วิญญาณทัศนคติ
แปลโดย iPAT
ภาคกลาง วังสวรรค์
แสงสีเงินส่องประกายจากหอคอยที่ตั้งตระหง่านขึ้นสู่ท้องฟ้า
มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่มีชื่อเสียงที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะกลุ่มดาว หอคอยดวงตาสวรรค์!
มีค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอยู่รอบๆหอคอยหลังนี้พร้อมกับสี่ผู้อมตะระดับแปด
ผู้อมตะทั้งสี่ผ่อนลมหายใจและค่อยๆ สงบจิตใจลง
ผู้อมตะเหลียนจิ่วเฉิงไม่สามารถประคองร่างกายให้ยืนอยู่ได้และล้มลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง
คนอื่นๆ ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขา
ศีรษะของผู้อมตะเพ่ยกังซุ้ยเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อขณะที่ผู้อมตะไป่เฉินเทียนหน้าซีดเผือด
ใบหน้าของเจ้าวังกลายเป็นแก่ชรายิ่งกว่าเดิม
คนทั้งสี่ล้วนเป็นตัวละครที่ยิ่งใหญ่ของภาคกลางหรือกระทั่งห้าภูมิภาค
แต่ในเวลานี้พวกเขากลับอยู่ในสภาพที่น่าอนาถหลังจากทำงานหนักมาตลอดสามร้อยวันโดยไม่ได้พักผ่อน
ท้ายที่สุดแล้วการฟื้นฟูวิญญาณโชคชะตาระดับเก้าก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ขั้นตอนสำคัญในการฟื้นฟูวิญญาณโชคชะตาคือการดึงดูดเจตจำนงสวรรค์
หากเปรียบเทียบกับเจตจำนงสวรรค์ มนุษย์ก็ไม่ต่างจากมดปลวกที่ไร้นัยสำคัญ ดังนั้นผู้อมตะทั้งสี่จึงต้องอดทนต่อความยากลำบากและรักษาสติของตนให้แจ่มชัดอยู่ตลอดเวลา หลังจากหลายร้อยวัน พวกเขาจึงประสบความสำเร็จในที่สุด
“ดี! ครั้งนี้เราประสบความสำเร็ขอย่างมากในการฟื้นฟูวิญญาณโชคชะตา” เจ้าวังมองไปยังวิญญาณโชคชะตาที่ลอยอยู่ตรงกลาง
วิญญาณโชคชะตาอยู่ในรูปลักษณ์ของแมงมุมสีขาวดำ ตอนนี้บาดแผลบนร่างของมันลดลงไปถึงสามสิบส่วน
“ในที่สุดก็สำเร็จ” ไป่เฉินเทียนถอนหายใจ
“ตอนนี้เราสามารถใช้พลังอำนาจของมันได้ห้าสิบส่วน มันจะเริ่มส่งอิทธิพลบางอย่างทันที” เหลียนจิ่วเฉิงตื่นเต้นมาก
“ส่งอิทธิพล?” เพ่ยกังซุ้ยสงสัย
เจ้าวังกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อิทธิพลของวิญญาณโชคชะตาก็คือชะตากรรมของสิ่งมีชีวิต เจ้าต้องรู้ว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้มีเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วตั้งแต่กำเนิด พวกเขาหรือพวกมันไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวออกจากเส้นทางสายนี้ แต่หลังจากเทพปีศาจบัวแดงทำให้วิญญาณโชคชะตาได้รับบาดเจ็บสาหัส โลกใบนี้จึงเกิดความโกลาหล ตอนนี้เมื่อวิญญาณโชคชะตาฟื้นฟูขึ้น ทุกคนจะเริ่มกลับสู่เส้นทางเดิมของตนเอง!”
…..
ภาคเหนือ นางมารผลาญสวรรค์กล่าวเงื่อนไขของนาง
หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ฟางหยวนตอบรับ
สำหรับเงื่อนไขข้อสุดท้าย เขาไม่ได้ปฏิเสธนางมารผลาญสวรรค์โดยตรง แต่บอกว่าจะพยายามติดต่อราชันภูเขาม่วง อย่างไรก็ตามอาจารย์ของเขาจะปรากฏตัวหรือไม่ นั่นเป็นการตัดสินใจของเขาเอง
นางมารผลาญสวรรค์เข้าใจเรื่องนี้
หลังจากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง บรรยากาศจึงเริ่มผ่อนคลายลง
สัญญาพันธมิตรที่สร้างขึ้นใหม่เป็นเรื่องยากที่จะทำลาย ฟางหยวนใช้ประสบการณ์ทั้งหมดเพื่อปิดช่องโหว่และเพิ่มความยากลำบากในการละเมิดข้อตกลง
ฟางหยวนคาดเดาว่าแม้เทพธิดาหลี่ซานจะเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งข้อมูล นางก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสามปีหากต้องการทำลายมัน
แต่ในความเป็นจริงความสำเร็จของเทพธิดาหลี่ซานไม่ถึงระดับปรมาจารย์เอก
หลังจากทำสัญญาใหม่ ฟางหยวนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นและส่งมอบวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองคืนให้กับไห่ลั่วหลัน
แม้เขาจะสูญเสียวิญญาณอมตะแต่ฟางหยวนยังพอใจกับผลลัพธ์
แท้จริงแล้วนางมารผลาญสวรรค์ไม่ได้เอาเปรียบในการเจรจาครั้งนี้
แน่นอนว่าหากฟางหยวนปฏิเสธที่จะส่งมอบวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง นั่นจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
หลังจากทั้งหมดมันถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรม ฟางหยวนกระทั่งสามารถทำกำไร
นางมารผลาญสวรรค์ไม่ได้ฉกฉวยแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว ภูเขาตงฮัน หรือวิญญาณท่องแดนอมตะ นางไม่ได้กล่าวถึงแม้แต่วิญญาณอมตะช่วงเวลาแห่งโชคของเทพธิดาหลี่ซานที่อยู่กับฟางหยวน
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่านางมีความจริงใจที่จะสร้างความร่วมมือกับฟางหยวน
หลังจากทั้งหมดฟางหยวนได้รับการสนับสนุนจากราชันภูเขาม่วง นี่คือสิ่งที่นางมารผลาญสวรรค์คิด
ไห่ลั่วหลันสามารถปรับแต่งวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองได้อย่างง่ายดายภายใต้ความช่วยเหลือจากฟางหยวน
ในที่สุดไห่ลั่วหลันก็ถอนหายใจขณะทดลองใช้วิญญาณอมตะของนาง
ภูตมนุษย์สามร่างปรากฏขึ้นทันที
แต่มันไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์ของชายอ้วนที่ดูหยาบกระด่างเหมือนก่อนหน้า ตรงข้ามพวกมันอยู่ในร่างหญิงงามเหมือนไห่ลั่วหลัน
เทพธิดาหลี่ซานมีความสุขมาก “ในที่สุดเจ้าก็สามารถแก้ปมในใจและค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเจ้าเอง”
ไห่ลั่วหลันพยักหน้าด้วยความยินดี
หลังจากสังหารไห่เจิ้ง นางรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมาก มันเหมือนกับนางได้รับชีวิตใหม่
ภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งที่ปรากฏขึ้นคือข้อพิสูจน์
ไห่ลั่วหลันหัวเราะและหันหน้าไปทางนางมารผลาญสวรรค์ “ท่านป้าใหญ่ ไม่ใช่ว่าท่านต้องการมรดกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของไห่ฟานเช่นนั้นหรือ? ข้าจะช่วยท่านเอง”
ร่างของนางมารผลาญสวรรค์สั่นสะท้านขึ้นด้วยความตื่นเต้นเมื่อนางได้ยินหลานสาวเรียกว่าป้าใหญ่
นางมารผลาญสวรรค์รู้ว่าไห่ลั่วหลันเกลียดนางเพราะนางเป็นต้นเหตุที่ทำให้ซูเซียนเอ๋อต้องตาย
ไห่ลั่วหลันกล่าวต่อ “หลังจากนี้ข้าจะกลับไปยังเผ่าไห่และสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับมรดกของไห่ฟาน!”
“ไม่!” นางมารผลาญสวรรค์กับเทพธิดาหลี่ซานอุทานพร้อมกัน
คำกล่าวของไห่ลั่วหลันทำให้พวกนางตกใจมาก
นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ซูเซียนเอ๋อเสียชีวิต แต่ตอนนี้ไห่ลั่วหลันกลับต้องการเดินตามรอยของมารดา แล้วป้าทั้งสองของนางจะปล่อยให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นอีกครั้งได้อย่างไร
“อย่ากังวล ข้าวางแผนมานานแล้ว”
ไห่ลั่วหลันกล่าวอย่างใจเย็น “ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ของเผ่าไห่ไม่สามารถออกจากที่มั่นของพวกเขาได้โดยง่าย ไห่เจิ้งเสียชีวิต นี่จะทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาลดลง กองกำลังอื่นจะร่วมมือกันเพื่อโค่นล้มเผ่าไห่ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน พวกเขาไม่สามารถรักษาทรัพยากรของเผ่า นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก ข้าจะกลับเข้าสู่เผ่าไห่และยึดอำนาจสูงสุด ถึงเวลาแล้วที่กองกำลังนี้จะมีผู้นำคนใหม่!”
ไห่ลั่วหลันมีความทะเยอทะยานสูงมาก กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกตกใจกับเป้าหมายของนาง
ปีศาจอมตะเซี่ยหูต้องแทรกซึมเข้าไปในเผ่าไห่ระหว่างช่วงเวลาโกลาหล แต่ไห่ลั่วหลันกลับต้องการยึดครองเผ่าไห่โดยตรง
“นั่นอันตรายเกินไป” เทพธิดาหลี่ซานส่ายศีรษะ
“ข้าจะไม่อนุญาต” นางมารผลาญสวรรค์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามปฏิเสธ
ไห่ลั่วหลันมองป้าของนางและเผยรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าพวกท่านเป็นห่วงข้า แต่ข้าเกรงว่าพวกท่านจะคิดผิด นี่คือการตัดสินใจของข้า มันไม่ใช่การขออนุญาต หากพวกท่านไม่สนใจ พวกท่านไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกับข้า แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกท่านก็ไม่สามารถห้ามข้า”
เทพธิดาหลี่ซานกับนางมารผลาญสวรรค์กลายเป็นพูดไม่ออก
ไห่ลั่วหลันรู้ว่ามันยากที่จะบรรลุเป้าหมายด้วยตัวนางเอง แต่หากนางได้รับความช่วยเหลือจากป้าทั้งสองรวมถึงฟางหยวน มีโอกาสสูงมากที่นางจะประสบความสำเร็จ
“เอาล่ะ ข้าจะมอบความมั่นใจให้กับพวกท่าน” ไห่ลั่วหลันกล่าวก่อนจะถอดหน้ากากบนใบหน้าของนางออกมา
หน้ากากในมือของนางปลดปล่อยกลิ่นอายวิญญาณอมตะออกมาทันที
“วิญญาณทัศนคติ?” เทพธิดาหลี่ซานจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ฟางหยวนมองหน้ากากอย่างจริงจัง
วิญญาณทัศนคติอยู่ในตำนานมนุษย์คนแรก
มันยังเป็นหนึ่งในวิญญาณที่ฟางหยวนกำลังตามหา
นั่นเป็นเพราะวิญญาณทัศนคติเป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย
ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครืออยู่แล้ว หากเขาเพิ่มวิญญาณทัศนคติเข้าไป การปลอมตัวของเขาจะยกระดับขึ้นอีกขั้น
นางมารผลาญสวรรค์กล่าวด้วยความงุนงง “วิญญาณทัศนคติเคยอยู่ในมือของไห่ฟาน เขามอบมันให้บุตรสาว ไห่เฟิงอวี๋ แต่นางเป็นเด็กนิสัยเสียที่สวมวิญญาณทัศนคติท่องเที่ยวไปทั่ว เมื่อไปถึงทุ่งน้ำแข็ง นางตกเป็นเหยื่อของผู้อมตะลึกลับ สุดท้ายวิญญาณทัศนคติจึงสูญหายไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”
ริมฝีปากของไห่ลั่วหลันม้วนตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ถูกต้อง ข้าได้รับวิญญาณทัศนคติมาจากทุ่งน้ำแข็ง”
เทพธิดาหลี่ซานเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เสี่ยวหลัน เจ้าไปทุ่งน้ำแข็งตั้งแต่เมื่อใด…หรือว่า…”
“ถูกต้อง ข้าตั้งใจไปยังทุ่งน้ำแข็งเพื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเพราะข้าได้รับเบาะแสเกี่ยวกับวิญญาณทัศนคติ วิธีเดียวที่ข้าจะสามารถกำหราบวิญญาณทัศนคติก็คือหยิบยืมพลังอำนาจจากภัยพิบัติของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านั้น” ไห่ลั่วหลันอธิบาย
เทพธิดาหลี่ซานรู้สึกประหลาดใจ
นางประเมินไห่ลั่วหลันต่ำเกินไป นี่ทำให้นางเกิดความรู้สึกซับซ้อน ทั้งสุขและหดหู่
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าไห่ลั่วหลันครอบครองวิญญาณทัศนคติและนางก็ไม่เคยบอกผู้ใด กระทั่งเทพธิดาหลี่ซานก็ยังถูกขังอยู่ในที่มืด
‘เด็กคนนี้โตแล้วจริงๆ’ นางมารผลาญสวรรค์ลอบถอนหายใจ
ไห่ลั่วหลันสวมหน้ากากกลับไปอย่างเงียบๆ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปข้าจะใช้ชื่อว่าเทพธิดาจันทร์ทมิฬ!”
นางมารผลาญสวรรค์หัวเราะและปรบมือ “ยอดเยี่ยม! ด้วยวิญญาณทัศนคติ การยึดครองเผ่าไห่จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!”
ฟางหยวนตกใจมาก
‘ไห่ลั่วหลันคือเทพธิดาจันทร์ทมิฬ!?’