ที่น่าประทับใจแต่กลับไม่สามารถหาผู้ชนะ

 

เมื่อกำลังเสริมของเซี่ยซ่งซื่อมาถึง ฟางหยวนจึงเริ่มล่าถอย

 

ไม่มีประโยชน์ที่จะสังหารเซี่ยซ่งซื่อ แม้เขาจะมีวิญญาณอมตะ แต่ฟางหยวนก็ไม่สามารถฉกชิงมันมา

 

ฟางหยวนสามารถเตือนจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อให้เขาใช้หม้อหลอมรวมกำจัดศัตรู แต่หลังจากไตร่ตรอง ฟางหยวนปัดความคิดนี้ทิ้งไปในที่สุด

 

ประการแรก ฉินไป่เฉิงแข็งแกร่งเกินไปขณะที่ฟางหยวนยังไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างนิกายเงากับกองกำลังพันธมิตรผีดิบ

 

ประการที่สอง แม้นิกายเงาจะได้รับบางสิ่ง แต่ฟางหยวนไม่ได้รับประโยชน์ใดจากเรื่องนี้ หากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเป็นฝ่ายชนะ ฐานทัพของนิกายเงา หุบเขาเหล่าโปจะตกอยู่ในมือของผู้อมตะภาคกลาง ฟางหยวนจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย

 

ประการที่สาม ฟางหยวนต้องการใช้นิกายเงาต่อต้านผู้อมตะภาคกลาง หากนิกายเงาถูกกำจัดขณะที่ผู้อมตะภาคกลางค้นพบฟางหยวน แล้วเขาจะทำอย่างไร

 

ประการสุดท้าย ฟางหยวนคาดเดาว่านิกายเงาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียนเพราะการคงอยู่ของผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ หากเขาถูกสังหารที่นี่ เหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียนอาจเปลี่ยนแปลงไป อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดจะทำให้แผนการของฟางหยวนล้มเหลว

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปตามกระแส

 

การเปลี่ยนผลลัพธ์ของการต่อสู้จะเพิ่มความเสี่ยงในอนาคต เมื่อข้อเสียมากกว่าข้อดี คนฉลาดย่อมไม่เลือกเส้นทางสายนั้น

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset