ความหวาดกลัวต่อความตาย
แปลโดย iPAT
นางมารผลาญสวรรค์เป็นป้าใหญ่ของไห่ลั่วหลัน เรื่องนี้อยู่นอกเหนือจากคาดหมายของฟางหยวนอย่างสิ้นเชิง
ความแข็งแกร่งของฟางหยวนอยู่ในระดับเจ็ด
หากเปรียบเทียบกับไห่ลั่วหลัน เขายังมีข้อได้เปรียบ ด้านเทพธิดาหลี่ซาน นางมีความแข็งแกร่งเท่ากับฟางหยวน แต่ฟางหยวนจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบหากนางใช้ท่าไม้ตายเขตแดน
สำหรับนางมารผลาญสวรรค์ ฟางหยวนไม่มีความหวังใดๆ แม้เขาจะมีวิญญาณอมตะมากมาย แต่ระดับการบ่มเพาะของเขาต่ำเกินไป มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด
กระทั่งผู้อมตะระดับเจ็ดที่แท้จริงก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับแปด อาจมีเพียงตัวตนเช่นฟงจิวเก้อเท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น
‘ตอนนี้สิ่งเดียวที่ข้าสามารถทำได้คือพึ่งพาสัญญาพันธมิตรที่ทำไว้กับเทพธิดาหลี่ซานกับไห่ลั่วหลัน ตามข้อตกลง พวกเราไม่สามารถเข่นฆ่ากันเอง’
ฟางหยวนรู้สึกขมขื่นกับสถานการณ์ของตนเอง
ก่อนหน้านี้เขาพยายามทำลายข้อตกลงดังกล่าวแต่ตอนนี้เขากลับต้องพึ่งพามันเพื่อความอยู่รอด
‘อย่างไรก็ตามเทพธิดาหลี่ซานเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งข้อมูล มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อถือข้อตกลงที่ทำไว้กับพวกนาง นางมารผลาญสวรรค์สามารถกำหราบข้าได้อย่างสมบูรณ์ แต่ตอนนี้นางยังไม่โจมตี หากเป็นเทพธิดาหลี่ซานที่ต้องการสังหารข้า นางไม่จำเป็นต้องสร้างสถานการณ์นี้ นอกจากนั้นเมื่อนางมารผลาญสวรรค์รู้ตัวตนที่แท้จริงของข้า แล้วเหตุใดนางจึงต้องช่วยข้าหลอมรวมวิญญาณอมตะความคิดดารา? นั่นหมายความว่าพวกนางไม่ต้องการชีวิตของข้าแต่มีวัตถุประสงค์อื่น’
สำหรับวัตถุประสงค์อื่น ฟางหยวนยังไม่แน่ใจ
ข้อสรุปในตอนนี้คือฟางหยวนไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย นี่เป็นสาเหตุที่เขายังเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ด้านข้างโดยไม่พยายามหลบหนี
ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดถึงสถานการณ์ของตนเอง ยักษ์เขียวพยายามทำลายเขตแดนภูเขาสวนแพร์
มันเปลี่ยนร่างเป็นนกสีเขียวที่มีปีกสามคู่และบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
ครั้งนี้มันไม่ถูกเหนี่ยวรั้งโดยเถาวัลย์แต่เมื่อมันทะยานขึ้นสู่อากาศ ผู้อาวุโสเผ่าไห่ทั้งสี่รู้สึกถึงแรงดึงดูดที่พยายามดึงนกเขียวให้ร่วงลงไป
“นี่คือ…” ผู้อาวุโสเผ่าไห่ทั้งสี่รู้สึกประหลาดใจ
ยิ่งสูงขึ้นไป แรงดึงดูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น
สุดท้ายนกเขียวก็ไม่สามารถต้านทานมันได้อีก
ไม่ว่าปีกทั้งสามคู่ของมันจะสะบัดตัวมากเพียงใด ความเร็วของมันก็ไม่เพิ่มขึ้น
นกเขียวลอยอยู่เหนือพื้นดินเพียงสามสิบเมตร นี่คือขีดจำกัดของมัน
“บึม!”
เสียงระเบิดดังขึ้นขณะที่นกเขียวพุ่งลงกระแทกพื้น
ผู้อาวุโสเผ่าไห่ทั้งสี่กลายเป็นเงียบกริบ
นี่คือพลังอำนาจที่แท้จริงของเขตแดนภูเขาสวนแพร์
เทพธิดาหลี่ซานบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งข้อมูลเป็นหลัก เส้นทางแห่งไม้และปฐพีเป็นรอง ท่าไม้ตายอมตะเขตแดนภูเขาสวนแพร์คือการผสานงานกันระหว่างเส้นทางแห่งไม้และปฐพี เถาวัลย์คือเส้นทางแห่งไม้ แรงดึงดูดคือเส้นทางแห่งปฐพี
แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้มันทรงพลังอำนาจถึงระดับนี้เป็นเพราะภูเขาน้อย
มิฉะนั้นด้วยรากฐานของเทพธิดาหลี่ซาน นางจะไม่สามารถหยุดยักษ์เขียว
หลังจากทั้งหมดยักษ์เขียวคือค่ายกลวิญญาณสายต่อสู้โบราณ แม้มันจะไม่สมบูรณ์แต่มันถูกควบคุมโดยผู้อมตะระดับเจ็ดถึงสี่คน นี่ทำให้พลังอำนาจของยักษ์เขียวบรรลุถึงระดับแปด
ยักษ์เขียวถูกเถาวัลย์พันธนาการเอาไว้อีกครั้ง
ขณะเดียวกันวิหคเพลิงพิโรธสามตัวได้รวมกันเป็นหนึ่ง
วิหคเพลิงพิโรธกรีดร้องเสียงแหลมก่อนจะพุ่งเป็นเส้นโค้งเข้าโจมตีแขนข้างหนึ่งของยักษ์เขียวโดยตรง
แรงปะทะฝากหลุมลึกไว้บนแขนของยักษ์เขียว
อย่างไรก็ตามมันยังสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว
แต่การโจมตีของนางมารผลาญสวรรค์ยังไม่จบ นางยืนอยู่กลางอากาศและชี้นิ้วไปที่ยักษ์เขียว
ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไฟ ดาบปีกวิหคเพลิง!
ดาบเพลิงสามเล่มพุ่งเข้าตัดแขนข้างหนึ่งของยักษ์เขียวออกไปในพริบตา
ผู้อาวุโสเผ่าไห่ทั้งสี่คำรามด้วยความโกรธแต่มันก็สายเกินไปที่พวกเขาจะหยุดนาง
ร่างกายของยักษ์เขียวสร้างขึ้นจากค่ายกลวิญญาณ เมื่อแขนของมันหลุดออกไป นั่นก็หมายความว่าค่ายกลวิญญาณสูญเสียส่วนหนึ่งของมันไป
วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนบินหนีไปอย่างรวดเร็ว
ไห่เจิ้งได้รับอิสรภาพและร่วงลงจากท้องฟ้า
ยักษ์เขียวพยายามจับเขาแต่ถูกหยุดโดยนางมารผลาญสวรรค์
ไห่เจิ้งต้องการหลบหนีแต่ตอนนี้เขาอยู่ในเขตแดนภูเขาสวนแพร์ ดังนั้นเถาวัลย์จำนวนมากจึงพุ่งเข้าจับกุมเขาเอาไว้
“ปล่อยเขา!” ผู้อาวุโสเผ่าไห่ทั้งสี่คำรามเสียงดัง
ยักษ์เขียวเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง คราวนี้มันกลายเป็นมังกรวารีสีเขียวเก้าเศียร
นี่คือท่าไม้ตายอมตะของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าไห่ มังกรวารีเก้าเศียร!
ด้วยพลังอำนาจของค่ายกลวิญญาณสายต่อสู้ พลังอำนาจของมันจึงบรรลุถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัวอย่างไม่น่าเชื่อ
มังกรวารีเก้าเศียรบินไปรอบๆ โดยไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดมัน
ภูเขาเริ่มพังทลาย เถาวัลย์และสวนแพร์เริ่มพังพินาศ
การแสดงออกของเทพธิดาหลี่ซานเปลี่ยนแปลงไป “เร็วเข้า! ข้าไม่สามารถอดทนได้นานกว่านี้!”
“ไป!” นางมารผลาญสวรรค์ส่งโซ่เพลิงออกไปรัดพันเทพธิดาหลี่ซาน ไห่ลั่วหลัน ฟางหยวน และไห่เจิ้งเอาไว้
จากนั้นนางจึงใช้ท่าไม้ตายอมตะสายเคลื่อนไหวเปลี่ยนตนเองเป็นสายรุ้งพุ่งทะยานออกไปพร้อมกับคนทั้งสี่และหายไปที่สุดขอบฟ้าในเสี้ยวพริบตา
ไม่กี่ลมหายใจต่อมายักษ์เขียวสามารถทำลายเขตแดนภูเขาสวนแพร์ได้ในที่สุด
ยักษ์เขียวบินขึ้นสู่อากาศและคำรามเสียงดัง
มันเป็นเรื่องยากที่กลุ่มผู้อาวุโสเผ่าไห่จะไล่ตามนางมารผลาญสวรรค์ แม้พวกเขาจะสามารถติดตาม แต่มันก็ยากที่จะตัดสินผลแพ้ชนะ
อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้อาวุโสเผ่าไห่จำเป็นต้องไล่ล่านาง หลังจากทั้งหมดไห่เจิ้งมีความสำคัญมากเกินไป เขายังรู้ความลับมากมายของเผ่าไห่ สิ่งสำคัญก็คือพวกเขาจะสูญเสียใบหน้าหากข่าวลือเผยแพร่ออกไปว่าผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าไห่ทั้งสี่ไม่สามารถปกป้องสมาชิกเผ่าจากการลักพาตัวของคนนอก
คฤหาสน์วิญญาณอมตะคุกทมิฬสูญหาย ไห่เจิ้งถูกลักพาตัว แน่นอนว่าชื่อเสียงของเผ่าไห่จะถูกทำลาย
แต่ในจังหวะที่ผู้อาวุโสเผ่าไห่กำลังจะออกไล่ล่า พวกเขากลับได้รับจดหมายของความช่วยเหลือจากเผ่า
“กระไรนะ!? แดนศักดิ์สิทธิ์ของเราถูกหัวขโมยแทรกซึมเข้าไปและปล้นสะดมทรัพยากรงั้นหรือ?”
“คนของเราได้รับบาดเจ็บสาหัส”
“ผู้บุกรุกเป็นผู้อมตะระดับแปด พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป!”
ผู้อาวุโสเผ่าไห่ทั้งสี่ตกใจและโกรธมาก
แน่นอนว่านี่คือแผนการที่ถูกวางเอาไว้ล่วงหน้า
“ตอนนี้กองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือมีผู้อมตะระดับแปดสามคนรวมนางมารผลาญสวรรค์”
“บัดซบ! เราต้องปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่า!”
“พวกเราติดกับนางมารผลาญสวรรค์แล้ว ไป! กลับฐานทัพของเรา!”
ยักษ์เขียวคำรามเสียงดังก่อนจะฉีกกระชากห้วงมิติและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
“ยักษ์เขียวไม่ได้ตามมา พวกเราปลอดภัยแล้ว” นางมารผลาญสวรรค์นำทุกคนลงสู่พื้น
โซ่เพลิงถูกนำออกไป
การต่อสู้สิ้นสุดลงแล้วแต่ฟางหยวนกลับยิ่งระวังตัวมากขึ้น
เขากล่าวกับเทพธิดาหลี่ซานอย่างใจเย็น “ดังนั้นทุกคนก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ข้าไม่เคยรู้เลยมาก่อน”
“เช่นเดียวกับเจ้า” เทพธิดาหลี่ซานกล่าวอย่างมีความนัย
เห็นได้ชัดว่านางรู้แล้วว่าฟางหยวนสามารถยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวและปลอมตัวเป็นซิงเซียงซื่อ
“ไว้ชีวิตข้า! ข้ายินดีติดตามเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกท่าน ข้าจะรับใช้พวกท่านด้วยความซื่อสัตย์ มันจะดีกว่าหากข้ายังมีชีวิตอยู่!” ไห่เจิ้งเร่งกล่าวด้วยความกังวล
นางมารผลาญสวรรค์ปลดโซ่เพลิงให้กับทุกคนยกเว้นไห่เจิ้ง
สถานการณ์ไม่เป็นไปตามการคาดหมายของฟางหยวนแต่ยิ่งเลวร้ายกว่าสำหรับไห่เจิ้ง
เทพธิดาหลี่ซานชี้หน้าไห่เจิ้งด้วยความโกรธ “ลูกสุนัข! น้องสาวข้ารักเจ้ามากแต่เจ้ากลับเอาชีวิตนางไป นอกจากนั้นเจ้ายังละโมภและต้องการชีวิตของลูกสาวของตนเอง!”
