มิติช่องว่างที่มีชีวิตและตายไปแล้ว
แปลโดย iPAT
ค่ายกลวิญญาณที่อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยปีศาจอมตะเซี่ยหู
เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่แต่เขาไม่สามารถจัดตั้งค่ายกลวิญญาณที่ซับซ้อน
เพื่อจัดตั้งค่ายกลวิญญาณในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ ปีศาจอมตะเซี่ยหูต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคเหนือ ซันหมิงลู่ แต่ด้วยสถานะของคนผู้นี้ เขาจึงปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับปีศาจอมตะเซี่ยหูขณะที่ฝ่ายหลังก็ไม่สามารถใช้กำลังบังคับ
อย่างไรก็ตามในการร้องขอครั้งที่เจ็ดของปีศาจอมตะเซี่ยหู เขากล่าวถึงภรรยาอันเป็นที่รัก ท่านหญิงหว่านซู นั่นทำให้ซันหมิงลู่ใจอ่อน
แม้ซันหมิงลู่จะมีเจตจำนงที่แข็งแกร่งแต่เขายกย่องความรักและภักดี เมื่อปีศาจอมตะเซี่ยหูต้องการสร้างค่ายกลวิญญาณเพื่อภรรยาอันเป็นที่รัก ซันหมิงลู่จึงตัดสินใจให้ความช่วยเหลือในที่สุด
เรื่องนี้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทั้งภาคเหนือ
ในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน ซันหมิงลู่ได้สร้างค่ายกลวิญญาณเพื่อปกป้องภาคเหนือจากการรุกรานของผู้อมตะภาคกลาง แต่สุดท้ายค่ายกลวิญญาณของซันหมิงลู่ก็พังทลายลงขณะที่เขาเสียชีวิต
“ตามการอนุมานของข้า มีค่ายกลวิญญาณอยู่ที่นี่อย่างน้อยสิบสามค่าย นี่ยังเหนือกว่าค่ายกลวิญญาณสิบสองค่ายของซันหมิงลู่ที่เป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกล ผู้ที่สร้างค่ายกลวิญญาณนี้อาจเป็นปรมาจารย์สูงสุด!”
ปรมาจารย์สูงสุด!
มันคือระดับความสำเร็จที่เหนือกว่าระดับปรมาจารย์เอก!
ตัวอย่างเช่นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามในประวัติศาสตร์ บรรพชนผมยาว เฒ่าสายฟ้าเทียนหนาน และผู้อมตะเฒ่ากงเจีย คนทั้งสามมีความสำเร็จที่โดดเด่นและไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะ
“ค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งอาหาร ค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งภูตผี ค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งโลหะ ค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางความแข็งแกร่ง…” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นขณะจ้องมองทรายสีม่วง
หัวใจของเขาเริ่มจมดิ่งลงแต่เขายังไม่ลืมเป้าหมาย
เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ มีโอกาสน้อยมากที่เขาจะพบวิธีลบสถานะผีดิบ
ค่ายกลเหล่านี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีวิญญาณเหลืออยู่ไม่กี่ดวง ท่ามกลางวิญญาณเหล่านี้ไม่มีวิญญาณอมตะ บางทีพวกมันอาจถูกทำลายในการระเบิดครั้งใหญ่หรือบางทีพวกมันอาจตายเพราะค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งอาหารไม่สามารถเลี้ยงดูพวกมัน
ฟางหยวนยังพบค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญาอยู่ลึกลงไปแต่มันถูกทำลายไปแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขากลับพบบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญาเหล่านี้
มีกลุ่มความคิดบางอย่างถูกทิ้งไว้
มันอยู่ในสภาวะจำศีลและไม่สามารถโต้ตอบ
ฟางหยวนสูดหายใจลึกและพยายามอนุมานค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญา มันเหมือนกับอาคารที่พังทลายและต้องใช้ความระมัดระวังในการสำรวจ
โชคดีที่ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาที่มีความสำเร็จค่อนข้างสูง
ครู่ต่อมาเขาจึงสามารถถอดรหัสค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญาดังกล่าวและบุกเข้าไปยังจุดศูนย์กลางของมัน
หลังจากนั้นเขาจึงส่งกลุ่มความคิดพุ่งเข้าติดต่อกับกลุ่มความคิดที่ถูกทิ้งไว้
…..
“กว่าแปดสิบปี ในที่สุดค่ายกลนี้เสร็จสมบูรณ์ ในอีกไม่กี่ร้อยหรือพันปีข้างหน้า ข้าจะหลอมรวมวิญญาณที่นี่! ฮืม…ข้าเป็นผีดิบอมตะ ความคิดของข้าไม่รวดเร็วนัก ข้าต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจาก สีเหลือง เพื่อเก็บความคิดของข้าเอาไว้”
…..
“ค่ายกลวิญญาณนี้ยอดเยี่ยมเกินไป มันไม่เพียงช่วยในการหลอมรวมวิญญาณแต่มันยังสามารถซ่อนตัวจากเจตจำนงสวรรค์ สองร้อยปีที่ผ่านมา ข้าสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณจำนวนแปดดวง หกดวงเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด อีกสองดวงเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด”
…..
“ทุกปีพวกเขาจะส่งทรัพยากรอมตะมากมายมาให้ข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ข้าไม่ต้องรวบรวมทรัพยากรอมตะด้วยตนเอง มันช่างยอดเยี่ยมนัก ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าจะทดสอบเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์นี้แล้ว”
…..
“วันนี้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น ข้าพยายามพัฒนาเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะดูดวิญญาณ แต่สุดท้ายมันกลับกลายเป็นวิญญาณที่ข้าไม่รู้จัก ข้าจะให้คนอื่นทดสอบมัน”
…..
“การหลอมรวมวิญญาณในวันนี้ล้มเหลว ค่ายกลวิญญาณสายป้องกันสามค่ายถูกทำลาย กระทั่งค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของข้าก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก พ่อค้าเลวในสวรรค์สีเหลืองผู้นั้นหลอกลวงข้า! ข้าจะถลกหนักเลาะกระดูกของมันออกมาเพื่อระบายความโกรธ!”
…..
“พ่อค้าไร้ยางอายถูกลงโทษแล้ว สีครามทำได้ดี! หลายวันที่ผ่านมา สีเหลืองช่วยซ่อมแซมค่ายกลวิญญาณทั้งหมด ตอนนี้ข้าสามารถหลอมรวมวิญญาณได้อีกครั้ง”
…..
“สีม่วงมาเตือนให้ข้าระวังตัว สีครามกำลังพบปัญหา มันกลายเป็นว่าพ่อค้าไร้ยางอายเป็นลิ่วล้อของวังสวรรค์ วิญญาณโชคชะตายังทำงานได้ดี เทพปีศาจบัวแดงไม่สามารถทำลายมันได้อย่างสมบูรณ์ สิ่งนี้เป็นเครื่องมือของสวรรค์ วันหนึ่งมันต้องถูกทำลาย!”
…..
“ปัญหาของสีครามรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การสูญเสียหนึ่งในพวกเราทั้งเจ็ดถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ เห้อ…ข้าเป็นผู้ทำร้ายเขา แต่เขาก็ตัดสินใจด้วยตนเอง บางทีข้าควรทดลองตอนนี้…ก่อนจากไปเขานำวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติไปด้วย ข้าหวังว่ามันจะสามารถช่วยเขา”
…..
“สีครามล้มเหลว เขาเหลืออีกก้าวเดียวเท่านั้น สีเหลืองแทบไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ แต่อาการบาดเจ็บที่สีเหลืองได้รับไม่สามารถรักษา มันจะค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นในอีกหลายร้อยหรือพันปีข้างหน้า ตอนนี้เราเสียคนที่แข็งแกร่งที่สุดไปแล้ว”
…..
“ความล้มเหลวของสีครามทำให้ข้าตระหนักถึงบางสิ่ง เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับข้อบกพร่อง สวรรค์ไม่ยอมให้พวกเราสมบูรณ์แบบเกินไป ในฐานะ สีเขียว ข้าต้องเข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งของชีวิตและความตาย ไม่มีผู้ใดเหมาะสมกับภารกิจนี้มากไปกว่าข้าอีกแล้ว พวกเราจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหลังจากข้าพบวิธีลบสถานะผีดิบ”
…..
หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้
‘ดูเหมือนมันจะเป็นองค์กรที่เรียกสมาชิกด้วยรหัสลับเช่น สีเหลือง สีเขียว สีม่วง สีคราม สมาชิกของพวกเขามีเจ็ดคน พวกเขาอาจใช้สีของสายรุ้งเป็นรหัส เช่นนั้นตอนนี้ข้าจะเรียกกองกำลังนี้ว่า สายรุ้งเจ็ดสี’
ฟางหยวนคาดเดาและเริ่มอ่านความคิดที่ถูกทิ้งไว้อีกครั้ง
แต่ความคิดหลังจากนี้ไม่ปะติดปะต่อเหมือนก่อนหน้าทำให้เชื่อมโยงได้ค่อนข้างยาก
…..
“สีน้ำเงินได้รับมรดกอมตะ มันเป็นมรดกของผู้อมตะเฒ่ากงเจียจากภาคกลาง เขามีงานวิจัยที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสุดยอดกายาทั้งสิบ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อข้าอย่างมหาศาล”
…..
“สีเหลืองและสีม่วงได้รับมรดกของปีศาจอมตะไร้กฎเกณฑ์ ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกฎของเขาน่าอัศจรรย์มากและไม่มีผู้ใดสามารถก้าวข้ามกระทั่งข้าก็ตาม”
…..
“ปีศาจอมตะไร้กฎเกณฑ์กล่าวได้ถูกต้อง มีชีวิตในความตาย มีความตายในชีวิต ชีวิตและความตายสามารถเปลี่ยนแปลงและอยู่ร่วมกัน!”
“ชีวิตมีข้อดี ความตายก็มีประโยชน์ มิติช่องว่างของผีดิบอมตะอาจตายไปแล้วแต่มันก็ปลอดภัยจากภัยพิบัติสวรรค์พิภพ นี่คือข้อดีของความตาย”
“แนวความคิดของปีศาจอมตะไร้กฎเกณฑ์ถูกต้อง ข้าควรก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ!”
…..
‘ปีศาจอมตะไร้กฎเกณฑ์ช่างน่าทึ่งนัก มิติช่องว่างที่ตายไปแล้วของผีดิบอมตะมีประโยชน์มากมาย หากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป โลกของผู้อมตะจะสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน’
ฟางหยวนพบเรื่องที่น่าตกตะลึงมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ดวงตาของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
แนวความคิดนี้คือ เมื่อผู้อมตะเริ่มต้นบ่มเพาะ พวกเขาควรเปลี่ยนตนเองเป็นผีดิบอมตะเพื่อให้ได้รับมิติช่องว่างที่ตายไปแล้ว หลังจากนั้นเมื่อพวกเขาสามารถฟื้นคืนสู่ชีวิต พวกเขาจะได้รับมิติช่องว่างที่มีชีวิตและตายไปแล้วในเวลาเดียวกัน
มิติช่องว่างดังกล่าวจะมีสองชั้น ชั้นแรกมีชีวิต ชั้นที่สองตายไปแล้ว ทั้งสองชั้นจะสนับสนุนกันและเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ให้กับผู้อมตะโดยเฉพาะการก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์พิภพ
‘ตามแนวคิดนี้ ข้าสามารถใช้มิติช่องว่างที่ตายไปแล้วเป็นแกนกลางและหลอมรวมมันเข้ากับมิติช่องว่างที่มีชีวิตในกระบวนการกู้คืนชีวิต ด้วยวิธีนี้ข้าจะได้รับมิติช่องว่างที่มีชีวิตและตายไปแล้ว’
‘มิติช่องว่างที่มีชีวิตและตายไปแล้วจะช่วยลดความรุนแรงของภัยพิบัติสวรรค์พิภพลงครึ่งหนึ่ง! สิ่งสำคัญที่สุดก็คือร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ข้าได้รับจะไม่ลดลง!’
ฟางหยวนรู้สึกตื่นเต้นกับการค้นพบครั้งนี้เป็นอย่างมาก
‘หากมันได้ผลจริง มันจะทำให้ผู้อมตะทั้งหมดตกตะลึง มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่าทั้งโลกจะเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่’