เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1240 ประโยชน์ของระดับความสำเร็จ
แปลโดย iPAT
ภาคใต้ ภายในค่ายกลวิญญาณ
ฟางหยวนนึกถึงพลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคและตระหนักถึงประโยชน์ของระดับความสำเร็จ
‘กระบวนการพัฒนาท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคค่อนข้างน่าเบื่อแต่มันง่ายดายมาก’
‘ทุกอย่างลื่นไหลไปตามธรรมชาติเหมือนน้ำที่ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ ’
ผู้อมตะทั่วไปต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในการพัมนาหรือแก้ไขท่าไม้ตายอมตะ ตัวอย่างเช่นอสูรสายฟ้าของนิกายท่าเรือหมื่นมังกร เขาใช้เวลาหลายปีก่อนจะสามารถคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเทพสายฟ้า
‘เทพสายฟ้าของอสูรสายฟ้าถูกพัฒนาขึ้นจากท่าไม้ตายอมตะเทพโลหิตที่ไม่สมบูรณ์ มันเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งสายฟ้าและเส้นทางแห่งเลือด อสูรสายฟ้ามีระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งสายฟ้าที่เพียงพอ แต่ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งเลือดของเขาอยู่ในระดับทั่วไป ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เวลาและความพยายามหลายปีอย่างยากลำบาก ’
‘มันคือผลของการขาดแคลนระดับความสำเร็จ ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาช่วยได้มากในเรื่องนี้ ไห่ฟานเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยอดเยี่ยม แต่ถึงกระนั้นเขาก็มีท่าไม้ตายอมตะจำนวนมากที่ยังไม่สมบูรณ์ ’
‘อย่างไรก็ตามเมื่อระดับความสำเร็จเพียงพอ การอนุมานก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป พวกเขาสามารถใช้สัญชาตญานและทำให้มันกลายเป็นเรื่องง่าย ’
ฟางหยวนคิด
เขาใช้เวลาพัฒนาท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคเพียงไม่กี่วัน
แต่ผลลัพธ์ของมันกลับน่าตกใจมาก
แรกเริ่มฟางหยวนไม่ได้คิดมาก เขามีเพียงแนวคิดที่คลุมเครืออยู่ในใจเท่านั้น
ต่อมาเขาเลือกวิญญาณต่างๆตามสัญชาตญาณ
สัญชาตญาณ ?
นี่เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการ
แต่มันเป็นเรื่องจริง เมื่อความสำเร็จบรรลุถึงระดับที่เพียงพอ ความเข้าใจของคนผู้หนึ่งต่อวิญญาณบนเส้นทางสายนั้นรวมถึงแนวคิดของพวกเขาจะเกิดขึ้นตามสัญชาตญาณ
สัญชาตญาณเหมือนพรสวรรค์ตามธรรมชาติที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด มันเป็นเรื่องง่ายและไม่ต้องพยายาม
เช่นเดียวกับการหายใจทางจมูกของมนุษย์
‘ระดับความสำเร็จคือความเข้าใจของผู้ยิ่งใหญ่ ’
‘การบรรลุระดับผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งโชคทำให้ข้าเกิดแรงบันดาลใจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งโชค มันยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด เมื่อข้าเพิ่มวิญญาณเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชค ข้าแทบไม่ต้องทดสอบแต่ข้าก็รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรและควรใช้วิญญาณดวงใดเพื่อสนับสนุนมัน’
‘ในทำนองเดียวกันความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าทำให้ข้าสามารถผสานวิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคได้อย่างง่ายดาย’ ฟางหยวนสรุปและตระหนักถึงประโยชน์ของระดับความสำเร็จ
‘หากข้าสามารถยกระดับความสำเร็จในทุกเส้นทาง ในอนาคตข้าจะสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะที่น่าสะพรึงกลัวโดยผสานเส้นทางทั้งหมดเข้าด้วยกันหรือไม่?’
ความคิดของฟางหยวนล่องลอยออกไป
‘ในความเป็นจริงเทพปีศาจจิตวิญญาณบรรลุถึงระดับดังกล่าวแล้ว บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่เขาสามารถสร้างวิญญาณทารกอมตะ ?’
การคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเหมือนการสร้างเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ
เมื่อนึกถึงเทพปีศาจจิตวิญญาณ ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะมองไปยังทิศใต้
ฟางหยวนสามารถยืนยันด้วยท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคและรู้ว่ากลุ่มของอิงอู๋เซี่ยอยู่ที่ใด
แม้ฟางหยวนจะเต็มไปด้วยเจตนาสังหารแต่เขาตัดสินใจที่จะเตรียมการบางอย่างก่อนเริ่มโจมตี
กระทั่งฟางหยวนจะฟักไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเรียบร้อยแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของมันยังอยู่ในระดับหกเท่านั้น
กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยเข้าใจว่าฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่ในความเป็นจริงฟางหยวนไม่สามารถใช้พลังอำนาจดังกล่าวเพื่อสังหารพวกเขา
ในการต่อสู้ครั้งก่อนที่ทะเลตะวันออก ฟางหยวนยังได้เห็นความแข็งแกร่งของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆ
ตอนนี้เวลาได้ผ่านไประยะหนึ่งแล้ว ฟางหยวนไม่สามารถประเมินความแข็งแกร่งที่เพิ่มสูงขึ้นของพวกเขา
เพื่อความปลอดภัย ฟางหยวนต้องเตรียมตัวให้พร้อม
เขาต้องใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่
ด้วยความสำเร็จที่เพิ่มสูงขึ้น ฟางหยวนเริ่มพัฒนาท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาล
เขายังยืมวิญญาณอมตะบางดวงจากตระกูลวู
นี่เป็นประโยชน์ของการเข้าร่วมกับตระกูลวู
แตกต่างจากนิกายหลางหยาที่ต้องใช้แต้มผลงาน ตระกูลวูเป็นตระกูลของวูอี้ไห่ ขณะที่วูอี้ไห่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่ใกล้ชิดกับวูหยง
ดังนั้นเมื่อฟางหยวนออกปากขอยืมวิญญาณอมตะจากคลังสมบัติของตระกูลวู วูหยงจึงไม่ปฏิเสธ
อันที่จริงวูหยงค่อนข้างพอใจกับผลงานล่าสุดของฟางหยวน
ประการแรก หลังจากฟางหยวนมาที่ค่ายกลวิญญาณ เขาทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับวูหยงและไม่ได้แทรกแซงการเมืองภายใต้ตระกูลวู นั่นทำให้วูหยงสามารถควบคุมตระกูลวูได้อย่างง่ายดาย
ประการที่สอง ฟางหยวนสามารถจัดการธุรกิจซื้อขายโอกาสได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาแสดงความสามารถทางการเมืองออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและป้องกันไม่ให้ตระกูลปาเข้าแทรกแซง เขาช่วยตระกูลวูควบคุมสถานการณ์และปกป้องดินแดนของพวกเขาภายในอาณาจักรแห่งความฝัน
นี่เป็นผลงานของฟางหยวน ดังนั้นวูหยงจึงอนุญาตให้ฟางหยวนยืมวิญญาณอมตะและกระทั่งลดค่าใช้จ่ายลงอีกด้วย
ฟางหยวนจ่ายทรัพยากรของทะเลตะวันออกจำนวนมากเพื่อยืมวิญญาณอมตะหลายดวง ตัวอย่างเช่นวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของมังกรบนเส้นทางความแข็งแกร่ง และวิญญาณอมตะเกล็ดมังกรบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง วิญญาณอมตะเหล่านี้ถูกเพิ่มเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนและท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบ สิ่งนี้ถือเป็นตัวช่วยชั้นยอดสำหรับฟางหยวน
…..
ถ้ำสวรรค์ไป่เซียง
ในค่ายกลวิญญาณ ไห่ลั่วหลัน ซื่อหนิว ไท่เป่ยหยุนเฉิง และอิงอู๋เซี่ยกำลังต่อต้านไป่หนิงปิง
พายุน้ำแข็งหมุนวนอยู่รอบๆผู้อมตะทั้งสี่
ด้วยความร่วมมือของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆ แม้พวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่พวกเขายังตั้งมั่นอยู่ได้
ทันใดนั้นร่างหนึ่งพลันปรากฎขึ้นด้านหน้าไท่เป่ยหยุนเฉิง
มันคือไป่หนิงปิง แต่มันมีเพียงร่างกายส่วนบนเท่านั้น สำหรับร่างกายส่วนล่างของนาง มันเหมือนกลุ่มหมอกควัน
ไป่หนิงปิงพุ่งเข้าโจมตีไท่เป่ยหยุนเฉิง
ไท่เป่ยหยุนเฉิงอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม ดังนั้นไป่หนิงปิงจึงเลือกที่จะโจมตีเขาเป็นคนแรก
ไท่เป่ยหยุนเฉิงเร่งล่าถอย
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้เขาได้เห็นพลังอำนาจของไป่หนิงปิงมาแล้ว หากไท่เป่ยหยุนเฉิงไม่ได้รับการปกป้องจากคนอื่นๆ เขาต้องตายอย่างแน่นอน
“ซื่อหนิว ไป !” เมื่อเห็นสถานการณ์ของไท่เป่ยหยุนเฉิง อิงอู๋เซี่ยเร่งออกคำสั่ง
แสงสีขาวส่องประกายขึ้นขณะที่ซื่อหนิวกับไท่เป่ยหยุนเฉิงสลับตำแหน่งกันอย่างกะทันหัน
ซื่อหนิวรับการโจมตีของไป่หนิงปิงโดยตรง
ไท่เป่ยหยุนเฉิงที่ย้ายไปอยู่ด้านหลังรีบใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเมฆารักษาอาการบาดเจ็บของซื่อหนิว
‘ไป่หนิงปิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ นางคุ้นเคยกับวิธีการของไป่เซียง นางเชี่ยวชาญในการควบคุมเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็ง หากสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป มันจะเลวร้ายมาก !’
