Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 965

การต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน (1)

แปลโดย iPAT 

 

เขตต้องข้ามของผู้อมตะคือพลังอำนาจของคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล

 

ตอนนี้เขตต้องข้ามขยายตัวออกไปเป็นรัศมีหลายพันลี้ ผู้อมตะทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากมัน

 

ก่อนที่การแข่งขันครั้งนี้จะถูกจัดขึ้น ผู้อมตะทุกคนทดลองเข้าไปด้วยตนเอง แต่กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ยังไม่สามารถทำสิ่งใด

 

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดการแข่งขันดังกล่าว

 

แต่ฟางหยวนตระหนักถึงช่องโหว่บางอย่าง

 

เบาะแสก็คือวิญญาณอมตะ

 

วิญญาณอมตะสามารถใช้งานได้ในเขตต้องห้ามแต่พลังอำนาจของพวกมันจะลดลงอย่างมาก ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลเซียวฝังวิญญาณอมตะและพลังงานอมตะไว้ในร่างของเซียวซานเพื่อปกป้องเขาในระดับหนึ่ง

 

ท้ายที่สุดเซียวซานก็เป็นลูกหลานของผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลเซียว

 

‘วิญญาณอมตะสามารถใช้งานในเขตต้องห้าม แต่ผู้อมตะไม่สามารถเข้าไป เป้าหมายของมันควรจะเป็นร่างกายของผู้อมตะ’

 

ฟางหยวนคาดเดา

 

แล้วสิ่งใดคือความแตกต่างระหว่างผู้อมตะกับวิญญาณอมตะ?

 

เห็นได้ชัดว่าพลังงานแห่งเต๋าไม่ใช่คำตอบ วิญญาณอมตะเป็นภาชนะที่ใช้บรรจุพลังงานแห่งเต๋าขณะที่ร่างกายของผู้อมตะมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า

 

ฟางหยวนคิดและได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว ‘มิติช่องว่าง!’

 

วิญญาณอมตะไม่มีมิติช่องว่างแต่ผู้อมตะมี หากเขตต้องห้ามมีเป้าหมายอยู่ที่มิติช่องว่าง ฟางหยวนจะใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเข้าสู่การแข่งขันด้วยตนเอง

 

‘ข้าแตกต่างจากคนอื่นๆ ข้ามีทะเลวิญญาณที่สอง หากข้าสามารถปิดผนึกมิติช่องว่าง ข้าจะกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าและสามารถเข้าไปในเขตต้องข้าม’

 

ยิ่งคิด ฟางหยวนก็ยิ่งมีความหวัง

 

แม้เขาจะไม่มีวิธีปิดผนึกมิติช่องว่างในเวลานี้แต่เขามีวิญญาณสติปัญญา ด้วยแสงแห่งปัญหาและความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา เขาจะหาวิธีได้ด้วยตนเอง

 

‘ข้ามีวิธีเคลื่อนย้ายมิติช่องว่าง ข้าย้ายที่ตั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวมาแล้ว นี่เป็นข้อมูลอ้างอิงที่ดี’

 

‘ถูกต้อง ข้ายังมีท่าไม้ตายอมตะเพลิงนิพพานของนางมารผลาญสวรรค์ ข้าอาจได้รับแรงบันดาลใจจากมัน นางคิดค้นท่าไม้ตายนี้จากมรดกของผู้อมตะเฒ่ากงเจีย บางทีการวิจัยครั้งนี้อาจทำให้ข้าได้รับมรดกของผู้อมตะเฒ่ากงเจียจากนางโดยตรง’ ฟางหยวนคิดอย่างรวดเร็ว

 

ผู้อมตะเฒ่ากงเจียได้รับการยอมรับจากมวลชนว่าเป็นสุดยอดปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเทียบเท่ากับบรรพชนผมยาวและเฒ่าสายฟ้าเทียนหนาน

 

เขามีความเชี่ยวชาญพิเศษเกี่ยวกับมิติช่องว่างและทะเลวิญญาณ ในแง่มุมนี้ไม่มีผู้ใดเหนือกว่าเขา

 

ฟางหยวนไม่ได้ลงทุนมากนักในการแข่งขันครั้งนี้

 

ตามเงื่อนไขฟางหยวนสามารถเลือกผู้ใช้วิญญาณระดับสามจำนวนหนึ่งคนเพื่อเข้าสู่ภูเขาอี้เทียนเป็นเวลาสามเดือน

 

แม้เขาจะมีทรัพยากรอมตะมากมาย แต่เขาพึ่งมาถึง หากเขารีบร้อน มันอาจดึงดูดความโลภของผู้คน บางทีผู้อมตะระดับแปดอาจมาสร้างปัญหาให้เขาโดยตรง

 

โชคดีที่สามารถเพิ่มเดิมพันระหว่างการแข่งขัน

 

ร่างผีดิบอมตะสุดยอดเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดมีความสำคัญต่อฟางหยวนมาก นอกจากนี้ยังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล

 

สิ่งสำคัญอีกประการก็คือความลับเกี่ยวกับเส้นทางแห่งอาหาร

 

ในความเป็นจริงหลังจากหลายปีผ่านไป วิญญาณจำนวนมากควรตายเพราะความหิวโหย

 

แต่สนามรบแห่งความโกลาหลยังอยู่มาจนถึงวันนี้ นี่หมายความว่ามันเก็บความลับเกี่ยวกับเส้นทางแห่งอาหารเอาไว้

 

หากได้รับวิธีการบางอย่างบนเส้นทางแห่งอาหาร ฟางหยวนจะสามารถแก้ปัญหาความหิวโหยของวิญญาณอมตะจำนวนมากของเขา

 

ฟางหยวนลอบใช้วิญญาณท่องแดนอมตะกลับแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูอย่างลับๆ

 

เขายังให้ความสำคัญกับการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ในเวลาเดียวกันเขาก็อนุมานวิธีปิดผนึกมิติช่องว่างอย่างกระตือรือร้น

 

หนึ่งเดือนต่อมา ข่าวการต่อสู้ระหว่างฝ่ายธรรมะและปีศาจแพร่กระจายออกไป เรื่องนี้ดึงดูดความสนใจของทุกกองกำลังในภาคใต้

 

การโจมตีหมู่บ้านอี้เทียนของเซียวซานครั้งแรกเป็นผู้ใช้วิญญาณจากตระกูลวู เนื่องจากพวกเขาเป็นกองกำลังที่อยู่ใกล้ที่สุด

 

วูเฉินตง

 

เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ขั้นสุดยอดบนเส้นทางแห่งทาส

 

ผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งทาสเชี่ยวชาญการต่อสู้กับศัตรูจำนวนมากแต่มีจุดอ่อนที่ตัวผู้ใช้วิญญาณเอง ดังนั้นตระกูลวูจึงส่งผู้ใช้วิญญาณระดับสี่อีกสามคนมาคุ้มกันเขา

 

สองในสามเป็นผู้นำหมู่บ้านภายใต้การปกครองของตระกูลวู สำหรับคนสุดท้าย เขาเป็นผู้อาวุโสของตระกูล

 

ฝูงสัตว์อสูรบุกโจมตีหมู่บ้านอี้เทียนราวกับคลื่นน้ำ

 

ผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้านหลายคนเสียชีวิตแต่เซียวซาน ซันเพิ่งหู และจ้าวซิงซิงยังมีชีวิตอยู่เพราะพวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้า

 

วูเฉิงตงได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องล่าถอยขณะที่ผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ของตระกูลวูเสียชีวิตสองคน

 

แม้ศัตรูจะถูกขับไล่ แต่หมู่บ้านอี้เทียนของเซียวซานก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน

 

การมีชีวิตอยู่ของวูเฉิงตงทำให้เซียวซานรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนั้นพวกเขาตัดสินใจไล่ล่าแต่ระหว่างทางพวกเขาพบผู้ใช้วิญญาณปีศาจบางคนนำศีรษะของวูเฉิงตงมาด้วย

 

คนผู้นี้ชื่อ ลู่ซวนฟง เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าที่ได้รับฉายาว่าจอมโจรแห่งภาคใต้ เขามีผู้อมตะคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังและเคยบุกเข้าไปในหอปราบมารของตระกูลไท่มาก่อน

 

ลู่ซวนฟงสังหารวูเฉิงตงและยุติวิกฤตของหมู่บ้านอี้เทียน

 

การโจมตีระลอกแรกของฝ่ายธรรมะสิ้นสุดลงตรงนี้

 

ในความเป็นจริงลู่ซวนฟงลอบแทรกซึมเข้าไปเป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะก่อนแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถสังหารลู่ซวนฟงได้อย่างง่ายดาย

 

ในการต่อสู้รอบที่สอง ทั้งสองฝ่ายติดอยู่ในสภาวะชะงักงัน

 

ครั้งนี้หลานเหม่ยอี้กับเฟยหยูหวังขึ้นไปบนภูเขาและเข้าร่วมกับหมู่บ้านอี้เทียน

 

ทั้งสองต่างเป็นผู้ใช้วิญญาณที่มีชื่อเสียงด้านการบินของภาคใต้

 

นี่ทำให้หมู่บ้านอี้เทียนมีความได้เปรียบและสามารถขับไล่ผู้ใช้วิญญาณฝ่ายธรรมะให้จากไป

 

เพื่อรับมือหลานเหม่ยอี้กับเฟยหยูหวัง ฝ่ายธรรมะต้องเชิญผู้ใช้วิญญาณหญิงชื่อหงเฟยหยูมาที่นี่

 

แต่หงเฟยหยูเพียงคนเดียวยังไม่สามารถต่อต้านผู้เชี่ยวชาญด้านการบินสองคน

 

ขณะที่หงเฟยหยูตกอยู่ในอันตราย มือกระบี่แสงเว่ยหยางจากตระกูลเฉิงก็มาถึง

 

เว่ยหยางเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเฉิงเยี่ยนเฟย เขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ขั้นต้น ไม่เพียงเขาจะสามารถช่วยเหลือหงเฟยหยู เขายังสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง

 

หลังจากหงเฟยหยูที่ได้รับบาดเจ็บและล่าถอย เว่ยหยางยังสามารถต่อต้านหลานเหม่ยอี้กับเฟยหยูหวังเพื่อซื้อเวลาให้กับฝ่ายธรรมะกระทั่งกำลังเสริมมาถึง

 

หลานเหม่ยอี้กับเฟยหยูหวังถูกบังคับให้ล่าถอย

 

หลังการต่อสู้ครั้งนี้ เว่ยหยางได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสี่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของภาคใต้ทันที

 

ด้วยการคงอยู่ของเว่ยหยาง สถานการณ์ระหว่างฝ่ายธรรมะกับปีศาจกลายเป็นไร้ทางออกอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามเมื่อราชันผีดิบที่สองที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งทาสเข้าสู่ภูเขาอี้เทียน ฝ่ายธรรมะจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล่าถอย

 

การต่อสู้รอบที่สองจบลงเช่นนี้

 

‘ดูเหมือนเพราะข้า การต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนจึงเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย’ ฟางหยวนเฝ้ามองและลอบเปรียบเทียบกับชีวิตก่อนหน้า

 

ในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน ฝ่ายปีศาจถือไพ่เหนือกว่าอย่างชัดเจน

 

นั่นเป็นเพราะการเข้าร่วมของหวังเซียว เขาสังหารผู้ใช้วิญญาณฝ่ายธรรมะมากมายและกลายเป็นผู้นำของฝ่ายปีศาจ

 

แต่บนภูเขาซานชา หวังเซียวถูกสังหารไปแล้วโดยฟางหยวน นี่เป็นเหตุผลที่เขาไม่สามารถเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้

 

โชคดีที่ราชันผีดิบที่สองมาถึงก่อนเวลาและสามารถรักษาสถานการณ์ของฝ่ายปีศาจ

 

ราชันผีดิบที่สองเป็นสมาชิกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแห่งภาคใต้และเป็นผีดิบระดับห้าขั้นสุดยอด เขาเคยทิ้งมรดกเอาไว้บนภูเขามู่เป่ย สิ่งนี้ให้กำเนิดผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งทาสผู้หนึ่งที่ชื่อติงเฮา

 

แต่ติงเฮาถูกสังหารไปแล้วโดยฟางหยวนเช่นกัน

 

‘ในชีวิตก่อนหน้า ติงเฮาเสียสละตนเองเพื่อช่วยชีวิตราชันผีดิบที่สอง หากครั้งนี้ราชันผีดิบที่สองตกอยู่ในอันตราย แล้วผู้ใดจะช่วยเขา’ ฟางหยวนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

การต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนดำเนินไปอย่างเร้าร้อนแต่ฟางหยวนยังพบกับความยากลำบากในการอนุมานวิธีปิดผนึกมิติช่องว่าง

 

เขาติดอยู่ในจุดคอขวด เขาต้องขอความช่วยเหลือจากภายนอก มิฉะนั้นเขาอาจต้องใช้เวลานับสิบปี

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงเลือกที่จะขอความช่วยเหลือจากนางมารผลาญสวรรค์

 

อย่างไรก็ตามนางมารผลาญสวรรค์ฉวยโอกาสนี้ขอยืมท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครือจากฟางหยวน

 

นางมารผลาญสวรรค์ เทพธิดาหลี่ซาน และไห่ลั่วหลันล้วนต้องการผลประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ แต่ทั้งสามเป็นผู้อมตะของภาคเหนือ พวกนางไม่สามารถเข้าร่วมในการแข่งขันระหว่างผู้อมตะภาคใต้

 

หากผู้อมตะภาคเหนือปรากฏตัวขึ้น ผู้อมตะภาคใต้จะร่วมมือกันโจมตีศัตรูจากภายนอก

 

ดังนั้นหากกลุ่มของไห่ลั่วหลันต้องการเข้าร่วม พวกนางต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครือของฟางหยวน

 

แน่นอนว่าฟางหยวนไม่เต็มใจที่จะให้ยืม

 

การให้ยืมท่าไม้ตายแตกต่างจากการให้ยืมวิญญาณ

 

เมื่อท่าไม้ตายถูกหยิบยืมโดยบางคน พวกเขาจะสามารถเรียนรู้ความลับของอีกคน พวกเขาจะรู้จุดอ่อนและสามารถคิดค้นวิธีรับมือ

 

แต่ฟางหยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้ยืมเท่านั้น

 

เขาให้ยืมท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครือแลกกับมรดกบางส่วนของผู้อมตะเฒ่ากงเจีย

 

แม้เขาจะจ่ายด้วยราคามหาศาลแต่เขาก็ได้รับผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว

 

เขาผ่านจุดคอขวดและสามารถอนุมานต่อได้อย่างราบรื่น

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset