ช้าไปหนึ่งก้าว
แปลโดย iPAT
หลังจากยอมรับความพ่ายแพ้ ฮุ้ยฟงซื่อกลายเป็นตัวหมากเบี้ยของผู้อมตะภาคกลางและถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพื่อดูแลหุบเขาเหล่าโป
เขาเป็นเพียงลิ่วล้อระดับล่าง เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงขององค์ชายฟงเซี่ยน
เขารู้เพียงว่าผู้อมตะหนึ่งคนกับมนุษย์เพศหญิงอีกคนเข้าไปในหุบเขาเหล่าโปและเขามีหน้าที่สอดส่องดูแลความเรียบร้อยเท่านั้น
เมื่อเห็นการมาถึงของไห่ลั่วหลัน เขาจึงต้องแจ้งข่าวนี้กับองค์ชายฟงเซี่ยน
องค์ชายฟงเซี่ยนได้รับข้อมูลในขณะที่มือของเขายังสั่นสะเทือนด้วยพลังอำนาจของลมมรณะ
หลังจากทั้งหมดลมมรณะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือ
นี่ทำให้เขารู้สึกชื่นชมฟงจิวเก้อเป็นอย่างมากที่สามารถรักษาชีวิตจากลมมรณะมาจนถึงวันนี้
แต่น่าเสียดายที่ฟงจิวเก้อตายไปแล้ว
กระบวนการสืบทอดมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์รวดเร็วและง่ายดายมาก
เพียงคนผู้หนึ่งเป็นปีศาจต่างโลก เขาหรือนางก็จะได้รับมรดกทันที
หลังจากฟงจิวเก้อเสียชีวิต จ้าวเหลียนหยุนจึงได้รับมรดกจากเทพปีศาจปล้นสวรรค์ แน่นอนว่ามันก็คือท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผี
นางกลับออกมาพบองค์ชายฟงเซี่ยนและรายงานเกี่ยวกับการเสียชีวิตของฟงจิวเก้อ
“เห้อ…เรามาช้าไปก้าวหนึ่ง” องค์ชายฟงเซี่ยนถอนหายใจ
จากนั้นเขาจึงคว้าไหล่จ้าวเหลียนหยุนและบินจากไป
ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างเทพธิดาหลี่ซานกับนางมารผลาญสวรรค์ถูกเปิดเผยแล้ว
องค์ชายฟงเซี่ยนไม่ต้องการต่อสู้
ทั้งหมดก็คือแวดวงของผู้อมตะระดับแปดแคบมาก
ในภาคเหนือมีผู้อมตะระดับแปดที่ได้รับการยอมรับเพียงห้าคนเท่านั้น
หนึ่ง ปีศาจอมตะเซี่ยหู สอง จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู สาม เหยากวง สี่ องค์ชายฟงเซี่ยน และห้า ปรมาจารย์ห้าธาตุ
นางมารผลาญสวรรค์เป็นผีดิบอมตะ ดังนั้นนางจึงไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้
อย่างไรก็ตามคนทั้งหกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีและเคยต่อสู้กันมาหลายครั้ง กล่าวได้ว่าหากคนหนึ่งผายลมออกมา คนที่เหลือก็จะรู้ทันทีว่าเป็นผู้ใด
หากองค์ชายฟงเซี่ยนโจมตีเทพธิดาหลี่ซานกับไห่ลั่วหลัน นางมารผลาญสวรรค์จะต้องปรากฏตัวอย่างแน่นอน
ในความเห็นขององค์ชายฟงเซี่ยน มีความเป็นไปได้ว่านางมารผลาญสวรรค์อาจซ่อนตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
องค์ชายฟงเซี่ยนมีสถานะพิเศษ เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวโดยง่าย หากนางมารผลาญสวรรค์จำเขาได้ ปัญหาใหญ่อาจจะตามมา
เหตุใดองค์ชายฟงเซี่ยนจึงปรากฏตัวที่หุบเขาเหล่าโป?
