เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 970 ใบหน้าภูตผีและดอกบัวสีแดง
แปลโดย iPAT
ตำนานกล่าวว่ามีแม่น้ำสายหนึ่งไหลไปทั่วโลก
ด้วยการเคลื่อนไหวของแม่น้ำสายนี้ โลกจึงดำเนินต่อไปได้ตามปกติ
แม่น้ำสายนี้ถูกเรียกว่าสายธารแห่งกาลเวลา
นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ สถานที่ที่วิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจำนวนมากถือกำเนิดและอาศัยอยู่
มันเป็นแม่น้ำที่ส่องประกายระยิบระยับหลากหลายสีสัน ฟางหยวนรู้สึกว่ามันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามที่สุด
เมื่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าหอคอยดวงตาสวรรค์โจมตีลงมาอย่างกระทันหัน ฟางหยวนไม่สามารถหลบหนี ทางเลือกเดียวของเขามีเพียงวิญญาณกาลาเวลาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามวิญญาณกาลเวลาเป็นเพียงวิญญาณระดับหก มันมีโอกาสที่จะล้มเหลวทุกครั้งที่ใช้งาน
บนภูเขาชิงเหมา ฟางหยวนประสบความสำเร็จ
บนภูเขาซานชา ฟางหยวนก็ประสบความสำเร็จ
หากนับรวมในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการใช้งานวิญญาณกาลเวลามาแล้วถึงสามครั้ง
แต่สุดท้ายเขาก็พบกับความล้มเหลวในครั้งนี้
จั๊กจั่นไม้แห่งกาลเวลาระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยขณะที่จิตวิญญาณของฟางหวนจมลงสู่สายธารแห่งกาลเวลาและถูกกลืนกินราวกับเด็กทารกที่พลัดตกลงไปในทะเล
‘ในที่สุดข้าก็ล้มเหลว…’
ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย จิตใจของฟางหยวนยังสงบนิ่ง
ไม่กังวลและไม่เสียใจ
ตั้งแต่เขาเลือกเส้นทางสายนี้ เขาก็คาดการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับมันจริงๆ ฟางหยวนจึงไม่แปลกใจและไม่แตกตื่น
เขาทำทุกอย่างที่ทำได้ไปแล้ว
‘หากเลือกได้อีกครั้ง ข้าก็ยังจะเลือกเดินบนเส้นทางสายนี้ ฮ่าฮ่า แม้เรื่องราวในฐานะผู้อมตะของข้าจะจบลงที่นี่ แม้ข้าจะไม่สามารถฝากชื่อหรือมรดกเอาไว้เบื้องหลัง แต่มันก็ไม่สำคัญ’
จิตวิญญาณของฟางหยวนกำลังจะแตกดับแต่เขากลับสงบนิ่งและกระทั่งรู้สึกมีความสุข
หากเขายังมีใบหน้า มุมปากของเขาคงยกตัวขึ้นเป็นรอยยิ้มในเวลานี้ เขาตายขณะมุ่งหน้าสู่เป้าหมาย เหตุใดต้องเสียใจ?
‘ฮ่าฮ่าฮ่า หือ…’ ฟางหยวนหยุดหัวเราะ
เขารู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ
ห่างออกไป ใบหน้าของภูตผีค่อยๆปรากฏขึ้น มันมองมาที่ฟางหยวนด้วยดวงตาเย้ยหยัน
แก้มของมันจะพองโตขึ้นก่อนที่มันจะพ่นดอกบัวตูมขนาดใหญ่ออกมาจากปาก
หลังจากนั้นมันจึงเผยรอยยิ้มตลกขบขันแต่แฝงไว้ด้วยความสยดสยองขณะมองมาที่ฟางหยวน
ดอกบัวค่อยๆผลิบานเป็นดอกบัวสีแดงท่ามกลางสายธารแห่งกาลเวลา
ลำแสงสีแดงพุ่งออกมาจากใจกลางของดอกบัวแดงมายังบริเวณที่จั๊กจั่นไม้แห่งกาลเวลาร่วงหล่นลงมา
ขณะเดียวกันใบหน้าภูตผีก็ค่อยๆจมลงไปใต้น้ำ
ทุกอย่างราวกับภาพยนตร์ที่ฉายย้อนกลับ
จิตวิญญาณของฟางหยวนเหลืออยู่ไม่มากนัก แต่ภายใต้แสงสีแดง จิตวิญญาณของเขากลับฟื้นตัวขึ้นด้วยความเร็วสูง
ชิ้นส่วนของจั๊กจั่นไม้แห่งกาลเวลาพุ่งเข้ามาหลอมรวมกันและกลายเป็นวิญญาณกาลเวลาที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบ
จั๊กจั่นไม้แห่งกาลเวลำแบกจิตวิญญาณของฟางหยวนและเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง!
แสงสีแดงหายไปพร้อมกับดอกบัวแดง สายธารแห่งกาลเวลากลับสู่สภาพปกติ
ทุกอย่างราวกับภาพมายาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อย่างไรก็ตามวิญญาณกาลเวลาได้รับการกู้คืนแล้วและยังนำจิตวิญญาณของฟางหยวนบินทวนกระแสน้ำ!
ย้อนอดีต!
หวนคืน!
…..
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว
โลหิตพิษกำลังเดือดพล่าน ค่ายกลวิญญาณสามชั้นถูกกัดกร่อนขณะที่หมอกพิษเริ่มแพร่กระจายออกไป
ใบหน้าของฟางหยวนกลายเป็นเคร่งเครียด
‘ต่อไปเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด ผสานปราณพิภพดารา’
เขานำทรัพยากรอมตะออกมา หนึ่งคือแก่นดินดำทรงกลม อีกหนึ่งคือปราณดาราที่อยู่ในรูปลักษณ์ของดวงแสงสีฟ้าอ่อน
ปราณดาราคือปราณสวรรค์ที่เกิดขึ้นในสวรรค์ทั้งเก้า แก่นดินดำคือปราณพิภพที่ควบรวมเป็นก้อน
โดยทั่วไปปราณสวรรค์และปราณพิภพจะไม่สามารถอยู่ร่วมกัน แต่ปราณพิภพดาราคือการหลอมรวมกันของปราณสวรรค์และปราณพิภพ
ฟางหยวนผสานปราณดาราและแก่นดินดำเข้าด้วยกัน ทั้งสองหมุนวนรอบกันราวกับกงล้อหยินหยาง
‘ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมทั่วไปไม่สามารถจัดการพวกมันได้อย่างสมบูรณ์ ขั้นตอนนี้ต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังเช่น ท่าไม้ตายอมตะอสรพิษสายฟ้า หิมะย้อนกลับ กลองสายฟ้า หรือโม่หินสายลม โชคไม่ดีที่ข้าไม่มีหนึ่งในท่าไม้ตายอมตะในตำนานทั้งสี่ ในขั้นตอนนี้ข้าต้องใช้เวลาและความพยายามเท่านั้น’
ฟางหยวนกระโดดเข้าไปในกระดองเต๋า
ต่อมาเขายังใช้กรงเล็บกรีดเฉือนร่างกายของตนเอง
ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือด คลื่นโลหิต!
เลือดของฟางหยวนผสานเข้ากับโลหิตพิษ ขณะเดียวกันโลหิตพิษก็ไหลเข้าสู่บาดแผลบนร่างกายของฟางหยวน
ความเจ็บปวดพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนแต่เขายังไม่แยแส
ร่างผีดิบอมตะไม่มีความรู้สึกแต่เขาใช้วิญญาณทำให้ร่างกายรับรู้ถึงความเจ็บปวดเพื่อที่เขาจะได้รู้ว่าการหลอมรวมบรรลุถึงขั้นตอนใดแล้ว
หลังจากขั้นตอนนี้เริ่มเกิดเสถียรภาพ เขาจึงนำปราณดารากับแก่นดินดำออกมาอีกครั้งและกลืนพวกมันลงไปในท้อง
นี่เป็นทักษะบนเส้นทางแห่งเลือดจากชีวิตก่อนหน้าที่เขาเรียกมันว่าทักษะเนื้อสด
ปราณดารากับแก่นดินดำถูกห่อหุ้มด้วยเลือดและเริ่มหลอมละลายอยู่ในท้องของฟางหยวน
ร่างของฟางหยวนเต็มไปด้วยบาดแผล ความเจ็บปวดทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว
เวลาผ่านไปสามวันสองคืน
“ยัง…ยังต้องใช้เวลาอีกหนึ่งคืน ตราบเท่าที่ข้าผ่านขั้นตอนที่ยากที่สุดนี้ ข้าจะประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะ…อุ๊บ!”
ทันใดนั้นใบหน้าของเขาพลันปรากฏให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานที่เพิ่มสูงขึ้น
ดวงตาที่ส่องประกายสดใสของเขาเผยให้เห็นถึงความสับสนและเริ่มมืดมนลง
“พรวด!”
เขาพ่นเลือดคำโตออกมาจากปากอย่างกระทันหันและล้มลงไปในบ่อพิษ
“นายท่าน!” จิตวิญญาณแผ่นดินแห่งดวงดาวตะโกน
แต่ในจังหวะนี้ศีรษะของฟางหยวนกลับโผล่ขึ้นมา
ความสับสนบนใบหน้าของเขาหายไปและถูกแทนที่ด้วยชีวิตชีวา เขาพึมพำ “ที่นี่คือ…”
ได้ยินคำกล่าวของฟางหยวน จิตวิญญาณแผ่นดินแห่งดวงดาวยิ่งรู้สึกกังวล “นายท่านเสียสติเพราะล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณงั้นหรือ?”
ฟางหยวนมองฝ่ามือทั้งสองของเขาก่อนจะกวาดตามองบ่อเลือดและหยุดสายตาที่จิตวิญญาณแผ่นดินแห่งดวงดาว
“ตอนนี้เป็นเวลาใด?” ฟางหยวนถาม
จิตวิญญาณแผ่นดินแห่งดวงดาวลอบส่ายศีรษะอยู่ภายในแต่ยังตอบคำถาม “หลายวันผ่านไปแล้วหลังจากนายท่านเริ่มหลอมรวมวิญญาณอมตะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหยวนเงยหน้าหัวเราะอย่างเต็มที่
จิตวิญญาณแผ่นดินแห่งดวงดาวรู้สึกหวาดกลัว “โอ้ ไม่ นายท่านเสียสติไปแล้ว หลังจากล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณอมตะ นายท่านได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถจดจำวันเวลาและตอนนี้ยังหัวเราะอย่างมีความสุข…”
ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องอธิบายเกี่ยวกับเหตุผลที่ทำให้เขามีความสุข
‘ข้ากลับมาแล้ว!’
‘แม้วิญญาณกาลเวลาจะล้มเหลว แต่เหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นทำให้ข้ากลับมาจากความตายและสามารถหวนคืนสู่อดีตอีกครั้ง’
‘ตอนนี้ข้ากำลังหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์…ข้าย้อนกลับมาประมาณหนึ่งปีงั้นหรือ? สั่นมาก!’
‘ตามพื้นฐานของข้า ข้าควรย้อนกลับไปในอดีตหลายร้อยปี เป็นไปได้หรือไม่ว่าเพราะความล้มเหลวของวิญญาณกาลเวลาทำให้ข้าย้อนกลับมาเพียงหนึ่งปีก่อนหน้า’
‘นอกจากนั้นใบหน้าภูตผีและดอกบัวสีดอก…มันคือสิ่งใด?’