ไห่เจิ้งคุกเข่าลงบนพื้นและเงยหน้าร้องขอความเมตตา “ข้ายินดีเป็นสุนัขของท่าน ข้ายินดีบอกความลับของเผ่าไห่ทั้งหมดรวมถึงมรดกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของบรรพชนผู้อมตะระดับแปดของเผ่าไห่ ไห่ฟาน ซูเซียนเอ๋อเข้าหาข้าเพราะต้องการมรดกบนเส้นทางแห่งกาลเวลามิใช่หรือ? ข้าจะบอกพวกท่านทุกอย่างและจะไม่ปิดบังสิ่งใดทั้งสิ้น!”
เทพธิดาหลี่ซานนิ่งเงียบ ดังนั้นไห่เจิ้งจึงหันหน้าไปทางนางมารผลาญสวรรค์ “ข้าไม่มีเจตนาที่จะสร้างความขุ่นเคืองให้กับพวกท่าน ย้อนกลับไปหากข้ารู้ว่าพวกท่านอยู่เบื้องหลังซูเซียนเอ๋อ ข้าจะไม่ทำเช่นนั้น ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด มันไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของข้า!”
ไห่ฟานเป็นผู้อมตะระดับแปดของเผ่าไห่ นั่นทำให้เผ่าไห่กลายเป็นกองกำลังระดับแนวหน้าของภาคเหนือ
แต่อายุขัยของมนุษย์มีจำกัด หลังจากไห่ฟานเสียชีวิต เผ่าไห่จึงเริ่มอ่อนแอลง
ไห่เจิ้งยังร้องขอชีวิตอย่างไม่หยุดยั้ง
เผชิญหน้ากับนางมารผลาญสวรรค์ ไห่เจิ้งไม่สามารถทำสิ่งใด โชคดีที่เผ่าไห่มีข้อมูลเกี่ยวกับมรดกของไห่ฟาน ดังนั้นไห่เจิ้งจึงใช้สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน
นางมารผลาญสวรรค์หันหน้าไปทางไห่ลั่วหลันและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ชีวิตของเจ้าไม่ใช่ของข้า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเสี่ยวหลันเท่านั้น เสี่ยวหลัน เจ้าสามารถตัดสินใจได้ตามต้องการ”
“เสี่ยวหลัน…เสี่ยวหลัน…เสี่ยวหลัน…” ไห่เจิ้งคลานเข่าเข้าไปหาไห่ลั่วหลันราวกับคนบ้า
“บุตรสาวของข้า เจ้ามีสายเลือดเผ่าไห่ เจ้ามีโอกาสสูงมากที่จะได้รับมรดกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของท่านไห่ฟาน หากแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ นางคงไม่อยากเห็นเจ้ากับข้าอยู่ในสภาพเช่นนี้ หากแม่ของเจ้าอยู่ที่นี่ นางจะบอกให้เจ้ารับมรดกของท่านไห่ฟาน เจ้ามีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง ไม่ใช่ว่าเจ้ามีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันนี้เพราะข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเทพธิดาเจียงหยูเช่นนั้นหรือ? นี่คือความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธ!”
เห็นใบหน้าที่ตื่นตระหนกของไห่เจิ้ง ช่วยไม่ได้ที่ไห่ลั่วหลันจะขมวดคิ้วลึกและแสดงความรังเกียจอย่างที่สุด
นางยกเท้าขึ้นเตะไห่เจิ้งอย่างไร้ปรานี
“ข้าจะถามเจ้าคำถามเดียว” ไห่ลั่วหลันแสดงออกอย่างเย็นชา
“โปรดถาม เจ้าสามารถถามข้าได้ทุกสิ่ง” ไห่เจิ้งรู้สึกมีความหวัง
ไห่ลั่วหลันสูดหายใจลึกก่อนจะเปิดปากกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “ท่านแม่รักเจ้ามากแม้ท่านจะรู้ว่าเจ้าวางแผนทำร้ายนางมานานแล้ว ท่านเชื่อว่าเจ้าจะหยุดความคิดชั่วเพื่อความรัก แต่เจ้ากลับไร้หัวใจและจบชีวิตนาง เจ้าทำได้อย่างไร?”
ไห่เจิ้งตะลึง
ร่างของเขาแข็งค้าง ดวงตาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อคิดถึงความรักในอดีต
ความเสียใจ ความเจ็บปวด ความโศกเศร้าทั้งหมดปะทุขึ้นในหัวใจของเขา
“ข้ารู้ว่าแม่ของเจ้ารักข้าและข้าก็รักแม่ของเจ้า…แต่…แต่ข้ากลัวตาย…ข้ากลัวที่จะต้องตาย…” ไห่เจิ้งร้องไห้สะอึดสะอื้นและทรุดตัวลงบนพื้นอย่างสูญสิ้นเรี่ยวแรง
ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆตกลงสู่ความเงียบงัน
การแสดงออกของไห่เจิ้งทำให้ทุกคนรู้สึกสะเทือนใจ
ความตายเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
เผชิญหน้ากับความตาย กระทั่งผู้อมตะระดับเก้าก็ยังกลายเป็นบอบบาง
ชีวิตนิรันดร์…
มันมีจริงหรือไม่?
เท่าที่ฟางหยวนรู้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่มีผู้ใดบรรลุถึงจุดนั้น
“ปล่อยเขาไป” เงาร่างโปร่งแสงของผู้อมตะหญิงลอยออกมาจากร่างของไห่ลั่วหลัน
‘ซูเซียนเอ๋อ แม่ของไห่ลั่วหลัน’ ฟางหยวนเข้าใจทันที
ก่อนที่ซูเซียนเอ๋อจะตาย นางส่งมอบองุ่นเขียวอมตะและเจตจำนงบางส่วนให้กับไห่ลั่วหลัน นี่เป็นเหตุผลที่นางสามารถใช้วิญญาณอมตะตั้งแต่ยังเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์
“น้องสาว!” เห็นการปรากฏตัวของคนในครอบครัว เทพธิดาหลี่ซานไม่สามารถสะกดข่มน้ำตาเอาไว้ได้
ดวงตาของนางมารผลาญสวรรค์ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเสียใจและรู้สึกผิดเช่นกัน
ซูเซี่ยนเอ๋อหันหน้ากลับมาและโอบกอดไห่ลั่วหลันเอาไว้ “ปล่อยเขาไป เจ้าเห็นแล้วว่าตอนนี้เขาน่าสงสารถึงเพียงใด หลังจากข้าตาย เขาต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานและเสียใจมาตลอด เขาไม่เคยมีความสุขจริงๆ เขามีชีวิตอยู่กับความหวาดกลัวและรู้สึกผิด แม้เขาจะมีชีวิตอยู่แต่เขาก็เหมือนตายไปนานแล้ว”
“การปล่อยเขาก็คือการปลดปล่อยตนเอง เสี่ยวหลัน อย่าอยู่ในโลกแห่งความเกลียดชัง อย่ายึดติดอยู่กับอดีต เชื่อแม่ การแก้แค้นไม่เป็นประโยชน์ต่อเจ้า แต่การปล่อยวางจะทำให้ชีวิตของเจ้าดีขึ้น”
“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านกล่าวเช่นนี้เพราะเห็นแก่ประโยชน์ของข้า” ไห่ลั่วหลันกล่าวก่อนจะเดินเข้าไปหาไห่เจิ้ง
นางยกเท้าขึ้นและกระทืบ!
ตอนนี้ไห่เจิ้งเปราะบางไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา ภายใต้ฝ่าเท้าของไห่ลั่วหลัน ศีรษะของไห่เจิ้งระเบิดราวกับผลแตงโม
ไห่เจิ้ง ผู้อมตะระดับเจ็ดที่ยิ่งใหญ่เสียชีวิตในลักษณะนี้
ซูเซียนเอ๋อและคนอื่นๆ กลายเป็นมึนงง
ไห่ลั่วหลันหันหน้ากลับมา “ไม่มีสิ่งใดที่สามารถขัดขวางข้า ข้ามีความคิดของตนเองและมันคือเส้นทางแห่งการทำลายล้าง ฮืม…หลังจากทั้งหมดข้าไม่ใช่คนบอบบาง!”
“เสี่ยวหลัน!” เทพธิดาหลี่ซานจับมือไห่ลั่วหลันด้วยความกังวล
“เสี่ยวหลัน…” นางมารผลาญสวรรค์พึมพำเบาๆ นางต้องการเดินเข้าไปหาไห่ลั่วหลันแต่นางไม่สามารถทำได้
‘เป็นเช่นนี้ ข้าเข้าใจแล้ว…’ ฟางหยวนเฝ้าสังเกตทุกการเคลื่อนไหวอยู่ห่างๆ