ผู้อมตะไม่ใช่คนโง่ พวกเขาจะสามารถคาดเดาตัวตนที่แท้จริงขององค์ชายฟงเซี่ยนได้อย่างง่ายดาย
ไม่ควรลืมว่ามีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอยู่บนโลกใบนี้
องค์ชายฟงเซี่ยนพิจารณาถึงภาพรวมและตัดสินใจล่าถอยอย่างระมัดระวังโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้เพื่อให้ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามารถอนุมาน
ไห่ลั่วหลันกับคนอื่นๆยังไม่รู้ว่าพวกนางบังคับให้ผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ต้องล่าถอย
หลังจากทำลายปราการป้องกัน พวกนางจึงเข้าไปในหุบเขาเหล่าโปที่กลายเป็นซากปรักหักพัง แต่หลายส่วนยังถูกปิดผนึกด้วยค่ายกลวิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นโดยสมาชิกนิกายเงาหรือผู้อมตะหงซื่อหมิงของภาคกลาง
ค่ายกลวิญญาณเหล่านี้ส่งอิทธิพลอย่างมากต่อสภาพแวดล้อมของหุบเขาเหล่าโป
คนทั้งสามตรวจสอบพื้นที่อย่างคร่าวๆ
ฟางหยวนพบซากศพของหนอนไหมบัวขาวตัวหนึ่ง นี่ทำให้เขาต้องถอนหายใจด้วยความเสียดาย
เขาได้รับข้อมูลจากไห่ลั่วหลันว่าในหุบเขาเหล่าโปเต็มไปด้วยหนอนไหมบัวขาว แต่การต่อสู้ร้อยวันทำให้พวกมันเสียชีวิต
โชคดีที่ฟางหยวนได้รับหนอนไหมบัวขาวจากสวรรค์สีเหลืองมามากพอแล้วสำหรับวิญญาณอมตะล้างใจ
เรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่ามีบางสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้อมตะเหล่านั้นมากกว่า
ภายใต้การเฝ้ามองของไห่ลั่วหลันกับเทพธิดาหลี่ซาน ฟางหยวนเปิดประตูแสงก่อนจะปิดลงอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนถอนหายใจและตระหนักว่ามรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ถูกนำออกไปแล้ว บางทีอาจเป็นนิกายเงา
แต่เขาเดาผิด
ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงกลับเป็นจ้าวเหลียนหยุนและกองกำลังจากภาคกลาง
ยิ่งไปกว่านั้นนางยังได้รับมรดกก่อนหน้านี้เพียงไม่นาน
องค์ชายฟงเซี่ยนมาช้าไปหนึ่งก้าวในการช่วยเหลือฟงจิวเก้อขณะที่ฟางหยวนก็มาช้าไปหนึ่งก้าวในการรับสืบทอดมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
“แม้เทพปีศาจปล้นสวรรค์จะทิ้งมรดกไว้ที่นี่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันเป็นเรื่องปกติที่บางคนจะได้รับมันไปแล้ว สมบัติที่แท้จริงยังคงเป็นหุบเขาเหล่าโป” ไห่ลั่วหลันตบไหล่ฟางหยวนและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฟางหยวนรู้ว่านางกำลังกระตุ้นให้เขาทำงาน
ฟางหยวนพยักหน้าและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะยกหุบเขาเหล่าโปขึ้นอย่างช้าๆ
เทพธิดาหลี่ซานกระตุ้นใช้วิญญาณจำนวนมากเพื่อให้ความช่วยเหลือจากด้านข้าง
“พวกเขากำลังจะนำหุบเขาเหล่าโปไป!” ฮุ้ยฟงซื่อตกใจมากเมื่อเห็นฉากเหตุการณ์นี้
องค์ชายฟงเซี่ยนก็ประหลาดใจเช่นกัน
เขาไม่คาดคิดว่าไห่ลั่วหลันจะมีวิธีการนอกรีตเช่นนี้
องค์ชายฟงเซี่ยนไม่ได้เตรียมตัวมาสำหรับสิ่งนี้ เขาลังเลแต่สุดท้ายก็ต้องตัดใจและไม่ทำสิ่งใด
หลังจากหนึ่งชั่วโมง ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการนำหุบเขาเหล่าโปเก็บไว้ในมิติช่องว่างของเขา
“ยังมีแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่ แต่เพื่อความปลอดภัย เราควรออกไปตอนนี้” หลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมากมาย ตอนนี้ไห่ลั่วหลันสามารถควบคุมอารมณ์และใจเย็นลงมาก
แม้หุบเขาเหล่าโปจะถูกทำลายไปมากแต่มันยังสามารถฟื้นฟูขึ้นได้ด้วยวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้าของไท่เป่ยหยุนเฉิง
หากเปรียบเทียบกับแดนศักดิ์สิทธิ์ หุบเขาเหล่าโปล้ำค่ากว่ามาก
ผู้อมตะหลายคนตายที่นี่ระหว่างการต่อสู้ร้อยวัน แดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนี้
ฟางหยวนสามารถฉกชิงหุบเขาเหล่าโปแต่เขาไม่สามารถนำแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นไปด้วย
สิ่งสำคัญก็คือมันยังไม่ใช่เวลาที่จะค้นหาแดนศักดิ์สิทธิ์!
หลังจากได้รับหุบเขาเหล่าโป กลุ่มของฟางหยวนจึงรีบล่าถอย
“พวกเขาจากไปเร็วมาก พวกเขารู้สถานการณ์ดีจริงๆ” องค์ชายฟงเซี่ยนมองกลุ่มของฟางหยวนจากไปด้วยสายตาเย็นเยียบ
แม้เขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวแต่เขายังมีผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอมตะหญิงสองคนคือมือกระบี่หยูหลานและหลี่เหยารวมถึงกองกำลังส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่ง
องค์ชายฟงเซี่ยนซ่อนตัวอยู่ที่ภาคเหนือมานานหลายปี เป็นเรื่องปกติที่เขาจะสามารถสะสมกองกำลัง
เขายังต้องการสร้างปัญหาให้กับกลุ่มของฟางหยวนแต่เป้าหมายล่าถอยเร็วเกินไปขณะที่เขาไม่สามารถติดตาม
องค์ชายฟงเซี่ยนกวาดมองสนามรบร้อยวันที่กลายเป็นความว่างเปล่า
แม้กลิ่นอายของวิญญาณอมตะจะถูกลบออกไปแต่ผู้เชี่ยวชาญยังสามารถรับรู้เบาะแสบางอย่าง
ผู้อมตะจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ที่นี่ นั่นทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยทรัพยากร
องค์ชายฟงเซี่ยนยังไม่ยอมแพ้
กองกำลังที่อยู่เบื้องหลังเขาก็ไม่ยอมแพ้เช่นกันและต้องการยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนอยู่
สำหรับวิญญาณอมตะ พวกมันย่อมถูกทำลายไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
‘ข้าหวังว่าภาระจะไม่ตกมาอยู่ที่ข้า ฟงจิวเก้อตายด้วยลมมรณะ เขาไม่ได้ทิ้งสิ่งใดเอาไว้เว้นเพียงคำสองคำ ข้าต้องส่งจ้าวเหลียนหยุนกับข้อมูลสำคัญกลับไปยังนิกายเป็นอันดับแรก’
องค์ชายฟงเซี่ยนไตร่ตรองก่อนจะนำจ้าวเหลียนหยุนจากไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับฮุ้ยฟงซื่อ เขาถูกทิ้งไว้ให้เป็นผู้ดูแลแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น
“นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์เสี่ยวฮัน” ไห่ลั่วหลันนำฟางหยวนกับเทพธิดาหลี่ซานไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ของไห่เจิ้ง
มันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งความมืดและจิตวิญญาณที่มืดมิดและเต็มไปด้วยแรงกดดัน
มีป่าไม้ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง
ต้นไม้ของป่าแห่งนี้มีรูปร่างคล้ายกับหญิงสาว นี่เป็นทรัพยากรพิเศษที่มีอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ของไห่เจิ้งเท่านั้น
ไห่ลั่วหลันเรียกจิตวิญญาณแผ่นดินออกมา
จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวฮันดูแปลกประหลาดเพราะมันมีร่างกายเป็นเถาวัลย์สีเขียว
เทพธิดาหลี่ซานถอนหายใจแนะนำ “เงื่อนไขในการเป็นเจ้าของคนใหม่ของแดนศักดิ์สิทธิ์เสี่ยวฮันก็คือการอยู่ร่วมกันตลอดไปกับซูเซี่ยนเอ๋อ ดังนั้นเมื่อเสี่ยวหลันนำเจตจำนงของพี่สาวข้าออกมา นางจึงกลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้”
ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ผู้ใดจะคิดว่าเจตจำนงสุดท้ายก่อนตายของไห่เจิ้งจะเป็นเกี่ยวกับซูเซียนเอ๋อ
เห็นได้ชัดว่าเขารักซูเซียนเอ๋อด้วยหัวใจที่แท้จริง กระทั่งในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย สิ่งที่เขาคิดและต้องการก็มีเพียงซูเซี่ยนเอ๋อ
เรื่องนี้สามารถบอกได้ว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนอย่างแท้จริง
“เสี่ยวหลัน เจ้ากลับมาแล้ว” เจตจำนงของซูเซี่ยนเอ๋อกล่าว
“ท่านแม่” ไห่ลั่วหลันตอบรับเบาๆก่อนจะออกคำสั่งจิตวิญญาณแผ่นดิน
จิตวิญญาณแผ่นดินนำพวกเขาเคลื่อนย้ายสถานที่ในพริบตา
ความสามารถนี้แสดงให้เห็นว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เสี่ยวฮันมีพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งห้วงมิติอยู่ไม่น้อย
ฟางหยวนวางหุบเขาเหล่าโปลงที่นี่
เทพธิดาหลี่ซานเผยรอยยิ้มมีความสุขเมื่อภารกิจประสบความสำเร็จ “ฟางหยวน เจ้ามีภูเขาตงฮัน ข้ามีภูเขาน้อย เสี่ยวหลันมีหุบเขาเหล่าโป ฮ่าฮ่าฮ่า นี่น่าสนใจจริงๆ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพทั้งสามต่างอยู่ในกำมือของพวกเรา!”
มองไปยังหุบเขาเหล่าโปที่อยู่ด้านล่าง ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะรู้สึกคาดหวัง
ภูเขาตงฮันกับหุบเขาเหล่าโปถูกยกย่องโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ฟางหยวนได้รับกำไรอย่างไม่รู้สิ้นสุดจากภูเขาตงฮันและไม่ต้องสงสัยเลยว่าหุบเขาเหล่าโปจะทำให้เขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว