Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1197

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1197 มังกรดาบ

แปลโดย iPAT 

ชูตู๋ยิ้ม

ในความเป็นจริงเซี่ยอู่เหิงเป็นคนที่ชูตู๋ต้องการรับเข้าสู่นิกายชู ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับเด็กผู้นี้

อย่างไรก็ตามฟางหยวนเป็นพันธมิตรคนสำคัญ ชูตู๋ต้องการความช่วยเหลือและผลประโยชน์จากฟางหยวนมากกว่า

ในจดหมายของหลิวกวนซื่อ เขาขอให้ข้าทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ’ ชูตู๋คิดกับตนเองก่อนจะส่งเสียงไปหาเซี่ยอู่เหิง “น้องเซี่ย การร่วมมือกับผู้อาวุโสหลิวกวนซื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าในการตรวจสอบแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวฮุ้ย”

อย่างไร?” เซี่ยอู่เหิงสงสัย

เนื่องจากผู้อาวุโสหลิวมีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด อินทรีย์ตัวนี้สามารถทะลวงเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้เจ้าสามารถนำทรัพยากรที่อยู่ภายในออกมา จากนั้นผู้อาวุโสหลิวก็จะจ่ายด้วยราคาที่เหมาะสม นี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกเจ้าทั้งสองคนงั้นหรือ?” ชูตู๋ตอบ

ดวงตาของเซี่ยอู่เหิงส่องประกายขึ้น

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับสัตว์อสูรตัวนี้ แต่ข้าไม่เคยคาดคิดว่าผู้อาวุโสหลิวกวนซื่อจะมีสัตว์อสูรที่หายากเช่นนี้!”

เซี่ยอู่เหิงหยุดชั่วขณะก่อนตอบ “ข้ายินดีทำธุรกรรมกับผู้อาวุโสหลิว!”

ขณะที่แผนการของฟางหยวนกำลังจะประสบความสำเร็จ ผู้อมตะบางคนเดินออกมาจากวังตะวันตก

เขาคือผู้อมตะเผ่าหลิว หลิวจวนเฉิน!” หวังอู๋หมิงจำคนผู้นี้ได้ทันที

เขาออกมาต่อสู้งั้นหรือ?” ชูตู๋มอง

อย่างไรก็ตามหลิวจวนเฉินไม่ได้เดินเข้าสู่สนามรบแต่หยุดอยู่ที่ประตูทางเข้าวังตะวันตก “จักรพรรดิอมตะชูตู๋ พวกเราต้องการใช้ศพของยายหยินเพื่อแลกกับศพและดวงวิญญาณของผู้อาวุโสหลิวฮุ้ย”

ศพของหลิวฮุ้ยตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู โดยธรรมชาติแล้วผู้อมตะเผ่าหลิวย่อมไม่เต็มใจเห็นฉากดังกล่าว

ศพยังไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือดวงวิญญาณ

ดวงวิญญาณของหลิวฮุ้ยยังไม่ถูกทำลาย

ดังนั้นผู้อมตะเผ่าหลิวจึงต้องการศพและดวงวิญญาณของหลิวฮุ้ยกลับคืนไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นก็ตาม

เดิมทีหลิวจวนเฉินไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมและตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ

แต่หลังจากเหนียงเอ๋อปิงซื่อสังหารยายหยิน ผู้อมตะเผ่าหลิวเริ่มเห็นความหวัง

หลิวจวนเฉินติดต่อเผ่าเหนียงเอ๋อเพื่อขอแลกเปลี่ยนศพยายหยินด้วยทรัพยากรจำนวนมาก

ศพและมิติช่องว่างของยายหยินยังอยู่ มีเพียงดวงวิญญาณของนางเท่านั้นที่ถูกทำลายไปแล้ว

แต่ยายหยินเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดขณะที่หลิวฮุ้ยเป็นผู้อมตะระดับหก ดังนั้นเผ่าหลิวจึงคาดว่าธุรกรรมนี้มีโอกาสประสบความสำเร็จ

ฝ่ายของชูตู๋ตกสู่ความโกลาหลทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินถ้อยคำเหล่านี้

ชูตู๋อุทาน “น่าทึ่งมาก หลิวจวนเฉิน คนผู้นี้มีความสามารถจริงๆ

ยายหยินมักเคลื่อนไหวเพียงลำพัง นางมีความสัมพันธ์กับผู้อมตะคนอื่นๆน้อยมาก ในความเป็นจริงยายหยินกระทั่งเป็นศัตรูของผู้อมตะส่วนใหญ่ ยายหยินมาที่นี่ในครั้งนี้เพียงเพราะบารมีของชูตู๋และผลประโยชน์เท่านั้น

อย่างไรก็ตามชูตู๋รู้ว่าผู้อมตะเหล่านี้หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนกัน

