Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 956

 พลังอำนาจที่สั่นคลอนโลกหล้า

แปลโดย iPAT 

 

ภาคกลาง หุบเขาตะขาบ

 

การไล่ล่าเกิดขึ้นบนเส้นทางหุบเขาที่ทั้งแคบและลาดชัน

 

“วิ่งเร็วขึ้นอีก!” มนุษย์จิ๋วที่อยู่บนศีรษะของหงอี้ตะโกนด้วยความกังวล

 

“โอ๊ย! อย่าดึงผมข้า!” หงอี้กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

 

มนุษย์จิ๋วไม่สนใจและยังดึงผมหงอี้ต่อโดยไม่รู้ตัว

 

“บัดซบ! มันใกล้เข้ามาแล้ว หากเจ้าไม่เร่งความเร็ว เราจะถูกกิน!” มนุษย์จิ๋วหันไปข้างหลังและกระตุ้นหงอี้ด้วยความหวาดกลัว

 

“ข้าอยากวิ่งให้เร็วกว่านี้เช่นกัน…” หงอี้กัดฟันวิ่งด้วยพลังงานทั้งหมด น่าเสียดายที่ระดับการบ่มเพาะของเขาต่ำเกินไป เขาเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับสองเท่านั้น

 

แน่นอนว่าการบ่มเพาะระดับนี้ถือว่าหาได้ยากในเด็กรุ่นเดียวกันกับเขา

 

ตั้งแต่การแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม หงอี้ได้รับโชคลาภมากมายและก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

แต่การบ่มเพาะระดับสองยังไม่เพียงพอให้เขาหลบหนีจากสัตว์อสูรระดับห้า ตะขาบเขาทอง ที่กำลังไล่ล่ามาจากด้านหลัง

 

ตะขาบตัวนี้มีขนาดร่างกายเท่ากับงูยักษ์ มันมีเขาเดี่ยวสีทองอยู่บนศีรษะและมีขาหลายร้อยขาที่ทำให้มันเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่ว

 

“พวกเราจบแล้ว! มันอยู่ข้างหลังเจ้า!” ใบหน้าของมนุษย์จิ๋วกลายเป็นซีดเผือด

 

“ข้าต้องเสี่ยง!” เส้นขนทั่วร่างของหงอี้ลุกชันขึ้นด้วยความสยดสยอง เขาตัดสินใจใช้ท่าไม้ตาย

 

มันคือท่าไม้ตายสายเคลื่อนไหว

 

แต่หงอี้พึ่งได้รับมันมาและยังฝึกฝนได้ไม่มากนัก

 

อัตราความสำเร็จและล้มเหลวในการใช้ท่าไม้ตายนี้คือห้าสิบต่อห้าสิบ

 

ท่าไม้ตายต้องกระตุ้นใช้วิญญาณอย่างน้อยสองดวงในเวลาเดียวกัน ยิ่งใช้วิญญาณมากเท่าใด มันก็ยิ่งมีความซับซ้อนและยากลำบากมากเท่านั้น

 

ท่าไม้ตายสายเคลื่อนไหวใหม่ของหงอี้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์เกือบสิบดวง

 

มันอาจเทียบไม่ได้กับท่าไม้ตายของผู้อมตะแต่สำหรับผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ นี่ถือว่ามากแล้ว

 

ท่าไม้ตายไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝึกฝน

 

หากล้มเหลว ผู้ใช้วิญญาณจะได้รับผลกระทบย้อนกลับ

 

ดังนั้นในการใช้ท่าไม้ตายทุกครั้งหงอี้จึงต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก

 

แต่ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย เขาไม่สามารถรีรอ

 

ความเร็วเดิมของเขาไม่สามารถหลบหนีจากตะขาบเขาทอง หากถูกจับ เขาต้องตายอย่างแน่นอน

 

ตอนนี้เหลือเพียงทางเดียว เขาต้องเสี่ยง!

 

‘ข้าต้องทำได้!’ หงอี้กรีดร้องอยู่ภายใน

 

แต่ความปรารถนากับความจริงเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน

 

การกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายต้องใช้สมาธิ บางท่าไม้ตายต้องพึ่งพาสภาพแวดล้อมพิเศษและไม่สามารถถูกรบกวน

 

ฟางหยวนสามารถใช้ท่าไม้ตายได้อย่างคล่องแคล่วเพราะเขามีประสบการณ์มากมายแต่หงอี้เป็นมือใหม่!

 

ตอนนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตและต้องให้ความสนใจกับเส้นทางข้างหน้าเนื่องจากมันเป็นเส้นทางหุบเขาที่อันตราย หากพลาดพลั้ง เขาอาจตกเหวและเสียชีวิต

 

อีกด้านหนึ่ง ตะขาบเขาทองกำลังไล่ล่ามาจากด้านหลังด้วยความเร็วสูง กลิ่นอายแห่งความตายกำลังใกล้เข้ามา แล้วหงอี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากมันได้อย่างไร?

 

ภายใต้สถานการณ์นี้มีเพียงผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการต่อสู้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นที่สามารถสงบจิตใจ สำหรับหงอี้ เขายังเด็กเกินไป

 

“มันกำลังจะตามทันแล้ว!” มนุษย์จิ๋วกรีดร้องก่อนจะปิดเปลือกตาลงด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นตะขาบเขาทองอ้าปากและเตรียมพร้อมที่จะกัดพวกเขา

 

แม้มนุษย์จิ๋วจะมีปีกแต่ตอนนี้ปีกของมันหักไปแล้ว มันบินไม่ได้!

 

มนุษย์จิ๋วประสบความสำเร็จในการขโมยทรัพยากรระดับห้า น้ำเกสรดอกไม้ร้อยปี ระหว่างการสำรวจถ้ำ แต่ราคาที่มันต้องจ่ายก็คือความโกรธของตะขาบเขาทอง มนุษย์จิ๋วไม่มีทางเลือกนอกจากหลบหนีออกมาพร้อมกับหงอี้เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามเมื่อมนุษย์จิ๋วเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง มันกลับรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

ด้วยเหตุผลบางประการ หงอี้สามารถหลบหนีจากปากของตะขาบเขาทอง!

 

แต่ในเวลาต่อมา ตะขาบเขาทองก็ไล่ล่าพวกเขาอีกครั้ง

 

มนุษย์จิ๋วสังเกตเห็นแล้วว่าเมื่อใดก็ตามที่ตะขาบเขาทองอ้าปาก มันจะเงยศีรษะขึ้นโดยไม่รู้ตัว

 

การกระทำนี้ทำให้ร่างของมันยกตัวขึ้นสูงหลายสิบเมตรก่อนที่มันจะพุ่งลงมา

 

เมื่อขาของมันไม่ได้อยู่บนพื้น มันจึงสูญเสียความเร็วในการเคลื่อนที่

 

ในจังหวะนี้หงอี้ที่ยังวิ่งอย่างไม่ลดลงจึงสามารถสร้างระยะห่างออกมาจากตะขาบเขาทองและสามารถรอดพ้นจากอันตรายได้ทุกครั้ง

 

“เจ้าโง่นี่!” มนุษย์จิ๋วหัวเราะอย่างมีความสุขที่สามารถรอดพ้นจากอันตราย

 

มนุษย์เป็นจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดขณะที่สัตว์ป่ามีสติปัญญาจำกัด ชีวิตและความตายของพวกมันขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณเป็นส่วนใหญ่

 

“ข้าให้เจ้าหลบหนีมาด้วย แต่เจ้ากลับเรียกข้าว่าเจ้าโง่งั้นหรือ?” หงอี้ไม่พอใจ

 

“ข้าไม่ได้หมายถึงเจ้า ข้าจะบอกว่าตะขาบเขาทองตัวนี้โง่มาก!” มนุษย์จิ๋วตะโกน

 

หงอี้ยังไม่พอใจ “เจ้าต่างหากที่โง่ ข้าเคยบอกแล้วว่าตะขาบเขาทองกำลังหลับอยู่ เราสามารถหลบหนีออกมาอย่างเงียบๆ แต่เจ้ากลับกรีดร้องอย่างไร้เหตุผล!”

 

มนุษย์จิ๋วรู้สึกผิดและแสดงสีหน้าลำบากใจ

 

มันต้องการโต้ตอบแต่ในจังหวะนี้ดวงตาของมันกลับเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ

 

ปรากฏว่าตะขาบเขาทองตระหนักว่ามันไม่สามารถกัดเหยื่อ ดังนั้นมันจึงเปลี่ยนวิธีโจมตีโดยใช้เขาสีทองของมัน

 

แน่นอนว่ามันไม่ได้ฉลาดขึ้น

 

ตะขาบเขาทองเคยพบศัตรูที่มีร่างกายใหญ่โตและไม่สามารถกลืนเหยื่อเข้าไปโดยตรง ในสถานการณ์นั้นมันใช้เขาสีทองตัดร่างเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ

 

การอ้าปากกัดคือสัญชาตญาณของตะขาบเขาทอง การใช้เขาก็เช่นกัน

 

ตะขาบเขาทองกระโจนเข้ามาพร้อมกับเขาอันแหลมคมของมัน

 

“เจ้าโง่ วิ่ง!” มนุษย์จิ๋วตะโกนและจับเส้นผมของหงอี้เอาไว้อย่างแน่นหนา

 

“เจ้ายังเรียกข้าว่าเจ้าโง่อีกงั้นหรือ? โอ๊ย!” หงอี้ตะโกนเสียงแหลม ความเจ็บปวดพุ่งเข้าโจมตีเขาอย่างกะทันหัน

 

เขาสีทองพุ่งเข้าแทงบั้นท้ายของหงอี้

 

มนุษย์จิ๋วรู้สึกสิ้นหวัง

 

แต่ทันใดนั้นความเร็วของหงอี้กลับพุ่งสูงขึ้นโดยไม่คาดคิด

 

เขาพุ่งทะยานไปข้างหน้าราวกับลูกปืนใหญ่

 

มันกลายเป็นว่าเขาประสบความสำเร็จในการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายในจังหวะที่เขากรีดร้อง

 

หงอี้สามารถหลบหนีไปได้ด้วยเหตุนี้

 

“เจ้าเลือดออก!” มนุษย์จิ๋วกรีดร้องอีกครั้ง

 

เขาสีทองของตะขาบเขาทองแทงบั้นท้ายของหงอี้ไปแล้ว แต่การระเบิดความเร็วอย่างกะทันหันทำให้ทั้งสองแยกกันออกจากกัน

 

ราวกับมีดสั้นถูกดึงออกจากบั้นท้ายของหงอี้และทิ้งบาดแผลเลือดไหลเอาไว้

 

“ก้นข้า! ข้าเจ็บก้น!” จิตใจของหงอี้ถูกโจมตีด้วยความเจ็บปวด

 

เขาใช้มือจับก้นและปิดบาดแผลของตนโดยไม่รู้ตัว

 

อย่างไรก็ตามความเจ็บปวดทำให้เขาฟุ้งซ่านและเป็นเหตุให้ท่าไม้ตายของเขาหยุดลง

 

ความเร็วของเขาลดลงอีกครั้ง แต่ตะขาบเขาทองยังไล่ล่าอยู่

 

เขาสีทองพุ่งเข้าโจมตีก้นอีกข้างหนึ่งของหงอี้

 

“อา…” หงอี้กรีดร้องอีกครั้ง

 

สิ่งเดิมเกิดขึ้นอีกหน!

 

ความเจ็บปวดกระตุ้นท่าไม้ตายของเขาให้ทำงานและส่งร่างของเขาพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง

 

“เจ้าเลือดออก! เจ้าเลือดออก!” มนุษย์จิ๋วกรีดร้องไม่หยุด

 

หงอี้จับก้นทั้งสองข้างและไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร

 

“โอ้ ไม่ พลังวิญญาณของข้ากำลังจะหมด!” ใบหน้าของหงอี้กลายเป็นซีดเผือด

 

ผู้ใช้วิญญาณมีพลังวิญญาณเพียงเล็กน้อยขณะที่การกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายต้องจ่ายด้วยพลังวิญญาณจำนวนมหาศาล หลังจากวิ่งมาเป็นเวลานาน เขาก็ถึงขีดจำกัดในที่สุด

 

ความตายกำลังใกล้เข้ามา หงอี้ถูกบังคับให้ตกลงสู่สถานการณ์ที่สิ้นหวัง

 

“เรากำลังจะตาย เรากำลังจะตาย เจ้าตะขาบ อย่ากินข้า ข้าตัวเล็กมีเนื้อน้อย กินเขา กินเจ้าโง่นี่!” มนุษย์จิ๋วกล่าวอย่างไร้สติ

 

หงอี้รู้สึกว่างเปล่าและไม่มีอารมณ์ตอบโต้มนุษย์จิ๋ว

 

แต่ในวินาทีนี้ดาบแสงที่สว่างไสวกลับส่องประกายขึ้น

 

โลกถูกอาบย้อมไปด้วยแสงสีขาว

 

สภาพแวดล้อมตกอยู่ในความเงียบ

 

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ทำให้หงอี้หยุดวิ่ง เขาวิ่งต่อไปอีกสักพักก่อนจะตระหนักถึงบางสิ่ง

 

เมื่อมองย้อนกลับไป เขาตกใจมาก

 

ตะขาบเขาทองระดับห้าอันตรธานหายไปอย่างสมบูรณ์

 

สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขามีเพียงรอยแยกขนาดใหญ่ที่อยู่บนพื้นเท่านั้น

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” หงอี้รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

“มันคือดาบแสง…” มนุษย์จิ๋วตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

 

…..

 

ภาคกลาง ชายฝั่งตะวันออก

 

คลื่นซัดสาดอย่างไม่หยุดยั้ง มวลอากาศเย็นแผ่กระจายไปเป็นวงกว้าง

 

“เด็กๆ นี่คือเกาะน้ำแข็ง ที่ตั้งของนิกายหิมะเหิน หลังจากนี้พวกเจ้าจะอาศัยอยู่ที่นี่ มันจะเป็นสถานที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของพวกเจ้า” ผู้ใช้วิญญาณอาวุโสชี้นิ้วไปที่เกาะน้ำแข็งและกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

 

ดวงตาของเด็กๆส่องประกายขึ้นด้วยความคาดหวัง

 

แม้นิกายหิมะเหินจะไม่มีผู้อมตะและไม่ใช่นิกายใหญ่แต่มันยังเป็นนิกายที่ทรงอิทธิพลในพื้นที่นี้และเป็นคู่แข่งกับนิกายห้าคุณธรรม

 

นิกายหิมะเหินเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานแข่งขันบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเมื่อไม่นานมานี้

 

ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงของนิกายหิมะเหินจึงแพร่กระจายไปทั่ว

 

‘เด็กกลุ่มนี้มีพรสวรรค์สูงที่สุดในรอบสิบปี พวกเขาคืออนาคตของนิกาย พวกเขาจะทำให้นิกายแข็งแกร่งขึ้น’ ผู้ใช้วิญญาณอาวุโสลอบคาดหวัง

 

“ซูม…”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงสีขาวสว่างขึ้นอย่างกะทันหันและทำให้ทุกคนต้องปิดเปลือกตาลง

 

เมื่อพวกเขาเปิดเปลือกตาขึ้น สิ่งที่เห็นทำให้พวกเขาตกตะลึง

 

เกาะน้ำแข็งหายไปและทิ้งไว้เพียงร่องลึกเท่านั้น

 

กระทั่งทะเลยังถูกแยกออก!

 

มวลน้ำไหลทะลักลงไปในร่องลึกและไม่ปรากฏร่องรอยในการเติมเต็ม

 

ฉากที่แปลกตาทำให้หัวใจของผู้คนถูกโจมตีด้วยความหวาดกลัว

 

…..

 

วังสวรรค์

 

เจ้าวังยืนอยู่บนพื้นด้านหน้าหอคอยดวงตาสวรรค์ด้วยร่างกายสั่นเทา

 

มือที่เหี่ยวย่นของเขาถือวิญญาณโชคชะตาเอาไว้

 

วิญญาณโชคชะตาฟื้นฟูขึ้นมาก นี่ทำให้เจ้าวังรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุข

 

ผู้อมตะเพ่ยกังซุ้ย เหลียนจิวเฉิง และไป่เฉินเทียนจากไปแล้ว

 

ผู้อมตะส่วนใหญ่ของวังสวรรค์จะมักเข้าสู่การจำศีลและใช้วิธียืดอายุบางอย่าง เมื่อพวกเขาตื่นขึ้น พวกเขาจะทำงานให้กับวังสวรรค์และจัดการเรื่องผู้สืบทอด

 

วังสวรรค์เป็นผู้นำนิกายโบราณทั้งสิบ ในขณะเดียวกันสมาชิกของวังสวรรค์ก็ถูกคัดเลือกมาจากนิกายโบราณทั้งสิบเช่นกัน

 

ไม่ใช่ผู้อมตะทุกคนที่จะสามารถเข้าสู่วังสวรรค์

 

นอกจากต้องเป็นผู้อมตะระดับแปดที่มีความสามารถโดดเด่น สิ่งสำคัญที่วังสวรรค์จะพิจารณาก็คือทัศนคิตของพวกเขา

 

วังสวรรค์คือสิ่งใด?

 

เทพอมตะกลุ่มดาวเคยอธิบายไว้เมื่อสามล้านปีก่อนว่ามันคือการทำตามเจตจำนงสวรรค์และผดุงความยุติธรรมให้กับสวรรค์

 

“หลังจากวิญญาณโชคชะตาฟื้นตัวขึ้น มันสามารถใช้พลังอำนาจได้ห้าสิบส่วน ด้วยหอคอยดวงตาสวรรค์ เราจะพบคนที่หลบหนีจากโชคชะตามากขึ้น การกำจัดผู้คนเหล่านี้จะช่วยให้วิญญาณโชคชะตาฟื้นตัวเร็วขึ้น ตราบเท่าที่วัฎจักรนี้ดำเนินต่อไป สุดท้ายวังสวรรค์จะกลับมายิ่งใหญ่เช่นในอดีต!”

 

เจ้าวังเต็มไปด้วยความคาดหวัง

 

“บึม!”

 

ทันใดนั้นดาบแสงพลันแผ่พุ่งลงมาจากท้องฟ้าและตัดผ่านวังสวรรค์อย่างแม่นยำ

 

ปากของเจ้าวังอ้าค้าง รูม่านตาของเขาหดเล็กลงเมื่อมองเห็นครึ่งบนของวังสวรรค์ค่อยๆเอียงและร่วงหล่นลงมา

 

“หอคอยดวงตาสวรรค์!” เจ้าวังกรีดร้องเสียงดังเมื่อสามารถตอบสนอง

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset