เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 972 แผนการใหม่
แปลโดย iPAT
“เกิดสิ่งใดขึ้น? สนามรบแห่งความโกลาหลอยู่ที่ใด?” ฟางหยวนเต็มไปด้วยความสงสัยและผิดหวัง
หลังจากเกิดใหม่ เขารีบมาที่ภูเขาอี้เทียนทันทีโดยคิดว่าจะสามารถยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะ
แต่เมื่อเขาค้นลึกลงไปใต้พิภพ เขากลับไม่พบสนามรบแห่งความโกลาหล กระทั่งผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดก็ไม่อยู่เช่นกัน
“เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีเหตุผลบางอย่างอยู่เบื้องหลังการปรากฏขึ้นของสนามรบแห่งความโกลาหล ข้ามาเร็วเกินไป ดังนั้นจึงไม่พบมันงั้นหรือ?” ฟางหยวนขมวดคิ้วและครุ่นคิด
เขาเดาถูก
ก่อนหน้านี้เหตุผลที่สนามรบแห่งความโกลาหลปรากฏขึ้นเป็นเพราะไป่หนิงปิง
เขากระตุ้นใช้วิญญาณอมตะลึกลับที่ได้รับมาจากผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อ
เป็นธรรมชาติที่ฟางหยวนจะไม่รู้รายละเอียดและไม่มีวิญญาณอมตะลึกลับดวงนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่พบสิ่งใดเลย
หากสนามรบแห่งความโกลาหลถูกฝังไว้ที่นี่จริงๆ มันอาจถูกยึดครองไปนานแล้ว
โดยปราศจากทางเลือกอื่น ฟางหยวนทำได้เพียงจากไปอย่างเงียบๆเท่านั้น
เมื่อไม่สามารถยึดครองสนามรบแห่งความโกลาหล ฟางหยวนจึงต้องเปลี่ยนแผน
เขากระตุ้นใช้วิญญาณท่องแดนอมตะและปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ค่ายกลวิญญาณใต้บาดาลของภาคเหนือ
เขาเข้าสู่จุดศูนย์กลางของค่ายกลวิญญาณโดยตรง
มันเป็นทะเลทรายสีม่วงขนาดใหญ่
ที่นี่เต็มไปด้วยทรัพยากรอมตะที่ล้ำค่าและหายาก
ความทรงจำของฟางหยวนยังกระจ่างชัด เขาไม่จำเป็นต้องตรวจสอบและสามารถตรงไปรวบรวมสมบัติได้ทันที
สมบัติเหล่านี้ล้ำค่ามาก สมบัติที่มีค่าน้อยที่สุดยังเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด
ไม่นานหลังจากนั้นทรัพยากรอมตะกึ่งระดับเก้าทั้งสิบแปดชิ้นก็ตกอยู่ในกำมือของฟางหยวนอีกครั้ง
เขาทำลายข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในค่ายกลวิญญาณก่อนจากไป
แน่นอนว่าเขาไม่ยินดีทิ้งวิธีฟื้นฟูมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตายไว้ให้ผู้อื่น
ก่อนจากไปเขากวาดตามองสถานที่แห่งนี้อีกครั้งและลอบถอนหายใจ
เขาเห็นทรัพยากรอมตะมากมายอยู่ในทะเลทรายสีม่วงแต่เขาก็รู้ว่าตนเองไม่สามารถเก็บเกี่ยวพวกมัน
ในชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนต้องวางแผนอย่างรอบคอบก่อนจะสามารถเข้ามาถึงที่นี่ แต่ในชีวิตนี้เขากลับสามารถมุ่งหน้ามาที่นี่และรวบรวมสมบัติได้โดยตรงโดยใช้เวลาและพลังงานน้อยที่สุด กระบวนการทั้งหมดนั้นง่ายดายราวกับความฝัน
ด้วยการใช้วิญญาณท่องแดนอมตะอีกครั้ง ฟางหยวนออกจากสถานที่แห่งนี้และกลับสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู
การหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ล้มเหลว ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าความสำเร็จและทรัพยากรมากมายสูญสลายไป
ในการหลอมรวมวิญญาณอมตะครั้งนี้ เขาต้องจ่ายด้วยทรัพยากรทั้งหมด
หลังจากกำเนิดใหม่ อาจกล่าวได้ว่าเขายากจนมาก
ดังนั้นสมบัติที่เขาพึ่งได้รับจึงถือเป็นความช่วยเหลือที่มาได้ถูกเวลา
ในความเป็นจริงฟางหยวนต้องการเก็บพวกมันไว้ในช่วงเวลาที่เขาต้องการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปด
แต่นั่นยังอีกนาน การบ่มเพาะของเขาอยู่ในจุดต่ำสุดของระดับหก การก้าวเข้าสู่ระดับแปดไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
ฟางหยวนคิดมาแล้วว่าจะใช้ประโยชน์จากพวกมันอย่างไร
เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนขายทรัพยากรอมตะหลายชิ้นในสวรรค์สีเหลืองและสร้างความแตกตื่นขึ้นอีกครั้ง
กระทั่งในสวรรค์สีเหลือง ทรัพยากรเหล่านี้ก็ถือเป็นสมบัติล้ำค่าและหายาก
ฟางหยวนแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่เขาต้องการและสามารถให้อาหารวิญญาณอมตะทั้งหมดของเขายกเว้นวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองและวิญญาณสติปัญญา
ลองทบทวนวิญญาณอมตะในการครอบครองของฟางหยวน
วิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนห้าดวงคือ วิญญาณความแข็งแกร่งของตนเอง วิญญาณยกภูเขา วิญญาณดึงแม่น้ำ วิญญาณความแข็งแกร่งของอินทรีย์มงกุฎเหล็ก และวิญญาณกินความแข็งแกร่ง
วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดวงดาวจำนวนสามดวงคือ วิญญาณศรดาวตก วิญญาณร่องรอยดารา และวิญญาณแสงดาว
วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคจำนวนสามดวงคือ วิญญาณเชื่อมโยงโชค วิญญาณช่วงเวลาแห่งโชค และวิญญาณเรียกภัยพิบัติ
นอกจากนี้เขายังมี วิญญาณกาลเวลา วิญญาณท่องแดนอมตะ วิญญาณหัวใจหญิงงาม วิญญาณล้างใจ และวิญญาณคลี่คลายปริศนา
ในชีวิตก่อนหน้าฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์มาในช่วงเวลานี้ แต่หลังจากเกิดใหม่ เขาล้มเหลวในการหลอมรวมมัน
สำหรับวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า ฟางหยวนไม่สามารถปรับแต่งมันและทำได้เพียงวางมันไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูเท่านั้น
โดยปกติแล้วผู้อมตะระดับหกไม่แม้แต่จะมีวิญญาณอมตะหนึ่งดวงในการครอบครอง
จำนวนวิญญาณอมตะในการครอบครองของฟางหยวนชัดเจนกว่าเหนือกว่าระดับหกไปไกลแล้วโดยยังไม่ต้องกล่าวถึงวิญญาณสติปัญญา
ดังนั้นการให้อาหารวิญญาณอมตะเหล่านี้จึงถือเป็นภาระใหญ่หลวงของฟางหยวนมาตลอด
ตอนนี้ปัญหาการให้อาหารถูกแก้ไข ฟางหยวนจึงรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“จิตวิญญาณแผ่นดิน” ฟางหยวนเรียกเบาๆอยู่ในห้องลับ
“นายท่าน ข้าอยู่นี่” จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูปรากฏตัวขึ้นด้วยรอยยิ้มแจ่มใสและพุ่งเข้ากอดขาของฟางหยวนเอาไว้ทันที
“นายท่าน ข้าไม่ได้รบกวนท่านเพราะเห็นว่าท่านกำลังยุ่ง แต่ข้าคิดถึงท่านจริงๆ” เสี่ยวหูกล่าวอย่างไร้เดียงสาพร้อมกับสะบัดพวงหางสีขาวของนาง “แม้นายท่านจะน่าเกลียดก็ตาม”
ฟางหยวนหัวเราะและลูบศีรษะเสี่ยวหูก่อนออกคำสั่ง “ไปสั่งมนุษย์ขนในหอคอยหินให้เพิ่มกำลังผลิตวิญญาณถุงสูญญากาศ”
“รับทราบ” จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูตอบรับทันที
“ไปได้แล้ว”
“ทราบแล้ว…” เสี่ยวหูมองฟางหยวนด้วยสายตาไม่เต็มใจก่อนจะหายตัวไปในที่สุด
เมื่อเสี่ยวหูจากไป ฟางหยวนกระตุ้นใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางต่อไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
เวลานี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังไม่เปลี่ยนร่าง เขายังอยู่ในรูปลักษณ์ของชายชราผมขาวชุดคลุมยาวและดูอ่อนโยน
“เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่? เจ้ารวบรวมสมบัติที่ข้าร้องขอได้แล้วงั้นหรือ? หากไม่ เราก็ไม่มีสิ่งใดต้องพูดคุยกัน!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสะบัดแขนเสื้อกล่าวอย่างเฉยเมย
เนื่องจากความต้องการที่มากเกินไปของฟางหยวนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา
ฟางหยวนต้องการความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาแต่ชายชราร้องขอทรัพยากรอมตะที่หายากเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน
ต้นกำเนิดของทรัพยากรดังกล่าวมาจากสวรรค์ทั้งเก้า
หากไม่ใช่เพราะความหายากของมัน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะไม่มอบภารกิจนี้ให้กับฟางหยวน
“แน่นอน ข้าได้มาแล้ว ดูนี่” ฟางหยวนหัวเราะโดยไม่สนใจท่าทีที่เย็นชาของฝ่ายตรงข้าม
“เจ้าได้มันมาจริงๆ!?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองทรัพยากรอมตะในมือของฟางหยวนและกล่าวด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มองฟางหยวนในแง่ดีนัก
ถูกต้อง
นี่เป็นภารกิจที่เกินขีดความสามาถของฟางหยวนในชีวิตก่อนหน้า แต่ชีวิตนี้เขามีทรัพยากรอมตะระดับแปดอยู่ในมือ เหตุใดเขาต้องกังวลว่าจะไม่สามารถซื้อสิ่งที่ต้องการ?
ฟางหยวนส่งกลีบดอกไม้พิษให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและร้องขอวิญญาณความคิดดาราระดับมนุษย์จำนวนมากรวมถึงวิญญาณระดับมนุษย์ดวงอื่นๆ
เขารู้แล้วว่าแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาที่แท้จริงเป็นอย่างไร
สิ่งสำคัญก็คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหม้อหลอมรวม
มนุษย์ขนจำนวนนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ที่นี่
แดนศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถมองเห็นในเวลานี้เป็นเพียงก้อนเมฆบนท้องฟ้าของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาที่แท้จริงเท่านั้น ด้านล่างยังมีสามทวีปที่เต็มไปด้วยประชากรมนุษย์ขนที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข
ด้วยความช่วยเหลือจากพวกเขา มันเป็นเรื่องง่ายที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมาก
“บนพื้นฐานที่ข้ามี ข้าสามารถช่วยเจ้าในเรื่องนี้” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบก่อนกล่าวเพิ่ม “แต่ครั้งหน้าข้าหวังว่าเจ้าจะนำเกล็ดกิเลนจันทร์เสี้ยวมาให้ข้าอย่างน้อยสามสิบชิ้นมิฉะนั้นข้าจะไม่ฟังคำขอใดๆจากเจ้าทั้งสิ้น”
น้ำเสียงของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังเย็นชาแต่ใบหน้าของเขาไม่ได้เย็นชาอีกต่อไป
ฟางหยวนพยักหน้าและใช้วิญญาณท่องแดนอมตะจากไปอย่างเงียบๆ
เขามีวิธีฟื้นฟูมิติช่องว่างแห่งชีวิตและความตายรวมถึงวิธีเปลี่ยนร่างบนเส้นทางความแข็งแกร่งที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากท่าไม้ตายเพลิงนิพพานของนางมารผลาญสวรรค์ เขาสามารถกำจัดร่างผีดิบอมตะ แต่เขายังไม่มีแผนการที่จะทำเรื่องนี้
การมีชีวิตหมายถึงศักยภาพที่จะก้าวหน้าเท่านั้น ตอนนี้เขายังเป็นผู้อมตะในจุดต่ำสุดของระดับหก หากเขากลับเป็นผู้อมตะที่มีชีวิต เขาจะสูญเสียความแข็งแกร่งทางกายภาพและทำให้เขาอ่อนแอลง
สิ่งสำคัญก็คือฟางหยวนเหลืออายุไขไม่มาก
เขาให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหลอมรวมวิญญาณต่างๆเพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต
ทรัพยากรอมตะแลกกับวิญญาณระดับมนุษย์ นี่ถือเป็นการสูญเสียของฟางหยวน แต่ฟางหยวนไม่กังวล
เขามีแผนการของตนเองเกี่ยวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น
ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งของภาคกลาง
มีต้นไม้พิเศษอยู่ที่นี่
มันก็คือต้นไม้แห่งความฝัน
‘มันยังอยู่ที่นี่จริงๆ’ ฟางหยวนซ่อนตัวและตรวจสอบมันอย่างมีความสุข
ในชีวิตก่อนหน้าเขาได้รับข้อมูลนี้มาจากโม่เหยา แต่เมื่อเขามาถึงที่นี่ มันก็ถูกโค่นลงไปแล้ว
อย่างไรก็ตามหลังจากกำเนิดใหม่ ฟางหยวนไม่ต้องดิ้นรนเข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรผีดิบเพื่อหาวิธีกำจัดร่างผีดิบและสามารถมาที่นี่ได้เร็วกว่าในชีวิตก่อนหน้า