เหตุผลก็คือในการต่อสู้ที่ดุเดือดย่อมมีบางคนที่ล้มตาย แต่เมื่อพวกเขาเสียชีวิต ทรัพยากรและดวงวิญญาณของพวกเขาจะตกอยู่ในกำมือของศัตรูขณะที่พวกเขาไม่สามารถทำสิ่งใด

ภายใต้สถานการณ์นี้พวกเขาสามารถพึ่งพาผู้อมตะฝ่ายเดียวกันที่ยังมีชีวิตอยู่นำดวงวิญญาณของพวกเขากลับคืนมาเท่านั้น

หากข้าตอบตกลงกับคำขอของหลิวจวนเฉิน ข้าจะสามารถเติมเต็มความต้องการของผู้อมตะเหล่านี้และทำให้ความกังวลของพวกเขาลดลง มิฉะนั้นขวัญกำลังใจของพวกเขาจะลดลงและอาจส่งผลกระทบร้ายแรงในการต่อสู้’

ชูตู๋เข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้

สมาชิกส่วนใหญ่ของนิกายชูและเผ่าไป่ซูเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษหรือปีศาจอมตะ พวกเขาไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันตั้งแต่แรก พวกเขาร่วมมือกันในครั้งนี้เพราะชื่อเสียงของจักรพรรดิอมตะชูตู๋และจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูรวมถึงผลประโยชน์

หากชูตู๋ปฏิเสธธุรกรรมนี้ ผู้อมตะเหล่านี้จะรู้สึกประหม่าและคอยระวังซึ่งกันและกัน

ชูตู๋ลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบตกลง

หลิวจวนเฉินมีความสุขมากหลังจากประสบความสำเร็จในการแลกเปลี่ยน

เซี่ยอู่เหิงสูญเสียแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับหกและดวงวิญญาณของผู้อมตะแต่เขาได้รับแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดขณะที่ชูตู๋ยังมอบท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งหิมะเพิ่มเติมให้กับเขา

ดังนั้นเซี่ยอู่เหิงจึงค่อนข้างมีความสุขกับผลลัพธ์นี้

หลังจากการทำธุรกรรมนี้ กงหว่านถิงเห็นถึงความสำคัญของมันและเริ่มเจรจากับชูตู๋

ด้วยเหตุนี้ทั้งสองฝ่ายจึงเพิ่มกฎของการประลองเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนศพและดวงวิญญาณของเชลยศึก

หลังจากครึ่งวันการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง

ฝ่ายของชูตู๋ส่งผู้อมตะเผ่าไป่ซูออกมา คนผู้นี้เคยเป็นผู้อาวุโสสุงสุดของเผ่าไห่มาก่อน สมาชิกที่แท้จริงของเผ่าไป่ซูยังได้รับการดูแล

นี่เป็นเพราะก่อนหน้านี้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูขอให้ชูตู๋ช่วยปกป้องบุตรหลานเผ่าไป่ซูให้ได้มากที่สุด

สุดท้ายแผนการของฟางหยวนก็ล้มเหลว

เขาได้รับจดหมายจากชูตู๋ที่อธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ชูตู๋ขอโทษฟางหยวนด้วยถ้อยคำที่สุภาพ

ฟางหยวนเข้าใจความยากลำบากของชูตู๋

เขายืนอยู่ในห้องลับและพึมพำกับตนเอง “แดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งภูตผีไม่มีประโยชน์สำหรับข้า ดูเหมือนข้าต้องออกไปคว้าแดนศักดิ์สิทธิ์มาด้วยตนเองเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ด”

อย่างไรก็ตามมีกองกำลังมากมายในการประลองครั้งนี้ แม้ฟางหยวนจะมีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยแต่เขายังต้องการวิธีการต่อสู้ใหม่ๆ

ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ประกาศต่อโลกภายนอกว่าตนเองเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

“ข้ามีวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของหมีบินแต่พลังของหมีบินยังค่อนข้างแย่”

โชคดีที่ข้าคิดเรื่องนี้มาก่อนแและมีวิธีแก้ไขมากมายในเวลานี้!”

ฟางหยวนมองศพมังกรที่อยู่ตรงหน้า

นี่คือสัตว์อสูรเดียวดาย

ร่างกายของมันเปล่งประกายด้วยแสงสีเงิน เขาของมันแหลมคมราวกับหอก ดวงตาเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เขี้ยวของมันดูน่าสะพรึงกลัว มันเป็นมังกรสองกรงเล็บที่มีเกล็ดหลายชั้นและส่องประกายราวกับโลหะ

มันคือมังกรสีเงิน

ทั้งตัวของมันมีความยาวประมาณสิบเมตร มันเหมือนงานศิลปะชั้นสูงชิ้นหนึ่ง แต่มันปลดปล่อยกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกออกมาราวกับผู้ใดก็ตามที่เข้าใกล้จะถูกเจาะทะลวงร่างกายโดยอากาศอันแหลมคมที่อยู่รอบๆ

นี่เป็นเพราะมังกรตัวนี้เป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งดาบ มังกรดาบ!

ตอนนี้มันตายแล้ว ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบกำลังรั่วไหลออกมาอย่างช้าๆและหลอมรวมเข้ากับสภาพแวดล้อม

นี่เป็นสิ่งที่ฟางหยวนเตรียมเอาไว้ เปลี่ยนเป็นมังกรดาบ!

ท่าไม้ตายเปลี่ยนเป็นมังกรดาบต้องใช้วิญญาณกรงเกล็ดมังกร วิญญาณเขามังกร วิญญาณกรงเล็บมังกร วิญญาณดวงตามังกร และอื่นๆ หากหนึ่งในวิญญาณเหล่านี้เป็นวิญญาณอมตะ มันจะกลายเป็นท่าไม้ตายอมตะ!”

แต่ข้ามีวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ มันเป็นแก่นแท้บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นข้าไม่จำเป็นต้องหลอมรวมวิญาณอมตะที่เกี่ยวข้องกับมังกร ข้าสามารถใช้วิญญาณระดับมนุษย์ร่วมกับวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์เพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบ!”

ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นท่าไม้ตายที่ง่ายมาก

นี่เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางสายอื่นไม่ได้ง่ายดายเช่นนี้แต่เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงแตกต่างออกไป

นอกจากนี้ฟางหยวนยังเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา ไม่เพียงเขาจะประสบความสำเร็จในการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบ แต่เขายังทำให้มันมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกด้วย

โดยธรรมชาติแล้วผู้อมตะฮันตงมีส่วนช่วยในเรื่องนี้

เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เขาเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนเป็นอสรพิษวิญญาณ

มังกรมีรูปร่างและลักษณะคล้ายอสรพิษ แม้ฮันตงจะเสียชีวิตและดวงวิญญาณแตกสลายไปแล้ว แต่เขายังทิ้งจิตวิญญาณแผ่นดินที่เก็บองค์ความรู้ตลอดชีวิตของเขาเอาไว้เบื้องหลัง นี่เพียงพอที่จะเป็นแหล่งอ้างอิงสำหรับฟางหยวน

เขาเริ่มปรับแต่งมังกรดาบเดียวดายทันที

ร่างของมังกรดาบเดียวดายเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบและตัวมันเองก็เป็นทรัพยากรอมตะที่ใช้ในการหลอมรวมวิญญาณอมตะ

กระบวนการปรับแต่งค่อนข้างราบรื่น

หลายวันต่อมา

ฟางหยวนยืนนิ่งและสูดหายใจลึก่อนจะกระตุ้นใช้วิญญาณทีละดวง

ครู่ต่อมาแสงสีเงินจึงปะทุขึ้นบนร่างกายของเขา

หลังจากแสงสีเงินหายไป มังกรดาบสีเงินที่สง่างามก็ปรากฏตัวขึ้น

ดวงตาของมังกรดาบเป็นสีขาวแต่มันเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาด

มันคือฟางหยวน!

ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบประสบความสำเร็จ ต่อไป…’

ฟางหยวนเริ่มทำความคุ้นเคยกับร่างใหม่ของเขา

การฝึกซ้อมดำเนินไปอย่างเหมาะสม

หลังจากทำความคุ้นชินกับร่างใหญ่ ฟางหยวนเริ่มทดสอบความสามารถของมังกรดาบ

ประการแรก ค่าใช้จ่าย

น้อยมาก!

ค่าใช้จ่ายในการรักษาร่างมังกรดาบเอาไว้น้อยมาก ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นเพียงสัตว์อสูรเดียวดายระดับหกเท่านั้น

ประการต่อมา พลังการต่อสู้

ฟางหยวนจัดเตรียมทรัพยากรอมตะไว้ตรงหน้า

สิ่งแรกคือหัวใจน้ำแข็งที่มีอายุหลายร้อยปี เขากวาดกรงเล็บมังกรออกไปและรู้สึกราวกับกำลังหั่นเต้าหู้

ถัดมาฟางหยวนฟาดกรงเล็บไปที่ผลึกหินอัคนีชิ้นหนึ่ง

ผลึกหินอัคนีชิ้นนี้เป็นทรัพยากรอมตะระดับหกที่แข็งแกร่งและหายากมาก แต่กรงเล็บมังกรยังสามารถฝากรอยฝังลึกเอาไว้บนผลึกหินอัคนีชิ้นนี้

ฟางหยวนตระหนักถึงความแหลมคมของกรงเล็บมังกรทันที เขาไม่จำเป็นต้องทดสอบกับทรัพยากรระดับเจ็ดที่อยู่ด้านข้างอีกต่อไป

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset