เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1224 การล่อลวงของเทพธิดากระต่ายขาว (1)
แปลโดย iPAT
“ผู้น้อยทักทายนายท่านวูอี้ไห่ ” ผู้อมตะหญิงคุกเข่าลงต่อหน้าฟางหยวน
นางอยู่ในชุดขนสัตว์สีขาวผืนเล็กๆสองผืนที่พันรอบอกและสะโพก นางเผยให้เห็นผิวสีขาวราวหิมะ นางมีหูเหมือนกระต่าย ดวงตาของนางเป็นสีแดงทับทิม จมูกของนางเล็กและน่ารัก ในแง่ของความงาม นางเป็นรองเพียงเฉิงซินซื่อและฟงจินฮวงเท่านั้น
ผู้อมตะหญิงก้นหน้าลงและวางหน้าผากไว้บนพื้น หน้าอกขนาดใหญ่ของนางถูกบีบรัดขณะที่สะโพกของนางเชิดขึ้นด้านบน นี่เป็นท่าทางที่ดึงดูดสายตาของผู้คนเป็นอย่างมาก
นางไม่ใช่ผู้ใดนอกจากเทพธิดากระต่ายขาว
นางดูบริสุทธิ์ น่ารัก ขณะเดียวกันก็ดูเย้ายวนใจและมีเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัศนคติที่ศิโรราบของนางที่ทำให้เป้ากางเกงของผู้ชายส่วนใหญ่พุ่งออกมาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อไม่นานมานี้ฟางหยวนเคยเสนอทรัพยากรให้กับหญิงผู้นี้เพื่อแลกกับข้อมูลของโลกผู้อมตะภาคใต้ แต่ผู้ใดจะคิดว่าตอนนี้หญิงคนเดิมกลับคุกเข่าลงและอ่อนน้อมราวกับยอมทำทุกอย่างเพื่อเขาเช่นนี้
‘นี่เป็นความพยายามที่จะล่อลวงข้า ’
‘วูอันผู้นี้ยอมเสี่ยงและโกหกข้าโดยบอกว่ามีบางคนต้องการรายงานเรื่องสำคัญกับข้า สุดท้ายมันกลับเป็นเทพธิดากระต่ายขาว ’
‘ดูเหมือนที่ผ่านมาข้าจะเก็บตัวนานเกินไป นั่นทำให้พวกเขากังวลมากและต้องใช้วิธีนี้ ’
‘วิธีโบราณและซ้ำซากแต่มันมีประสิทธิภาพสูง ’
ฟางหยวนยืนขึ้นจากเก้าอี้และเดินเข้าไปหาเทพธิดากระต่ายขาว
หน้าผากของเทพธิดากระต่ายขาวยังวางอยู่บนพื้น แต่ฟางหยวนยังสังเกตเห็นร่างกายที่สั่นเทาของนาง
นางรู้สึกประหม่า
ฟางหยวนเคยพบเทพธิดากระต่ายขาวมาก่อน และด้วยประสบการณ์ห้าร้อยปี เขาสามารถบอกได้ว่าหญิงผู้นี้เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่บริสุทธิ์ นี่ต้องเป็นครั้งแรกที่นางเสนอร่างกายให้กับบางคน
แน่นอนว่าการตัดสินของฟางหยวนอาจผิดพลาด แต่มีไม่กี่คนในห้าภูมิภาคที่สามารถหลอกลวงเขา
เทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกประหม่ามาก
ความประหม่าทำให้หัวใจและร่างกายของนางสั่นสะท้าน
‘ปรากฏว่าการล่อลวงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ’ เทพธิดากระต่ายขาวลอบถอยหายใจอยู่ภายใน
นอกจากนี้นางยังรู้สึกอับอายและโกรธตนเอง
‘ข้าจะทำเช่นนี้จริงๆงั้นหรือ ? เหตุใดข้าถึงทำตัวเช่นนี้ ? ข้าพยายามล่อลวงผู้ชายที่ไม่เคยพบมาก่อน !’ เทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกซับซ้อน
นี่ไม่ใช่นิสัยของนาง ก่อนหน้านี้นางเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่บริสุทธิ์และไม่เคยขัดแย้งกับผู้ใด นางบ่มเพาะอยู่อย่างเงียบสงบ หากบางคนล้อเลียนนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ในอนาคต นางจะต่อสู้จนตัวตายอย่างแน่นอน
‘ข้ามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ?’ เทพธิดากระต่ายขาวคิด
ก่อนหน้านี้วูอันไปหานางและบอกว่ามีโชคลาภมหาศาลที่ต้องการแบ่งปันกับนาง
ย้อนกลับไปเทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกสงสัยและระวังตัวมาก นางคิดว่าเหตุใดจึงมีโชคลาภก้อนใหญ่เข้ามาหานางโดยไม่คาดคิด นางรู้สึกว่าวูอันอาจพยายามโกงเงินหรือต้องการร่างกายของนาง
แต่ไม่ใช่
เทพธิดากระต่ายขาวกลายเป็นผู้จัดการธุรกิจซื้อขายโอกาส นางเป็นคนกลางที่คอยติดต่อปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษเพราะคนเหล่านั้นรู้สึกเชื่อใจนาง
แรกเริ่มธุรกิจยังไม่ดีนัก แต่หลังจากการบอกต่อของผู้คน ธุรกิจนี้ก็เริ่มดีขึ้น ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาหานางอย่างไม่ขาดสาย
เทพธิดากระต่ายขาวสามารถสะสมความมั่งคั่งได้มากกว่าความพยายามในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
นางทั้งตกใจและดีใจมาก
แต่อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดกับเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
นางรู้ว่าวูตู๋ซิ่วเสียชีวิตขณะที่วูอี้ไห่รอดชีวิตและกลับมาถึงภาคใต้
แต่สิ่งที่เทพธิดากระต่ายขาวไม่คาดคิดก็คือเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อนาง วูอี้ไห่ที่มีสถานะสูงส่งกลายเป็นผู้ดูแลค่ายกลวิญญาณของตระกูลวู
ธุรกิจซื้อขายโอกาสของนางต้องหยุดลง !
เนื่องจากธุรกิจนี้ไม่สามารถเปิดเผย ก่อนหน้าผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลวูเป็นผู้อยู่เบื้องหลังธุรกิจนี้
แต่ตอนนี้เขาจากไปแล้วขณะที่วูอี้ไห่เข้ามาแทนที่
วูอันและคนอื่นๆไม่สามารถดำเนินธุรกิจนี้ได้อีกต่อไปเพราะพวกเขาไม่มีอำนาจ
พวกเขาไม่สามารถมองข้ามฟางหยวนและดำเนินธุรกิจลับหลังเขา
เนื่องจากธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับเจ็ดตระกูลเท่านั้น ตระกูลปา ตระกูลไท่ ตระกูลเฉิงไม่ได้เข้าร่วม
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการผู้สนับสนุนที่มีอำนาจ
หยุดอยู่ตรงนี้ ?
ไม่อย่างแน่นอน !
ผู้อมตะมากมายได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ พวกเขายังต้องการดำเนินธุรกิจต่อไป
ดังนั้นฟางหยวนจึงกลายเป็นคนสำคัญของเรื่องนี้
วูอันได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจนี้ วูเหลียวเป็นคนที่ไม่สามารถพึ่งพาเพราะเขาเป็นคนหัวโบราณและเคร่งครัดในกฎระเบียบ
วูอันพยายามตีสนิทฟางหยวนแต่ฟางหยวนกลับปิดประตูฝึกตน
สิ่งนี้ทำให้วูอันและผู้อมตะคนอื่นๆรู้สึกกังวลใจมาก
สถานการณ์ของปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษก็แย่มากเช่นกัน
พวกเขาไม่สามารถเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณและสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน เรื่องนี้ทำให้พวกเขารู้สึกผิดปกติและคิดว่าฝ่ายธรรมะต้องการโกงพวกเขาหรือไม่?
ผู้อมตะจำนวนมากปิดล้อมคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์บนยอดเขาของเทพธิดากระต่ายขาวและเรียกร้องคำตอบ
เทพธิดากระต่ายขาวตระหนักว่าตนเองตกอยู่ในอันตราย
หากธุรกิจนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไป ไม่เพียงนางจะหมดอนาคตแต่นางอาจถูกหมาป่าเหล่านี้ฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและมีจุดจบที่น่าสมเพช
ในสถานการณ์นี้วูอันเข้ามาและใช้ลิ้นสองแฉกของเขาโน้มน้ามเทพธิดากระต่ายขาว
เทพธิดากระต่ายขาวถูกบังคับโดยสถานการณ์ นางไม่มีทางเลือกนอกจากต้องแต่งตัวยั่วยวนและมาพบฟางหยวนโดยใช้ความงามของนางล่อลวงผู้อมตะตระกูลวูผู้นี้เพื่อขอให้เขาออกมาจัดการธุรกิจซื้อขายโอกาส
“เงยหน้าขึ้น ” เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพธิดากระต่ายขาวได้ยินเสียงของฟางหยวน
ร่างของเทพธิดากระต่ายขาวสั่นสะท้าน หัวใจของนางเต้นผิดจังหวะ
นางสูดหายใจลึกและเงยหน้าขึ้นมองฟางหยวน
ฟางหยวนมองหญิงผู้นี้ด้วยท่าทางสง่างาม
“ยืนขึ้น ” ฟางหยวนกล่าวต่อ
เทพธิดากระต่ายขาวเหมือนหุ่นไม้ที่ยืนขึ้นอย่างเชื่อฟัง
นางมีรูปร่างที่งดงามแต่ความสูงของนางอยู่ที่ระดับอกของฟางหยวนเท่านั้น นี่ทำให้นางเหมือนลูกสาวที่น่ารักของเพื่อนบ้าน
ทั้งสองยืนห่างกันไม่ถึงห้าเมตร
หัวใจของเทพธิดากระต่ายขาวเต้นระรัว การหายใจของนางผิดปกติ ขณะที่นางอ้าปากค้าง
เมื่อนางจำคำแนะนำของวูอันได้ นางจึงเริ่มก้าวเท้าออกไปและสวมกอดฟางหยวน
นางใช้แขนโอบรอบเอวของฟางหยวนและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ายวน “นาย …นายท่านโปรดลงโทษสาวใช้ผู้นี้อย่างรุนแรง !”
นางพูดตะกุกตะกักและรู้สึกอับอายมาก
แม้นางจะบ่มเพาะมานานหลายปี แต่เทพธิดากระต่ายขาวก็ไม่เคยสนใจความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง สิ่งที่นางทำคือคำแนะนำจากวูอันทั้งหมด
‘กระต่ายขาว โอ้ กระต่ายขาว เจ้ากล่าวถ้อยคำที่น่าอับอายเช่นนี้อย่างมาได้อย่างไร ? เจ้าพูดมันออกมาจริงๆ !’ ใบหน้าของเทพธิดากระต่ายขาวกลายเป็นสีแดง นางกำลังถามตัวเองอยู่ในใจเพราะนางไม่กล้าเชื่อว่าตนเองกำลังทำเรื่องเช่นนี้อยู่
ด้านนอก วูอันเดินไปรอบๆด้วยความกังวล
หากธุรกิจซื้อขายโอกาสหยุดลงและฟางหยวนปฏิเสธที่จะรับช่วงต่อ นั่นหมายความว่าเขาไม่ชอบความคิดนี้และจะเปิดเผยมัน
นี่มีความเป็นไปได้สูงมาก วูอี้ไห่ยังเป็นเด็ก เขาพึ่งกลับเข้าสู่ตระกูลวู เขาจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองกับตระกูล
พี่ชายของเขาคือวูหยง เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับทรัพยากรในการบ่มเพาะ ตอนนี้ผลประโยชน์มีความสำคัญน้อยกว่าชื่อเสียงของเขา
ในกรณีนี้ แม้เทพธิดากระต่ายขาวจะไม่ตาย แต่นางจะถูกผลักไปอยู่ฝ่ายปีศาจ
แม้วูอันจะไม่ตายเพราะเป็นสมาชิกของตระกูลวู เขาก็ยังต้องสูญเสียผลประโยชน์และถูกลงโทษ อนาคตของเขาจะพังทลายลง
เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้า
วูอันหันกลับไปมองเพียงเพื่อเห็นคนผู้หนึ่งยืนตัวตรงราวกับหอกที่ปลดปล่อยกลิ่นอายอันน่าประทับใจออกมา
วูอันรู้สึกไม่ดีนัก “วูเหลียว เจ้ามาที่นี่เพื่อสิ่งใด ?”
วูเหลียวตะคอกเสียงเย็น “เพื่อสิ่งใดงั้นหรือ ? มีคนไร้ยางอายต้องการล่อลวงท่านวูอี้ไห่ให้ทำความผิดร้ายแรง ! ข้ามาที่นี่เพื่อบอกนายท่านทุกอย่างที่เจ้าทำ ข้าต้องการให้เขารู้แผนการและเจตนาร้ายของเจ้า !”
วูอันโกรธมากจนแทบระเบิด เขาชี้นิ้วไปที่วูเหลียวและกัดฟันกล่าว “วูเหลียว เจ้ากล้างั้นหรือ ?”
เขาไม่พยายามติดสินบนวูเหลียว
เพราะวูเหลียวจะปฏิเสธมัน นี่คือบุคลิกของคนผู้นี้
ผู้อมตะทุกคนของตระกูลวูรู้จักบุคลิกของวูเหลียวเป็นอย่างดี