‘บัดซบ !’
‘จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงมีวิธีหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกร ไม่ใช่ว่าวิธีนี้ถูกกวาดล้างไปแล้วโดยราชันมังกรงั้นหรือ ? เขาพลาดสิ่งนี้ไปได้อย่างไร ?’
‘นอกจากนี้ระหว่างการต่อสู้ก่อนหน้า ข้ายังรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนของโชค ดูเหมือนฟางหยวนจะตรวจสอบพวกเราอีกครั้ง แม้ข้าจะซ่อนตัวอยู่ในมิติช่องว่าง เขาก็ยังค้นพบข้างั้นหรือ ?’
อิงอู๋เซี่ยรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล
ไป่หนิงปิงหักหลังพวกเขาและแข็งแกร่งขึ้นทุกขณะ อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องตนเองเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถหลบหนี
อีกด้านหนึ่งฟางหยวนรู้แล้วว่าพวกเขาอยู่ที่ใด
ในทางตรงข้ามอิงอู๋เซี่ยยังคิดว่าฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด หากเขามาที่นี่ กระทั่งถ้ำสวรรค์ไป่เซียงก็ไม่สามารถกีดขวางอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด
นั่นหมายความว่าฟางหยวนสามารถปรากฏตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ อิงอู๋เซี่ยจะไม่แปลกใจหากฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นในลมหายใจต่อไป
“ไป่หนิงปิง หยุดการต่อสู้ พวกเราสามารถร่วมงานเพื่อผลประโยชน์ !”
“เมื่อเจ้ากลายเป็นมนุษย์มังกร เจ้าย่อมมีคุณสมบัติที่จะรับสืบทอดคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกร ตอนนี้เผ่ามนุษย์มังกรสูญพันธุ์ไปแล้ว คฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกรถูกซ่อนไว้อย่างลับๆในทะเลตะวันออก นิกายเงาของข้ารู้ตำแหน่งคร่าวๆของมัน แต่มีเพียงมนุษย์มังกรเท่านั้นที่สามารถรับสืบทอดมันได้ !”
“หากเจ้าร่วมงานกันเรา วังมังกรจะเป็นของเจ้า !”
อิงอู๋เซี่ยตะโกน
ไป่หนิงปิงไม่ตอบสนอง ค่ายกลวิญญาณยังโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง
อิงอู๋เซี่ยหยุดก่อนกรีดร้องอีกครั้ง “ไป่หนิงปิง มันจะสายเกินไปหากเจ้าไม่หยุด ศัตรูตัวฉกาจของเราทั้งคู่กำลังจะมา เขามีพลังการต่อสู้ระดับแปด อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด เขาใช้วิธีตรวจสอบและค้นพบตำแหน่งของพวกเราแล้ว !”
“ข้าไม่ได้โกหกเจ้า โชคของเราสั่นสะเทือนขึ้นก่อนหน้านี้ เจ้าต้องรับรู้ได้เช่นกันถูกต้องหรือไม่ ?”
ไป่หนิงปิงส่งเสียงออกมา “ข้าอยากให้เขามาที่นี่ ข้าอยากร่วมมือกับเขา แม้ข้าจะต้องทิ้งถ้ำสวรรค์ไป่เซียงก็ตาม ”
อิงอู๋เซี่ยตะโกนด้วยความกังวล “เจ้ายังไม่รู้จักเขาอีกงั้นหรือ ? เจ้ากำลังเล่นกับไฟ เจ้าจะถูกเผาจนกลายเป็นกองเถ้าถ่าน เดี๋ยว ! เหตุใดเจ้าถึงต้องการร่วมมือกับเขา ?”
ไป่หนิงปิงหัวเราะ “นี่เป็นเรื่องของข้า ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับเจ้า พวกเจ้าทั้งสี่ควรตายไปซะ !”
อิงอู๋เซี่ยเกิดแรงบันดาลใจ “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการวิญญาณกงล้อหยินหยางที่อยู่ในมือของเขาถูกต้องหรือไม่? เจ้าใช้วิธีหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกร แต่เจ้ากลับเปลี่ยนเป็นเทพธิดามังกร เจ้าต้องการกลับเป็นผู้ชาย แต่ข้ามีวิญญาณที่เจ้าต้องการ ! มันอยู่กับข้า !”
“กระไรนะ !?” ไป่หนิงปิงรู้สึกประหลาดใจมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่การโจมตีของค่ายกลวิญญาณชะลอตัวลง